BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++ - โคตรเลว #59 - โหยหา
“…..” ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นระรัวกับคำพูดอ้อนวอนของโจรหนุ่มที่ไม่เคยได้สัมผัสเลย น้ำเสียงและคำพูดของเขาแตกต่างไปจากเดิมที่เคยได้ยิน ดูใจเย็นขึ้นไม่โมโหร้ายเหมือนที่ผ่านมา
ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะมีความรู้สึกรักใครเป็นด้วย
แต่คำพูดเพียงแค่นี้จะให้เธอยอมมันง่ายไปไหม แล้วสิ่งที่เธอเคยโดนเขาทำร้ายและทารุณอย่างเลือดเย็นล่ะจะให้ลืมไปง่ายๆไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ
ในความรู้สึกดีใจที่เขายังอยู่ประกอบกับไม่อยากให้เขาตายก็จริงเพราะอยากให้ลูกได้มีพ่อ ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ตรงนั้นไปไงส่วนหน้าที่อย่างอื่นไม่จำเป็น ระยะเวลาที่เพลิงหายไปจากชีวิตแม้จะมีนึกถึงบ้างทว่ามันมาจากจิตใต้สำนึกในความรู้สึกบางอย่าง แต่ความรู้สึกนั้นมันกลบความเจ็บปวดและความแค้นให้หายไปไม่ได้เลย
“เธอกับลูกคือคนที่ฉันรักสุดหัวใจ” ขณะที่เธอยังยืนนิ่งอยู่นั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยบอกออกมาอีกครั้งตามความรู้สึกของตัวเอง ที่เคยบอกว่าไม่หวังอยากได้ใจเธอตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วเขาอยากได้ทั้งตัวและหัวใจ
“จุนแม่กะ ยู้จัดเก๊าหย๋อ (คุณแม่คะ รู้จักเขาเหรอ)” ยังไม่ทันที่เนเนจะได้พูดอะไรเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนก็เอ่ยถามแทรกขึ้น พร้อมกับชี้นิ้วไปที่เพลิงด้วยความอยากรู้ เห็นผู้เป็นแม่ยืนคุยอยู่นานแล้วไม่ยอมเอาน้องกลับมาพาเธอไปขึ้นรถสักที
“พ่อหนูไงคะ” เป็นเพลิงที่บอกความจริงออกไปแล้วเอื้อมมืออีกข้างหนึ่งไปลูบศีรษะเพลินลินเบาๆ ทันทีที่รู้ว่าตัวเองมีลูกแฝดผู้หญิงก็พยายามปรับเปลี่ยนตัวเอง อาจจะดูแข็งกระด้างไปหน่อยเพราะมันเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้
“ป้อหย๋อ? (พ่อเหรอ)” เพลินลินขมวดคิ้วยุ่ง พลางหันขวับไปถามคนเป็นแม่ให้แน่ใจ ลึกๆแอบดีใจอยู่ไม่น้อยที่รู้ว่าได้มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ
“ป้อ? จุนแม่กะป้อหย๋อ (พ่อ คุณแม่คะพ่อเหรอ)” ไม่ต่างจากเพลงพิณก็ถามย้ำต่อ หันมองหน้าคนเป็นพ่อกับแม่สลับกันไปมา
“ค่ะ” คนถูกถามพยักหน้าตอบสั้นๆ ซึ่งเธอไม่ได้จะปิดบังอยู่แล้วยังไงสักวันลูกต้องรู้อยู่ดี การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ง่ายเลย แม้จะพยายามให้ความรักและเติมเต็มในส่วนที่ขาดแต่เหมือนกับว่ามันไม่พอสำหรับลูก สิ่งที่ลูกต้องการคือครอบครัวที่สมบูรณ์ ฉะนั้นเธอจึงจำเป็นต้องยอมลดทิฐิลงในส่วนของตรงนี้
