Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 54: จู่โจม

นิยาย Carefree Path of Dreams Chapter 54: จู่โจม “กวิ่ง กริ้ง!” “กริ่ง กริ้ง!” เสียงแสบแก้วหูของกระดิ่งฉีกผ่านความสงบในหุบเขาสันโดษมา “เอ?” ฟางหยวน ที่กําลังฝึกฝนอยู่ยนคิ้วและมองออกไปที่ด้านนอกหุบเขาที่ดูจะมีคนออกันอยู่มากมายและพึมพํา“ทําไมถึงยังมีพวกไม่รู้จักกฎพวกนี้อยู่?พวกมันคงมาจากสํานักกุยหลิงหรือไม่ก็สํานักห้าผี!” มันมีหลักฐานให้เขาพูดเช่นนี้ได้ ไม่มีข้อสงสัยใดเลยว่าเขานั้นเป็นผู้นําของเมืองชิงเย่แม้แต่ในมณฑลชิงเหอผู้ฝึกยุทธ์หลายคนยังต้องให้ความเคารพเขา แน่นอนว่าในยุทธภพไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าตนเองจะไม่ป่วยหรือไม่ได้ รับบาดเจ็บ และจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหมอเทวดาอย่างแน่นอน มันยังเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะกล้า ทําเรื่องเช่นนี้ เพราะคิดเช่นนี้ ฟางหยวนจึงออกไปจากหุบเขาโดยไม่ชักช้า
ผู้อาวุโสสู่ ท่านไม่สามารถบุกเข้าไปในหุบเขาได้นะขอรับ!“โจวเหวินอู่ยืนปักหลักอยู่หน้าหุบเขาพูดอย่างตรงไปตรง มา”มีกฎที่หมอเทวดาฟางตั้งเอาไว้ถ้าท่านยังเพิกเฉยต่อไปและทําให้ท่าน หมอไม่พอใจ อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสจ้าวอาจจะเลวร้ายลง…“เป็นกลุ่ม คนจากสํานักกุยหลิง ที่ด้านหน้ากลุ่มลูกศิษย์สองคนแบกแคร่อันหนึ่งเอาไว้ ชายชราผู้หนึ่งที่ลมหายใจอ่อนบางอย่างที่สุดนอนอยู่บนนั้น”แกรบ…“ผู้ อาวุโสลูกหมัดดวงตาแดงกําไปด้วย ความเกรี้ยวกราดเขาตะคอก”เจ้าจะรู้อะไร?ถ้าผู้อาวุโสจ้าวรักษาชีวิตของเขาไว้ไม่ได้เจ้าคงไม่สามารถชดใช้ได้ หรอกนะ!“คําพูดเหล่านี้เพิ่มความตึงเค รียดมากขึ้นไปอีก มองไปที่ผู้อาวุโสจ้าวที่บนแคร่หามโจวเหวินอู่ก็ลําบากใจ
สําหรับทุกสํานักผู้ฝึกยุทธ์เหนือประตูที่ห้านั้นมีความสําคัญนัก เมื่อผู้ฝึกยุทธ์สักคนผ่านประตูที่หกได้และเริ่มมีกําลัง ภายใน ผู้ฝึกยุทธ์ผู้นั้นจะได้รับตําแหน่งผู้อาวุโสทันทีนี่เป็นจุดที่ยืนยันความเป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ ผู้อาวุโสจ้าวนั้นเป็นที่รู้จักดีในมณฑลชิงเหอด้วยเคล็ดตะวันยิ่งใหญ่และเท้า ท่องเมฆาของเขา โชคร้าย ขณะที่เขากําลังเข้าช่วยเหลือคนอื่น ๆ เขาก็ปะทะเข้ากับกยอู่เชิงจากสํานักห้าผีกุยอู่เชิง นั้นเป็นตัวไม่ดีคนหนึ่งที่มีความสามารถในระดับประตูที่แปดผู้ที่สามารถผ่านป ระตูสื่อได้ ร่ําลือกันว่าเขายังเชี่ยวชาญพลังหยินและเข้าสู่ขอบเขตสี่ประตูสวรรค์ได้แล้วด้วย! หลังจากประมือกันเล็กน้อย ผู้อาวุโสจ้าวก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่ผู้อาวุโส มาทันเวลา และกุยอู่เชิงดูจะกําลังรีบอนไม่อย่างนั้นเขาคงจะตายตกอยู่ที่นั่นตอนนั้นไปแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสจ้าวจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้”หลบไป!“ขณะที่เขาตะ โกน อารมณ์ของลู่จอเงินก็พุ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าใครยืนขวางอยู่”ไม่มีทางขอ รับ!“โจวเหวินอู่เหงื่อกาฬเย็น ๆ แตกพลั่ก แต่ก็ปฏิเสธที่จะหลบ พลางอธิบาย”หมอเทวดาฟางก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระ ดับกําลังภายในที่สามารถผ่านประตูชางได้ผู้อาวุโสลู่ได้โปรดให้ความเคารพ ด้วย!”