Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 1540 ชื่อสะท้านสมรภูมิเก้าดินแดน
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 1540 ชื่อสะท้านสมรภูมิเก้าดินแดน
“มหาจักรพรรดิแยกฟ้า?”
หลินสวินเลิกคิ้ว สายตากวาดมองแดนลับวังใต้ดินอันพิสดารแห่งนี้ ในใจแอบพูดว่า หรือนี่คือฝีมือของมหาจักพรรดิคนหนึ่ง
นึกถึงซากศพอสูรอริยะอากาศที่ถูกผีเสื้อมารแยกฟ้าดูดพลัง สามารถสังหารสัตว์ประหลาดน่ากลัวระดับกึ่งจักรพรรดิได้ มีเพียงบุคคลระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถทำได้
ต้นบรรพชนหลอมจิตกล่าว “เจ้าเดาไม่ผิด ที่แห่งนี้มหาจักรพรรดิแยกฟ้าเป็นคนทิ้งเอาไว้ ตอนนั้นเพื่อล่าอสูรอริยะอากาศตัวนั้น ยามตะบึงผ่านความว่างเปล่าโดยรอบ เขาบุกเข้ามาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ ถูกขังอยู่นานสิบปีจึงหลุดพ้นไปได้”
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัด “มหาจักรพรรดิคนหนึ่งถูกขังที่นี่หรือ”
ต้นบรรพชนหลอมจิตพูดอย่างประหลาดใจ “หรือเจ้าไม่รู้ว่ากฎระเบียบฟ้าดินของสมรภูมิเก้าดินแดนแห่งนี้ สามารถกำราบตัวตนที่เหนือกว่าระดับอริยะแท้”
หลินสวินขานรับว่าอ้อ เพิ่งจะเข้าใจตอนนี้ พลันพูดว่า “บอกที่มาของเจ้าหน่อยสิ”
ต้นบรรพชนหลอมจิตถอนหายใจ “เรื่องในอดีตไม่อยากจะหวนคิดถึง ตอนนั้นข้ากับมหาจักรพรรดิแยกฟ้าออกเดินทางพร้อมกัน ข้ามความว่างเปล่าโดยรอบ พุ่งทะยานในใต้หล้า โดดเด่นเพียงใด แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกขังที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนที่มหาจักรพรรดิแยกฟ้าจากไป เดิมทีตัดสินใจจะพาข้าไปด้วย แต่เพราะปัญหาเรื่องพลังกฎระเบียบ สุดท้ายเขาก็ต้องจากไปเพียงลำพังก่อน”
หยุดไปครู่หนึ่งเขาพูดต่อว่า “แน่นอน ตอนที่มหาจักรพรรดิแยกฟ้าจากไป เคยรับปากว่าในอนาคตจะมารับข้า”
หลินสวินหัวเราะเยาะเอ่ยว่า “ขืนเจ้ายังพูดจาซี้ซั้ว อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
ต้นบรรพชนหลอมจิตต้นหนึ่งเท่านั้น กลับกล้าคุยโวว่าปรากฏตัวพร้อมกับมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าพูดซี้ซั้ว
ต้นบรรพชนหลอมจิตพูดอย่างเดือดดาล “เจ้าไม่เชื่อหรือ”
หลินสวินคร้านจะพูดไร้สาระแล้ว พลันเอ่ยตรงๆ “ตัดสินใจเถอะ จะไปกับข้าหรือไม่”
ต้นบรรพชนหลอมจิตเงียบ ครู่ใหญ่จึงพูดว่า “เจ้าอยากพาข้าไปก็เพื่อต้นกำเนิดหลอมจิต ใช้มันหล่อเลี้ยงศาสตราอริยะบริสุทธิ์ ข้าสามารถรับปากเจ้าได้ แต่ต้องรับปากช่วยข้าหาสมบัติอย่างหนึ่ง”
“สมบัติอะไร”
“ดินปราณแรกกำเนิด”
ได้ยินเช่นนี้ หลินสวินแทบจะฟันดาบใส่ลำต้นนี้แล้ว โลภมากจริงๆ!
ดินปราณแรกกำเนิด นั่นเป็นถึงสมบัติในตำนาน หลินสวินยังสงสัยเลยว่าบนโลกนี้มีสมบัติล้ำค่านี้หรือไม่
“เจ้าหนุ่ม อย่าเพิ่งใช้อารมณ์ ไม่มีดินปราณแรกกำเนิด ดินอัศจรรย์ห้าสีก็ได้”
ต้นบรรพชนหลอมจิตรีบเอ่ย
หลินสวินใบหน้าไร้อารมณ์ มุมปากกลับกระตุกอย่างยากจะสังเกตเห็นทีหนึ่ง ดินอัศจรรย์ห้าสี นั่นเป็นถึงยอดสมบัติมหัศจรรย์ที่รวบรวมต้นกำเนิดปัญจธาตุฟ้าประทานเชียวนะ ลือกันว่ามีเพียงในแหล่งสถานคุนหลุนจึงจะสามารถหาได้!
