BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++ - โคตรเลว #41 - พูดมาก
ดวงตากลมโตใต้แพขนตางอนสวยที่ปัดไปด้วยมาสคาร่าเบาๆมองโต๊ะที่จัดเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายตรงหน้า เมื่อโจรหนุ่มหยุดฝีเท้าแล้วคลายพันธนาการออกจากแขนเรียวของเธอ เดินไปหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะนั้น
“นายลากฉันมากินข้าวริมหาดเนี่ยนะ” ใบหน้าสวยละสายตาจากอาหารบนโต๊ะตรงหน้าหันไปถามคนที่นั่งอยู่ ใช่! ตรงที่เขาพามาคือริมชายหาดใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของแดดอ่อนๆและลมทะเล
“อืม” เพลิงครางตอบในลำคอ แล้วตักกับข้าวอย่างหนึ่งมาใส่จานของตัวเอง
“ทำไมไม่กินในบ้าน”
“อยากกินตรงนี้” ว่าจบมือหนาก็ตักข้าวใส่ปากอย่างไม่รีรอด้วยอาการหิวจัด เนเน่มองคนตรงหน้าด้วยความงุนงง ก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา พร้อมกับถามต่อ
“เพื่อ?”
“บรรยากาศดี” เขาว่าขณะที่เคี้ยวข้าวอยู่ในปาก
“…..” ก็ดูได้บรรยากาศดีไปอีกแบบนะ กินข้าวท่ามกลางสายลมที่พัดโชยไปมาและเสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งชั่งโรแมนติก “ไม่ยักจะเชื่อคนอย่างนายจะชอบบรรยากาศอะไรแบบนี้ด้วย..”
“..นึกว่าชอบปล้น ฆ่า ทำร้ายร่างกายคนอื่นอย่างเดียว”
“เลิกพูดมาก แล้วรีบแดกเข้าไปซะก่อนที่จะไม่มีปากไว้แดก” เริ่มชักจะรำคาญเมื่อเธอพูดมากไม่หยุด ดูวันนี้จะพูดมากกว่าวันไหนๆที่เอาแต่เงียบซึมๆถามอะไรไม่ค่อยอยากจะตอบ
“ทำไม นายจะทำอะไรฉัน” เธอเล่นหน้าเล่นตาโพล่งกลับอย่างไม่เกรงกลัวเจือไม่ยอม
“…..” ซึ่งเพลิงก็เงียบไม่โต้ตอบ ทำเมินเฉยตักข้าวเข้าปากต่อ
“จะทำร้ายหรือทรมานอะไรอีก”
เคล้ง!
มือหนาวางช้อนกระแทกลงไปในจานข้าวอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด อุตส่าห์ทำเมินแล้วคนตรงหน้าก็ยังเอาแต่พูดไม่หยุด ทำเอาเขาทนไม่ไหวจ้องหน้าเธอเขม็ง พลางกัดฟันแน่น
“ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมากนะ กูจะจับกระแทกตรงนี้” เขาแค่นเสียงลอดไรฟันบอกออกไปเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเธอยังพูดอีกได้เจอดีแน่
“จิ๊” ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เนเน่ก็เงียบทันควันทว่าจิ๊ปากเบาๆ ก่อนจะทำปากขมุบขมิบใส่เจ้าของคำพูดด้วยความหมั่นไส้ที่ตัวเองทำอะไรเขาไม่ได้ ขนาดแค่พูดมากยังใช้ให้เงียบเลยพอไม่พูดก็อยากให้พูดราวกับคนไบโพลาร์ยังไงยังงั้น
สองขาแกร่งก้าวเหยียบลงไปบนแผ่นไม้เก่าๆซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนลูกสาวเจ้านายในสลัมเถื่อน เมื่อมาถึงหลังจากไปตามหาคุณหนูที่บ้านเพื่อนอีกคนมาแล้วแต่ก็ไม่เจอเจ้าของอยู่แต่คนรับใช้ พอไปดูที่คอนโดก็ไม่อยู่อีกเช่นกันคงจะไปเรียนเลยมาดูที่นี่เป็นที่สุดท้ายเผื่อจะอยู่
ก๊อก! ก๊อก!
“คุณแคทอยู่ไหมครับ” ดีนยกมือขึ้นเคาะประตูที่ถูกปิดสนิท ก่อนเอ่ยเรียกเจ้าของบ้านตามหลัง
“…..” แต่ทว่าไร้ซึ่งเสียงขานรับ
ก๊อก! ก๊อก!
