Breakthrough with the Forbidden Master - ตอนที่ 5
ตอน5
“ราชาปีศาจ เทร ไอน่า”
พูดตามตรงเลยก็คือ ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนั้น เป็นชื่อที่มีอยู่ตามหลายตำรา
แต่ยังไงผมก็ไม่เคยเห็นภาพเจ้านั่นเลย
ไม่มีภาพของเจ้านั่นเหลืออยู่เลย
ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกจัดการโดยพ่อของผมและพวกพ้อง
ไม่มีทางที่จะเห็นผีเจ้านั่นหรอก มันต้องเป็นภาพหลอนแน่ๆ
ไม่สิ หรือมันเป็นฝันนะ
แน่เลย ต้องเป็นเพราะโมโหอยู่เลยเห็นอะไรแปลกๆแน่ๆ
“นายน้อย!”
“เอ๋…”
ผมเริ่มได้สติและรู้ตัวว่าอยู่ที่เตียง
ดูจากเพดานแล้วคงเป็นห้องผมสินะ เดาว่างั้น
สิ่งแรกที่เห็นคือหน้าของซาดีซที่ไม่ได้ยิ้มแบบร้ายๆเหมือนเคย แต่กลับมองมาเหมือนจะร้องไห้
“ซาดีซ…”
“ขอบคุณพระเจ้า นายน้อยเอิร์ธ! ฉันดีใจที่…นายไม่เป็นไรนะ”
“ทันใดนั้น ผมก็โดนกอดอย่างแน่น หน้าอกที่หอมหวานนี่มันอะไรกัน!?
“อะ เอ๋ ซะ-ซาดีซ เอ่อ เอ่ม…นี่มันอะไรกัน?”
“นายจำไม่ได้หรอ? นายน้อยเอิร์ธอยู่ดีๆก็ล้มไปในห้องผนึกโดยไม่รู้สาเหตุ ไม่มีแผลด้วย ฉันเลยไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…ฉันเลยคิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายน้อย ตอนที่นายน้อยตามฉันมา…”
“ผม ผมไม่เป็นไร…มันแค่…”
“นายเป็นไงบ้าง? มีแผลอะไรมั้ย?”
“ไม่ ผมไม่เป็นไร…แค่มึนๆหัวนิดหน่อย…แต่…นั่นแหละ”
“ยังงั้นหรอ…”
ว่าแต่กลิ่นซาดีซนี่หอมจัง แล้วซาดีซก็ค่อยๆขยับออกไปและก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ถ้าไม่มีไรแล้วหละก็ เอาหละ”
“ห๊ะ!?”
โอ้ จะมาทำเด็กกันแล้วใช่ปะ
“บางทีมันคงอาจจะมาจากความอ่อนเพลีย แม้ว่านายจะเอาชนะเจ้าหญิงไม่ได้ แต่นายน้อยเอิร์ธก็ฝึกหนักทุกวัน เพราะงั้นวันนี้ก็พักผ่อนไปสักวันนะ เดี๋ยวฉันจะนำอาหารมาให้ทีหลัง”
“อา ซาดีซ อีกแป๊บนึง…”
“ยัง-ไง-ก็-ตาม ถ้าให้นอนด้วยกันหละก็ ขอ-ปฏิ-เสธ-ค่าาา”
“เอ่อ…”
หลังจากพูดงั้น รอยยิ้มของซาดีซก็เปลี่ยนไปจากคนที่ห่วงใยผมจากก้นบึ้งของหัวใจไปเป็นยิ้มร้ายๆเหมือนเคย แล้วเธอก็ออกจากห้องไป
ในเวลาที่ผ่านไป เธอคงสบายใจขึ้นแล้วหละมั้ง
บ้าเอ้ย ผมไม่รู้สาเหตุเลย แต่ก็ไม่เห็นซาดีซในโหมดเชื่อฟังมานานมากแล้ว เพราะงั้นขอแบบนี้อีกสักหน่อยได้มั้ย
[เห้อ! การที่ต้องมาเห็นความสุขอันไร้เดียงสา… เอาจริงก็คือลูกหลานของคนที่จัดการข้านี่มันปวกเปียกซะจริง]
“อุ วะ!?”