“อันนี้ก็ไม่ได้หรือ ช่างเถอะ ข้าถอยอีกก้าว ทรายวิญญาณดาราขุ่นใสเป็นอย่างไร ก็ยังไม่ได้หรือ เช่นนั้นวารีแรกปฐมเป็นอย่างไร หากเช่นนี้ยังไม่ได้ ข้าก็ไม่มีวิธีแล้ว…”
ต้นบรรพชนหลอมจิตบ่นพึมพำ
คำตอบของหลินสวินง่ายมาก หยิบดาบกระดูกขาวขึ้นมาแล้วเริ่มนับ “หนึ่ง สอง…”
ไม่รอนับถึงสาม ต้นบรรพชนหลอมจิตก็ตะโกน “ได้ ไปกับเจ้า!”
ซ่า…
ร่างกายของเขาส่ายไปมาระลอกหนึ่ง พลันกลายเป็นกิ่งไม้สีเขียวขจีท่อนหนึ่ง พร่างพรมแสงมรรคที่งดงามอย่างที่สุด มหัศจรรย์ไร้ที่เปรียบ
เพียงแต่มันยังคงเหมือนไม่จำยอม ร้องว่า “มหาจักรพรรดิแยกฟ้ายังไม่เหี้ยมเท่าเจ้าเลย! ข้าจะจำเจ้าไว้!”
หลินสวินพูด “ไม่ต้องห่วง ในอนาคตหากมีโอกาส ข้ารับรองว่าจะหาสมบัติที่เจ้าอยากได้มาให้”
“เจ้าเป็นคนพูดนะ เจ้าจะโกหกข้าเหมือนคราวก่อนไม่ได้เชียว”
ต้นบรรพชนหลอมจิตบ่น
หลินสวินเก็บมันเข้าเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดโดยตรง
ตอนนี้รั่วอู่พาตัวผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้นเข้าไปไว้ในสมบัติชิ้นหนึ่ง แล้วเดินมาทางนี้
“เอ๊ะ ต้นไม้ต้นนั้นล่ะ” นางถามอย่างประหลาดใจ
หลินสวินยิ้มพูด “ถอนไปทั้งรากแล้ว ต้นไม้เทพนี่แม้จะจู้จี้ไปหน่อย แต่กลับเป็นสมบัติชั้นดีในการหลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์ ต่อไปหากเจ้าต้องการก็มาหาข้าได้”
รั่วอู่อึ้ง “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”
ก่อนไปหลินสวินสำรวจแดนลี้ลับแห่งนี้อีกรอบ
เรือนสังหารจิต หอยอดมรรค หอแรกกำราบ ศาลาแสวงสัจ… แต่ละแห่งดูเหมือนธรรมดา ความจริงล้วนมีนัยเร้นลับยิ่งใหญ่
ที่น่าเสียดายคือนัยเร้นลับประเภทนั้นจะฝืนเสาะแสวงไม่ได้ ทำได้เพียงสัมผัสโดยบังเอิญ จึงจะได้รับการเคี่ยวกรำและบททดสอบ
‘ต่อไปจะต้องถามต้นบรรพชนหลอมจิตให้ละเอียด ว่ามหาจักรพรรดิแยกฟ้าคนนั้นเป็นบุคคลระดับใดกันแน่’
หลินสวินพึมพำในใจ
ทั้งสองไม่ชักช้า พาเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าออกจากแดนลับวังใต้ดินในวันนั้น
……
และวันเดียวกัน ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่หลินสวินบุกสังหารสามหมื่นลี้ก็ราวกับสายลมที่พัดกวาดไปทั้งโลกมารโลหิต
ทันใดนั้นขุมอำนาจที่ประจำการอยู่ในแต่ละพื้นที่ของโลกมารโลหิตล้วนสะเทือนกันถ้วนหน้า เกิดความโกลาหลขึ้น
คนผู้หนึ่ง บุกสังหารตลอดทางสามหมื่นลี้ ฆ่ามกุฎอริยะกลุ่มใหญ่หน้าเมืองอารักษ์มรรค!
คนผู้เดียว ปิดข่มเมืองทั้งเมือง!
ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนสองครั้งที่ผ่านมา เคยเกิดเรื่องน่าสยดสยองนองเลือดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
สิ่งที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตอึดอัดใจที่สุดคือ คนที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้ คือคนรุ่นเยาว์ที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง
“แพะสองขาตัวหนึ่ง กลับสังหารมกุฎอริยะนับสิบคนหรือ”
“ว่ากันว่าเขาคนเดียวก็ปิดเมืองอารักษ์มรรคไว้แล้ว ทำให้ไม่มีใครกล้าสู้กับเขา นี่… เป็นไปได้อย่างไร”
“น่าอาย! น่าอับอายยิ่งนัก!”
