Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 10: แลกเปลี่ยน
“ให้ข้าพูดตรง ๆ เลยก็แล้วกัน หลานชาย ข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้า!”
ผู้ดูแลหลินเหลือบมองโจวเหวินซินที่กำลังหงุดหงิด ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองฟางหยวน
“บิดาของข้าป่วย และข้าได้ยินมาว่าคุณชายน้อยมีความสามารถทางการแพทย์สูงนัก ข้ามาเพื่อขอยาสักเทียบ!”
คุณชายรองตระกูลโจวได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีและขอความช่วยเหลืออย่างสุภาพ “ข้าหวังว่าคุณชายน้อยจะช่วยพวกข้าได้ ทั้งตระกูลโจวจะรู้สึกขอบคุณยิ่ง”
ที่ข้าง ๆ เขา โจวเหวินซินทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ยั้งเอาไว้เมื่อเห็นพี่ชายของนางเหลือบมองมาดุ ๆ
‘ไม่คิดเลยว่าแค่เรื่องเล็ก ๆ ในเมืองนั่นจะย้อนกลับมาและไล่ตามข้านัก..’
ฟางหยวนยังคงเงียบ
เขาสังเกตเห็นเสื้อผ้าราคาแพงบนร่างของพี่น้องตระกูลโจว รวมทั้งข้ารับใช้ตัวโตเหล่านั้น ถ้าตอนนี้ไม่มีผู้ดูแลหลินอยู่ด้วย คนพวกนี้คงไม่สุภาพเช่นนี้
ส่วนผู้ดูแลหลินนั้น เพราะการถอนหมั้นก่อนหน้านี้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่แน่นแฟ้นเหมือนเดิม
นอกเสียจากฟางหยวนจะรับความช่วยเหลือจากฮวาหูเตียวฆ่าคนพวกนี้ทั้งหมดแล้วหนีไป เขาคงไม่สามารถหลุดจากสถานการณ์นี้
‘จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังข่มเหงข้า…’
ฟางหยวนครุ่นคิดเงียบ ๆ และพูดออกไปว่า “พี่ชาย ท่านมาช้าไป อาจารย์ของข้า อาจารย์เวิ่นซินต่างหากที่เป็นหมอที่เก่งกาจ ส่วนข้าน่ะเหรอ? ข้าแค่เรียนรู้เรื่องพื้นฐานนิดหน่อยจากท่านเท่านั้น และก่อนที่จะได้ตรวจพ่อของท่าน ข้าไม่สามารถประเมินอาการเขาได้…”
“แก ไอ้คนเลว..”
เขาแค่คิดวางแผนหาทางรอดให้ตัวเอง แต่ไม่คิดเลยว่า โจวเหวินซินจะรู้สึกอยุติธรรมและเริ่มร้องไห้ออกมา
สำหรับนาง การถูกฟางหยวนกลั่นแกล้งเมื่อครั้งนั้นในเมืองเป็นการถูกรังแกรุนแรงที่สุดที่นางเคยได้รับมาก่อน
แล้วตอนนี้ แม้ว่าพวกนางจะมาหาเขาและข้อร้องอย่างสุภาพให้เขาช่วย เขาก็ยังปฏิเสธพวกนาง!
