Black Tech Internet Cafe System - ตอนที่ 144
ปกติแล้วฟางฉีจะใช้เวลาทั้งวันเฝ้าร้านหรือไม่ก็เล่นเกม นี่ก็หลายชั่วโมงแล้วฟางฉียังไม่กลับมา ครั้งสุดท้ายที่ออกไปนานขนาดนี้ก็ตั้งแต่วันที่ออกไปดูธุรกิจนิยาย Diablo
ด้วยฝรมือของเจียงเสี่ยวหยูที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้เขาจำเป็นต้องออกไปกินข้าวนอกบ้านเลย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากไม่มีอะไรจำเป็นเขาก็จะไม่ออกไปไหน
ฟางฉีรู้สึกประหลาดใจทั้งๆ ที่เขาอยู่ข้างนอกโดยไม่มีคอมพิวเตอร์แต่เขาก็สามารถเห็นข้อความแสดงความเห็นผ่านหน้าอินเทอร์เฟชได้
บนหน้าจอยักษ์ที่ร้านในตอนนี้ ปรากฏการถ่ายทอดสดของฟางฉีขึ้น เขาหันไปมองที่หน้ากล้อง “วันนี้ฉันจะไม่เล่นเกม แต่ฉันจะถ่ายทอดสดตอนฉันอยู่ข้างนอกให้ดู”
บูเช่และโอหยางเชงหันไปมองที่หน้าจอ “ทำไมวันนี้เขาเล่นเกมให้เราดู อยู่ข้างนอกสนุกตรงไหน?”
“ใช่ ฉันต้องการดูเขาเล่นเกม แต่เขากลับออกไปข้างนอก!” เซียวหยูมองไปที่หน้าจอยักษ์ที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ “ถ้าข้างนอกสนุก ฉันจะมาที่นี่ทุกวันทำไม”
“พวกท่านกำลังดูอะไรกันอยู่หรือ?” คนกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงขีดจำกัดของเวลาในวันนี้ ลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อมาดูการถ่ายทอดสด
ซัวเต๋าชำเลืองมองที่หน้าจอยักษ์ “เจ้าเด็กคนนั้นไปทำอะไรที่นั่น?”
“ถ่ายทอดสดกลางแจ้ง?” หลายคนดูสับสัน พวกเขาสามารถออกไปข้างนอกได้ตลอดเวลา ทำไมฟางฉีต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ดูด้วย
ในฐานะเจ้าของคาเฟ่ ฟางฉีรู้ว่าตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายทอดสด เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่เพิ่งเล่นเกมเสร็จและกำลังจะหาอะไรทำหรือเดินออกจากร้าน แต่ขณะนี้คนในร้านส่วนมากกำลังเฝ้าดูเขาอย่างใจจดใจจ่อ
“สถานที่นี้อยู่นอกประตูทางตะวันออกหรือเปล่า?” ด้านนอกประตูเมืองมีนักรบและผู้ฝึกฝนหลายคนที่เดินทางมาจากนอกเมือง หรือบางคนกำลังเดินางออกจากเมืองและจุดที่ฟางฉียืนอยู่คือจุดหนึ่งที่มีผู้คนไม่น้อย
ฟางฉีขยับเข้าไปใกล้ผู้คนก่อนที่เขาจะดึงดาบออกมา
“ทำไมเขาเอาดาบตกแต่งออกมา”
“เขาจะใช้สกิลดาบที่นั่นหรือ?” อันเชงคาดเดาขณะมองไปที่ผู้คน
อันหูเว้ยวิ่งไปหาพวกเขาทันทีที่ได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน “เขากำลังจะทำอะไรน่ะ!?”
ผู้คนในคาเฟ่ต่างฮือฮา ขณะเดียวกันางฉีก็ใช้พลังภายในเพื่อบังคับดาบให้ลอยขึ้น ตอนนี้มันกำลังลอยอยู่เหนืออากาศตรงหน้าเขา
ฟางฉียกเท้าขึ้นแล้วเหยียบลงบนดาบ มันค่อนข้างนิ่งและทรงตัวได้
ผู้คนที่กำลังรับชมเห็นแบบนั้นพวกเขากล่าเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่นะ เขากำลังจะออกตัว ..”
