Black Tech Internet Cafe System - ตอนที่ 355
หากเปรียบเทียบกับบรรยากาศการต่อสู้ที่เมืองครึ่งแล้วผู้คนในจิวหัวต่างเป็นกันเองมากขึ้นกว่าเดิม
ถึงตอนนี้พวกเขาหลายคนได้เล่นจนถึงเวลาที่จำกัดในแต่ละวันแล้ว นาหลันฮงวู, หลันโม, ซัวเต๋าและอาจารย์คนอื่นๆ จะนั่งเล่นอยู่บนโซฟาที่ประจำในขณะที่ผู้คนจากสำนักต่างๆ รวมไปถึงนักรบและนักบวชเต๋าอิสระกำลังยืนล้อมรอบพวกเขาพร้อมถือของกินไว้ในมือ
“เอาล่ะ! ข้าจะพูดถึงเทคนิคการควบคุมดาบ” ซัวเต๋าจิบโคกขณะที่เอื้อมมือไปหยิบแท่งไม้รสเผ็ดเข้าปากพลางมองไปรอบๆ “เทคนิคการควบคุมดาบของภูเขาซูกลุ่มอี้เมยและกลุ่มเมฆเขียวนั้นต่างก็มีข้อดีในแบบของมันเองบางคนสามารถเรียนรู้เทคนิคได้พร้อมกันทั้งหมดแถมยังสามารถแบ่งปันเทคนิคและแรงปัญดาลใจต่างๆ ให้ผู้อื่นได้”
“อาจารย์ซัว!” ซงฉิงเฟิงผู้เก่งด้านควบคุมดาบและรถเขามักจะจับคู่เล่นกับเหล่าอาจารย์ “การฝึกฝนเทคนิคนี้ไม่ว่าจะเป็นนักรบก็สามารถฝึกการควบคุมดาบของภูเขาซูได้ใช่มั้ย?”
“เป็นคำถามที่ดี” ซัวเต๋ายิ้ม “ข้าเดาว่าเจ้าทุกคนต้องการอ่านหนังสือสวรรค์และทราบถึงแนวคิดเกี่ยวกับเทคนิคทั้งหมดที่จะนำพาโลกไปสู่สิ่งเดียวกัน ในทางทฤษีฎีแล้วข้าคิดว่าตอนนี้เทคนิคการควบคุมดาบของภูเขาซูนั้นเหมาะสมสำหรับนักรบ”
ซัวเต๋ากล่าวต่อว่า “อย่างที่ทุกคนรู้ กุญแจสำคัญของเทคนิคการควบคุมดาบของภูเขาซูนั้นคือการควบคุมโดยใช้พลังภายในเป็นหลัก”
“อาจารย์มูท่านก็อยู่ที่นด้วยหรอ!?” หลันยันเอ่ยทักหลังจากหันมาเห็นจากข้างหลัง ในไม่ช้าเธอก็พบหญิงสาวชุดแดงหนัง
“ใช่ ..” มูฮงซูพยักหน้าและตอบ “มิฉะนั้นข้าจะล้าหลังสาวกของข้า”
แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจในบางสิ่งแต่เธอก็พร้อมที่จะเรียนรู้อย่างเต็มที่ เธอสามารถสอนให้สาวกได้รับถึงแรงบรรดาลใจรวมไปถึงเทคนิคการต่อสู้ ในฐานะผู้สอนมูฮงซูกำลังพิจารณาที่จะสอนสาวกเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ในชั้นเรียน
อย่างไรก็ตามสำนักหลิงหยวนได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ภายใน ผู้สอนจะต้องมีความคุ้นเคยกับหนังและเกมเพื่อที่จะได้นำมาแบ่งปันและสอนให้แก่เหล่าสาวก
สำหรับระดับปรมาจารย์อย่างซัวเต๋าและนาหลันฮงวู พวกเขามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้ฝึกฝนระดับต้นแม้ว่าพวกเขาจะรับชมในสิ่งเดียวกัน
…
ด้านนอกร้านเมืองครึ่งแสงไฟร่องลอยไปบนอากาศพร้อมแสงและเงาของดาบที่ตามมาติดๆ
“ดูนี่เปลวไฟยี่มุที่แท้จริงของข้า!” เปลวไฟเคลื่อนตัวไหวให้แสดงสว่างพร้อมเงา
“ไม่เห็นมีอะไร! ดูเปลวไฟที่ลุกโชนของข้า!”
“เจ็ดเวทย์มนตร์สังหารมังกรด้วยความมุกข์ทรมาน!” คลื่นของเงาดาบคลุมเครือประกายอยู่หน้าร้าน ทันใดนั้นเงาของดาบก็พุ่งขึ้น!
“บ้าเอ้ย! เจ้าได้เรียนรู้คาถาสังหารมังกรตั้งแต่เมื่อไร!?” นักบวชเต๋าเสื้อคลุมดำขาวตะโกนด้วยความประหลาดใจ
“ฮ่าๆ! เจ้าประหลาดใจละสิ นอกจากนี้ข้ายังได้เรียนรู้คาถาการควบคุมวิญญาณด้วยนะ หลังจากที่ข้าเชี่ยวชาญแล้วข้าสามารถจัดการกับเจ้าเพียงแค่โจมตีด้วยดาบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!”
“เจ้าคิดว่าเจ้าใช้ดาบคู่ได้หรือไม่?”