ฮีม มีข่าวลือตั้งมากมายจนมันไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้วต่อให้เขาอยู่ที่ประตูทองที่หกแล้วยังไงคนที่เพิ่งทะ ลวงผ่านประตูได้จะรับมือกระบองเหล็กของข้าได้หรืออย่างไร?“สู่จอเงินพูดอยู่างโอหังและยังพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาตามที่เขาคิดในใจ อย่างไรเสีย การรับมือกับผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ระดับ[ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ 6)] นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาเมื่อคิดว่าเขามีประสบการณ์มากมายนัก ที่ห่างออกไปจากทั้งโจวเหวินอู่และลู่จ่อเงินหลินเป็นชูและหัวหน้าตระกูลจางก็มองดูอย่างกระวนกระวายเงียบ ๆ รวมทั้งลูกศิษย์จากสํานักกุยหลิงด้วย พวกเขาย่อมเอนเอียงไปทางสนับสนุนโจวเหวินอู่เพราะลู่จือเงินนั้นเป็นผู้ อาวุโสที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าใจร้อนวู่วามแต่ว่าพวกเขาก็ไม่กล้ารับความพิโรธ ของลู่จือเงินดังนั้นจึงได้แต่มองโจวเหวินอู่ด้วยความนับถือและแปลกใจ”ช่วยชีวิตคนนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนและสําคัญที่สุด! ออกไปให้พ้นทางข้า! “เมื่อหมด ความอดทนลู่จือเสินก็เหวี่ยงมือใส่โจวเหวินอู่” ปัง! “โจวเหวินอู่ถูกแรงมหาศาล กระแทกเข้าทําให้เขาไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้แม้ว่าจะมีพลังภายในที่ระดับประตูทองที่ห้าผลก็คือเขาปลิวไปในอากาศ
พลังภายในย่อมพ่ายแพ้เมื่อเผชิญหน้ากับกําลังภายใน นอกจากนี้ ลู่จือเงินยังไม่ได้ใช้พลัง ทั้งหมดถ้าหากเขาใช้อาวุธสมองของโจวเหวินอู่คงจะกระจายอยู่บนพื้นไป แล้ว ถึงอย่างนั้น โจวเหวินอู่ก็ยังถูกส่งปลิวไปในอากาศ”โครม!“หลังจากกระ แทกตกลงบนพื้น เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิดเขาถูกฟางหยวนใช้มือเดียวคว้าคอเอาไว้ได้”เอิ่ม?เช่นนั้นเจ้าก็คือหมอเทวดาฟางหยวน?“เห็นฟางหยวนที่ยังเยาว์ออกมา จากหุบเขาสู่จอเงินก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาในใจ ฟางหยวนดูเยาว์วัยอย่างไม่น่าเชื่อเขาดูจะอายุไม่ถึงยี่สิบปีเสียด้วยซ้ําและยิ่งปฏิกิริยาตอบสนองก่อนหน้านี้ที่เขาคว้าโจวเหวินอู่เอาไว้ได้โดยง่ายความสามารถของเขาดูจะเหนือกว่าที่คิด นี่ทํา ให้ลู่จือเงินสับสนมากขึ้น”ใช่เป็นข้า… “ฟางหยวนปล่อยโจวเหวินอู่ และ ขณะมองไปที่ลู่ลือเงิน เขาก็ส่ายหน้าและพูด”ท่านปฏิเสธที่จะทําตามกฏของ ข้า และยังหวังให้ข้าช่วยดูแลคนเจ็บของท่าน?”เจ้า…“ใบหน้าของอู่จอเงิน แดงกําด้วยความโกรธเหวี่ยงมือขวา ออกไปเขาคว้าจับพลองเหล็กที่หนาประมาณถ้วยน้ําชาเอาไว้ได้ในทันทีและข่มขู่ฟางหยวน”เจ้ากล้าปฏิเสธไม่รักษาคนเจ็บของข้า? งั้นก็จงรับมังกรขนดของข้า…”หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!“เมื่อเห็น ฟาง หยวนก็อดไม่ได้ระเบิดหัวเราะออกมา มันช่างบันเทิงที่ได้เห็นพฤติกรรมขู่วามและเจ้าอารมณ์ของลู่จือเงิน ใช้กําลังข่มขู่หมอให้ดูแลคนเจ็บ? มันต่างอันใดกับการใช้กําลังกับหมอดูฮวง จัยให้เลือกจุดฝังศพบรรพบุรุษกัน? ถ้าลู่จือเส้นอยากจะจบสาแหรกตระกูลลงเขาก็สามารถลองพยายามเสียงดวงเอา ได้”อก… เจ้ามันทําให้ข้าหงุด หงิด!