เสียงฮือฮานับไม่ถ้วนดังขึ้น
ข่าวนี้น่าตกใจเกินไปจริงๆ และปิดบังไม่อยู่ จนกระทั่งตอนหลังข่าวยิ่งแพร่กระจายในโลกมารโลหิตด้วยความเร็วน่าตกใจ
โลกต้าหลัว โลกยอดหยิน โลกจิ่วหลี โลกขุมอุดร… ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลแต่ละแห่งของสมรภูมิเก้าดินแดน ไม่นานในอาณาเขตของแต่ละดินแดนต่างก็รู้ข่าว
“หลินสวินหรือ คนหนุ่มดินแดนรกร้างโบราณ กลับบุกสังหารจนโลกมารโลหิตสั่นไหวไม่สามารถสงบได้?”
“นี่เป็นไปไม่ได้กระมัง”
ปฏิกิริยาแรกของผู้แข็งแกร่งมากมายก็คือยากจะเชื่อ
ควรรู้ว่าดินแดนรกร้างโบราณอ่อนแอมานานแล้ว ไม่อยู่ในสายตาของอีกแปดดินแดน ใครจะกล้าเชื่อว่าดินแดนที่ตกต่ำไปตั้งนานแล้วแห่งนี้จะปรากฏคนร้ายกาจเย้ยฟ้าคนหนึ่ง
“เรื่องนี้หากเป็นจริง ก็พิสูจน์ได้ว่าหลินสวินนี่ไม่เพียงบรรลุมกุฎอริยะ พลังต่อสู้ยังไม่เหมือนทั่วไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะสามารถสังหารมกุฎอริยะสิบกว่าคนเพียงลำพังได้อย่างไร”
“นี่ไม่ใช่หมายความว่า หลินสวินมีรากฐานพลังที่สามารถสู้กับแปดยอดนภาครามได้หรอกหรือ”
“ตรวจสอบสักหน่อยว่าหลินสวินคนนี้เป็นบุคคลเช่นใดกันแน่!”
เสียงถกนับไม่ถ้วนดังขึ้นในสมรภูมิเก้าดินแดน
ผลการต่อสู้นองเลือดเช่นนี้น่าตกใจเกินไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจไม่จับตามองได้
ขณะเดียวกันความดุดันและความเย็นชาของหลินสวิน ก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยของแต่ละดินแดนตกใจ ตัวคนเดียวก็บุกสังหารมาถึงหน้าเมืองอารักษ์มรรคของโลกมารโลหิต ข่มจนไม่มีคนกล้ารับศึก นี่จะน่ากลัวเพียงใด
“ฮ่าๆๆ ดินแดนโบราณมารโลหิตดันเพลี่ยงพล้ำในมือแพะสองขาคนหนึ่งเช่นนี้ ช่างขายหน้าจริงๆ”
“ฮึ ข้าอยากรู้มากกว่า ว่าหากเซวี่ยชิงอีรู้เรื่องนี้จะคิดอย่างไร”
“ครั้งนี้ดินแดนโบราณมารโลหิตขายหน้าจนไม่เหลือสภาพจริงๆ แต่หลินสวินก็เท่ากับล่วงเกินดินแดนโบราณมารโลหิตอย่างสิ้นเชิง ต่อไปจะต้องประสบเคราะห์ถูกทำลายล้างแน่!”
และมีหลายคนมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
ระหว่างแปดดินแดนแม้จะร่วมมือกัน แต่นั่นสำหรับเล่นงานดินแดนรกร้างโบราณเท่านั้น
หลังจากกวาดล้างดินแดนรกร้างโบราณจนสิ้น ระหว่างแปดดินแดนก็จะดำเนินการต่อสู้เช่นกัน
พูดสั้นๆ ก็คือประโยคที่ว่า ตัดรกร้างโบราณก่อน ค่อยประชันสูงต่ำ!
แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของสมรภูมิเก้าดินแดน ตอนที่รู้ข่าวเหล่านี้ก็เป็นอีกปฏิกิริยา
“หลินสวิน! เขาบรรลุมกุฎอริยะแล้ว!”
มีคนประหลาดใจ
“ดียิ่งนัก ในที่สุดก็มีคนออกหน้าเป็นตัวแทนพวกเราแล้ว!”
มีคนตื่นเต้นจนน้ำตาเอ่อ
เวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งปี แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้ ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของสมรภูมิเก้าดินแดนถูกสังหารไปไม่รู้เท่าไหร่
ศัตรูจากแปดดินแดนล้วนมองพวกเขาเป็นแพะสองขา ดำเนินการกวาดล้างสังหาร ทุกคนที่ถูกพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นใครก็หนีความตายไม่พ้น!
