Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต - ตอนที่ 163
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
บทที่ 163: ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ
แน่นอนว่าเจ้าอ้วนไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าชื่อเสียงของเขาในตอนนี้แม้ว่ามันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักแต่กลับนำพามาซึ่งอันตรายใหญ่หลวง!
ในตอนนี้มีผู้ฝึกตนหลายคนกำลังเฝ้ารออยู่ที่ด้านนอกดินแดนของสำนักเสวียนเทียนเพื่อที่จะรอจัดการพวกเขา ทั้งเงินรางวัลและสมบัติวิเศษนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่สำหรับเจ้าอ้วนนั้นเป็นข้อยกเว้นเพราะว่าเขาคือผู้ฝึกตนประเภทสายฟ้าซึ่งถือได้ว่าเป็นภัยคุกคามในอนาคต ภายในหุบเขาแห่งการล่า เขาได้ใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกไปจำนวนมาก จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะตกเป็นเป้าหมายของทุกคน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าขณะที่เจ้าอ้วนก้าวขาออกจากสำนักเสวียนเทียน เขาจะถูกล้อมรอบไปด้วยผู้ฝึกตนนับหมื่นคน ซึ่งอาจจะมีผู้ฝึกตนระดับจินตันรวมอยู่ด้วย ไม่รวมถึงสมบัติวิเศษที่มีมูลค่าสูง สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคืออุปกรณ์เหล่านี้ปรับแต่งได้ยากมาก เห็นได้ชัดว่าเหล่าผู้ฝึกตนระดับจินตันหลายคนตั้งเป้าที่เจ้าอ้วนผู้อ่อนแอไว้ก่อนเพื่อที่จะได้รับรางวัลเหล่านั้น
ช่างน่าสงสารที่เจ้าอ้วนนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิด อีกทั้งเขายังเตรียมเก็บตัวเข้าสู่การฝึกฝน เขาเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ระดับปฐมภูมิภายในการฝึกครั้งนี้ เขาปล่อยให้บุคคลเหล่านั้นเฝ้ารอเขาอยู่ที่ด้านนอกเพราะไม่มีผู้ใดกล้าแสวงหาความตายเพียงเพราะต้องการสังหารเขา!
ในขณะนี้สำนักเสวียนเทียนเงียบสงบเป็นปกติเมื่อเทียบกับพายุสงครามที่ด้านนอก แต่ความเป็นจริงนั้นภายใต้สำนักเสวียนเทียนมีการเคลื่อนไหวคล้ายคลื่นใต้น้ำ
เหตุผลส่วนใหญ่มาจากศิษย์ของนักบวชฮัวอวิ๋นได้หมดสิ้นลง อีกทั้งในตอนนี้จ้าวสำนักและภรรยาต่างไม่มีศิษย์ในการดูแลของตนเอง ศิษย์ที่พวกเขามีอยู่นั้นไร้พรสวรรค์และอายุน้อยเกินไป อีกทั้งเหล่าอาวุโสทั้งสี่ภายในสำนักเสวียนเทียน มีสามคนที่มาจากนักบวชฮัวอวิ๋นและหนึ่งคนมาจากเทพธิดาเหมยฮวา แต่ทว่าไม่มีตัวแทนของจ้าวสำนักแม้สักคน
หากทุกอย่างต้องดำเนินการต่อไปเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของศิษย์ที่มาจากนักบวชฮัวอวิ๋นจากนี้อีกร้อยปีจะทวีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งเพียงพอที่จะล้มจ้าวสำนักและภรรยา