“ใบหน้าของคือเงินแดงและ เส้นเลือดบริเวณหน้าผากก็โป่งนูนออกมาเขากระแทกกระบอกเหล็กลงกับพื้น และทําให้รอบ ๆ ตัวสะเทือนเมื่อยกแขนล่ําสันขึ้น เขาก็พุ่งเข้าใส่ฟาง หยวน”อื่ม… กําลังภายในของประตูทองที่หก?“ดวงตาของฟางหยวนเป็น ประกายและเขาก็กางฝ่ามือออกแต่ละ นิ้วกางออกคล้ายกรงเล็บอินทรีเกิดเสียงหวีดหวิว”ชีผัวะ!“เสียงระเบิดลั่นฝ่าอากาศลู่จือเสินโซเซถอยหลังสองก้าวเป็นหลักฐานว่าฟางหยวนทําร้ายเขา ได้อ่ะ… วิชากระบองกําราบมังกร! “ด้วย ดวงตาแดงกําขึ้นไปอีก ร่างของเขาระเบิดความเกรี้ยวกราดออกมา สู่จอเงินเตรียมจะใช้ทุกอย่างที่มีกวัดแกว่งกระบอง เหล็กในมือของตนลู่จือเงินตวัดมันลง ด้วยแรงมหาศาล กระบวนท่าที่ดี! “ฟาง หยวนขยับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและบิดกรงเล็บอินทรีของตน ตอนที่เขา ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเขาก็ทะลวงผ่านเงาที่เกิดจากการใช้เคล็ดวิชากระบอง ของลู่จือเส้นมาได้ตะปบเข้ากับกระบอง และกดมันลงด้านล่าง”ปัง!“พร้อมเสียงระเบิดดังก้องกระบองมังกรขนดปักลึกลง ในพื้นดินส่งให้เศษดินจํานวนมากกระจายขึ้นมา ใบหน้าของอู่จอเงินตอนนี้ทั้งบวมและแดงจมูกแทบจะมีเลือดหยด เขาคว้า กระบองด้วยสองมือและใช้แรงทั้งหมดที่มีพยายามดึงมันออกจากพื้น แต่ว่ากระ บองไม่ขยับเลยสักนิดมันเหมือนกับบน ปลายกระบองมีภูเขาห้านิ้วที่ใช้กดทับเทพวานร*ทับอยู่อย่างไรอย่างนั้น หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันครูเดียวลู่จือเสินก็เหงื่อกาฬแตกชุ่ม สีสัน เลือนหายจากใบหน้าของเขาขณะเขาพยายามปรับลมหายใจ”เช่นนี้? ท่านยอมรับความพ่ายแพ้แล้วใช่ไหม?“ฟาง หยวนถามยิ้ม ๆ เขาพอใจกับการพัฒนาของตัวเองมาก”เจ้า… ทะลวงผ่านประตูจึงได้แล้วรี?”ลู่จือเส้นถามอย่างตะกุกตะกักแต่ก็มีความแน่ใจอยู่ในน้ํา เสียง ก่อนหน้านี้ ฟางหยวนเป็นฝ่ายเหนือกว่าในการต่อสู้และยังรับมือได้อย่าง สมบูรณ์แบบ ทุกการเคลื่อนไหวทําให้ผู้ชมโดยรอบประหลาดใจ มันเหมือนกับพวกเขาได้ดูการต่อสู้ของจอมยุทธ์ ฟางหยวนดูไร้พ่าย ลู่จือเส้นอาจจะเป็นคนดุร้าย แต่ไม่ใช่คนโง่เขารีบลุกขึ้นยืนและขอโทษอย่างจริงใจ”ขออภัยที่ล่วงเกินท่านแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะไม่ถือสาถ้าท่านต้องการลงโทษได้โปรดลงโทษที่ข้าผู้เดียว!“ตอนที่ลู่จอเงินยอมรับการพ่ายแพ้เขาก็นึกถึงลูกศิษย์ที่ฉลาดเฉลียว และมีพรสวรรค์ที่รับไว้ ในอดีต การพัฒนาของศิษย์ผู้นี้นั้นเป็น ไปอย่างรวดเร็วไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อเทียบกับฟางหยวนแล้ว มันก็ไม่น่าประทับใจ อีกต่อไป”เอ๋?”นี่…“ผู้ดูแลหลินและหัวหน้าตระกูลจางอ้าปากค้างอย่างไม่ อยากเชื่อ พวกเขานึกว่าตัวเองกําลังฝันอยู่ แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ครู่เดียว ผู้อาวุโสลู่ ที่แสนวุ่วามและโหดเหี้ยมก็พ่ายแพ้ราบคาบ นอกจากนี้ เขายังเป็นจอมยุทธ์ผู้มากป ระสบการณ์ที่มีความแข็งแกร่งและไร้พ่ายในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ประตูทองที่หก แล้วก็ เขาพูดว่าอะไรนะ? ประตูจิง? ในตอนนี้ ทุกคนก็หันไปมองฟางหยวน พวกเขาเริ่มมองเขาด้วยความหวาดกลัว” ก็แล้วแต่ท่านจะคิด! “ฟางหยวนตอบ แบ่งรับแบ่งสู้ ให้ทุกคนตีความยากขึ้นไปอีก อันที่จริงแล้ว เขาทะลวงผ่านประตูจิง ได้นานแล้ว ถ้าเขาผ่านประตูนี้ไม่ได้ทั้งที่มีความช่วยเหลือจากชาชําระจิต นั่นก็ น่าตลกและน่าอับอายเกินไปแล้ว “อย่างไรก็ตาม ในด้านการฝึกตนและพ ลังการต่อสู้ เมื่อคิดว่าข้าสามารถเอาชนะคนผู้นี้ได้ ก็ดูเหมือนว่าวิทยายุทธ์ ของข้าจะมาถึงระดับสูงสุดแล้ว อย่างน้อยก็ในมณฑลชิงเหอ?” ฟางหยวนคิดกับตัวเองและตรวจดูห น้าต่างสถานะ” ชื่อ: ฟางหยวน พลังกาย: 4.2 พลังลมปราณ: 4.1 พลังเวทย์: 3.0