นี่ทำให้โจวเหวินซินรู้สึกโกรธเกรี้ยวมากขึ้นจนน้ำตาไหล
“ฮ่าฮ่า.. ท่านถ่อมตัวเกินไปแล้ว ต่อให้อาจารย์เวิ่นซินไม่อยู่แล้ว ข้าจำได้ว่าพวกท่านมีสมุนไพรคุณภาพสูงอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าข้าสามารถขอแบ่งสักส่วนหนึ่งไปรักษาท่านผู้เฒ่าโจวให้ดีขึ้น นั่นก็พอแล้ว…”
ผู้ดูแลหลินยิ้มแล้วถูมือทั้งสองเข้าด้วยกัน
ตรงกันข้าม ฟางหยวนขมวดคิ้วแล้วรู้สึกว่าไม่สามารถเชื่อเขาได้
ความสัมพันธ์ของผู้ดูแลหลินและฟางหยวนเคยดีมากพอที่จะทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้จักอีกฝ่ายดี
ฟางหยวนดีใจที่ตนเองไม่ใช่อาจารย์เวิ่นซินเอง ไม่อย่างนั้นถ้าผู้ดูแลหลินรู้เรื่องต้นชาชำระจิต ฟางหยวนคงจะเจอปัญหาแน่ ๆ
“เอ๋? ที่เราพบกันก่อนหน้านี้ คุณชายน้อยชายโสมแดง แม้ว่าโสมแดงจะอายุน้อยไปสักนิด แต่สรรพคุณทางยาดีอย่างเหลือเชื่อ! หลังจากท่านพ่อทานเข้าไป อาการก็ดีขึ้น!”
คุณชายรองตระกูลโจวพยักหน้าเมื่อคิดถึงบางอย่างได้ และดูดีใจ
ฟางหยวนกลอกตาแต่ก็ไม่อยากดูไม่น่าเชื่อถือต่อหน้าผู้ดูแลหลิน
ฟางหยวนเหมือนถูกเปิดโปง ชั่วครู่ใหญ่ ๆ ถึงได้ตอบออกมา “ผู้ดูแลหลินก็รู้ว่าอาจารย์เวิ่นซินและข้าอาศัยอยู่ในหุบเขามาเกือบ 20 ปี ดังนั้นสมุนไพรภูเขาที่อายุมากที่พวกมีอยู่ ล้วนเป็นอาจารย์ของข้าเก็บจากเทือกเขาลึก ๆ มันมีอยู่จำกัด และนั่นคือทั้งหมดที่เรามีตอนนี้…”
“ข้าเข้าใจ..”
ผู้ดูแลหลินรู้สึกอับอายเพราะเขารู้ว่าอาจารย์เวิ่นซินนั้นเก่งกาจเป็นตำนานสามารถท่องไปในภูเขาป่าดงดิบเหมือนเป็นพื้นราบ แต่ฟางหยวนเล่า? เขาไม่ได้มีความสามารถแบบนั้น
และดังนั้นการเจาะจงสมุนไพรจากบนเขาที่มีจำกัดของฟางหยวนนั้นก็ดูจะเกินไปสักนิด
แต่เพื่ออนาคตของเหลยเยว่ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถาม
“หลานชาย ถ้าเจ้าอยากได้อะไรหรือมีข้อเรียกร้องอะไรที่ข้าช่วยเจ้าได้ก็บอกมาเลย!”
“ใช่แล้ว ตระกูลโจวประกาศไว้ว่าถ้าคุณชายน้อยสามารถรักษาท่านพ่อของข้าได้ ท่านสามารถเรียกร้องอะไรก็ได้” คุณชายรองตระกูลโจวย้ำ
“ถ้าอย่างนั้น…”
ฟางหยวนรู้สึกยินดีเพราะนี่ต่างหากคือสิ่งที่เขาอยากได้จริง ๆ เขาเกรงว่าเขาจะไม่ได้รับอะไรเป็นค่าสมุนไพรกลับมา ความชื่นชมของมนุษย์นั้นเชื่อถือไม่ได้ที่สุดแล้วเพราะคนผู้หนึ่งสามารถลืมมันไปวันไหนก็ได้ ผู้ดูแลหลินทำถูกแล้วที่คิดถึงเรื่องนี้และตกลงรับปากให้ค่าตอบแทน
“สำหรับสมุนไพรล้ำค่า ที่ข้ามีเหลืออยู่กับตัวนั้นเป็นโสมแดงอายุ 60 ปีต้นหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นของแท้ แต่ข้าไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันจะทำให้เหล่าโจวอาการดีขึ้น เพราะงั้นข้าจะไม่เรียกร้องอะไร แต่เพราะว่าข้าอาศัยอยู่ในป่าเขา ข้าอยากจะเรียนรู้วรยุทธ์เพื่อป้องกันตัวเอง ดังนั้น ข้าหวังว่าจะเป็นไปได้ที่จะได้รับตำรายุทธ์สักเล่มหรืออะไรคล้ายกันนั้น…”
“เจ้าอยากเรียนวรยุทธ์?”