อย่างไรแล้วสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นเช่นนี้กลับล้มเหลวลงไปอย่างฉับพลัน เพียงเพราะว่าเหตุการณ์คัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าร่วมการล่าผลไม้วิญญาณ นักบวชฮัวอวิ๋นได้สูญเสียศิษย์คนสำคัญคือมู่ซื่อหรงไปจากการบาดเจ็บหนักเมื่อครั้งต่อสู้กับเจ้าอ้วน และนางต้องใช้เวลาพักฟื้นถึงสิบปีอย่างน้อย ด้วยเหตุนี้อันดับความสำคัญของนางจากหนึ่งเลยกลายเป็นสองไปโดยปริยาย ทางด้านเสี่ยวไป่หลงได้ตายตกไปในการล่าผลไม้วิญญาณ ดาบเทวะไร้ผู้ต้านกลายเป็นผู้พิการโดยสมบูรณ์จากคำสาปแช่งของเหล่าผู้ฝึกตนปีศาจ ในทุกวันเขาเพียงนอนอยู่บนเตียงและร่ำไห้ออกมาเป็นครั้งคราวจากความเจ็บปวด ความจริงที่โหดร้ายสำหรับเขาคือแม้อยากตายแต่ก็ไม่อาจ เห็นได้ชัดว่าเหล่าผู้ฝึกตนจากสำนักพันปีศาจไม่ยอมให้เขาได้จากไปอย่างสงบ แม้ว่าจะต้องทรมานดาบเทวะไร้ผู้ต้านไปอีกสองถึงสามทศวรรษ พวกเขาก็จะไม่ยอมให้ดาบเทวะไร้ผู้ต้านตายตกไปอย่างง่ายดายแน่นอน
ดังนั้นศิษย์อัจฉริยะของนักบวชฮัวอวิ๋นทั้งสามคนก็แทบนับว่าจบสิ้นกันแล้ว ในทางตรงกันข้ามจ้าวสำนักกลับมีศิษย์ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์เพิ่มขึ้นสองคน แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือหงหยิง พรสวรรค์ของนางนั้นแตกต่างจากผู้อื่นโดยสิ้นเชิง อีกทั้งนางยังครอบครองกระบี่เฟิ่งหมิง เพียงแค่นางคนเดียวก็สามารถจัดการกับศิษย์ทั้งสามของนักบวชฮัวอวิ๋นได้อย่างสบาย ๆ
แต่ทว่ากลับมีอีกคนเพิ่มมาคืออ้วนน้อยซึ่งมีความสามารถในการใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในระดับเซียนเทียน และเขายังครอบครองดาบแห่งธาตุทั้งห้าพร้อมทั้งระฆังผุฟัง ซึ่งนี่ทำให้นักบวชฮัวอวิ๋นแทบจะกระอักเลือดจนตายตกไป
สำหรับผู้ฝึกตน สิ่งที่ดีที่สุดคือการมีศิษย์ที่เป็นสายเลือดของตนเอง แต่ทว่าคู่ครองของนักบวชฮัวอวิ๋นได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ความจริงเขายังสามารถค้นหาอัจฉริยะได้จากเวลาที่มีเหลือเฟือ แต่หนทางเส้นนี้ไม่อาจเลือกเฟ้นบุคคลชั้นยอดได้ง่ายนัก
เหตุผลที่พวกเขาเหล่านั้นถูกเรียกว่าอัจฉริยะเป็นเพราะว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากสวรรค์และพบเจอตัวได้น้อยยิ่ง ในทุกปีสำนักเสวียนเทียนจะส่งศิษย์จำนวนมากออกไปเพื่อค้นหาเหล่าอัจฉริยะตามสำนักต่าง ๆ หลังจากที่ค้นหามาเนิ่นนานหลายปี พวกเขาค้นพบเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ซึ่งก็คือเสี่ยวไป่หลงและดาบเทวะไร้ผู้ต้าน
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ศิษย์ทั้งสองคนนี้ควรจะอยู่ในความดูแลของจ้าวสำนักและภรรยา เป็นเพราะว่านักบวชฮัวอวิ๋นมีมู่ซื่อหรงซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันอยู่แล้ว แต่ทว่านักบวชฮัวอวิ๋นอาศัยจังหวะที่จ้าวสำนักและภรรยาเก็บตัวฝึกฝนคู่และใช้โอกาสนี้ดึงศิษย์ทั้งสองคนไว้กับตนเอง จึงรวมกันเป็นสามคน