อายุ: 19 ระดับการฝึกตน: [ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตู ทองที่ 7)] วิทยายุทธ์: [ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5)], [กรงเล็บอินทรีเหล็ก (ระดับ 7)] ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดู แลพืช (ระดับ 3)]“แค่พริบตาเดียวปีหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว และข้า จากใครก็ไม่รู้ กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงและยังมีความสามารถในการรักษาราวปาฏิหา ริย์…
ฟางหยวนคิดกับตัวเองความรู้สึกที่ทํา ตามเป้าหมายความสําเร็จท่วมเข้ามา การพัฒนาไปอย่างมากของฟางหยวน นี้มีผลกระทบต่อผู้ดูแลหลินอย่างมาก มองฟางหยวนแล้ว ผู้ดูแลหลินก็รู้สึก ได้ว่าคลื่นความเสียดายกระแทกใส่เขาซ้ํา ๆ อยู่ในใจ ราวกับหัวใจถูกงูพิษฉก เป็นความเจ็บปวดของเขาจริง ๆ แม้ว่าหลินเหลยเยว่จะได้รับคําชื่นชม จากสืออวถง และอนาคตภายในสํานักของพวกตนก็ดูรุ่งโรจน์ ตอนนี้มันกลาย เป็นแค่ความหวังเท่านั้น ในด้านของพลัง ชื่อเสียง และฐานะที่ แท้จริง ฟางหยวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินเหลยเยว่ ทําไมเขาถึงตาบอดขนาดนั้น ปล่อย ให้คนผู้นี้หลุดมือไปได้?
เขาก็คงได้แต่เสียดายเพราะว่ามันสาย เกินไปแล้ว มองหัวหน้าตระกูลจางที่ดูประทับใจ อย่างที่สุดและรอยยิ้มกว้างของโจวเหวินอู่ เขาก็รู้สึกหงุดหงิด ดูเหมือนพวกนี้พร้อมจะส่งผู้หญิงในต ระกูลไปนอนกับฟางหยวนเพื่อเอา ชนะใจเขากันเชียว”จอมยุทธ์ที่อายุเพียง เท่านี้! “ลู่จอเงินถอนหายใจเงียบๆ มอง ผู้อาวุโสจ้าวที่อ่อนแรงและเปราะบาง ข้าง ๆ เขา เขากล้ํากลืนความภาคภูมิใจ ของตัวเองลงไปก่อนจะกัดฟันคุกเข่าลงร้องขอได้โปรดช่วยเขาด้วย ท่านหมอ เทวดา! ถ้าท่านต้องการลงโทษ ได้โปรดลงโทษข้าเพียงผู้เดียว!“เห็นลู่จือเงิน คุกเข่าลง แม้แต่ฟางหยวนก็รู้สึกหวั่นไหว แม้ว่าลู่จือเส้นจะเป็นคนหยาบคาย แต่ ดูเหมือนว่าเขาก็มีด้านที่อ่อนโยน”ลุกขึ้นเถอะ! “เพียงแค่โบกมือ ลู่จือเงินก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัวทันที ฟางหยวนพูดต่อ”ข้าจะให้อภัยและลี มการละเมิดกฎเมื่อครู่ของท่านไปก่อนเพราะสิ่งที่ท่านทําเมื่อสักครู่… ท่านรู้กฎ ของข้าอยู่แล้วใช่ไหม?“ทุกคนที่ท่านหมอเทวดาแห่งหุบเขาลึกรักษา เขา ต้องการของวิเศษหรือของมีค่าใดก็ได้เป็นค่าตอบแทน”ใช่! แน่นอนขอรับ! “ลู่จีอเงินส่งหนังสือปกไหมเล่มหนึ่งให้ด้วย ท่าทางเคารพและพูด”ข้าได้บันทึกครึ่งหนึ่งนี้มา เนื้อหาข้างในนั้นบันทึกไว้ โดยผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เป็นเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับนักรบวิญญาณได้โปรดรับมันไว้เป็นสิ่งตอบแทน!” ภูเขาห้านิ้วที่ใช้กดทับเทพวานร* หมายถึง ภูเขารูปฝ่ามือที่พระยูไลใช้กักขังเห้งเจียเอาไว้ ในเรื่องการเดินทาง ของพระถังซัมจั๋ง