แล้วทั้นใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในหัว นี่มันเป็นเสียงก่อนที่ผมจะสลบนี่หว่า และ…
[ไม่ต้องตกใจ ตอนอยู่ในร่างวิญญาณ ข้าไม่สามารถทำร้ายหรือจับอะไรได้เลย ยังไงก็ตาม เจ้าคนเดียวสามารถเห็นรูปลักษณ์ขิงข้าหรือได้ยินเสียงข้าได้]
พูดแบบนั้นด้วยร่างที่ดูเลือนลาง นี่มันปีศาจที่ผมเห็นก่อนสลบแน่ๆ
ยังไงก็ตาม มันก็ไม่ได้ดูจับต้องได้จริงๆ
“ฉันต้อง ต้องการถามว่า…แกเป็นผี ใช่มั้ย?”
[ก็ตั้งแต่ที่ข้าถูกจัดการโดยพวกผู้กล้า รวมทั้งพ่อของเจ้า ข้าไปไหนไม่ได้อีก ดังนั้นร่างวิญญาณของข้าก็ติดอยู่กับดาบ ในไม่ช้า ชีวิตของเจ้าฮิโระก็สงบสุข และเจ้านั่นก็ผนึกดาบเอาไว้ในห้องเล็กๆ ข้าไม่ได้ออกมาจากห้องหรือเจอใครอีกเลยในรอบทศวรรษ]
“แล้วทำไมแกถึงคุยกับผมได้?”
[เอ่อ ข้าก็ไม่รู้]
เพราะว่ามันเป็นร่างวิญญาณ ร่างของเจ้านี่ดูผอม ยังไงก็ตาม มันเหมือนมีรังสีแปลกๆแผ่ออกมาจากเจ้านี่จากตรงนั้น
ถ้าที่เจ้านี่พูดเป็นเรื่องจริง…
“เฮ้ แก…ออกมาเป็นร่างวิญญาณ…แก…เป็นจริงๆ…”
[อะไรของเอ็ง?]
“นั่นหนะ แบบว่า แกเป็นราชาปีศาจเทร ไอน่าจริงๆใช่มั้ย?”
[เออสิวะ]
นี่ไม่ดีแล้ว! เดี๋ยวก่อนนะ อะไรวะนี่? หมายความว่าตรูกลายเป็นร่างสิงของผีราชาปีศาจแล้วหรอ?
เดี๋ยวก่อนนะไอบ้า แกจะสิงคนที่ฆ่าแกจริงดิ!
ทำไมปัญหามันมาตกที่ลูกแทนจะเป็นฮีโร่หละวะเห้ย?!
นี่ผมจะถูกสิงไปตลอดกาลงั้นหรอ…
[เจ้าหนู…แกดูงงๆอะไรอยู่นะ ไม่แปลกหรอก ข้าก็ไม่รู้สถานการณ์นี้เหมือนกัน มันอยู่นอกเหนืออำนาจที่ข้ามี ไม่สำคัญหรอกว่าเด็กดย่างเจ้าจะพยายามหาเหตุผลยังไง ยังไงตอนนี้เราก็ไม่รู้เหตุผลหรอก]
“หะ อะไ…”
[อีกอย่างนะ ข้าก็โคตรเบื่อกับการอยู่ไปวันๆตอนที่ถูกขังเอาไว้เมื่อทศวรรษก่อนเหมือนกัน ข้าอยากจะดูโลกที่เปลี่ยนไปหลังการตายของข้า เจ้าหนู ออกจากเมืองนี้ซะ ข้าจะได้ไปข้างนอกได้ เอาจริงๆก็ข้าไม่อาจออกจากห้องได้นอกจากเกาะอยู่กับเจ้าเนี่ยแหละ]
การที่ราชาปีศาจประกาศคำสั่งมาให้ผม เอาจริงๆนะ ผมยังไม่รู้เลยว่านี่มันเรื่องจริงรึเปล่า
ยังไงก็ตาม ไอการที่ถูกสั่งให้ออกไปในทันทีนี่…เอ่อ การต้องอยู่ในห้องเล็กๆคนเดียวมากกว่าสิบปีโดยไม่มีใครคุยนี่ ผมมั่นใจว่าถ้าเป็นผมก็คงหาอิสรภาพจนตายอะ
แต่เขาเป็นผี เพราะงั้นคงไม่ตาย
มันเป็นอะไรที่หนักกว่านรก! ดังนั้นถ้าเป็นผมและสามารถออกไปได้ ผมก็คงอยากไป
แต่ต่อให้แกเป็นราชาปีศาจ แกคิดไงถึงคิดว่าจะสั่งผมได้?