“หึ! ฉันว่าไปไม่กี่เมตรเดี๋ยวก็ล่วงละ” ซูเทียนจิพูดน้ำเสียงดูถูก
“หืม? พวกท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?” ตงชิงลี่ทำหน้าสับสน
“การเคลื่อนไหวนี้คือเทคนิคที่เรียกว่าเทคนิคการควบคุมดาบ” เซียวหยูอธิบาย “แต่จากความแข็งแกร่งในการบ่มเพาะของเขาปัจจุบันเขาน่าจะบินได้ในระยะทางประมาณ 50 เมตรในโลกแห่งความจริง”
เขาลูบคางและพูดต่อ “เพื่อแสดงความเคารพต่อเขา ฉันขอเอ่ยอวยพรว่าเขาสามารถไปได้อย่างน้อย 100 เมตร!”
ก่อนที่จะพูดจบประโชคฟางฉีเคลื่อนที่โดยใช้ดาบ ความเร็วของมันตอนนี้เร็วจริงกว่าจรวด
“ชิบ .. อะไรว่ะน่ะ!” เซียวหยูสบถด้วยความงี่เง่า
“เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไง? เหมือนกับเราตอนที่อยู่ในเกมยังไงยังงั้น” ซูเทียนจิที่เคยกล่าวดูแคลนรู้สึกงงใจไม่แพ้กัน
เขาขโมยเทคนิคการควบคุมดาบจากหลี่เสี่ยวเหยามาหรอ!?
“อ๊ะ ..” เฟงวูและยูซินกรีดร้องอยู่ด้านหลังซูเทียนจิ “ทำไมเขาบินได้สูงขนาดนี้”
“ว้าว! ฉันอิจฉาเขาจัง” เยเสี่ยวเย้ส่งเสียด้วยความตื่นเต้น “ฉันอยากบินด้วย”
“นี่นาย! นายโกงหรอ” อันเชงจ้องมองด้วยความตะลึง แม้เขาจะสามารถบินด้วยเทคนิคการควบคุมดาบได้ แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นเลย หากเป็นผู้บ่มเพาะธรรมดาคงต้องใช้เวลาฝึกอย่างน้อยเป็นปีๆ ถึงจะเชี่ยวชาญเทคนนิคนี้
นี่ฉัน .. เรียนรู้มานานแค่ไหนแล้วนะ?
เทคนิคการควบคุมดาบในเกมนั้นทรงพลัง แต่มันทรงพลังแค่ในเกม เหมือนกันกับการดูโฆษณากว่าจะทำได้คงต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างหนัก ดังนั้นนี่จึงทำให้ผู้ชมต่างตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้รู้ว่าในโลกแห่งความจริงก็สามารถทำได้เหมือนในเกมเช่นกัน
“เจ้าของร้านนั้นเยี่ยมมาก!” ทุกคนมองหน้าจอด้วยสายตาชื่นชม
[นายทำได้อย่างไร?]
[ผู้อาวุโสคนนั้นต้องแอบให้บทเรียนส่วนตัวกับนายแน่ๆ มันไม่ยุติธรรม!]
“ฉันสาบานได้เลยว่านักรบหรือผู้ปลูกฝังที่อยู่รอบๆ ระแวกนั้นต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน”
ผู้คนที่อยู่ระแวกนั้น ต่างตกตะลึง “ข้าไม่เคยเห็นใครที่สามารถบินได้แบบนี้มาก่อน”
[ท่านขอเราดูหน้าตาผู้คนแถวนั้นหน่อยสิ]
ความเห็นท่วมหน้าจอ!
ขณะเดียวกันตงชิงลี่และจางวันยูอ้าปากค้างมองหน้ากันด้วยความตกใจ
“เขาทำแบบนี้ได้อย่างไร!?”
“ด้วยดาบสวรรค์เราสามารถเดินทางไปยังสวรรค์และโลกใต้ทะเล” มีคนกำลังตะโกนอยู่ในคาเฟ่
เนื่องด้วยผู้เล่นในเมืองจิวหัวถูกจำกัดไม่ให้มาที่คาเฟ่แห่งนี้ ลูกค้าส่วนมากจึงเป็นคนที่มาจากกลุ่มโอเชียนและคนจากวังหลิวหยุน
เทคนิคที่พวกเขาโปรดปรานอีกเทคนนิคก็คือเทคนิคการควบคุมดาบ ..