นิยาย Carefree Path of Dreams

Chapter 54: จู่โจม

“กวิ่ง กริ้ง!”

“กริ่ง กริ้ง!”

เสียงแสบแก้วหูของกระดิ่งฉีกผ่านความสงบในหุบเขาสันโดษมา

“เอ?”

ฟางหยวน ที่กําลังฝึกฝนอยู่ยนคิ้วและมองออกไปที่ด้านนอกหุบเขาที่ดูจะมีคนออกันอยู่มากมายและพึมพํา“ทําไมถึงยังมีพวกไม่รู้จักกฎพวกนี้อยู่?พวกมันคงมาจากสํานักกุยหลิงหรือไม่ก็สํานักห้าผี!”

มันมีหลักฐานให้เขาพูดเช่นนี้ได้ ไม่มีข้อสงสัยใดเลยว่าเขานั้นเป็นผู้นําของเมืองชิงเย่แม้แต่ในมณฑลชิงเหอผู้ฝึกยุทธ์หลายคนยังต้องให้ความเคารพเขา

แน่นอนว่าในยุทธภพไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าตนเองจะไม่ป่วยหรือไม่ได้ รับบาดเจ็บ และจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหมอเทวดาอย่างแน่นอน

มันยังเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะกล้า ทําเรื่องเช่นนี้

เพราะคิดเช่นนี้ ฟางหยวนจึงออกไปจากหุบเขาโดยไม่ชักช้า
ผู้อาวุโสสู่ ท่านไม่สามารถบุกเข้าไปในหุบเขาได้นะขอรับ!“โจวเหวินอู่ยืนปักหลักอยู่หน้าหุบเขาพูดอย่างตรงไปตรง มา”มีกฎที่หมอเทวดาฟางตั้งเอาไว้ถ้าท่านยังเพิกเฉยต่อไปและทําให้ท่าน หมอไม่พอใจ อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสจ้าวอาจจะเลวร้ายลง…“เป็นกลุ่ม คนจากสํานักกุยหลิง ที่ด้านหน้ากลุ่มลูกศิษย์สองคนแบกแคร่อันหนึ่งเอาไว้ ชายชราผู้หนึ่งที่ลมหายใจอ่อนบางอย่างที่สุดนอนอยู่บนนั้น”แกรบ…“ผู้ อาวุโสลูกหมัดดวงตาแดงกําไปด้วย ความเกรี้ยวกราดเขาตะคอก”เจ้าจะรู้อะไร?ถ้าผู้อาวุโสจ้าวรักษาชีวิตของเขาไว้ไม่ได้เจ้าคงไม่สามารถชดใช้ได้ หรอกนะ!“คําพูดเหล่านี้เพิ่มความตึงเค รียดมากขึ้นไปอีก

มองไปที่ผู้อาวุโสจ้าวที่บนแคร่หามโจวเหวินอู่ก็ลําบากใจ
สําหรับทุกสํานักผู้ฝึกยุทธ์เหนือประตูที่ห้านั้นมีความสําคัญนัก เมื่อผู้ฝึกยุทธ์สักคนผ่านประตูที่หกได้และเริ่มมีกําลัง ภายใน ผู้ฝึกยุทธ์ผู้นั้นจะได้รับตําแหน่งผู้อาวุโสทันทีนี่เป็นจุดที่ยืนยันความเป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ

ผู้อาวุโสจ้าวนั้นเป็นที่รู้จักดีในมณฑลชิงเหอด้วยเคล็ดตะวันยิ่งใหญ่และเท้า ท่องเมฆาของเขา โชคร้าย ขณะที่เขากําลังเข้าช่วยเหลือคนอื่น ๆ เขาก็ปะทะเข้ากับกยอู่เชิงจากสํานักห้าผีกุยอู่เชิง นั้นเป็นตัวไม่ดีคนหนึ่งที่มีความสามารถในระดับประตูที่แปดผู้ที่สามารถผ่านป ระตูสื่อได้ ร่ําลือกันว่าเขายังเชี่ยวชาญพลังหยินและเข้าสู่ขอบเขตสี่ประตูสวรรค์ได้แล้วด้วย!

หลังจากประมือกันเล็กน้อย ผู้อาวุโสจ้าวก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่ผู้อาวุโส มาทันเวลา และกุยอู่เชิงดูจะกําลังรีบอนไม่อย่างนั้นเขาคงจะตายตกอยู่ที่นั่นตอนนั้นไปแล้ว

ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสจ้าวจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้”หลบไป!“ขณะที่เขาตะ โกน อารมณ์ของลู่จอเงินก็พุ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าใครยืนขวางอยู่”ไม่มีทางขอ รับ!“โจวเหวินอู่เหงื่อกาฬเย็น ๆ แตกพลั่ก แต่ก็ปฏิเสธที่จะหลบ พลางอธิบาย”หมอเทวดาฟางก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระ ดับกําลังภายในที่สามารถผ่านประตูชางได้ผู้อาวุโสลู่ได้โปรดให้ความเคารพ ด้วย!”ฮีม มีข่าวลือตั้งมากมายจนมันไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้วต่อให้เขาอยู่ที่ประตูทองที่หกแล้วยังไงคนที่เพิ่งทะ ลวงผ่านประตูได้จะรับมือกระบองเหล็กของข้าได้หรืออย่างไร?“สู่จอเงินพูดอยู่างโอหังและยังพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาตามที่เขาคิดในใจ

อย่างไรเสีย การรับมือกับผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ระดับ[ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ 6)] นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาเมื่อคิดว่าเขามีประสบการณ์มากมายนัก

ที่ห่างออกไปจากทั้งโจวเหวินอู่และลู่จ่อเงินหลินเป็นชูและหัวหน้าตระกูลจางก็มองดูอย่างกระวนกระวายเงียบ ๆ รวมทั้งลูกศิษย์จากสํานักกุยหลิงด้วย

พวกเขาย่อมเอนเอียงไปทางสนับสนุนโจวเหวินอู่เพราะลู่จือเงินนั้นเป็นผู้ อาวุโสที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าใจร้อนวู่วามแต่ว่าพวกเขาก็ไม่กล้ารับความพิโรธ ของลู่จือเงินดังนั้นจึงได้แต่มองโจวเหวินอู่ด้วยความนับถือและแปลกใจ”ช่วยชีวิตคนนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนและสําคัญที่สุด! ออกไปให้พ้นทางข้า! “เมื่อหมด ความอดทนลู่จือเสินก็เหวี่ยงมือใส่โจวเหวินอู่” ปัง! “โจวเหวินอู่ถูกแรงมหาศาล กระแทกเข้าทําให้เขาไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้แม้ว่าจะมีพลังภายในที่ระดับประตูทองที่ห้าผลก็คือเขาปลิวไปในอากาศ
พลังภายในย่อมพ่ายแพ้เมื่อเผชิญหน้ากับกําลังภายใน

นอกจากนี้ ลู่จือเงินยังไม่ได้ใช้พลัง ทั้งหมดถ้าหากเขาใช้อาวุธสมองของโจวเหวินอู่คงจะกระจายอยู่บนพื้นไป แล้ว

ถึงอย่างนั้น โจวเหวินอู่ก็ยังถูกส่งปลิวไปในอากาศ”โครม!“หลังจากกระ แทกตกลงบนพื้น เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิดเขาถูกฟางหยวนใช้มือเดียวคว้าคอเอาไว้ได้”เอิ่ม?เช่นนั้นเจ้าก็คือหมอเทวดาฟางหยวน?“เห็นฟางหยวนที่ยังเยาว์ออกมา จากหุบเขาสู่จอเงินก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาในใจ

ฟางหยวนดูเยาว์วัยอย่างไม่น่าเชื่อเขาดูจะอายุไม่ถึงยี่สิบปีเสียด้วยซ้ําและยิ่งปฏิกิริยาตอบสนองก่อนหน้านี้ที่เขาคว้าโจวเหวินอู่เอาไว้ได้โดยง่ายความสามารถของเขาดูจะเหนือกว่าที่คิด นี่ทํา ให้ลู่จือเงินสับสนมากขึ้น”ใช่เป็นข้า… “ฟางหยวนปล่อยโจวเหวินอู่ และ ขณะมองไปที่ลู่ลือเงิน เขาก็ส่ายหน้าและพูด”ท่านปฏิเสธที่จะทําตามกฏของ ข้า และยังหวังให้ข้าช่วยดูแลคนเจ็บของท่าน?”เจ้า…“ใบหน้าของอู่จอเงิน แดงกําด้วยความโกรธเหวี่ยงมือขวา ออกไปเขาคว้าจับพลองเหล็กที่หนาประมาณถ้วยน้ําชาเอาไว้ได้ในทันทีและข่มขู่ฟางหยวน”เจ้ากล้าปฏิเสธไม่รักษาคนเจ็บของข้า? งั้นก็จงรับมังกรขนดของข้า…”หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!“เมื่อเห็น ฟาง หยวนก็อดไม่ได้ระเบิดหัวเราะออกมา

มันช่างบันเทิงที่ได้เห็นพฤติกรรมขู่วามและเจ้าอารมณ์ของลู่จือเงิน

ใช้กําลังข่มขู่หมอให้ดูแลคนเจ็บ? มันต่างอันใดกับการใช้กําลังกับหมอดูฮวง จัยให้เลือกจุดฝังศพบรรพบุรุษกัน? ถ้าลู่จือเส้นอยากจะจบสาแหรกตระกูลลงเขาก็สามารถลองพยายามเสียงดวงเอา ได้”อก… เจ้ามันทําให้ข้าหงุด หงิด!“ใบหน้าของคือเงินแดงและ เส้นเลือดบริเวณหน้าผากก็โป่งนูนออกมาเขากระแทกกระบอกเหล็กลงกับพื้น และทําให้รอบ ๆ ตัวสะเทือนเมื่อยกแขนล่ําสันขึ้น เขาก็พุ่งเข้าใส่ฟาง หยวน”อื่ม… กําลังภายในของประตูทองที่หก?“ดวงตาของฟางหยวนเป็น ประกายและเขาก็กางฝ่ามือออกแต่ละ นิ้วกางออกคล้ายกรงเล็บอินทรีเกิดเสียงหวีดหวิว”ชีผัวะ!“เสียงระเบิดลั่นฝ่าอากาศลู่จือเสินโซเซถอยหลังสองก้าวเป็นหลักฐานว่าฟางหยวนทําร้ายเขา ได้อ่ะ… วิชากระบองกําราบมังกร! “ด้วย ดวงตาแดงกําขึ้นไปอีก ร่างของเขาระเบิดความเกรี้ยวกราดออกมา สู่จอเงินเตรียมจะใช้ทุกอย่างที่มีกวัดแกว่งกระบอง เหล็กในมือของตนลู่จือเงินตวัดมันลง ด้วยแรงมหาศาล กระบวนท่าที่ดี! “ฟาง หยวนขยับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและบิดกรงเล็บอินทรีของตน ตอนที่เขา ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเขาก็ทะลวงผ่านเงาที่เกิดจากการใช้เคล็ดวิชากระบอง ของลู่จือเส้นมาได้ตะปบเข้ากับกระบอง และกดมันลงด้านล่าง”ปัง!“พร้อมเสียงระเบิดดังก้องกระบองมังกรขนดปักลึกลง ในพื้นดินส่งให้เศษดินจํานวนมากกระจายขึ้นมา

ใบหน้าของอู่จอเงินตอนนี้ทั้งบวมและแดงจมูกแทบจะมีเลือดหยด เขาคว้า กระบองด้วยสองมือและใช้แรงทั้งหมดที่มีพยายามดึงมันออกจากพื้น แต่ว่ากระ บองไม่ขยับเลยสักนิดมันเหมือนกับบน ปลายกระบองมีภูเขาห้านิ้วที่ใช้กดทับเทพวานร*ทับอยู่อย่างไรอย่างนั้น

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันครูเดียวลู่จือเสินก็เหงื่อกาฬแตกชุ่ม สีสัน เลือนหายจากใบหน้าของเขาขณะเขาพยายามปรับลมหายใจ”เช่นนี้? ท่านยอมรับความพ่ายแพ้แล้วใช่ไหม?“ฟาง หยวนถามยิ้ม ๆ เขาพอใจกับการพัฒนาของตัวเองมาก”เจ้า… ทะลวงผ่านประตูจึงได้แล้วรี?”ลู่จือเส้นถามอย่างตะกุกตะกักแต่ก็มีความแน่ใจอยู่ในน้ํา เสียง

ก่อนหน้านี้ ฟางหยวนเป็นฝ่ายเหนือกว่าในการต่อสู้และยังรับมือได้อย่าง สมบูรณ์แบบ ทุกการเคลื่อนไหวทําให้ผู้ชมโดยรอบประหลาดใจ มันเหมือนกับพวกเขาได้ดูการต่อสู้ของจอมยุทธ์

ฟางหยวนดูไร้พ่าย

ลู่จือเส้นอาจจะเป็นคนดุร้าย แต่ไม่ใช่คนโง่เขารีบลุกขึ้นยืนและขอโทษอย่างจริงใจ”ขออภัยที่ล่วงเกินท่านแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะไม่ถือสาถ้าท่านต้องการลงโทษได้โปรดลงโทษที่ข้าผู้เดียว!“ตอนที่ลู่จอเงินยอมรับการพ่ายแพ้เขาก็นึกถึงลูกศิษย์ที่ฉลาดเฉลียว และมีพรสวรรค์ที่รับไว้

ในอดีต การพัฒนาของศิษย์ผู้นี้นั้นเป็น ไปอย่างรวดเร็วไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อเทียบกับฟางหยวนแล้ว มันก็ไม่น่าประทับใจ อีกต่อไป”เอ๋?”นี่…“ผู้ดูแลหลินและหัวหน้าตระกูลจางอ้าปากค้างอย่างไม่ อยากเชื่อ พวกเขานึกว่าตัวเองกําลังฝันอยู่

แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ครู่เดียว ผู้อาวุโสลู่ ที่แสนวุ่วามและโหดเหี้ยมก็พ่ายแพ้ราบคาบ

นอกจากนี้ เขายังเป็นจอมยุทธ์ผู้มากป ระสบการณ์ที่มีความแข็งแกร่งและไร้พ่ายในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ประตูทองที่หก

แล้วก็ เขาพูดว่าอะไรนะ? ประตูจิง?