“…ห๊า แกยังมีอำนาจล้นฟ้าบ้าบออะไรอีกหรอ แกแพ้พ่อผมไปแล้วนา”
[…หืม…]
ผมพูดเพื่อพยายามจะยั่วโมโหเขา แต่มันดูไม่ได้ผลซะงั้น ผิดคาดจริงๆ!
ราชาปีศาจในตำนานลืมตากับคำพูดของผม
[ห-ห๊ะ-…เอาละฟังนะ…เจ้าลูกของฮิโระเอ๋ย]
หืม ราชาปีศาจคงจะจุดเดือดต่ำสินะ แกกำลังจะปล่อยให้เด็กยั่วโมโหละน้า
[เจ้า…]
“ยังไงก็ตาม แกก็ได้แค่พล่ามอยู่ดี แต่ทำอะไรผมไม่ได้ เพราะงั้นผมจะตัดสินใจเองว่าจะทำอะไร แกไม่มีสิทธิมาสั่ง นะจ๊ะ(พร้อมยื่นมินิฮาร์ท ปล.ไม่เกี่ยว เติมเอง5555)”
เพราะว่าคนที่ผมพูดอยู่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนโดนมัดมือมัดเท้าไว้ ผมก็เสียใจกับเขาแหละนะ แต่ถ้าเจ้านี่เป็นราชาปีศาจจริงๆ มันน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของชีวิตเลย ผมจะต้องยืนหยัดให้ได้
แล้วคำพูดของผมก็ทำให้ราชาปีศาจเทร ไอน่าถลึงตาใส่ผม และหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยว
[หืมมม…เจ้าคงไม่รู้ความน่ากลัวของข้าสินะ? ถึงทำท่าแบบนั้นกับข้า จะบอกว่า ข้า ราชาปีศาจผู้ทรงพลานุภาพผู้นี้ ต่อให้เป็นวิญญาณ ข้าก็เปลี่ยนสิ่งที่เจ้าทำได้! เจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถทำลายเจ้าด้วยพลังของข้า แล้วกลืนกินโลกทั้งใบด้วยขุมนรกแห่งปีศาจอีกครั้งงั้นรึ?]
“ไม่หรอก แกติดอยู่ในห้องนี้เพราะแกทำงั้นไม่ได้ไง ถูกปะ?”
[…ห๊ะ…เอ่อ…คือ…เอิ่มมม…คือว่า…มันคือ…มะ-ไม่ใช่…]
“เฮ้ เฮ้ นี่เจ้านี่เอ๋อรับประทานเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีสินะ? นี่ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเกือบทำลายโลก พึ่งเถียงแพ้เด็กนักเรียนเนี่ยนะ?”
ราชาปีศาจเริ่มมึนและตัวสั่น
โอ้ ผมชักคิดละว่าเจ้านี่อาจจะไม่ใช่ราชาปีศาจ และก็สงสารนิดหน่อยแฮะ
“เห๋~ช่วยไม่ได้น้าาา ก็ได้ ผมจะไปเดินเล่นก่อนมื้อเย็นละกัน”
[ห๊ะ?]
“แต่ก็ แค่นิดเดียวพอนะวันนี้”
[คุ คุ คุ คุ!]
พอผมลุกจากเตียงและพูดแบบนั้น จอมมารก็เริ่มพึมพำด้วยความสุข อย่างกับเด็กน้อยหน้าใส
ดูเหมือนว่าศักดิศรีของจอมมารคงป่นปี้ไปแล้วหละ
“…แล้วจะจะไปไหนหละนายน้อย?”
“เอ๊ะ!?”
“ก่อนอื่นเลยนะ มันเหมือนว่านายคุยกับตัวเองอยู่ นายทำอะไรหนะ? นี่นายยังพยายามจะป่วยเพื่อวางแผนจะนอนกับชั้นหรอคะ”
ซาดีซเข้ามาในห้องหลังจากเคาะประตูเบาๆ
ผมนี่สะดุ้งจนแทบกระโดดเลย
อย่างที่คิด…กับคนที่อยู่รอบๆผม การคุยกับจอมมารจะเหมือนคุยคนเดียว?
“ยิ่งกว่านั้นนะ นายเปลี่ยนเสื้อหรอ…อะไรนี่? นายต้องพักผ่อนนะวันนี้”
“ไม่ ไม่ แค่ไปเดินเล่นนิดหน่อยในเมืองเฉยๆ”
“เดี๋ยวแม่ตบคว่ำเลยนี่ นายน้อย”
“เอ๋!?”
หลังจากพูดงั้น ซาดีซก็เข้ามาในห้องและคว้าก้นผมไว้ด้วยรอยยิ้ม
[โฮ่~เมดคนนี้…เธอนี่ต่อกรยากจริงๆ]
เสียงยกย่องจากจอมมาร ใช่ ตอนเธอเอาจริงนี่แกร่งกว่าเจ้าหญิงในวันนี้อีก
เห้อ เรื่องมันเศร้า โอกาสที่ผมจะชนะนี่เป็นศูนย์
“ฟุ ฟุ ปัญหาเยอะจริงนะนายน้อย ไม่ต้องห่วง วันนี้ฉันจะดูแลเอิร์ธน้อยเองนะ จะป้อนข้าวเย็นให้ถึงที่ เดี๋ยวอาบน้ำให้ด้วย แล้วก็อาจจะมองข้ามเรื่องลามกเล็กน้อยในห้องอาบน้ำด้วยน้า เอาม้า…”
“เอ๋ จริงดิ จะ-จริงดิ!? ไม่ เอ่อ ผมจะทำตัวดีๆ! ไม่สิ ผมป่วยหนักจริงๆ!”
“อ่าว ดูเหมือนจะอาการดีขึ้นแล้วหนิ ดังนั้นไอการโดดเรียนคาบบ่าย…งั้นมาทำโจทย์ของฉันเกี่ยวกับคณิตศาสตร์เวทย์มนต์ที่ควรต้องเรียนในคาบบ่ายกันดีกว่า!”
“ซาดีซซซซซซ!!??”
“นายห้ามไปไหนจนกว่าจะแก้โจทย์จนเสร็จ ไม่งั้นก็ห้ามทำไรนอกจากกินข้าว ดังนั้น โชคดี? ลองพยายามจะหนีดูสิ…และ…ควไม่ต้องบอกหรอกเนอะว่าจะเป็นยังไง”
ซาดีซเดินออกจากห้องไป เหลือไว้เพียงคำขู่จะลงโทษด้วยรอยยิ้ม
ไม่น้าาาา ถ้าผมอยู่เงียบๆคงจะได้อยู่ในสวรรค์ไปแล้ว แต่นี่กลับไปนรกอีกแล้วหรอเนี่ย
“บ้าเอ้ย ไอราชาปีศาจ ไปตายซะ!”
[ไม่ ถ้าเจ้าจะพูดงั้น…ไม่ใช่…ใช่…เออ! ข้าขอโทษ]
“บ้าเอ้ย บางทีผมอาจจะคืบหน้าเรื่องของซาดีซด้วยวันนี้…แทนที่ต้องมาทำงานหนักกว่าเก่า…โอ๊ย บ้าจริง อีกแล้วนะ………อ๊าาาาาากกกกกก”
จอมมารที่สูญสิ้นเกียรติไปแล้วก็ขอโทษอย่างงุ่มง่าม จากการร้องให้ในใจของผมที่พลาดโอกาสอันหอมหวานเหล่านี้ไป