Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 51: ช่วยชีวิต
Carefree Path of Dreams
Chapter 51: ช่วยชีวิต
เพื่อเพิ่มระดับของ [การรักษา] ฟางหยวนที่ต้องการขยับไปที่ระดับถัดไปก็สั่งให้ตระกูลโจวปล่อยข่าวและกฎบางอย่างออกไปแทนเขา
เขาสร้างกระท่อมฟางเอาไว้หน้าหุบเขาสันโดษ ตรวจรักษาคนไข้วันละสามคนคนไข้ต้องเข้ามารับการรักษาด้วยตัวเองในกระท่อม น้อย
นอกจากนี้ ยังต้องจ่ายค่ารักษาล่วงหน้าการเข้าไปในหุบเขาสันโดษนับเป็นเรื่องต้องห้าม คนที่เข้าไปจะถูกเตะออกมาทันที่และไม่อนุญาตให้กลับมารับการรักษาอีก!
อันที่จริง กฎนี่ค่อนข้างน่าโมโห
แต่ในโลกของพวกเขา มีเพียงคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีสิทธิ์พูดและมีคนมากมายที่ประหลาดยิ่งกว่าฟางหยวน คนในเมืองชิงเย่ล้วนยอมรับกฎกติกาอันประหลาดของหมอเทวดาได้ และเลือกที่จะฝากชะตาชีวิตของพวกเขาไว้กับหมอผู้นี้
จะยังมีกฎอะไรเทียบกับชีวิตของคนผู้หนึ่งได้กัน?
เวลาผ่านไป กฏที่ฟางหยวนตั้งเอาไว้กลายเป็นคําสั่งที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
“วันนี้ดูแปลกไปนิด ๆ แฮะ!”
ฟางหวนนั่งหลังตรง ใบหน้ามีแววสงสัย “ปกติแล้วก็น้อยนักที่ในหนึ่งวันจะพบเจอคนสักผู้ แต่คราวนี้กลับพบทั้งโจวเหวินอู่และหลินเป็นชู…”
คิดกลับไปถึงคนไข้ที่เขารักษาไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ส่วนมากล้วนได้รับบาดแผลภายนอกจากดาบหรือการต่อสู้ประชิดตัว ทันใดนั้นฟางหยวนก็คาดเดาบางอย่างได้
“เข้ามา!”
“คารวะอาจารย์ฟาง!”
หลินเป็นชูสั่งให้คนของเขาหามผู้ฝึกยุทธ์ผู้หนึ่งที่ใบหน้าซีดไร้สีเลือดจนดูราวกับผีดิบเข้ามา
เมื่อเห็นฟางหยวน หลินเป็นชูก็ไม่กล้ายกฐานะของตัวเองขึ้นมาพูดปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติกับอาจารย์เป็นซินเมื่อตอนพบกันคราแรก
เขาโค้งกายลง แสดงความจริงใจอย่างที่สุด “ได้โปรดช่วยเขาด้วยอาจารย์ฟาง!”
“ยาไม่สามารถชุบชีวิตคนตายได้ ข้าต้องการให้ท่าน ผู้ดูแลหลินเข้าใจจุดนี้ด้วย!”
ได้ยินบทสนทนาระหว่างฟางหยวนและผู้ดูแลหลินแล้ว หลินเบี่นชูก็รู้แล้วว่าความดีความชอบที่เขาสะสมมาในอดีตนั้นไร้ประโยชน์แล้วเขาหัวเราะอื่น ๆ ในหัวใจได้รับประสบการณ์ความรู้สึกเสียดายแบบที่ไม่อาจบรรยายได้ขึ้นมา
ฟางหยวนไม่สนใจเขา เดินตรงไปยกผ้าสีขาวขึ้นมาตรวจดูอาการบาดเจ็บ
“เอ๋?”
เขาสังเกตเห็นบางอย่างที่ต่างออกไปเพียงมองแวบเดียว
“เป็นอย่างไร อาจารย์ฟาง?”
