Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ ARK
สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ
••••••••••••••••••••
บทที่ 249: เทพธิดาชิงหยุน
แน่นอนว่าผู้นำตงไห่นั้นไม่รู้ถึงแผนการของฮัวจิงฉือ เมื่อเขาได้ยินว่าฮัวจิงฉือเป็นห่วงซ่งจงมากเพียงใด เขาคิดเพียงว่าฮัวจิงฉือเป็นห่วงศิษย์น้องของตนเองเท่านั้น เขามองไปที่ฮัวจิงฉือด้วยความชื่นชมและหันไปพูดกับซุยเอ๋อ “พูดออกมาว่าซ่งจงอยู่ที่ไหน? เขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่?”
ทุกคนที่ยืนอยู่ในตอนนี้คิดว่าซ่งจงนั้นตายไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิเท่านั้น เขาจะสามารถหลบหนีจากผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินได้อย่างไร? ในความจริงถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างมากที่เขาหนีไปจากเกาะไผ่เขียวได้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฮัวจิงฉือและมู่ซื่อหรงตกใจทันทีเมื่อคิดว่าซ่งจงนั้นตายไปแล้ว ทั้งคู่มั่นใจอย่างมากว่าสิ่งนี้จะตามมาด้วยปัญหาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ฮัวจิงฉือและมู่ซื่อหรงไม่ได้คาดคิดว่าซุยเอ๋อจะตอบกลับมาเช่นนี้ “รายงานอาวุโส ซ่งจงยังไม่ตาย!”
“ว่าอะไร?” ทุกคนตกใจทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
โดยเฉพาะมู่ซื่อหรงและฮัวจิงฉือ ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความไม่เชื่อถือ สำหรับมู่ซื่อหรงนั้นหัวใจของนางกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงพร้อมกับคิดในใจ ‘เจ้าตัวปัญหานี่ยังไม่ตายงั้นหรือ? ถ้าหากเขามีชีวิตรอดกลับมา ข้าจะต้องถูกลงมือจนตายตกอย่างแน่นอนเพราะข้านั้นทิ้งเขาในช่วงที่เขาอยู่ในอันตราย’
ผู้นำตงไห่ที่ได้ยินเช่นนั้น เขาถามออกไปอย่างตื่นเต้น “เช่นนั้นเขาอยู่ที่ไหน?”
“เขาได้รับการช่วยเหลือจากราชันเหยี่ยวฟ้า เหลยซานเอ๋อ!” ซุยเอ๋อตอบกลับอย่างสงบ
“ว่าอะไรนะ?” เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ต่างพากันสับสนทันที
ผู้นำตงไห่นั้นดวงตาเบิกกว้างทันทีด้วยความตกใจ “เหลยซานเอ๋อช่วยเหลือซ่งจง? ข้าหูฝาดรึเปล่า? เหลยซานเอ๋อนั้นมีจิตใจงดงามตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“เขาถูกจับไปโดยเหลยซานเอ๋อใช่หรือไม่?” หญิงชรากล่าวออกมา
“ไม่ ไม่ใช่เลย เขาไม่ถูกจับ เขาถูกช่วยเหลือ!” ซุยเอ๋อรีบอธิบาย “อาวุโสลุงกล่าวว่าในขณะที่เขากำลังจะจับซ่งจงได้ เหลยซานเอ๋อปรากฎตัวขึ้นและโจมตีเขาด้วยทุกอย่างที่นางมี จากนั้นนางคว้าร่างกายที่หมดสติของซ่งจงและหนีไป อาวุโสลุงได้ยินเหลยซานเอ๋อเรียกซ่งจงว่า ฝ่าบาทน้อย เห็นได้ชัดว่าซ่งจงนั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสายลับที่จักรวรรดิทะเลตะวันออกส่งมา!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ทั้งหมดตกใจก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างรังเกียจ ผู้นำตงไห่ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เด็กน้อย เจ้ากำลังพยายามโกหกใครอยู่? ถ้าหากซ่งจงเป็นสายลับ เขาจะสังหารราชันฉลามดำเพื่ออะไร?”
ฮัวจิงฉือหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ซ่งจงเกิดในสำนักเสวียนเทียนและครอบครัวของเขาอยู่ในสำนักเสวียนเทียน นอกจากนั้นบิดาของเขายังเป็นศิษย์คนสำคัญของจ้าวสำนักและชื่อของซ่งจงนั้นถูกตั้งโดยจ้าวสำนักคนก่อน ถ้าหากเจ้ากล่าวว่าเขาเป็นสายลับ นั่นเท่ากับว่าเจ้าพูดว่าคนที่มาจากสำนักเสวียนเทียนเป็นสายลับใช่หรือไม่?”
“นี่มันเรื่องไร้สาระ!” ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินกล่าวออกมาพร้อมขมวดคิ้ว “ซ่งจงนั้นอยู่ในระดับปฐมภูมิเท่านั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีจากผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน เขาอาจจะถูกสังหารโดยตาเฒ่าเฟิงไปแล้ว เหตุใดเจ้าจึงคิดโกหก?”
“ถูกต้อง แม้ว่าเจ้าจะโกหก แต่ช่วยโกหกให้ดีกว่านี้หน่อยเถิด คำอธิบายเช่นนี้นั้นดูถูกสติปัญญาของพวกเราเกินไป!” ผู้ฝึกตนอธรรมอีกคนกล่าวออกมา
ในตอนนี้ทุกคนสงสัยนาง ซุยเอ๋อทำอะไรไม่ถูกทันที ดังนั้นนางจึงกล่าวออกมาว่า “อาวุโส เรื่องนี้ เรื่องนี้นั้นอาวุโสลุงได้บอกต่อให้กับข้า! เขาคืออาวุโสของข้า แน่นอนว่าข้าจะต้องพูดตามที่เขาได้บอกกล่าวมา!”
เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น ทุกคนเข้าใจซุยเอ๋อแต่ก็ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่ตาเฒ่าเฟิงกล่าว เรื่องเหล่านี้นั้นไร้สาระเกินไป ในไม่กี่พันปีมานี้ เหล่าอสูรกายนั้นไม่เคยส่งสายลับมาก่อน ในครั้งนี้เป็นเพียงตาเฒ่าเฟิงรังแกศิษย์อย่างไร้เหตุผล อีกทั้งยังกล่าวหาว่าซ่งจงเป็นสายลับ นอกจากนี้ซ่งจงยังเป็นคนสังหารราชันฉลามดำ ใครกันจะคิดเชื่อเรื่องนี้?
ฮัวจิงฉือคร่ำครวญออกมาอย่างขื่นขม “อาวุโส สำนักพันปีศาจนั้นทำตัวน่ารังเกียจอย่างมาก! เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดตั้งใจที่จะซุ่มโจมตี ตอนนี้เขายังกล่าวหาว่าหลานชายสุดที่รักของข้าเป็นสายลับอีกงั้นหรือ? สวรรค์ พวกเขาช่างเหยียดหยามซ่งจงมากเกินไปแล้ว! ข้าหวังว่าอาวุโสจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับพวกเรา!”
ผู้นำตงไห่ก็โกรธมากเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เขาตอบกลับอย่างเด็ดขาด “ไม่ต้องกังวล ข้าจะตัดสินอย่างยุติธรรมที่สุด!”
ผู้นำตงไห่และรองหัวหน้าทั้งสี่เริ่มถกเถียงเรื่องนี้ผ่านกระแสจิต หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหมดได้ข้อสรุป ผู้นำตงไห่กล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด “เกี่ยวกับการกระทำที่น่ารังเกียจของสำนักพันปีศาจ พวกเราทั้งห้าคนได้คุยกันแล้วและได้ข้อสรุปว่า ทะเลตะวันออกจะทำเครื่องหมายว่าตาเฒ่าเฟิงเป็นอาชญากรที่เราต้องการตัว ตราบใดที่เขามาปรากฏตัวที่นี่ เขาจะต้องถูกจับตายเท่านั้น!”