ผู้ดูแลหลินดูตกใจ ใช้เวลาครู่หนึ่งในการสังเกตภูเขาและป่าที่ล้อมรอบอยู่ และดูจะเข้าใจขึ้นมาได้บ้าง
ส่วนพี่น้องตระกูลโจวนั้น ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
จากปฏิกิริยาของพวกเขา ฟางหยวนก็รู้เลยว่าพวกเขาคิดไปไกลแล้วว่าเขาต้องการแอบฝึกวิทยายุทธ์ของตระกูลโจว เขารีบโบกมือไปมา “แน่นอนว่าข้าต้องการแค่วิชายุทธ์พื้นฐานเท่านั้น เพียงเพื่อใช้ป้องกันตัว ข้าไม่ได้หวังถึงวิชาลับอะไรนั่น ผู้ดูแลหลินหาอะไรประเภทวิชาลมปราณที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปแบบที่เรียนรู้ได้ง่าย นั่นก็เพียงพอแล้ว!”
“โอ้ นี่.. นี่ง่ายมาก…”
ผู้ดูแลหลินลูบเคราของตนเอง ลึกลงไปรู้สึกโล่งใจขึ้น
ถ้าฟางหยวนเรียกร้องวิทยายุทธ์หลักของสำนักกุยหลิง แม้พี่น้องตระกูลจะตกลง ทางสำนักก็ย่อมไม่เห็นด้วยอยู่ดี
แค่วิทยายุทธ์พื้นฐานที่สุด? ไม่ระบุชนิด?
ด้วยฐานะของตระกูลโจว ผู้มีวรยุทธ์มากมายได้รับคัดเลือกเข้าไปเพื่อปกป้องตระกูล เมื่อเอาตำรายุทธ์ของคนพวกนั้นมารวมกัน พวกเขาย่อมมีตำราพวกนี้อยู่บ้าง
หรือไม่อย่างนั้น ตำราฝึกลมปราณทั่ว ๆ ไปนั้นก็มีเผยแพร่อยู่ ดังนั้นการจะหามาสักเล่มย่อมไม่เป็นปัญหา
“คำขอนี้ง่ายดายมาก ข้ายอมรับคำขอนี้แทนตระกูลโจว! ต้องการเมื่อไหร่ก็ไปหาข้า!”
ผู้ดูแลหลินยิ้มกับตัวเอง
“ดี นั่นเป็นสัญญา โสมแดงอายุ 60 ปีต้นหนึ่งกับตำรายุทธ์ ไม่รวมอย่างอื่น ดังนั้น นี่จึงไม่รวมกับรางวัลจากตระกูลโจว! นี่เป็นข้อตกลงของผู้ดูแลหลินกับข้า!”
เมื่อเห็นว่าผู้ดูแลหลินพยายามยื่นมาเข้ามาขนาดนี้ ฟางหยวนก็เข้าใจว่าการยอมยกความชอบนี้ให้ผู้อื่นจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นชัดเจน
“ตกลง!”
พี่น้องตระกูลโจวมองหน้ากันและรู้สึกว่าตนเองทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะพูดอะไรได้ และทำให้แค่เป็นผู้สังเกตการณ์ผู้อื่นบรรลุข้อตกลงกัน
ส่วนโจวเหวินซิน นางพึมพำประโยคหนึ่งอย่างหงุดหงิด “ไม่ใช่ว่าเจ้าแก่เกินเรียนวิชายุทธ์ไปแล้วรึ? คิคิ… เจ้าไม่รู้จักกระทั่ง 12 ประตูทอง แล้วเจ้ายังอยากจะบรรลุวิชายุทธ์อีก?”
