Breakthrough with the Forbidden Master - ตอนที่ 2
โอ้วววววววววว พระเจ้าช่วยกล้วยทอดดดดดดด เธอกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้าาาาาาา
….สุดท้ายผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย มันคงทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นถ้าตะโกนด่ายัยนี่ไป แต่ผมก็ทำไม่ได้
จริงๆผมก็อยากจะพูดตรงๆกับเจ้าหญิงที่เอาแต่พูดจาแย่ๆใส่ผมแหละ แต่มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าผมจะพูดอะไร ผมคงจบที่ทำได้แค่เคียดแค้นนั่นแหละ และมันก็จะแย่กว่าเดิมอีก
ดังนั้น ผมคงทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและเดินหนีไปแบบโคตรหล่อเท่ห์นั่นแหละ
“มันน่าอายมากนะเอิร์ธ แต่อย่าปอดแหกหละ ผลักดันตัวเองต่อไปซะ แล้วสักวันนึงก็จะแข็งแกร่งขึ้นเอง
ตอนที่ผมกำลังจะออกไป ทีค อาจารย์ที่คุมการประลองระหว่างผมกับเจ้าหญิง เอามือมาจับใหล่ผม และก็แหกปากอย่างเร่าร้อน
“นายรู้รึเปล่า? พ่อของนายหนะ ‘ฮิโระ’ ก็พ่ายแพ้เหมือนกับนายไม่รู้ตั้งกี่ครั้งให้กับ ‘โซเลีย’ ที่เคยแข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนสมัยที่พระองค์ยังเป็นเจ้าชายอยู่หนะ แต่ในวันสุดท้าย…เขาก็ได้รับชัยชนะที่น่าตื่นเต้นมากๆในการแข่งขันจบการศึกษา ดังนั้นพยายามเข้านะ!”
อาจารย์ได้ชูนิ้วโป้งและก็ให้กำลังใจผม ด้วยการนำของเขา เพื่อนร่วมห้องของผมจึงมักให้กำลังคนอื่นต่อ เมื่อตัวเองได้รับกำลังใจมา
“ใช่แล้วหละ เอิร์ธ ไว้รอดูการตื่นขึ้นแห่งยีนส์ฮีโร่ในตัวนายตอนวันสุดท้ายละกันนะ!”
“โอ้ ใช่ เอิร์ธเป็นลูกของฮีโร่ ‘ฮิโระ’นี่เนอะ!”
“เขาจะแสดงพรวรรค์ที่ล้มได้กระทั่งราชาปีศาจมั้ยน้อ?”
ทุกครั้งที่ได้รับกำลังใจ ผมมักถูกไอการวิเคราะห์กันของพวกเพื่อนทำร้ายจิตใจตลอด แต่แล้วพวกนายหละห๊ะ? ผมหมายถึง พวกนายอันดับห่วยกว่าผมอีก ดังนั้นอย่างแรกเลยนะ พวกแกควรทำตัวเองให้ดีก่อนเถอะ! จนพอให้ถูกเรียกว่า ‘ยีนส์ฮีโร่’ ไปเลย!