ผู้ดูแลหลินถามอย่างกระวนกระวายกลัวว่าฟางหยวนจะตอบว่า“ไม่”
“คนผู้นี้ คงเป็นผู้ที่มีความสามารถเหนือกว่าประตูที่ห้า ห่างจากการเข้าสู่ประตูที่หกที่ต้องรวบรวมกําลังภายในให้ได้เพียงก้าวเดียว”
ฟางหยวนเหลือบมองหน้าอกที่กดขึ้นลงเพียงเล็กน้อยของร่างเขาส่ายหน้า “ยิ่งไปกว่านั้น วิทยายุทธ์ที่เขาฝึกนั้นเป็นเคล็ดหมัดสุดหยินประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป เขาประลองกับผู้อาวุโสอื่นในตระกูลเขาทําลายเคล็ดหยินของตัวเองและได้รับบาดเจ็บจากกําลังภายใน
“อีก 19
เมื่อได้ยิน ผู้ดูแลหลินก็เหมือนสูดเอาอากาศเย็นเยียบเข้าไป เสียงของเขาสั่นพลิ้ว “ท่านหมอเทวดา ท่านบอกว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากผู้ใช้กําลังภายในงั้นหรือ?!”
“โกหกท่านแล้วข้าได้อะไร?”
ฟางหยวนมองผู้ดูแลหลินแล้วกลอกตา “ใครทําร้ายเขาเล่า? แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
“อืม ข้าเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ว่า เด็กหนุ่มคนนี้เป็นศิษย์ของสํานักกุยหลิง หมัดผีดิบเฟิงฮั่น ข้าขอร้องให้ท่านรีบรักษาเขา…”
ใบหน้าของผู้ดูแลหลินมีความกระอักกระอ่วนแฝงอยู่ แต่เขาก็ยังคุกเข่าลงร้องขออย่างจริงใจ
“การบาดเจ็บนี่… ยากนักแล้ว!”
ฟางหยวนลุกขึ้นยืน เดินวนไปมาหลายก้าว ก่อนจะส่ายหัวอีกครั้ง “ท่านก็รู้ว่าบาดเจ็บภายนอกรักษาง่าย บาดเจ็บภายในรักษายากข้ารับรองไม่ได้ว่าข้าสามารถรักษาคนผู้นี้ได้”
หัวใจของผู้ดูแลหลินจมดิ่งลงไป ถอนหายใจ
“แต่ว่า ช่วยชีวิตเขาไว้และกระทั่งให้เขาได้สติขึ้นมายังไม่เป็นปัญหา…”
ประโยคต่อมาของฟางหยวนทําให้ผู้ดูแลหลินมีชีวิตชีวาขึ้นมาหัวใจอันรวดร้าวของเขาตะโกนคําด่าทอ
โชคดี ตัวเขานั้นรู้ว่านี่ไม่ใช่คนที่เขาจะงัดข้อด้วยได้ ดังนั้นจึงแค่ควักกล่องใบหนึ่งออกมา “ข้าได้ยินว่าท่านหมอเทวดาสนใจของวิเศษต่าง ๆ ขออภัยที่ตาเฒ่าอย่างข้าไร้สามารถ แต่ว่าข้าก็ได้ไปเสาะหาผลหยกแดงนี่มา…”
“อะไรนะ? ผลหยกแดง?”
ฟางหยวนหัวเราะ “ใช่ผลไม้ในตํานานที่สามารถเพิ่มกําลังภายในให้คนผู้หนึ่งได้ ผลไม้ลึกลับที่มอบพลังเทียบเท่ากับการฝึกฝนอย่างหนักถึงสิบปีให้น่ะรึ?”