น้ำเสียงของนางออกไปในทางดูหมิ่น
ฟางหยวนยังคงใจเย็นราวกับไม่ได้ยินที่นางพูด เขาแอบจำคำ ‘12 ประตูทอง’ เอาไว้ค้นหาในภายหลัง
“กรุณาตามข้ามา ผู้ดูแลหลิน!”
ฟางหยวนเปิดประตูห้องเก็บของแล้วเชิญผู้ดูแลหลินเข้าไป เขาไม่ได้ห้ามพี่น้องตระกูลโจวตามเข้าไปในห้อง
ตราบเท่าที่ชาชำระจิตและข้าวหยกแดงยังเป็นความลับอยู่ มันก็ไม่เป็นไรถ้าสมุนไพรที่เขาเก็บไว้จะมีคนอื่นเห็น
เมื่อปล่อยให้พวกเขาเข้ามา ก็จะกำจัดความคิดละโมบใดที่พวกเขาอาจจะมีออกไปได้ด้วย
ไม่อย่างนั้น ต่อไปภายหน้า ไม่ใช่ว่ามันจะกลายเป็นเรื่องปกติที่พอใครป่วยก็มาที่นี่เพื่อขอสมุนไพรหรอกเหรอ?
“ฮืม เจ้าเก็บของได้เรียบร้อยและเป็นระเบียบมาก”
ภายในห้องเก็บของ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนแรง โจวเหวินซินปิดจมูก แต่ผู้ดูแลหลินกลับไพล่มือทั้งสองไว้ที่ด้านหลัง “ข้าวหยกมุกนี่พิเศษมากและปลูกด้วยวิธีที่ดีที่สุด ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้กินข้าวนี้ ข้าก็ไม่คิดถึงอาหารและกระทั่งกลิ่นเนื้อก็ไม่สามารถดึงดูดข้าได้อีกเลย…”
“ถ้าผู้ดูแลหลินชอบ ก่อนกลับท่านก็แบ่งไปสักหน่อย…”
ฟางหยวนตอบโดยไม่หันกลับมา
นี่ทำให้โจวเหวินซินนึกถึงครั้งแรกที่นางได้พบฟางหยวนและถูกทำให้อับอายและโมโหในเวลาเดียวกัน
ตลอดทางจนมาถึงที่ท้ายห้องเก็บของเป็นแถวของชั้นไม้ ที่บนนั้นมีกล่องเปล่ามากมายวางอยู่
ฟางหยวนเดินไปทางขวาของห้อง หยิบกล่องหนึ่งออกมายื่นให้ “ผู้ดูแลหลิน เชิญรับไป!”
ผู้ดูแลหลินรับกล่องมาเปิด ข้างในเป็นโสมต้นใหญ่สีแดงเข้มราวหยก ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี มีคุณภาพสูงเยี่ยม และที่ดีที่สุดก็คือรากของโสมต้นนี้ไม่มีตรงไหนเสียหายเลย
“อืม ดีมาก! ดีมาก!”
สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง และลอบส่ายหน้าด้วยความไม่พอใจ ‘ดูเหมือนว่าห้องเก็บของของอาจารย์เวิ่นซินคงจะว่างเปล่าเร็ว ๆ นี้จริง ๆ ..’
“ดี! ดี! ดีจริง ๆ!”
คุณชายรองตระกูลโจวเหลือบมองโสมแดงแวบหนึ่งแล้วก็รู้สึกยินดีมาก “คุณค่าทางยาของโสมนี่อย่างน้อย ก็ 60 ปีเพราะว่าคุณค่าทางยาของโสมแดงนั้นจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โสมแดงอายุเกิน 50 ปีนั้นหายากยิ่งนัก! ตอนนี้ท่านพ่อมีหวังแล้ว!”