แต่ผมก็ไม่ได้พูดไปหร๊อก
ผมก็แค่เดินหนีไปจากพวกนั้น และก็ตอบไปคำเดียว
“อะ-อืม”
สุดท้ายแล้ว อันดับที่หนึ่งก็ต้องเป็นของพวกอัจฉริยะที่ถูกเรียกว่าเด็กมหัศจรรย์ถึงแม้เธอจะน่ารำคาญก็เหอะ ความพยายามของผมคงไร้ค่า ผมคงต้องยอมรับมัน
ดังนั้น มันไม่เห็นน่าอายเลยที่จะแพ้เธอ ในประเทศนี้เอาจริงก็มีน้อยคนนักในประเทศนี้ที่อายุเท่าเราแล้วเอาชนะเธอได้
แม้ว่าไอพวกบ้านั่นจะแพ้เจ้าหญิง แต่พวกนั้นก็ดูไม่ได้ผิดหวังเลยสักนิด หรือไม่พวกนั้นก็ไม่เคยคิดจะเป็นที่หรึ่งอยู่แล้ว
ดังนั้นมันน่าหงุดหงิดมาก แต่ผมเริ่มจะคิดว่าผมคงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับว่าผมเอาขนะไม่ได้
ยังไงก็ตาม พักเรื่องนั้นไว้ก่อน เพราะมันมีอีกอย่างที่ผมจะหัวหมุนไม่ได้
นั่นคือ…
“เจ้าหญิงชนะลูกฮิโระกี่ครั้งติดแล้วหละ”
“มันไม่สำคัญหรอกว่าเจ้าหญิงจะทรงมีความสามารถขนาดไหน มันน่าอนาจนะที่ลูกของฮีโร่กลับไม่เคยชนะสักครั้งเนี่ย”
ผมได้ยินเสียงจากมุมทางเดินผ่านสนามฝึกซ้อม
เสียงเหมือนผู้ใหญ่ บางทีพวกอัศวินของจักรวรรดิคงคุยกันแหละ
พวกเขาคุยเกี่ยวกับผมโดยไม่รู้เลยว่าผมแอบฟังอยู่
“เออ ดูเหมือนลูกของฮีโร่จะไม่ใช่ฮีโร่ไง”
“เจ้าหญิงเป็นข้อยกเว้นก็จริง แต่ว่า…ท้ายที่สุด ระดับความสามารถของรุ่นต่อจากเราก็ยังไม่ค่อยพอ อืม นั่นคงเป็นข้อพิสูจน์ว่าเราอยู่ในยุคที่สงบสุขแล้วจริงๆ”
“ว่าแต่งานประลองจบการศึกษาของปีนี้นะ จะมีราชวงศ์ประเทศอื่นๆมาดูด้วย ชั้นหละกลัวจริงๆว่าพวกเขาจะผิดหวังถ้าได้เห็นลูกที่ไม่สมบูรณ์ของลอร์ดฮิโระหนะ”
“ถึงงั้นเขาก็เป็นลูกของลอร์ดฮิโระนะ ความสามารถทั้งทางกายละก็สติปัญญาก็อยู่ในอันดับ2 มันน่าอายจริงๆที่เขาไม่เคยได้ที่หนึ่งเลยสักครั้ง”
“มันก็จริงนะ แถมที่สองก็ยังเป็นปัญหาเหอะ เพราะ ‘2คนนั้น’ ไม่ได้อยู่ที่นี่”
“เออใช่ ‘2คนนั้น’ ที่ไปเรียนอยู่ที่ต่างประเทศคงได้แสดงพรสวรรค์อย่างเต็มที่ และคงได้รางวัลมากมายจากพระราชาอีกประเทศไปแล้วหละ เนอะ?”
“ใช่แล้ว พูดอีกอย่างก็คือ ลูกของลอร์ดฮิโระเป็นที่2ได้เพราะ ไม่มี ‘2คนนั้น’ไง….. ดังนั้นจริงๆอันดับของเขาก็คืออันดับ4 น่าผิดหวังจริงๆ”
ผมเจอคนพูดแบบนี้หลายที่มากๆ
ตอนผมเป็นเด็ก ผมได้คะแนนสูงสุดในการสอบ และโชว์พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งกว่าใครๆ ตั้งแต่นั้น พวกเขาก็เอาแต่พูดว่า “เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้กับลูกของฮีโร่ฮิโระเลยนะ”
ต่อมาตอนอายุ13ปี ผมเข้ามาที่โรงเรียนนี้และต่อสู้กับคู่ต่อสู้มากมายเพื่ออันดับของผม
ผลลัพธ์ก็คือ ผมอยู่ในอันดับระดับท๊อปของโรงเรียน
แต่ที่สองคืออันดับสูงสุดของผม และผมไม่เคยไปถึงอันดับหนึ่ง
ยังไงก็ตาม โรงเรียนนี้เป็นสถานที่สำหรับฝึกอัศวิน ที่นักเรียนหัวกะทิจากทั่วจักรวรรดิและพวกชนชั้นสูงเข้าเรียนผ่านข้อสอบสุดโหด
พูดอีกอย่างก็คือ มันคือที่รวมตัวของคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในจักรวรรดินั่นเอง
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมคิดว่ามันเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ได้อันดับที่2ไง
แต่ไอพวกคนรอบตัวผมก็ไม่ได้คิดเหมือนกัน
“…ผมขอโทษนะครับ…”
“เฮ้ย!!???”