แต่ในตอนนี้การทำงานหนักของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ เขาจะสามารถอดทนกับเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? นอกเหนือจากกรณีของมู่ซื่อหรงที่เขาสามารถคาดโทษกับเจ้าอ้วนได้ แต่กับศิษย์อีกสองคนเขาไม่สามารถทำสิ่งใดได้ อีกอย่างเขาไม่รู้ว่าเสี่ยวไป่หลงตายตกไปเพราะน้ำมือของเจ้าอ้วน ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดโทษไปที่เจ้าอ้วนได้เลยแม้แต่น้อย
นักบวชฮัวอวิ๋นทำได้เพียงกล้ำกลืนความทุกข์ใจนี้อย่างไม่อาจช่วยได้ เขารู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจในศิษย์ของตนเองอย่างมาก ในช่วงเวลาที่เขากำลังตกอยู่ในความทุกข์ เหล่าศิษย์ที่อยู่ข้างกายของเขาต่างพากันเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว พวกเขาอยากจะเข้าสู่การดูแลของจ้าวสำนักเพื่อปกป้องตนเองแต่ทว่าไม่อาจทำเช่นนั้นได้เพราะบรรยากาศในตอนนี้หนักหนาสาหัสเกินไป
จ้าวสำนักและภรรยารู้ได้ทันทีว่าในตอนนี้เกิดบรรยากาศประหลาดขึ้นภายในสำนัก อย่างไรก็ตามศิษย์ที่อยู่ในสังกัดของนักบวชฮัวอวิ๋นต่างพากันมาแสดงความสามารถให้ทั้งสองคนอย่างเงียบเชียบเพื่อเสนอตัวรับใช้ ฝีมือของพวกเขานั้นไม่อาจดูถูกได้ พวกเขาล้วนไม่อ่อนด้อย
บรรยากาศของศิษย์ทั้งสองฝ่ายนั้นตึงเครียดอย่างมาก นับตั้งแต่ที่พวกเขากลับมาจากการล่าผลไม้วิญญาณ รางวัลของเจ้าอ้วนและทั้งหมดล่าช้าลงไปอย่างมาก แต่อย่างน้อยในตอนนี้หงหยิง เจ้าอ้วน และฉุ่ยจิ้งต่างพากันเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝนเป็นที่เรียบร้อย และพวกเขายังไม่สนใจรางวัลในตอนนี้ ดังนั้นเรื่องราวจะดำเนินการต่อเมื่อพวกเขาก้าวเท้าออกจากการเก็บตัวฝึกฝนเท่านั้น
ในขณะที่พายุขนาดใหญ่กำลังก่อตัวอยู่ที่ด้านนอก เจ้าอ้วนแอบซ่อนตัวทำการฝึกฝนภายในมิติของเขาที่เต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณและสมบัติมากมายที่พร้อมให้เขาได้ใช้ในการฝึกฝนอย่างไม่ติดขัด
ในตอนนี้เจ้าอ้วนคือผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสิบสาม แม้ว่าความจริงเขาไม่อาจเทียบกับหานปิงเอ๋อ หงหยิง และฉุ่ยจิ้งได้ แต่นี่ก็นับเป็นความสำเร็จที่สวยงาม โดยเฉพาะความรวดเร็วของเขาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาซึ่งเรียกได้ว่าก้าวกระโดดอย่างมาก
เมื่อสองเดือนก่อน เขาอยู่ระดับเซียนเทียนขั้นสิบเท่านั้น ไม่มีผู้ใดคาดคิดและมองเห็นเจ้าอ้วนอยู่ในสายตา แต่ทว่าในตอนนี้ความเร็วของเขาต่างทำให้ทุกคนประหลาดใจ ในครั้งแรกเขาต่อสู้กับฉุ่ยจิ้งและได้ทำการฝึกฝนคู่กับนางจนทำให้ระดับขั้นของเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ฝึกตนอีกหลายสิบคนเข้าใจในกฏแห่งสวรรค์และบรรลุไปพร้อมกัน
หลังจากที่เจ้าอ้วนสังหารตู๋เชียนเฉิง แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก แต่เขาได้รับยาอายุวัฒนะลึกลับแห่งสวรรค์จากหงหยิงทำให้ระดับขั้นของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้งนับว่าเป็นผลจากยา แม้ว่าเจ้าอ้วนจะไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักแต่เขากลับเพิ่มระดับขั้นของตนเองได้ถึงสองขั้น!
ความจริงแล้วการใช้ยาอายุวัฒนะเพื่อเลื่อนระดับขั้นของตนเองนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนัก แต่วิธีการนี้กลับไม่แพร่หลาย อย่างแรกคือมันต้องใช้หินจิตวิญญาณจำนวนมาก และทุกอย่างล้วนมีมูลค่าสูง เช่นเดียวกับยาที่หงหยิงมอบให้เจ้าอ้วนใช้ สิ่งนั้นมีไว้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน ในหนึ่งร้อยปีมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะใช้มัน สำหรับผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินนั้นถือได้ว่ามันคือสมบัติและไม่อาจมอบมันให้กับผู้ฝึกตนน้องใหม่อย่างแน่นอน
แต่วิธีการนี้ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีนักแม้ว่าระดับขั้นจะเพิ่มขึ้นจริง แต่กลับไม่ได้มีความเข้าใจในกฎแห่งสวรรค์เลยแม้แต่น้อย ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถเข้าใจกฎแห่งสวรรค์ได้ การที่มีปราณจิตวิญญาณที่มากกว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องดีนัก ปราณจิตวิญญาณที่มากเกินไปไม่ได้ควบคุมได้โดยง่าย อย่างเลวร้ายที่สุดมันจะทำให้เส้นลมปราณฉีกขาดและส่งผลให้เสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด
ดังนั้นผู้ฝึกตนทั้งหลายจึงไม่คิดใช้ยาอายุวัฒนะเพื่อการเลื่อนระดับขั้น พวกเขาจะใช้มันสำหรับเรื่องการฝึกฝนเล็กน้อยเท่านั้น ยาเหล่านี้จะเพิ่มปราณจิตวิญญาณของพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งผลกระทบของมันไม่ได้รุนแรงมากนัก และไม่ส่งผลต่อการควบคุมปราณจิตวิญญาณแต่อย่างใด
แต่สำหรับเจ้าอ้วนอาจถือได้ว่าเป็นข้อยกเว้น หงหยิงจับมันยัดใส่ปากของเขาเอง และในตอนสุดท้ายมันส่งผลกับระดับขั้นของเขาอย่างดีเยี่ยม แต่หากเป็นบุคคลอื่น พวกเขาอาจจะพิการหรือไม่ก็ตายในจุดเกิดเหตุทันที แต่เพราะเจ้าอ้วนมีร่างกายที่สามารถอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าจึงสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาเช่นนั้นมาได้อย่างง่ายดาย ควบคู่ไปกับการที่เขาเข้าใจกฎแห่งสวรรค์ เขาไม่พบปัญหาตีบตันในการฝึกฝนและสามารถเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นสิบสามได้ภายในครั้งเดียว
ผลไม้วิญญาณที่เจ้าอ้วนกินเข้าไปยังช่วยในเรื่องของการขยายของเส้นลมปราณ ซึ่งผลไม้วิญญาณเหล่านี้จะปรากฏออกมาอีกครั้งในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า คุณภาพของมันเป็นของจริง แม้ว่าจะไม่มีผลกับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง แต่กลับมีประโยชน์ต่อผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนอย่างมหาศาล
แน่นอนว่าคนหมู่มากยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้รับมาสักผล แม้ว่าเจ้าอ้วนจะมีความมั่งคั่งอย่างมากมายและครอบครองผลไม้วิญญาณถึงสามผล แต่เขาก็ไม่อาจกินมันพร้อมกันได้ เขาเลือกที่จะกินมันเพียงทีละผล
ผลไม้วิญญาณเป็นสิ่งที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในจิตวิญญาณของคนที่กินมันได้ หลังจากที่พวกเขากินมันเข้าไปแล้ว จะเกิดความร้อนไปทั่วท้องของพวกเขา เจ้าอ้วนที่มีปฐมกาลแห่งความโกลาหลจะทำการดูดซับสิ่งเหล่านี้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความร้อนไปทั่วเส้นลมปราณของเขา
ความร้อนนี้ส่งผลรุนแรงมากราวกับว่าเส้นลมปราณของเขากำลังถูกไฟแผดเผา หลังจากที่หมุนเวียนลมปราณอยู่ยาวนาน หลังจากนั้นมันจะเริ่มช้าลงและเข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย โชคดีที่เจ้าอ้วนมีความเด็ดเดี่ยวและสามารถอดทนต่อความทรมานเช่นนี้ได้อย่างดี
หลังจากผ่านไปสามเดือน เขาสามารถซึมซับคลื่นความร้อนเหล่านี้ได้ทั้งหมด เส้นลมปราณของเขาเพิ่มขนาดขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่ทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกผิดหวังคือเส้นลมปราณของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นมากถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับคนอื่นที่สามารถขยายได้มากถึงสองในสิบ เห็นได้ชัดเจนว่ามันน้อยมาก แม้แต่ปราณจิตวิญญาณก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างเช่นตำนานกล่าวเอาไว้ นั่นทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกงุนงงยิ่งพร้อมกับคิดในใจว่า ‘อย่าได้บอกนะว่านี่คือของปลอม? หรือว่าผลไม้วิญญาณผลนี้มันยังไม่สุกกันแน่?’
ภายใต้ความสงสัยภายในหัวใจของเขา เจ้าอ้วนดึงสติของตนเองกลับมาพร้อมกับเริ่มกินผลไม้วิญญาณที่เหลือ แต่แล้วผลลัพธ์ก็ยังเป็นเช่นเดิม ผลลัพธ์ของมันอ่อนแรงจากครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด หลังจากผ่านพ้นอีกสามเดือนแห่งความทุกข์ทรมาน เส้นลมปราณของเขาขยายเพิ่มขึ้นเพียงแค่น้อยนิด!
เจ้าอ้วนกินผลไม้วิญญาณไปถึงสามผลแต่กลับรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เมื่อผ่านพ้นการฝึกฝนอีกสามเดือนที่ขื่นขม เขาตระหนักได้ว่าเส้นลมปราณของเขาขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงสองในสิบเท่านั้น และระดับขั้นพลังของเขายังอยู่เท่าเดิม อีกทั้งผลลัพธ์เหล่านี้คือผลจากการที่เขาใช้สมบัติมากมายและน้ำแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้าจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าถ้าหากเขาไม่ได้ใช้สิ่งเหล่านี้ พลังของเขาไม่ได้คืบหน้าขึ้นมาเลยภายในเก้าเดือนที่ผ่านมา
หลังจากค้นพบว่าผลไม้วิญญาณไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก เจ้าอ้วนคิดว่านี่ไม่ใช่ความผิดของผลไม้วิญญาณ แต่เป็นที่ร่างกายของเขาเอง หลังจากที่เขาฝึกฝนด้วยปฐมกาลแห่งความโกลาหล ร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก มันเทียบได้กับร่างกายของอสูรกายหรือผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ ความแข็งแกร่งเหล่านี้อาจจะมากเกินกว่าที่ผลไม้วิญญาณจะเพิ่มศักยภาพให้มันได้ เมื่อเทียบกับคนอื่นที่เพิ่มขนาดของเส้นลมปราณได้มากถึงสามในสิบ ทางด้านเขากลับทำได้เพียงสองในสิบเท่านั้น
เมื่อเขาเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง เขาก็คล้ายเกิดความยินดีขึ้นมาแทน เขารับรู้ว่าผลไม้วิญญาณช่วยได้ไม่น้อย และยังเพิ่มช่องว่างให้เขากับสหายร่วมรุ่นขึ้นไปอีก แน่นอนว่าสิ่งนี้จะทำให้ชีวิตของเขาง่ายดายขึ้นอย่างมาก
ในขณะที่เขากำลังอารมณ์ดีอยู่นั้น เจ้าอ้วนกลับเข้าสู่การฝึกฝนอย่างหนักอีกครั้ง ท้ายที่สุดหลังจากนั้นไม่กี่เดือนเขาสามารถข้ามผ่านและเข้าสู่ระดับปฐมภูมิ!