“ใช่…”
ใบหน้าของผู้ดูแลหลินซ่อนความกระอักกระอ่วนเอาไว้ “ผลหยกแดงเป็นสิ่งของในตํานาน เช่นนั้นตาเฒ่าเช่นข้าจะจัดหาของเช่ นนี้มาได้อย่างไร? อืมข้าใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีจัดหามาได้ผลหนึ่งข้าหวังว่าท่านหมอเทวดาจะไม่หัวเราะเยาะความไร้สามารถ
นี้”
ฟางหยวนกลอกตาอีกรอบ เกือบจะเชื่อแล้วว่าผู้ดูแลหเลินเล่นเล่ห์กับเขา
แต่ว่า เขาก็ยังคงรับกล่องมา ตอนที่เปิดกล่องออกผลไม้สีแดงเข้มผลหนึ่งก็เผยออกมา
ผลไม้นี้มีขนาดประมาณกําปั้นของทารก และมีผิวภายนอกเหมีอนผลซึ่ง* ภายนอกดูธรรมดา แต่เมื่อสัมผัสอย่างละเอียด ฟางหยวนก็รู้สึกได้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่
“อืม… นี่เป็นผลหยกแดงจริง ๆ”
หลังจากยืนยันแล้วว่าผลไม้นี้เป็นของวิเศษจริง ๆ ฟางหยวนก็ปวดหัวมากกว่าเดิม
ผลหยกแดงนั้นนับเป็นตํานานท่ามกลางพืชวิญญาณอื่น ๆ ในระดับเดียวกันเช่น ข้าวหยกแดง และหญ้ามรกต มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ผลหยกแดงย่อมต้องการสภาพแวดล้อมเฉพาะในการเติบโต
ตามธรรมชาติแล้ว ถ้าปลูกลงบนดินทั่วไป มันก็จะไม่แตกหน่อแม้จะปลูกไป 8 ปี 10 ปี ก็ตาม
และที่แย่กว่านั้น ผลหยกแดงนี้ยังต้องการเวลายาวนานมาก ๆ กว่าจะโตเต็มที่ น่าจะนับระยะเวลานั่นได้ด้วยหน่วย 100 ปี ดังนั้นการได้มาซึ่งผลนี้มักจะเป็นเรื่องของโอกาสเสียมาก นอกจากนั้นก็มีเพียงสํานักที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่อาจจะมีเวลาปลูกต้น
นี่ได้
“ถ้าผลนี่สามารถแตกหน่อได้ [การดูแลพืช] ของข้าก็คงจะขึ้นสู่ระดับใหม่เป็นแน่ แต่…”
ฟางหยวนส่ายหน้า “นอกจากดินที่ยอดเขาชอุ่มแล้ว แม้จะมีความเชี่ยวชาญของข้าด้วย ก็ยังเป็นแค่โอกาสนิดหน่อยเท่านั้น!”
“ท่านหมอเทวดา เช่นนั้นท่านจะทําเช่นไรต่อ?”
เห็นสีหน้าไม่แน่ใจของฟางหยวน ผู้ดูแลหลินก็ถามอย่างอดรนทนไม่ไหว
ยังมีผู้ปวยรอการรักษาที่มาพร้อมของวิเศษนี่ ไม่ว่าจะมีข้อเรียกร้องที่ประหลาดเพียงใด เขาก็ต้องให้ความสนใจกับความหวังเดียวนี้
“อืม…. ข้าจะช่วยเพราะว่าท่านกับอาจารย์ขาเคยรู้จักกันมาก่อน!”
ฟางหยวนเก็บกล่องนั้นอย่างระมัดระวังและดึงถุงผ้าบรรจุเข็มทองเล่มบางเป็นแถวไว้ออกมา
เมื่อมีเข็มในมือ ใบหน้าของเขาก็ดูจริงจัง รัศมีรอบตัวดูเปลี่ยนไปทันที
“ฝูบ!”
ผู้ดูแลหลินมองภาพตรงหน้าอย่างเหม่อลอย มันเหมือนว่าเขาเห็นอาจารย์เอ็นซินกลับชาติมาเกิด
เข็มของฟางหยวนราวกับบินโฉบไปมา แค่พริบตาเดียวเขาก็แทงเข็มลงที่จุดชีพจรของเฟิงฮันกว่าสิบจุด
ใบหน้าของเฟิงฮันบิดเบี้ยว แล้วก็เปิดปากพ้นเลือดดําออกมากองโตอย่างฉันพลัน
แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แล้วก็กลับไปหมดสติทันทีการหายใจของเขากลับคงที่ขึ้น ใบหน้ามีสีชมพูระเรื่อขึ้นเห็นได้ชัดว่าเขาเก็บชีวิตที่เหลืออยู่กลับมาได้แล้ว
“ขอบคุณมาก ท่านหมอเทวดา! ขอบคุณ!”