ด้วยคำพูดของผม 2คนนั้นรีบหันกลับมา
ชุดเกราะที่ถูกตกแต่งและถูกประทับสัญลักษณ์ของจักรวรรดิ
“ผมแสดงเรื่องน่าอนาถต่อหน้าอัศวินของจักรวรรดิไปแล้ว”
พวกเขากระวนกระวายเล็กน้อยกับการแสดงตัวของผม แต่พวกเขาก็หัวเราะกลบเกลื่อนมันไป และก็พูดกับผมอย่างมิตร
“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่หรอก เรื่องเจ้าหญิงหนะช่วยไม่ได้หรอก ก็เจ้าหญิงท่านมีพลังของ ระดับคลาส{นักรบชั้นหน้า} ในตอนนี้ไปแล้วหนิ”
“แต่นายก็ไม่ได้อ่อนซ้อมหนิ ใช่มั้ย? พ่อของนายก็ได้รับ {นักรบชั้นหน้า} ตอนอายุ16หน่า หลังจากเรียนจบจากสถาบันอีก และเขาก็เอาชนะราชาปีศาจได้ตอนอายุ18นะ”
“หลังจากเรียนจบจากสถาบัน ก็ได้คลาส{นักรบผู้มุ่งสู่จุดหมาย} และแน่นอนเป็นสมาชิกใหม่ของ {อัศวินแห่งจักรวรรดิ} ใช่มั้ย? มาตรฐานของโรงเรียนมันก็แค่เบื้องต้นเท่านั้นแหละหน่า ดังนั้นการฝึกฝนก็จะวนเวียนไปด้วยความยากลำบากนั่นแหละนะ คุณชาย”
“ในฐานะที่เป็นลูกของฮีโร่ พยายามเข้านะครับ”
และ…นั่นเป็นสิ่งที่คนประเภทนี้ส่วนใหญ่ชอบพูดกับผม
ทั้งอาจารย์ เพื่อนร่วมห้อง และแม้แต่คนที่ผมพึ่งเคยเจอก็จะพูดแบบนี้
แน่นอนว่าแม้แต่พ่อแม่แท้ๆของผมก็ยังพูดแบบนี้…
“ใช่แล้ว อย่างที่ทุกคนพูด ช่วยดูแลเจ้าลูกโง่เง่าของผมตอนเจ้านี่เรียนจบด้วยนะครับ”
“เอ๋!!??”
อร้าก! เขามาแล้ว!…
“ทะ-ท่าน ฮิโระ?”
“เฮ้ อย่าเป็นอย่างงั้นสิ ฝึกหนัก? พวกนายมีการทดสอบพิเศษพรุ่งนี้นี่? โชคดีกับการสอบนะ”
“โอ้ ขอบคุณครับ!”
“พวกนายก็มีลูกใช่มั้ย? ไปแสดงให้พวกเขาดูซะนะ ว่าพ่อที่ยอดเยี่ยมเป็นแบบไหน!”
“ท่านรู้ได้ไงครับ? ผมที่ต่ำต้อย…”
มีผมสีแดงไหม้เหมือนกับผม เขามักจะหัวเราะร่าเริงและทำตัวเป็นมิตรอยู่เสมอ และก็เป็นที่รักของทุกคน ผมได้ยินว่าเขามีแฟนคลับในเมืองของจักรวรรดิ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกผู้หญิงที่อายุไม่ถึง20นั่นแหละ
ความสามารถในการใช้ดาบและพลังเวทย์มนต์ของเขาอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ถ้าคุณรวมทั้ง2ด้าน ความสามารถ {ดาบเวทย์} ของเขาทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ตอนเป็นเด็กผมก็เคยยกยองและเคารพเขาที่เป็นพ่อด้วยตาที่เป็นประกาย…แต่ตอนนี้…
“เฮ้ เอิร์ธ พ่อมีงานต้องทำ และก็ต้องไปสนามฝึกอะนะ แต่ว่า…พ่อได้ยินว่านายแพ้เจ้าหญิงอีกแล้วหรอ”
“กึก”
พ่อเอาแต่พูดส่อเสียดด้วยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจนั่น ดังนั้นมันน่ารำคาญมาก
“พ่อของเธอ โซเลียและพ่ออยู่ในสถาบันด้วยกัน และพ่อก็ไม่เคยเอาชนะฝ่าบาทได้เลยสักครั้ง ยกเว้นตอนงานประลองเรียนจบ แต่คู่ต่อสู้ของนายเป็นผู้หญิงนะ ใช่มั้ย? แพ้ทุกครั้ง ไม่คิดว่ามันน่าเสียใจบ้างหรอ?”