“อืม เก็บให้ดีล่ะ”
มองโสมแดงในมือ ผู้ดูแลหลินก็รู้สึกลังเล แต่ก็ยังคงส่งให้คุณชายรองเก็บเอาไว้ แล้วบอกฟางหยวน “ไม่ต้องห่วง ตำรายุทธ์ที่เจ้าอยากได้จะส่งมาให้แน่นอน”
“ขอบคุณมาก ผู้ดูแลหลิน!”
ฟางหยวนประสานหมัดกล่าวขอบคุณ
“อืม อย่างนั้นข้าขอตัวแล้ว!”
อยู่ต่อหลังข้อตกลงสำเร็จแล้วจะอิหลักอิเหลื่อกันเสียเปล่า ๆ ผู้ดูแลหลิน รวมทั้งตระกูลโจวเดินออกไปแล้วหายลับไปนอกหุบเขา
“กิกิ๊?!”
ฟางหยวนถอนหายใจยาวดูพวกเขาจากไป
ในตอนนั้นเองที่ประกายสีขาวแวบออกมา ฮวาหูเตียวปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มันชี้เท้าไปรอบ ๆ และในดวงตาดูมีความสงสัย
“คราวนี้เจ้ายังไม่ต้องสู้…”
ฟางหยวนลูบหัวฮวาหูเตียวและพึมพำให้มันฟัง “ครั้งหน้า หากข้าไม่อยู่ ถ้าใครเข้ามาถึงในสวน ฆ่ามันซะ เข้าใจไหม?”
ฮวาหูเตียวสามารถเข้าใจความหมายของฟางหยวนและพยักหัวเล็ก ๆ ของมันเหมือนมนุษย์
“ข้าไม่แน่ใจว่าโสมแดงหนึ่งต้นจะรักษาอาการป่วยของเหล่าโจวได้ และถ้ารักษาไม่ได้จริง ๆ เรื่องหลังจากนั้นน่าจะเป็นปัญหาแล้ว…”
ฟางหยวนมองที่สถานะของตัวเอง
“[การแพทย์(ระดับ 1)] สามารถรักษาแผลทั่วไป รวมถึงแผลระดับกลาง และเมื่อใช้สมุนไพร จะให้ผลการรักษาดีขึ้น”
“[การดูแลพืช (ระดับ 3)] เจ้าเป็นผู้ที่มีความชำนาญในด้านนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ใช้ประโยชน์จากพืชผลของเจ้าได้ประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ถูกจำกัด มีโอกาสเล็กน้อยที่พืชผลจะพัฒนาไปเป็นสายพันธุ์พิเศษ!”
“แผลระดับกลาง ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาการของเหล่าโจวจะสามารถใช้คำว่าระดับกลางได้หรือไม่… แต่ถ้าใช้สมุนไพรจะให้ผลการรักษาที่ดีขึ้น คงจะดีถ้ามันใช้การได้จริง…”
ตอนนี้ฟางหยวนอยากจะเพิ่มระดับ [การแพทย์] ของเขา
จากการทดลองใน [การดูแลพืช] ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าถ้าจะเพิ่มระดับก็ต้องมีความชำนาญและการฝึกอย่างจริงจัง
[การดูแลพืช] ของเขานั้นเพิ่มเป็นระดับ 2 จากการปลูกพืชสารพัดชนิด แต่ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากพืชวิญญาณ เขาคงจะไม่สามารถเพิ่มเป็นระดับ 3 ได้
ถ้าจะเพิ่มระดับ [การแพทย์] ของเขา เขาจะต้องเริ่มรักษาคนไข้จำนวนมากทีเดียว
“ฮืม… ตระกูลโจวเหรอ? ฮ่าฮ่า”
ฟางหยวนส่ายหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก