Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ ARK
สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ
••••••••••••••••••••
บทที่ 267: อำนาจของเทพธิดาเหมยฮวา
“เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง แต่เจ้าทำให้พี่ชายของเจ้าผิดหวัง!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างเย็นชา “พวกเจ้าทั้งคู่เป็นสาวกในสำนักเดียวกัน ฝึกฝนด้วยกันมานานกว่าห้าร้อยปี แต่เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับฮัวเฉียนหวู่เพื่อทำร้ายพี่ชายของเจ้าโดยตรง! และในตอนนี้เจ้ากำลังเดินเข้าไปในสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงเพื่อสังหารเด็กชายคนเดียวเพียงเพราะเขารู้ว่าเจ้าทำลายครอบครัวของเขา! ฮัวอวิ๋นข้าไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าภายในใจของเจ้ามันเลวทรามเพียงใด คนเช่นเจ้าไม่สมควรอยู่ในสำนักเสวียนเทียน เจ้ามันน่าอับอายเกินไป! เจ้าควรจะไปอยู่ที่สำนักพันปีศาจให้รู้แล้วรู้รอดเสีย สถานที่แห่งนั้นยอดเยี่ยมแน่นอนสำหรับเจ้า!”
เมื่อได้ฟังคำพูดประชดประชันเช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นไม่อาจทำอะไรได้นอกจากเผยรอยยิ้มอันขื่นขม “ศิษย์พี่หญิง ฝ่ายหนึ่งนั้นคือศิษย์พี่หง อีกฝ่ายคือพี่สาวในสายเลือดเดียวกัน สถานะของข้าเป็นเช่นนี้!”
“ฮ่า! พี่สาวในสายเลือดงั้นหรือ? เจ้ากำลังพูดถึงบุคคลที่ฝึกฝนแบบคู่กับสำนักพันปีศาจอย่างเช่นตาเฒ่าเฟิงน่ะหรือ?” เทพธิดาเหมยฮวาหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “เนื่องจากเลือดของพี่สาวเจ้านั้นมีค่ามากกว่าเพื่อนร่วมสำนักของตนเอง แล้วเหตุใดเจ้ายังคงอยู่ในสำนักเสวียนเทียนล่ะ? เจ้าควรย้ายก้นของตนเองออกไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาวในสายเลือดหรือพี่เขยของเจ้าเสียมากกว่า!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่โหดร้ายเช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นถ่มน้ำลายออกมาพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์พี่หญิง พี่สาวของข้านั้นเป็นผู้นำแห่งหอเฉวียนจี้ไม่เคยด่างพร้อยใดๆ ท่านอย่าใส่ร้ายนางโดยไม่มีหลักฐานเช่นนี้!”
“ใส่ร้ายงั้นหรือ?” เมื่อได้ยินนักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวเช่นนั้น เทพธิดาเหมยฮวาเผยรอยยิ้มที่เย็นชาพร้อมโต้กลับ “ถ้าหากพี่สาวของเจ้าบริสุทธิ์จริง แล้วฮัวเฉียนหวู่เกิดมาได้อย่างไร? แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ แต่เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้เช่นกันงั้นหรือ? นางเป็นบุตรสาวของบุรุษผู้นั้น!”
เมื่อได้ยินที่นางกล่าว นักบวชฮัวอวิ๋นใบหน้าซีดขาวพร้อมกล่าวออกมาอย่างตกใจ “ศิษย์พี่หญิง ท่านรู้ได้อย่างไร?”
“ข้ารู้ตั้งแต่ได้พบกับฮัวเฉียนหวู่ครั้งแรก!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างเขร่งขรึม “เมื่อพูดแล้ว พี่สาวของเจ้านั้นยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง อย่าแม้แต่จะเอ่ยเรื่องที่นางแย่งคนรักของข้า อีกทั้งนางยังส่งบุตรที่เกิดนอกสมรสมาให้ข้าอีกด้วย! และเจ้าในฐานะน้องชายของข้ายังแสร้งทำตัวเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย! เหอะ!”
เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นได้แต่ก้มหน้าอย่างละอายใจ ซึ่งเขานั้นรู้ความจริงอยู่แล้วว่าบิดาของฮัวเฉียนหวู่นั้นเป็นคนรักของเทพธิดาเหมยฮวา! มันเป็นเพราะเคล็ดวิชาที่เทพธิดาเหมยฮวานั้นฝึกฝนทำให้นางไม่สามารถมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุรุษคนใดได้ อย่างไรก็ตามทั้งคู่นั้นผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างมากและทั้งสองไม่ได้ก้าวล้ำเส้นของความเหมาะสมไปแต่อย่างใด
แต่เทพธิดาชิงหยุนที่เป็นพี่สาวของฮัวอวิ๋นนั้นก็ชื่นชมเขามานาน เพียงแค่ไม่ว่านางจะไล่ตามเขามากเพียงใด บุรุษผู้นั้นก็ยังคงภักดีต่อเทพธิดาเหมยฮวาอย่างมาก เทพธิดาชิงหยุนนั้นถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฮัวอย่างแท้จริงซึ่งอารมณ์ของนางนั้นดื้อรั้นและเอาแต่ใจ ยิ่งนางถูกเมินมากเพียงใด นางยิ่งต้องการมันมากเท่านั้น เมื่อนางทนไม่ไหว นางใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกทางเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา จากนั้นจึงลงเอยด้วยการตั้งครรภ์และให้กำเนิดฮัวเฉียนหวู่
เทพธิดาชิงหยุนคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี แต่ใครจะรู้ว่าบุรุษผู้นั้นมีหัวใจที่มั่นคงในรักอย่างมาก หลังจากที่เขาต่อว่าเทพธิดาชิงหยุนจนพอใจแล้ว เขารู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะสมกับเทพธิดาเหมยฮวาอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงออกจากสำนักและไม่เคยปรากฏตัวให้ผู้ใดพบอีกเลย
จากนั้นเทพธิดาชิงหยุนได้ตกอยู่ในความมึนงง แม้ว่าสำนักของนางจะไม่ต่อต้านการแต่งงานแต่การที่สตรีไร้คู่ครองแต่ท้องป่อง แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นข่าวอื้อฉาวอย่างมาก
เมื่อไม่มีทางเลือก เทพธิดาชิงหยุนนั้นต้องเผชิญหน้ากับมันเท่านั้น นางออกจากหอเฉวียนจี้ชั่วคราวเพื่อไปคลอดฮัวเฉียนหวู่ จากนั้นนางจึงส่งเด็กให้กับนักบวชฮัวอวิ๋น เดิมทีนางคิดว่าแผนการนี้จะราบรื่น แต่นางประเมินความสามารถของเทพธิดาเหมยฮวาต่ำเกินไป
ในครั้งแรกที่เทพธิดาเหมยฮวานั้นสบตากับฮัวเฉียนหวู่ นางจดจำรูปลักษณ์ของคนรักตนเองได้ทันที เดิมทีนางคิดว่าเหตุผลที่คนรักของนางได้หนีออกไปเพราะว่าเข้าไปรู้เรื่องภรรยานอกสมรสของนักบวชฮัวอวิ๋น เรื่องนี้ทำให้นางตกใจจนใช้เคล็ดวิชาพยากรเพื่อตรวจสอบทุกอย่างทันที แต่นางก็เข้าใจทุกอย่างทันทีว่าเด็กคนนี้เกิดจากเทพธิดาชิงหยุน
ในเวลานั้นเทพธิดาเหมยฮวาโกรธจนแทบควบคุมตนเองไม่ได้ แต่ความสำเร็จของนางนั้นเกิดจากความช่วยเหลือของตระกูลฮัว อีกทั้งนางยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักบวชฮัวอวิ๋นและเทพธิดาชิงหยุน แต่พวกเขากลับทรยศหักหลังนางได้ลงคอ
เทพธิดาเหมยฮวานั้นคิดที่จะแก้แค้น แต่เมื่อคิดถึงบุญคุณของตระกูลฮัวแล้วน้ำหนักมันช่างต่างกัน ถ้าหากนางเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เพียงแต่นักบวชฮัวอวิ๋นและเทพธิดาชิงหยุนจะได้รับความอับอาย ตระกูลฮัวทั้งหมดจะต้องเสื่อมเสียไปตามกัน ดังนั้นนางจึงระงับความโกรธของตนเองและหลีกเลี่ยงการพบเจอกับทุกคน และความสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่างนางกับตระกูลฮัวก็เย็นชาลงไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เทพธิดาเหมยฮวาไม่ได้คาดคิดว่าการที่นางระงับความโกรธแค้นนี้ไว้ นักบวชฮัวอวิ๋นก็ยังวางแผนที่จะใช้นางเป็นเครื่องมือ ถ้าหากนางปล่อยให้ซ่งจงพาเรือมังกรทองคำไปยังภูเขาเหมยของตนและปล่อยให้เขาใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำลายทุกอย่าง ภูเขาเหมยคงกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!
คิดถึงภูเขาเหมยที่นางและคนรักร่วมกันสร้างมาด้วยกันโดยใช้เวลายาวนานกว่าร้อยปี มันเกือบจะถูกทำลายโดยนักบวชฮัวอวิ๋น การกระทำเช่นนี้ได้สะกิดแผลเก่าของเทพธิดาเหมยฮวาโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่านางจะอดทนแต่ถ้าหากพวกเขายังคงกดดันนางเช่นนี้ แม้แต่คนที่นิ่งเฉยมาตลอดก็คงไม่อาจทนได้ไหว!
เมื่อคิดเช่นนี้ ดวงตาของเทพธิดาเหมยฮวานั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร นักบวชฮัวอวิ๋นเกรงกลัวนางจนถึงขั้นที่ขาสั่นจนแทบยืนไม่ไหว
คุณชายใหญ่และคุณชายรองที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมา พวกเขาได้แต่คิดในใจ ‘ซ่งจงที่สร้างปัญหายังไม่ได้ถูกจัดการและในตอนนี้เรากำลังเผชิญกับเทพธิดาเหมยฮวาที่กำลังอาละวาดอีกคน หรือว่าสำนักเสวียนเทียนจะเดินทางมาถึงจุดจบแล้วนะ?”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับนางมากนัก แต่ทั้งหมดนั้นมาจากสำนักเดียวกัน สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้ถูกใส่ใจนัก ทั้งสองจึงทนไม่ได้และไปยืนอยู่ตรงหน้านักบวชฮัวอวิ๋นพร้อมกับอ้อนวอน “ศิษย์พี่หญิงแม้ว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะทำหน้าที่ในตำแหน่งจ้าวสำนักได้ไม่ดีนัก แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะลงโทษเขา! ซ่งจงยังคงโจมตีเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ท่านคงไม่สามารถละทิ้งเหตุการณ์ตรงนี้ได้ จริงไหม?”
“ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการปกป้องสำนักเสวียนเทียน! มันคือหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อของบรรพบุรุษของเรามานานนับพันปี!” คุณชายรองกล่าวเสริม “ถ้าหากมันถูกทำลายลงไปด้วยมือของผู้อื่น เราจะมีหน้าไปพบกับบรรพบุรุษได้อย่างไรกัน?”
“เหอะ!” เทพธิดาเหมยฮวาถุยน้ำลายออกมาก่อนที่จะกล่าวอย่างโหดเหี้ยม “เจ้าสองคนกำลังกล่าวเรื่องอะไรกัน? เจ้าทั้งสองคนนั้นดีพอที่จะกล่าวถึงบรรพบุรุษต่อหน้าข้างั้นหรือ? การที่เจ้าสองคนช่วยเหลือฮัวอวิ๋นเพื่อกำจัดซ่งจงมันคือการเคารพบรรพบุรุษหรือไม่?”
โดยปกติแล้วเทพธิดาเหมยฮวามักจะสง่างามและไม่วุ่นวายกับเรื่องทางโลก แต่ในตอนนี้นางเริ่มก่นด่าใครบางคนซึ่งแน่นอนว่านี่ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา แม้ว่าคุณชายใหญ่และคุณชายรองจะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ก็ยังถูกทำร้ายด้วยวาจาจากนาง! หลังจากนั้นทั้งสองคนไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียวพร้อมกับถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดไม่มีทางเลือกอื่นเพราะพวกเขารู้ดีว่าเทพธิดาเหมยฮวานั้นเป็นนักฆ่าชั้นเยี่ยมเมื่อครั้งที่นางออกผจญภัย ในขณะที่คุณชายใหญ่และคุณชายรองสามารถร่วมมือกันเพื่อปราบปรามนักบวชฮัวอวิ๋นได้ แต่สำหรับนางพวกเขาเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น พวกเขาสามารถหยุดหายใจเพียงแค่นางสะบัดมือเพียงครั้งเดียว เช่นนี้ทั้งสองจะสามารถต่อกรกับนางได้อย่างไร?
ในเวลานี้ นักบวชฮัวอวิ๋นฟื้นคืนสติพร้อมกับก้าวเดินไปด้านหน้า “ศิษย์พี่หญิง เราสองพี่น้องนั้นทำให้ท่านผิดหวังจริงๆ! ถ้าหากท่านต้องการสังหารข้า เช่นนั้นข้าก็ยินยอมแต่โดยดี ข้าจะไม่ปริปากอ้อนวอนท่านแม้สักคำ แต่ได้โปรดให้ท่านช่วยปกป้องสำนักเสวียนเทียนหลังจากสังหารข้าเสร็จสิ้นแล้วพร้อมทั้งอยากจะขอร้องให้ท่านช่วยปกป้องผู้บริสุทธิ์ด้วย!” หลังจากกล่าวจบนักบวชฮัวอวิ๋นได้หลับตาลงราวกับว่าเขายอมรับความตาย
เมื่อเห็นเช่นนี้เทพธิดาเหมยฮวาเหมือนว่าจะสูญเสียความต้องการที่จะฆ่าเขาทันที ในตอนนี้ผู้พิทักษ์ที่คอยป้องกันสำนักได้ถูกทำให้หายไปโดยซ่งจงอีกครั้ง จึงเปิดเผยช่องโหว่ของการป้องกัน สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นับพันลูกล่วงหล่นลงมาจากฟ้าราวกับบทลงโทษจากสรวงสวรรค์ ศาลาและอาคารต่างๆถูกทำลายย่อยยับ แน่นอนว่าผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิบางคนไม่อาจหนีได้ทันเวลา พวกเขากลายเป็นเศษเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจะดึงมาตรการใดออกมาใช้ แต่ตรงหน้าของทั้งหมดคือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ราวกับว่าไร้ขีดจำกัดและไม่มีวันหมดไป
เมื่อเห็นความตายของเหล่าสาวก เทพธิดาเหมยฮวารู้สึกใจอ่อน แน่นอนว่าสำนักเสวียนเทียนคือบ้านของนางและนางก็ใส่ใจเหล่าสาวกเสมอ แม้ว่าซ่งจงจะทำลายการป้องกันได้ ความจริงก็คือนักบวชฮัวอวิ๋น คุณชายใหญ่และคุณชายรองจะไม่ตาย แต่เหล่าสาวกมากกว่าแปดในสิบจะตายตกไปในมือของซ่งจง ภายในจิตใจลึกๆของเทพธิดาเหมยฮวานั้นคือสตรีนางหนึ่ง ซึ่งไม่อาจอดทนเห็นเหล่าสาวกผู้บริสุทธิ์ตายตกไปเฉยๆได้แน่นอน
เมื่อคิดเช่นนี้ เทพธิดาเหมยฮวาถอนหายใจออกมาสั้นๆพร้อมหันไปกล่าวกับนักบวชฮัวอวิ๋นอย่างเย็นชา “ฮัวอวิ๋นเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราที่ผ่านมา ข้าจะช่วยเจ้าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตามหลังจากวันนี้ไปเจ้ากับข้าตัดขาดกัน! อะไรก็ตามที่ข้าเป็นหนี้ตระกูลของเจ้า ในวันนี้ข้าได้ชดใช้คืนแล้ว นับตั้งแต่นี้ต่อไป เราไม่เกี่ยวข้องกัน!”
เทพธิดาเหมยฮวาจางหายไปหลังจากที่นางกล่าวเช่นนั้น เมื่อนางออกไปแล้ว นักบวชฮัวอวิ๋นมีน้ำตาไหลออกมาอาบแก้มทั้งสอง ในขณะที่คุณชายใหญ่และคุณชายรองดีใจอย่างมาก
ในทางกลับกัน ซ่งจงที่กำลังบ้าคลั่งอยู่บนท้องฟ้า เขาสาปแช่งนักบวชฮัวอวิ๋นและตระกูลฮัว ควบคุมเรือมังกรทองคำให้ถล่มสำนักเสวียนเทียนตามใจตน การกระทำเช่นนี้ของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ภูเขาลูกนี้หลุดลอยไปเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาพยายามเปิดช่องว่างการป้องกันอย่างยากลำบาก สตรีที่แข็งแกร่งได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเรือมังกรทองคำ แน่นอนว่านางคือเทพธิดาเหมยฮวา
ดวงตาของนางเบิกกว้างและมองไปที่ซ่งจงพร้อมกับคิดในใจ ‘นี่คือดาวอับโชคของศิษย์ข้างั้นหรือ? แน่นอนว่าเขาน่ากลัว เส้นทางของบุคคลผู้นี้เต็มไปด้วยขวากหนามและก้อนหินยักษ์ที่ขวางทาง แต่เขาสามารถแยกขวากหนามออกจากกันและบดขยี้ก้อนหินเหล่านั้นอย่างโหดร้าย ก้าวข้ามผ่านความสำเร็จอย่างนับไม่ถ้วนอย่างไร้ขีดจำกัด บุคคลเช่นนี้ข้าไม่สามารถที่จะไปยั่วยุได้ไม่เช่นนั้นข้าคงจบลงด้วยการเป็นศพใต้ฝ่าเท้าของเขา!’
เทพธิดาเหมยฮวาเพิ่งจะปรากฏตัวออกมา แต่ซ่งจงรับรู้ถึงการมาของนางได้ทันที นี่เป็นวิธีเข้าสู่สนามรบที่น่ากลัวของบุคคลระดับสูง แม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่ส่งสัญญาณใดๆที่อันตราย แต่ภายในหัวใจของซ่งจงเย็นเฉียบทันที ในหัวของเขาเกิดความกลัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่ตาเฒ่าเฟิงที่ใช้เคล็ดวิชาปีศาจเข้าสู่ร่างกายยังไม่สามารถทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวได้เช่นนี้
เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันเช่นนี้ ซ่งจงหยุดการโจมตีของตนเองทันทีพร้อมกับนำปืนทั้งหมดเล็งมาที่ศัตรูที่แข็งแกร่งผู้นี้แทน
เมื่อเห็นว่าซ่งจงตกใจจนนำอาวุธทั้งหมดมาเผชิญหน้ากับนาง เทพธิดาเหมยฮวาสามารถเดาความคิดของซ่งจงได้ นางรีบเผยยิ้มพร้อมกล่าวว่า “เด็กน้อยซ่งจง ข้าไม่ใช่ศัตรูของเจ้า! ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะต้องกังวลอะไรกับสตรีผู้อ่อนแอคนนี้ จริงไหม?”
MANGA DISCUSSION