สำหรับซุยเอ๋อที่ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางเปิดเผยรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา แท้จริงแล้วหมายจับนี้ไม่ได้รุนแรงมากนัก แทนที่จะเรียกว่าหมายจับเรียกว่าการห้ามเข้าพื้นที่เสียมากกว่า อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ในช่วงเวลานี้เขาถูกตั้งให้เป็นอาชญากร ใบหน้าของตาเฒ่าเฟิงคงจะไม่เหลือให้เชิดหน้าชูตาอีกต่อไป แน่นอนว่าผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง มักจะยึดถือศักดิ์ศรีมากกว่าสิ่งใด การทำเช่นนี้เท่ากับว่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกได้ตบหน้าเขาอย่างรุนแรง
แน่นอนว่าการตบเท่านี้ยังไม่เพียงพอสำหรับตาเฒ่าเฟิง หลังจากหยุดไปชั่วครู่ผู้นำตงไห่กล่าวต่อ “นับตั้งแต่นี้ต่อไป ในฐานะที่ซ่งจงเป็นหัวหน้าทะเลตะวันออก สถานที่แห่งนี้เป็นของเขาทันที แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ สถานที่แห่งนี้จะถูกดูแลโดยภรรยาของเขานั่นคือมู่ซื่อหรง คนของสำนักพันปีศาจจะต้องออกจากสถานที่แห่งนี้ทั้งหมด ถ้าหากผู้ใดกล้าที่จะอยู่ตรงนี้ อย่าให้กล่าวโทษว่าข้าไร้เมตตา!”
เมื่อซุยเอ๋อได้ยินเช่นนั้น นางได้แต่คร่ำครวญอยู่ภายในใจ ทุกคนรู้ดีว่าเกาะไผ่เขียวนั้นไม่ได้เป็นเพียงเกาะวิญญาณ ทุกสิ่งที่แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมานั้นเป็นความจริง! เถาวัลย์มังกรปฐพีนั้นอยู่ใต้เกาะแห่งนี้ นอกจากนี้มันมีอายุมากแล้ว ดังนั้นถือว่ามันเป็นเกาะที่มีค่าอย่างยิ่งภายในทะเลตะวันออก
ในตอนนี้ทั้งหมดต้องมอบเกาะนี้ให้กับสำนักเสวียนเทียน ซุยเอ๋อซึ่งเป็นคนรับผิดชอบสถานที่แห่งนี้จะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากมันอีกต่อไป ถ้าหากบอกว่านางไม่เสียใจนั้นคงเป็นการโกหก!
ผู้นำทั้งห้าจ้องมองนางอย่างเย็นชา แล้วนางจะทำอะไรได้บ้างในฐานะผู้ฝึกตนระดับจินตัน? นอกจากนี้พวกนางทำผิดอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถโต้แย้งได้ ซุยเอ๋อได้แต่ยอมรับอย่างไม่อาจทำอะไรได้และจัดการให้ศิษย์จากสำนักพันปีศาจทั้งหมดออกไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งศิษย์จากสำนักเสวียนเทียนเข้ายึดพื้นที่ทันที สำหรับมู่ซื่อหรงนางได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าของเกาะโดยใช้ชื่อภรรยาของซ่งจง ตราบใดที่เขายังไม่ปรากฏตัว นางคือเจ้าของเกาะ!
เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดจบลง ฮัวจิงฉือและมู่ซื่อหรงพอใจอย่างมาก ทั้งสองขอบคุณผู้นำทั้งห้าอย่างยินดี ทั้งหมดเมื่อตัดสินใจเสร็จสิ้นพวกเขาไม่ได้ทำอะไรต่อพร้อมกับบินกลับไปที่บ้านของตน มู่ซื่อหรงอาศัยอยู่บนเกาะไผ่เขียวทันที ในขณะที่ฮัวจิงฉือเดินทางกลับไปที่อาคารพันบุปผาเมื่อส่งข่าวกลับสำนักเสวียนเทียน
ภายในสำนักเสวียนเทียน นักบวชฮัวอวิ๋นกำลังอยู่ในห้องนอนกับภรรยาทั้งเจ็ดของตน
เมื่ออ่านข้อความที่ฮัวจิงฉือส่งมา นักบวชฮัวอวิ๋นได้รับรู้ว่าซ่งจงตายแล้วและมู่ซื่อหรงได้เป็นหัวหน้าทะเลตะวันออกในนามภรรยาของซ่งจง เขาทั้งตกใจและร่าเริงในขณะเดียวกัน เขาตกใจที่ซ่งจงตายและก็ดีใจที่ได้รับรางวัลเป็นเกาะไผ่เขียว แน่นอนว่าเขาเพียงแค่เสียใจเล็กน้อยเท่านั้น ผลงานของซ่งจงนั้นเป็นเลิศแม้กระทั่งยามตาย นักบวชฮัวอวิ๋นรู้สึกดีใจที่ตนเองให้ความสำคัญกับเขา แน่นอนว่าลึก ๆ แล้วฮัวอวิ๋นก็เสียใจอยู่ไม่น้อย
ในขณะที่เขากำลังหลับนอนกับภรรยาทั้งเจ็ด เขารู้สึกแปลกอยู่บ้าง ใบหน้าของเขามองไปเห็นเงาดำที่ยืนอยู่ในห้อง บุคคลนี้เข้าห้องเขามาโดยที่ไม่ส่งเสียงอะไรเลย
นักบวชฮัวอวิ๋นตกใจทันที ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าสำนักเสวียนเทียนนั้นเต็มไปด้วยอาคมป้องกันอย่างแน่นหนา อีกทั้งยังมีค่ายกลมากมายและเหล่าศิษย์ที่คอยลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง บุคคลนี้ปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร? เหตุใดด้วยพลังของฮัวอวิ๋นจึงไม่สามารถตรวจจับได้? เขารู้ตัวเมื่อบุคคลผู้นี้ปลดปล่อยพลังของตนเองออกมาเพื่อให้เขารู้สึกตัว
ฮัวอวิ๋นรู้สึกประหม่าทันที เขากอดภรรยาไว้พร้อมถามออกไปอย่างระมัดระวัง “เจ้าเป็นใคร? ทำไมจึงมายืนอยู่ที่สำนักเสวียนเทียน?”
“ข้าเอง!” เป็นเสียงของสตรีที่ดังขึ้น
หลังจากนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขาผ่อนคลายลงพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น “เจ้าเองงั้นหรือ? เหตุใดจึงมาพบข้าเวลานี้กัน? เจ้าต้องการให้ข้าตกใจจนตายเลยงั้นหรือ?”
“มันเป็นเรื่องด่วน!” นางตอบกลับอย่างสงบ
“งั้นหรือ!” เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขาขมวดคิ้วทันที “สิ่งที่ทำให้เจ้ากังวลก็คงจะเป็นเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน ถูกไหม?”
“แน่นอน!” นางตอบกลับช้า ๆ! นางหันไปรอบพร้อมกับปิดประตู
เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นเห็นเช่นนั้น เขาหัวเราะออกมาพร้อมกับกล่าวกับภรรยาทั้งเจ็ด “กลับไปพักผ่อนก่อน คืนนี้พวกเจ้าไม่ต้องรับใช้ข้า!”
ทั้งหมดตอบรับพร้อมเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ทุกคนออกไป สตรีลึกลับปิดผนึกประตูด้วยอาคมของตนเอง พร้อมทั้งร่ายอาคมจำกัดพื้นที่เพื่อไม่ให้ผู้ใดแอบฟังได้
เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวอย่างขื่นขม “พี่สาวข้า สถานที่แห่งนี้คือที่ของข้า ท่านไม่ต้องระมัดระวังมากก็ได้ ไม่มีผู้ใดแอบดูอย่างแน่นอน!”
“จะดีกว่าถ้าหากระมัดระวัง!” สตรีลึกลับกล่าวออกมา ในเวลานั้น นางนั่งลงตรงหน้าของนักบวชฮัวอวิ๋นพร้อมกับถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามของนาง หากมีใครเคยพบกับนางแน่นอนว่าจะต้องตกอยู่ในความตื่นตระหนกอย่างแน่นอน เพราะบุคคลผู้นี้คือพี่สาวของฮัวอวิ๋น สถานะของนางคือผู้นำหอเฉวียนจี้ เทพธิดาชิงหยุน!
MANGA DISCUSSION