“หืม….”
“เอิ่ม พ่อไม่เหมือนลูกนะ พ่อของลูกที่โดนกดดันก่อนเรียนจบเพราะข้อสอบข้อเขียน ดังนั้นลูกถึงดูดีกว่า ท้ายที่สุดแล้วนี่คือสิ่งที่หล่อหลอมลูกผู้ชาย” [อันนี้ดำน้ำล้วนๆ]
พอพูดออกไปแบบนั้น พ่อกูต่อยปากผมเบาๆด้วยหมัด
เขาพยายามจะพูดว่า “พลังเป็นสิ่งที่สร้างผู้ชาย”หรอ?
“…นี่ ถ้างั้นพ่อช่วยฝึกดาบกับผมหน่อยได้มั้ย ถ้าพ่อสอนวิชาดาบฮีโร่ที่เคยใช้พิชิตราชาปีศาจนะ …ผมอาจจะเอาชนะเจ้าหญิงได้ก็ได้?”
ครึ่งนึงจริงจัง และอีกครึ่งนึงก็ขำๆผมขอให้พ่อมาดูการฝึกฝนของผม
แต่พ่อก็หัวเราะ
“ไม่รู้สิ…พ่อก็อยากจะสอนนายนะ แต่พ่อก็ยุ่งมากหนะ ดังนั้นขยันฝึกตามอาจายร์หรือว่า ซาดิซละกันนะ นอกจากนี้นายก็ยังใช้ {ดาบนั่น} ไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นไว้เจอกันนะ”
อีกแล้ว เป็นเหมือนทุกที
“เอิ่ม นายเป็นพวกพัฒนาช้าหนะ ดังนั้นใช้เวลากับมันและพยายามเข้านะ”
ผมเป็นลูกของพ่อนะ ทำไมผมถึงไม่ได้รับการฝึกดาบหรือเวทมนต์หรืออะไรเลยหละ
ผมมักถูกเทียบกับพ่อแม้ว่าเขาไม่เคยสอนหรือถ่ายทอดวิชาให้เลย
และถ้าเทียบกันแล้ว ตอนเขาอายุเท่าผม เขาด้วยกว่าผมในฐานะนักเรียนด้วยซ้ำ แต่ทำไมผมถึงเป็นคนเดียวที่โดนดูถูกตลอด
จริงๆ…
“ชิ…ผม…ตอนนี้…ผมยังพยายามไม่พออีกหรอ?”
“เอิร์ธ?”
“เป็นประเภทพัฒนาช้าหรอ? มันไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อว่าจะพูดเลยนะ”
มันน่ารำคาญมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตะโกนโวยวายเหมือนพวกเด็กเล็ก
“ทำไมหละ ทำไมผมถึงเป็นความผิดหวัง? ผมพอใจกับมันแล้ว! ผมเป็นที่สองในอันดับของโรงเรียนนะ! มันยังไม่ดีพออีกหรอ? ชมเรื่องความพยายามของผมสักนิด แทนไอการปลอบใจเนี่ย! พ่อเคยเป็นที่สองมั้ย? ถึงงั้นพ่อก็ยังผิดหวัง? อันดับสองยังไม่ดีพอสำหรับพ่ออีกหรอ? ทำไมผมถึงต้องเป็นที่หนึ่ง?”
เด็กทุเรศ…ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ถึงแม้จะรู้ตัวดีก็ตาม แต่ผมก็ยังเป็นเด็ก แถมร่างกายผมมันก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“เอิร์ธ…”
“หึ…ผมพอแล้ว”
ก่อนจะรู้ตัว ผมก็ผลักหลังพ่อและก็วิ่งหนีไปแล้ว
________________________________________________