ในตอนนี้ ทุกคนก็หันไปมองฟางหยวน พวกเขาเริ่มมองเขาด้วยความหวาดกลัว” ก็แล้วแต่ท่านจะคิด! “ฟางหยวนตอบ แบ่งรับแบ่งสู้ ให้ทุกคนตีความยากขึ้นไปอีก

อันที่จริงแล้ว เขาทะลวงผ่านประตูจิง ได้นานแล้ว ถ้าเขาผ่านประตูนี้ไม่ได้ทั้งที่มีความช่วยเหลือจากชาชําระจิต นั่นก็ น่าตลกและน่าอับอายเกินไปแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ในด้านการฝึกตนและพ ลังการต่อสู้ เมื่อคิดว่าข้าสามารถเอาชนะคนผู้นี้ได้ ก็ดูเหมือนว่าวิทยายุทธ์ ของข้าจะมาถึงระดับสูงสุดแล้ว อย่างน้อยก็ในมณฑลชิงเหอ?”

ฟางหยวนคิดกับตัวเองและตรวจดูห น้าต่างสถานะ” ชื่อ: ฟางหยวน

พลังกาย: 4.2

พลังลมปราณ: 4.1

พลังเวทย์: 3.0
อายุ: 19

ระดับการฝึกตน: [ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตู ทองที่ 7)]

วิทยายุทธ์: [ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5)], [กรงเล็บอินทรีเหล็ก (ระดับ 7)]

ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดู แลพืช (ระดับ 3)]“แค่พริบตาเดียวปีหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว และข้า จากใครก็ไม่รู้ กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงและยังมีความสามารถในการรักษาราวปาฏิหา ริย์…
ฟางหยวนคิดกับตัวเองความรู้สึกที่ทํา ตามเป้าหมายความสําเร็จท่วมเข้ามา

การพัฒนาไปอย่างมากของฟางหยวน นี้มีผลกระทบต่อผู้ดูแลหลินอย่างมาก

มองฟางหยวนแล้ว ผู้ดูแลหลินก็รู้สึก ได้ว่าคลื่นความเสียดายกระแทกใส่เขาซ้ํา ๆ อยู่ในใจ ราวกับหัวใจถูกงูพิษฉก เป็นความเจ็บปวดของเขาจริง ๆ

แม้ว่าหลินเหลยเยว่จะได้รับคําชื่นชม จากสืออวถง และอนาคตภายในสํานักของพวกตนก็ดูรุ่งโรจน์ ตอนนี้มันกลาย เป็นแค่ความหวังเท่านั้น

ในด้านของพลัง ชื่อเสียง และฐานะที่ แท้จริง ฟางหยวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินเหลยเยว่

ทําไมเขาถึงตาบอดขนาดนั้น ปล่อย ให้คนผู้นี้หลุดมือไปได้?
เขาก็คงได้แต่เสียดายเพราะว่ามันสาย เกินไปแล้ว

มองหัวหน้าตระกูลจางที่ดูประทับใจ อย่างที่สุดและรอยยิ้มกว้างของโจวเหวินอู่ เขาก็รู้สึกหงุดหงิด

ดูเหมือนพวกนี้พร้อมจะส่งผู้หญิงในต ระกูลไปนอนกับฟางหยวนเพื่อเอา

ชนะใจเขากันเชียว”จอมยุทธ์ที่อายุเพียง เท่านี้! “ลู่จอเงินถอนหายใจเงียบๆ มอง ผู้อาวุโสจ้าวที่อ่อนแรงและเปราะบาง ข้าง ๆ เขา เขากล้ํากลืนความภาคภูมิใจ ของตัวเองลงไปก่อนจะกัดฟันคุกเข่าลงร้องขอได้โปรดช่วยเขาด้วย ท่านหมอ เทวดา! ถ้าท่านต้องการลงโทษ ได้โปรดลงโทษข้าเพียงผู้เดียว!“เห็นลู่จือเงิน คุกเข่าลง แม้แต่ฟางหยวนก็รู้สึกหวั่นไหว

แม้ว่าลู่จือเส้นจะเป็นคนหยาบคาย แต่ ดูเหมือนว่าเขาก็มีด้านที่อ่อนโยน”ลุกขึ้นเถอะ! “เพียงแค่โบกมือ ลู่จือเงินก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัวทันที

ฟางหยวนพูดต่อ”ข้าจะให้อภัยและลี มการละเมิดกฎเมื่อครู่ของท่านไปก่อนเพราะสิ่งที่ท่านทําเมื่อสักครู่… ท่านรู้กฎ ของข้าอยู่แล้วใช่ไหม?“ทุกคนที่ท่านหมอเทวดาแห่งหุบเขาลึกรักษา เขา ต้องการของวิเศษหรือของมีค่าใดก็ได้เป็นค่าตอบแทน”ใช่! แน่นอนขอรับ! “ลู่จีอเงินส่งหนังสือปกไหมเล่มหนึ่งให้ด้วย ท่าทางเคารพและพูด”ข้าได้บันทึกครึ่งหนึ่งนี้มา เนื้อหาข้างในนั้นบันทึกไว้ โดยผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เป็นเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับนักรบวิญญาณได้โปรดรับมันไว้เป็นสิ่งตอบแทน!”

ภูเขาห้านิ้วที่ใช้กดทับเทพวานร* หมายถึง ภูเขารูปฝ่ามือที่พระยูไลใช้กักขังเห้งเจียเอาไว้ ในเรื่องการเดินทาง ของพระถังซัมจั๋ง