ผู้ดูแลหลินยินดีมากและพูดด้วยความตื้นตัน “ได้ดูท่านหมอเทวดาฝังเข็มแล้วก็เหมือนได้เห็นอาจารย์ของท่าน ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าด้วยอายุเพียงเท่านี้ ท่านก็ได้สืบทอดความสามารถของอาจารย์ของท่านและอาจจะยอดเยี่ยมกว่าด้วยซ้ํา!”
เลียแข้งเลียขานั้นไม่ต้องเสียเงิน ดังนั้นเขาจึงเลียต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ
“แม้ว่าข้าจะรู้เคล็ดวิชาฝังเข็มทองคํานี้อยู่ก่อนแล้ว ข้าก็ยังเทียบไม่ได้กับอาจารย์ของข้า แต่ด้วยการรักษาระดับ 3 ผลที่ได้ก็ยังนับว่ามหัศจรรย์!”
ฟางหยวนรู้สึกละอายแต่ด้วยความสามารถในการแสดงของเขาก็แนบเนียนพอให้ได้รับความนับถือจากผู้ดูแลหลิน
“คนไข้ได้รับการรักษาแล้ว ผู้ดูแลกรุณาพากลับ ขออภัยที่ข้าไม่ส่ง!”
ดูหลินเป็นชูยังเหมือนมีคําจะพูด ฟางหยวนทําท่าเหมือนมีงานรออีกเยอะ ยกมือบอกให้พวกเขาออกไป
“เฮ้อ…”
หลินเป็นชูยกมือขึ้นกล่าวลาและพากันกลับไปพร้อมคนรับใช้
ของเขา
ฟางหยวนมองตามหลังไปพึมพํา “จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์”
ถ้าเขาปล่อยให้คนพวกนั้นอยู่ต่อ ก็ใช่ว่าคนพวกนั้นจะซื่อสัตย์และบอกความจริงแก่เขา
แทนที่จะเสี่ยงดวงกับคําตอบจากคนพวกนั้น สู้มองหาคนอื่นดีกว่า
“หมอเทวดาฟาง!”
ครูต่อมา โจวเหวินอู่ก็เข้ามาและโค้งคารวะ เขาพูดด้วยน้ําเสียงนับถืออย่างที่สุด
“เอ๋? เจ้าได้รับบาดเจ็บ?”
ฟางหยวนส่ายหน้าก่อนจะใช้เข็มทองจิ้มโจวเหวินอูไปคราวหนึ่ง
“ขอบคุณ ท่านหมอเทวดา!”
โจวเหวินอู่ได้รับบาดเจ็บภายในเล็กน้อยและรู้สึกว่าพลังภายในของเขาหมุนเวียนได้ไม่ราบรื่น เพียงแค่เข็มจิ้มครั้งเดียวเขาก็รู้สึกสบายขึ้นและยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง
“ไม่ต้องพูดมากพิธีไป ข้างนอกนั้นเกิดอะไรขึ้น? คนปวยที่สามตระกูลใหญ่ส่งมานั้นมากขึ้นอย่างผิดปกติ…”
ฟางหยวนยนคิ้ว “แล้วยังมีบาดแผลจากการต่อสู้ หรือว่าบาดแผลพวกนี้มาจากการรับมือกับตระกูลถั่วที่เหลืออยู่?”
“ท่านหมอเทวดารู้แล้วสินะขอรับ…”
ใบหน้าของโจวเหวินอู่ทะมึนลง “สามตระกูลใหญ่ทําข้อตกลงแบ่งเมืองชิงเย่กัน ข้าจัดหากําลังคนไปจัดการสังหารและรวบอํานาจตระกูลถั่วเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด! อย่างที่ข้าได้คุยกับท่านหมอเทวดาไปก่อนหน้าแล้ว”
“แต่เจ้าเจอปัญหาเข้า?”