“เทคนิคการควบคุมดาบนั่นสุดยอดจริงๆ”
“เขาสามารถบินได้ด้วยเทคนิคนี้ในโลกแห่งความจริง มันเจ๋งไปเลย!”
“นั่น เจ้าเห็นนั้นมัยลมที่รุนแรงบนท้องฟ้ากำลังถูกแยกออกจากกันด้วยพลังดาบ ไม่ต้องกังวลกับความปลอดภัยจากพายุเลย!”
“อ่า นายพาฉันไปด้วยคน” ศิษย์หลายคนจากวังหลิวหยุนตะโกน
[ฉันอีกคน] อันเชงส่งข้อความ
[นาย! เราต้องการสัมผัสเทคนิคนี้อย่างใกล้ชิด พาเราไปบินด้วยคน]
คำขอพุ่งขึ้นหน้าจอเรื่อยๆ ทุกคนต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น
[อ่า ฉันอยากให้เขาพาฉันไปด้วยคน] เยเสี่ยวเย้ส่งความเห็นขึ้นไปบนหน้าจอ
[ถ้าเขาจะรับใครสักคน คนนั้นคงเป็นฉัน!] เจียงเสี่ยวหยูแอบส่ง
ในขณะเดียวกันฟางฉีที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าก็หยิบหยกสื่อสารออกมาอ่านข้อความล่าสุด
[มันไม่เป็นไร หากที่ร้านแห่งนี้ไม่ต้อนรับฉัน แต่ฉันหวังว่านายจะพาฉันบินด้วยคน โปรดให้โอกาสฉันด้วย – เซียวหยู]
ใบหน้าของฟางฉีมุ่ย ชายคนนี้อยู่ในบัญชีดำของฉันยังกล้าติดต่อผ่านหยกสื่อสารฉันอีกหรอ
จากนั้นเขาหันไปพูดกับกล้องว่า “ฉันเสียใจจริงๆ ที่การถ่ายทอดสดในวันนี้พาใครมาด้วยไม่ได้ คราวหน้าอาจไม่แน่”
เมื่อได้ยินแบบนั้นในร้านเกิดความโกลาหลทันที!
“นายกำลังสนุกอยู่คนเดียว แต่ดันมาอวดให้เราดู!”
“นายไม่อายบ้างหรอ?”
“นายมันใจร้าย วันนี้ฉันจะประท้วง ฉันจะไม่เล่นเกม” อันเชงเล่นครบหกชั่วโมงแล้วแต่เขาส่งข้อความด้วยหน้ามุ่ยๆ
“หึ เทคนิคการควบคุมดาบนี้เป็นของฝ่ายใด? ทำไมฉันไม่เคยเห็นมัน มันดูทรงพลังมาก” มีเพียงผู้เล่นใหม่อย่างตงชิงลี่ที่ไม่อิน
“มันเป็นของกลุ่มเขาชูชาน” คนอื่นตอบ
“โอ้ ฟางฉีเป็นสาวกของกลุ่มชูชานหรอ?”
“พวกเราเป็น” เยเสี่ยวเย้โบกมือ และชูกำปั้นด้วยศรัธทาแรงกล้า
ข้างหลังเธอคือเยซงเต๋าพร้อมสาวกจากกลุ่มโอเชียน นี่ถ้าเยเสี่ยวเย้ไม่ใช่ลูกสาวเขาหัวหน้ากลุ่มป่านนี้เธอคงหัวแบะไปแล้ว
“พี่สาวคนสวย ท่านต้องการเล่นเซียนกระบี่พิชิตมารและเข้าร่วมกลุ่มชูชานกับพวกเรามั้ย?” เยเสี่ยวเย้ถาม
“เราสามารถเข้าร่วมกลุ่มชูชานหลังจากเล่นเกมได้หรือไม่?” ตงชิงลี่และจางวันยูมองพวกเขา
พวกเธอสองคนรู้สึกแปลกใจไม่เคยได้ยินกับข้อเสนอเช่นนี้มาก่อน!