“คุณแคทอยู่ไหมครับ มาเปิดประตูให้ผมหน่อย” เขาจึงเคาะเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม แต่ก็ยังไร้ซึ่งเสียงขานรับเหมือนเดิม
คงจะไม่อยู่อีกคน
“มาหายัยแคทเหรอคุณ” ขณะที่ดินกำลังหมุนตัวเดินออกมา ก็เจอเข้ากับหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาถามขึ้น
“ใช่” คนถูกถามตอบกลับไปเสียงห้วนๆ
“ยัยแคทไม่อยู่หรอก ไปเรียนตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่กลับเลย”
“…..” ก็พอจะรู้อยู่แล้ว มือหนาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดรูปหนึ่งยื่นไปให้หญิงชราดูพร้อมกับเอ่ยถามออกไป “ช่วงนี้เห็นผู้หญิงคนนี้มาแถวนี้บ่อยไหม” หญิงชราชะโงกหน้า พลางเพ่งสายตามองหน้าจอใส่อย่างเห็นไม่ค่อยชัด เนื่องจากอายุเยอะแล้วสภาพจอประสาทตาเสื่อมไปตามกาลเวลา แต่ก็ไม่ถึงกับไม่เห็นเลยยังพอเห็นอยู่และรู้ด้วยว่าคือใคร
“นี่มันหนูเนเน่เพื่อนยัยแคทหนิ”
“รู้จัก?” ดินเลิกคิ้วเชิงถามคนตรงหน้าที่เงยหน้ามองเขาอยู่
“ใช่ ก็หนูเนเน่เคยมานอนกับยัยแคท ยายเลยรู้จักน่ะ” เธอพยักหน้าบอก ก่อนจะเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย “แล้วคุณเป็นใครเหรอ มาหายัยแคทและถามถึงหนูเนเน่ทำไม”
“ไม่ใช่กงการอะไรของยาย แค่ตอบมาว่าช่วงนี้เห็นเธอมาแถวนี้บ่อยไหม” น้ำเสียงทุ้มดุดันของดิน ทำเอาหญิงชราหน้าเสียเล็กน้อยราวกับกำลังถูกว่าเป็นคนเสือกยังไงไม่รู้
“ยายก็ไม่รู้เหมือนกันสายตาไม่ค่อยจะดี แต่เหมือนจะเห็นหลังไหว่ๆคล้ายๆกับหนูเนเน่มาอยู่บ่อยๆนะ”
“…..” ดินพ่นลมหายใจออกมาหนักๆอย่างเบื่อหน่ายกับความไม่แน่ใจของอีกคน เท้าใหญ่รีบสาวออกจากตรงนั้นโดยไม่ถามอะไรต่อ เป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดชะมัดเวลาคุยกับคนแก่ไม่เคยจะได้เรื่องสักที
ทว่ายังกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อกับความไม่แน่ใจของยายคนนั้นบางทีเธออาจจะเห็นคุณหนูของเขามาที่นี่บ่อยจริงก็ได้ ถึงสายตาคนแก่จะฟากฟางแต่บางทีความจำดีกว่าพวกวัยรุ่นเสียอีกใครจะไปรู้
@บ่อนเถื่อน
“สวัสดีครับนาย” บอลที่เดินไปมาตรวจความเรียบร้อยหยุดฝีเท้า ประนมมือไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายผู้ว่าจ้างของเจ้านาย เพียงแค่เห็นดินก้าวผ่านบานประตูเข้ามา
“นายมึงอยู่ไหม”
“คนอื่นอยู่ครับ แต่พี่เพลิงไม่อยู่”
“มันไปไหน”
“ผมไม่รู้ครับ ไม่เห็นพี่เพลิงเกือบอาทิตย์แล้ว”
“อืม ไปตามพวกที่เหลือมาพบฉันที่ห้องทำงานของพวกมัน”
“ครับ” สิ้นสุดการรับคำดินก็เดินขึ้นไปชั้นบนยังห้องทำงาน เพื่อรอถามอะไรบางอย่างกับผู้มีอิทธิพลที่นี่สักหน่อย
แกร็ก|
นั่งไขว่ห้างรออยู่บนเก้าอี้บนโต๊ะทำงานของเพลิงไม่นานหนักบานประตูก็เปิดขึ้น ตามด้วยร่างของเสือ เล้งและตี๋เดินเข้ามา
“ไอ้เพลิงไปไหน” ยังไม่ทันที่ทั้งสามคนจะได้เอ่ยอะไร ดินก็ชิ่งถามขึ้นเสียก่อนด้วยความอยากรู้
“ปะ..”
“พวกผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปไหน มันไม่ได้กลับมาบ่อนหลายวันแล้ว” ตี๋ที่กำลังจะอ้าปากบอกออกไปต้องหยุดชะงักเมื่อเล้งบอกแทรกขึ้นอย่างไม่อยากให้ใครรู้ว่าเพื่อนรักอยู่ที่ไหน เพราะที่นั่นคือที่ส่วนตัวของพวกเขาไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวาย ถึงแม้ผู้เป็นนายแค่ถามไปงั้นก็เถอะ
“อืม” ลำคอหนาครางรับรู้ออกมาเบาๆ ดินหยัดกายลุกขึ้น พร้อมกับในมือควงโทรศัพท์มือถือเล่นเดินมาหาคนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
“นายมาหาพวกผมมีอะไรหรือเปล่า” เป็นเสือที่เอ่ยถามทันทีที่ดินเดินมาหยุดตรงหน้าของพวกเขา
“พวกมึงเคยเห็นหรือรู้จักผู้หญิงคนนี้ชอบมาแถวนี้บ่อยๆไหม” ว่าแล้วดินก็ยื่นโทรศัพท์มือถือซึ่งเปิดรูปลูกสาวของเจ้านายตัวเองไปให้ลูกน้องทั้งสามคนดู
“นะ..นี่มัน..” เสือเบิกตาโพล่งด้วยความคิดไม่ถึงเมื่อเห็นรูปเนเน่อยู่บนจอโทรศัพท์ของดินไม่ต่างจากเล้งและตี๋ ทำไมนายถึงมีรูปเมียไอ้เพลิงในโทรศัพท์ได้วะ เขาพูดขึ้นในใจด้วยความงุนงงคงไม่ใช่สามีของเธอหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นเพื่อนรักของเขาได้ซวยแน่ๆ
“มึงรู้จัก?” ดินเลิกคิ้วถามหลังเห็นปฏิกิริยาของเสือทำท่าทีเหมือนจะรู้จัก
“เอ่อ..คือ”
“เธอคือใครเหรอนาย” ยังไม่ทันที่ดินจะได้คำตอบจากเสือ เล้งก็ย้อนถามขัดจังหวะขึ้นหลังแสร้งทำเป็นไม่รู้จัก ซึ่งเขาเองก็คิดไม่ต่างกันกับคนข้างๆเลยจึงต้องกันความปลอดภัยให้เพื่อนรักอย่างเพลิง
“พวกมึงมีหน้าทีตอบคำถามกู ไม่ใช่ให้มาย้อนถาม”
“พวกผมไม่รู้จักหรอกครับ ไม่ค่อยได้สนใจคนแถวนี้สักเท่าไหร่” ตี๋ว่าเชิงปัดๆ “แต่ถ้านายบอกพวกผมว่าเธอคือใคร พวกผมคอยเป็นหูเป็นตาให้ได้นะ”
“…..” เออก็ดีเหมือนกันมีคนคอยช่วยอีกแรง เขาเองจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาแถวนี้บ่อยๆจะได้ไปตามหาที่อื่นแทน ”เธอชื่อเนเน่เป็นคุณหนูของกูและลูกสาวของนายใหญ่พวกมึง” ดินจึงตัดสินใจบอกออกไป ทำเอาคนได้ยินยืนช็อคไปตามๆกัน
สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาคิดไว้มันไม่ใช่เลย หนักกว่านั้นอีกแล้วต่อจากนี้พวกเขาจะมีชีวิตรอดไหมเพื่อนรักเล่นทารุณลูกมาเฟียขนาดนั้น
ไม่อยากจะคิดเลย
“เชี้ย! งามไส้และไหมล่ะไอ้เพลิง ลากใครไม่ลากเสือกลากลูกมาเฟียมาทำเมีย” พอได้สติเสือก็สถบคำ พร้อมกับพูดออกมาเบาๆไม่ให้อีกคนได้ยิน แต่เพื่อนรักทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆได้ยินชัดเจน
—————————————