ภายใต้บรรยากาศที่น่ากลัวเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณไม่รู้เท่าไหร่เริ่มหมดหวังแล้ว
แต่ตอนนี้หลินสวินกระโดดออกมา ทำให้เกิดคลื่นลมนองเลือดเต็มฟ้า ตัวคนเดียวกำราบหนึ่งเมือง!
นี่จะไม่ให้ฮึกเหิมตื่นเต้นได้อย่างไร
“สะใจ! ข้ารู้อยู่แล้วว่าหลินสวินจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง ในสมรภูมิเก้าดินแดน ขอเพียงมีเขาอยู่ ดินแดนรกร้างโบราณของเราก็มีหวัง!”
หลายคนตะโกน
“ศิษย์พี่ ท่านได้ยินหรือยัง หลินสวินบรรลุมกุฎอริยะแล้ว สังหารศัตรูจนอกสั่นขวัญหนี!”
และมีคนร้องไห้โฮ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
ในช่วงนี้พื้นที่แต่ละแห่งของสมรภูมิเก้าดินแดนล้วนเกิดการเข่นฆ่านองเลือด ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณไม่รู้เท่าไหร่จากไปนานแล้ว และถูกกำหนดให้ไม่อาจได้ยินข่าวที่น่าตื่นเต้นนี้ ทำให้คนเศร้าใจนัก
สรุปแล้วการต่อสู้ครั้งนี้ของหลินสวินสะเทือนไปทั้งสมรภูมิเก้าดินแดน ทำให้ศัตรูจากแปดดินแดนต่างสั่นไหว จำชื่อหลินสวินได้แม่น!
……
โลกรกร้างโบราณ
พื้นที่ใจกลางสมรภูมิเก้าดินแดน
เดิมทีนี่ควรจะเป็นอาณาเขตของดินแดนรกร้างโบราณ แต่หลังจากพ่ายแพ้อย่างยับเยิบในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนสองครั้งก่อนหน้า ที่นี่จึงกลายเป็นพื้นที่ที่อีกแปดดินแดนสามารถแบ่งกันได้ตามใจ
ดังเช่นเมื่อสมรภูมิเก้าดินแดนครั้งนี้เริ่มขึ้น หลังจากผู้แข็งแกร่งค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณเข้ามา ก็เลือกจะออกจากโลกรกร้างโบราณในทันที
ด้านหนึ่งเพราะรู้ดีว่า ด้วยพลังของดินแดนรกร้างโบราณในตอนนี้ เมื่อเทียบกับอีกแปดดินแดนแล้วยังคงห่างชั้นมากเกินไป
อีกด้านเพราะการอยู่ที่นี่ต่ออันตรายเกินไป จะถูกผู้แข็งแกร่งอีกแปดดินแดนล้อมสังหารพร้อมกัน!
สำหรับผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณ มีเพียงอยู่รอดก่อนจึงจะสำคัญที่สุด
ตอนที่หลินสวินมาถึงโลกรกร้างโบราณ ก็เป็นสิบวันให้หลังแล้ว
ระหว่างทางนี้มิได้สงบนัก ไปถึงไหนก็เจอศัตรูแปดดินแดนแทบทุกที่ พวกเขาเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มก้อน พลังยิ่งใหญ่
ทว่าตอนที่เจอกับหลินสวินล้วนถูกกำจัดทั้งหมด
และระหว่างทางหลินสวินก็ได้รู้ข่าว ว่าแดนลับนรกโลกันตร์ปิดม่านลงแล้ว!
ในการช่วงชิงวาสนาการบรรลุมกุฎอริยะครั้งนี้ ในบรรดาบุคคลแห่งยุคที่มาจากดินแดนอื่นๆ อีกแปดดินแดน อย่างน้อยมีหนึ่งในสิบก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะ
ตัวเลขนี้เรียกได้ว่าน่าตกใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ที่น่าเสียดายคือข่าวที่หลินสวินรู้ไม่ได้มีมาก
สิ่งเดียวที่รู้ชัดคือ บุคคลชั้นยอดแห่งยุคแปดคนที่ถูกเรียกว่า ‘แปดยอดนภาคราม’ ก็ล้วนบรรลุมกุฎอริยะในครั้งนี้!
“ว่ากันถึงแก่นก็เพราะดินแดนรกร้างโบราณอ่อนแอเกินไป ต่อให้เป็นการช่วงชิงวาสนา ก็จะถูกคนขัดขวางและกำราบ ไม่มีแรงไปแย่งชิง”
หลินสวินถอนหายใจคราหนึ่ง
ตอนนี้เขายืนอยู่บนฝั่งมหาสมุทรสีดำที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างที่สุด
——