“พวกมันไร้ประโยชน์!” ผู้ฝึกฝนเสื้อคลุมดำขาวเข้ามาร่วมการปะลองพร้อมเสกคาถาจิตวิญญาณ ทันใดนั้นเงาสีเลือดที่น่าหดหู่และสยดสยองก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าต่อหน้าพวกเขา
“เชี้ย! ปีศาจหยูกวน!?”
“เจ้าต้องการอะไร?”
“ฮ่าๆๆๆ” ปีศาจดำหัวเราะ “นี่เป็นเวทย์มนตร์ทางจิตวิญญาณที่ข้าได้ทำการลอกเลียนแบบมาจากการคำรามของหยูกวนเมื่อวันก่อนซึ่งเป็นเหตุให้ภูเขาแยกและพื้นแตกตัว เจ้าสามารถปิดกั้นเสียงคำรามของข้าได้ด้วยหรือ? อืม .. แม้ว่ามันจะเลียนมาแต่ก็ทรงพลังใช่เล่น!”
ทันใดนั้นเงาสีแดงก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนสูงเท่าตึกสองสามชั้น มันกลายเป็ยสัตว์หายากขนาดใหญ่มีสองเขาตัวของมันเปล่งประกายไปด้วยไฟ!
“เจ้ากล้าจะคำรามใส่สัตว์ร้ายของข้ามั้ย?” ซือซุยหลงถือดาบลวดลายมังกรในมือพร้อมสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าซึ่งเป็นภาพที่น่ากลัวไม่น้อย
“ฮ่าๆๆๆ” ด้านข้างเขาถังหยวนลูบเคราด้วยรอยยิ้ม “ซือ .. เจ้าเรียกสัตว์ร้ายตัวใหญ่เช่นนี้เจ้าไม่กลัวหรอกหรือว่าข้าจะใช้คาถามนตร์สะกดศักดิ์สิทธิ์”
“เจ้าไม่กล้า ..” ซือซุยหลงย่อสัตว์ร้ายของเขาให้มีขนาดเท่าเดิมทันที ท้ายที่สุดเขาใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนมันคงจะน่าเศร้าหากถูกแย่งไปด้วยมนตร์สะกด
“ฮ่าๆๆๆ” ต้วนยือผู้อาวุโสที่สวมเสื้อคลุมสีทองของกลุ่มเฮารันเดินออกจากร้านพร้อมเสียงหัวเราะ
“ศิษย์น้องทำไมเจ้าถึงดูมีความสุขขชนาดนี้?” หัวหน้ากลุ่มเฮารันถามด้วยความสงสัย
“ดี! ข้าเพิ่งพูดคุยเกี่ยวกับผู้ฝึกฝนของตาจินทาง QQ และพบว่าพวกเขามีทักษะพิเศษในการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ” ต้วนยือกล่าว “ศิษย์พี่อาวุโสกลับกันตอนนี้ถอะ บางทีเราอาจสามารถเลียนแบบกระจกสวรรค์ได้!”
“อะไร!?”
ข้อโต้แย้งทั้งหมดหยุดลงในทันที ทุกสายตาจับจ้องไปที่ต้วนยือ
“เจ้าว่าอะไรนะ!?”
“อย่ามองข้าแบบนั้น” ต้วนยือบอก “แน่นอนเราไม่สามรถเลียนแบบพลังหรือความสามารถเดิมของกระจกสวรรค์ได้ แต่เราสามารถเข้าใจถึงโครงสร้างของมันและสลักรูนเพื่อสร้างมันขึ้นมาได้”
ท้ายที่สุดผู้ฝึกฝนในโลกนี้หลายคนไม่ได้เป็นคนโง่เขลา หากวางสิ่งของต้นฉบับไว้ข้างหน้าเพื่อให้พวกเขาได้ศึกษาไม่มีอะไรที่พวกเขาทำไม่ได้มันไม่ออกมาสูญเปล่าแน่นอนแม้จะใช้เวลาหลายปีก็ตาม
“เยี่ยม!” หัวหน้ากลุ่มเฮารันชื่นชมด้วยความเบิกบาน “ตราบใดที่เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้เราจะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่มีพร้อมกำลังคนพวกเราทุกคนกลุ่มเฮารันอยู่ในกำมือเจ้า!”
“อืม .. นี่ ..” นักบวชเต๋าเทียนซูแห่งวังยี่มุเดินเข้ามา “มันคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปีในการฝึกฝนและทำความเข้าใจ ทำไมเราไม่ ..”
“พันธมิตรวู่เว้ยเสนอเราว่าเราสามารถสอบถามและแบ่งปันผลการวิจัยผ่านการพูดคุยในกลุ่ม QQ”
“เป็นความคิดที่ดี!”
“ไปสร้างกลุ่มกันเถอะ!”
“เราสามารถสร้างชุมทรัพย์อันล้ำค่าแบบกลุ่มอี้เมยได้แม้ว่าสาวกของเราจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าพวกเขาก็เถอะ”
“ฮ่าๆๆๆ ใช่! เราควรสร้างรูปแบบที่มีคุณสมบัติทางจิตวิญญาณที่ดีกว่าดังนั้นไม่มีใครจะพรากมันไปจากพวกเราได้แน่นอน!”
“หลังจากได้คุยแล้ว ..” อาจารย์ของหลายๆ กลุ่มมองหน้ากันและพูดว่า “บางทีเราอาจจะต้องเสริมเติมแต่งและใช้ทรัพยากรมาขึ้นในโครงการนี้”