เรื่องราวเมื่อเสร็จสิ้น เจ้าอ้วนรู้สึกคล้ายได้ก้าวเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่ง การฝึกฝนอันไร้สิ้นสุดของปฐมกาลแห่งความโกลาหล ท้องฟ้าหามีไม่ พื้นดินก็ไม่ ดวงดาวก็ไม่ พระอาทิตย์ก็ยังไม่มี พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมด้วยสีเทา ภายในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกฎแห่งสวรรค์ซึ่งมีเพียงแต่ความซับซ้อน เขาผ่านจุดนี้ไปได้อย่างไม่ยากนักอีกทั้งยังไม่พบปัญหาอาการตีบตันดังเช่นผู้ฝึกตนอื่น
แม้ตอนนี้จะเป็นผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิแล้ว เจ้าอ้วนก็หาได้ออกจากการฝึกฝนในทันที เขายังใช้เวลาต่อไปอีกสองถึงสามเดือนเพื่อทำการปรับเสถียรภาพของพลังใหม่ที่เพิ่งได้รับ
หลังผ่านไปสองปีของการฝึกฝนที่ขมขื่น ไม่เพียงแต่การฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปมากด้วยเช่นกัน
โดยปกติแล้วร่างกายของผู้ฝึกตนจะเปลี่ยนแปลงไปตามวิธีการฝึกฝนของแต่ละคน ผู้ฝึกตนปีศาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่น่าเกลียด ดุร้าย หรืออื่น ๆ แต่ผู้ฝึกตนชอบธรรมจะเปลี่ยนแปลงไปในด้านที่ดีขึ้นราวกับทวยเทพจากสวรรค์
หลังจากผ่านไปสองปี เจ้าอ้วนมองตนเองในกระจกจนแทบเป็นลมไป ในกระจก ใบหน้าของเขาดูละเอียดอ่อนและดวงตาคมกริบ แต่กลับขาดซึ่งความสูงส่งแห่งสวรรค์อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร ร่างกายของเขาคล้ายกับวัตถุโบราณที่เพิ่งถูกขุดขึ้นมาจากดินอย่างไรอย่างนั้น
นอกจากนี้ร่างกายของเขายังขยายใหญ่ขึ้นอีก ในอดีตเขาสูงเพียงเจ็ดฟุต แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขาขยายเพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดฟุตครึ่ง พร้อมกับไหล่ที่กว้างออกและพุงขนาดใหญ่ กล้ามเนื้อของเขาเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล ความหนาของแขนเขาเทียบเท่ากับขาของคนปกติ ร่างกายของเขาในตอนนี้ดูคล้ายกับว่าเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ในขณะที่เขายืนเปลือยกายอยู่นั้น กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขากำลังขยายมากขึ้นจนทำให้คนที่มองดูตกใจได้ แต่หลังจากที่เขาสวมใส่เสื้อผ้า ทุกคนจะมองว่าเขาคือบุรุษผู้เต็มไปด้วยไขมันคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงกล้ามเนื้อภายใต้ร่มผ้านี้ได้เลย
แม้ว่าลักษณะของเขาจะไม่ได้ดูดีมากนัก แต่ความแข็งแกร่งที่มีนั้นน่าเกรงกลัวอย่างมาก หลังจากที่เจ้าอ้วนเข้าสู่ระดับปฐมภูมิ เขาสามารถบดขยี้เหล็กสีดำได้เพียงแค่ออกแรงน้อยนิด! แรงเท่านี้เทียบเท่าได้กับอะไร? มันไม่ต่างกับโดนสิ่งของหนักหลายพันจินบดทับด้วยซ้ำ!