ฟางหยวนพยักหน้า
อันที่จริง เขารู้อยู่แล้วจากการเข้าไปในตระกูลถั่วว่าตระกูลถั่วมีลับลมคมในแต่เขาเก็บเรื่องนี้ไว้จากผู้อื่น หวังว่าพวกเขาจะลากเอาปัญหานี้ออกมาได้เอง
“ก่อนนี้ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี แม้ว่าตระกูลถั่วจะเก่งกล้า แต่ก็ไม่ใช่คู่มือของสามตระกูลใหญ่ แม้แต่การค้าของพวกเขาก็เกือจะพ่ายแพ้แล้ว”
โจวเหวินอู่เริ่มตั้งข้อสงสัย “แต่ทว่า ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนตระกูลถั่วกลับเสาะหาความช่วยเหลือจากผู้มีอํานาจมาได้ทําให้สถานการณ์พลิกกลับใส่พวกเรา แล้วยังมีเรื่องแปลกอีกเรื่อง!”
“โอ้? รีบพูด!”
ฟางหยวนโบกมือ
“สํานักกุยหลิงยื่นมือเข้ามาจัดการเรื่องนี้และส่งคนมาเป็นพิเศษคนแรกก็คือหมัดผีดิบเฟิงฮั่นนั่น คิดดูแล้ว…”
โจวเหวินอู่ส่ายหัว แสดงท่าที่ชัดเจนว่าประหลาดใจ “เมื่อข่าวทั้งหมดถูกรายงานไปที่สํานัก พวกเขาย่อมต้องส่งคนมามาก ขึ้นเป็นแน่และอาจจะมีผู้อาวุโสนํามาเองเลยก็เป็นได้!”
ขณะที่พูดนี้ เขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ ยังไงเสีย จากมุมมองของเขา ไม่มีปัญหาอะไรในมณฑลชิงเหอที่สํานักกุยหลิงจะแก้ไขไม่ได้
แต่ฟางหยวนนั้นพอรู้เรื่องกลุ่มคนลึกลับที่อยู่เบื้องหลังตระกูลวว่าเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับคาดเดาไม่ได้ และอาจจะมีอํานาจเทียบเท่ากับสานักกุยหลิงก็เป็นได้
“การต่อสู้ของยักษ์ใหญ่ทั้งสองใกล้เข้ามาแล้ว…”
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าตระกูลทั่วไปได้ความช่วยเหลือเช่นนี้มาจากไหนแต่ฟางหยวนก็ไม่ได้ปิดหูปิดตาอยู่ในความมืดและยังเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้
และบางทีหลินเป็นซู เจ้าจิ้งจอกเฒ่านั่นอาจจะรู้น้อยกว่าเขา
“โจวเหวินอู่!”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฟางหยวนก็ตัดสินใจ
“ข้าน้อยอยู่นี่!”
อยู่กับฟางหยวน โจวเหวินอู่ย่อมเชื่อฟังอย่างเคย โค้งตัวลงทันใดรอรับฟังอย่างจริงจัง
“เรื่องตระกูลถั่วนั้นมีเบื้องหลังที่ซับซ้อน…”
เมื่อคิดต่อแล้ว ฟางหยวนก็ไม่ต้องการให้คนที่เขาสร้างขึ้นมาได้รับผลกระทบรุนแรงไปด้วย “ถ้าสํานักเรียกร้องอะไร เจ้าก็จัดเตรียมให้พวกเขาอย่างเต็มที่ แต่จําเอาไว้ว่าอย่าได้ออกแนวหน้าด้วย ตัวเอง ข้าหวังว่าเจ้าจะจัดการได้ดีที่สุด!”
“หรือว่าท่านหมอเทวดารู้สึกว่าสํานักกุยหลิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว?”
หัวใจของโจวเหวินอู่รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกสายหนึ่งฉับพลันทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงความไม่อาจหยั่งรู้ได้
ผลซิ่ง” = ผลแอปริคอต