“จุนป้อ (คุณพ่อ)” เรียกแล้วมือน้อยๆของเพลงพิณที่ถือของเล่นอยู่ก็โผตวัดกอดรัดลำคอหนาไว้แน่น พร้อมกับแนบศีรษะทุยซบลงบนบ่าแกร่ง แสดงความคิดถึงสุดหัวใจ คนเป็นพ่อรับรู้ได้ยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวในอ้อมแขนเบาๆ หันปลายจมูกโด่งคมกดหอมลงหนักๆด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน
“พ่อรักหนูนะ”
“จุนแม่กะน้อนเปลินหยาดปายหาจุนป้อ (คุณแม่คะน้องเพลินอยากไปหาคุณพ่อ)” พอเห็นน้องกอดพ่อก็อยากจะกอดบ้าง ไม่รอให้ผู้เป็นแม่ได้อนุญาตด้วยความไร้เดียงสาจึงรีบเอียงตัวพร้อมกับยื่นแขนทั้งสองข้างให้อีกฝ่าย
“อยู่กับคุณแม่เนี่ยแหละลูกคุณพ่อเขาอุ้มน้องอยู่”
“ไม่เป็นไรฉันอุ้มได้” โจรหนุ่มยื่นมืออีกข้างไปรับลูกสาวอีกคนมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนอีกฝั่ง แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปหอมแก้มยุ้ยฟอดใหญ่โดยที่คนน้องยังกอดอยู่ไม่ปล่อย ก่อนเพลินลินจะตวัดแขนขึ้นกอดลำคอหนาทับแขนน้องด้วย แนบศีรษะทุยซบลงบนบ่าแกร่งฝั่งตัวเอง
การกระทำของลูกน้อยเรียกหยดน้ำตาใสๆให้ไหลกลิ้งลงมาบนแก้มสากด้วยความปลื้มปริ่ม ขณะเดียวกันภาพความรักของพ่อลูกสร้างหยาดน้ำตาในดวงตากลมโตที่ยังแห้งไม่ดีให้ไหลกลิ้งลงมาอาบแก้มนวลอีกครั้งเช่นกัน ความอบอุ่นจากผู้เป็นพ่อที่ลูกไม่เคยได้สัมผัสเลยไม่คิดว่ามันจะมีผลกับจิตใจลูกขนาดนี้
@คอนโดเนเน่
แกร็ก|
หญิงสาวเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องนอนหลังจากจัดการเตรียมน้ำใส่อ่างไว้ให้ลูกๆอาบเสร็จเรียบร้อย หมายจะเข้ามาเรียก ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมกลับเห็นลูกสาวทั้งสองคนนั้นหลับอยู่บนแผ่นอกแกร่งของพ่อเขา
อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ ที่เธอยอมให้เพลิงตามมาด้วยก็เพราะเด็กๆงอแงอยากให้พ่อมาด้วย เลยต้องพามานอนคอนโดเพราะกลับไปบ้านไม่ได้
ดวงตาคู่คมเหลือบมองเนเน่หย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆเขา เอื้อมมือมาจะจับเด็กๆคงจะปลุกให้ลุกไปอาบน้ำ แต่เขาก็ได้รั้งมือเธอห้ามไว้ทำให้เธอเบนสายตามามองหน้าในทันที
“ให้ลูกนอนไปก่อน” เสียงทุ้มเข้มเลยต้องรีบบอกออกไป
“ลูกยังไม่ได้อาบน้ำให้นอนไปได้ยังไง” เธอเหวกลับเสียงเขียว “ทั้งฝุ่นทั้งคราบเหงื่อติดตามตัวปล่อยให้ลูกนอนไปได้เป็นพ่อประสาอะไรไม่คิดถึงความสบายของลูกสักนิด”
“เดี๋ยวค่อยปลุก”
“…..” ใบหน้าสวยชักสีหน้าไม่พอ สะบัดมือออกจากเกาะกุมโดยไม่พูดอะไรต่อ แล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป เพลิงเห็นอย่างนั้นค่อยอุ้มลูกน้อยทั้งสองคนลงไปนอนบนที่นอนอย่างเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของลูก ก่อนจะเดินตามหญิงสาวออกไป
หมับ!
“อ๊ะ! ปล่อยนะ” เนเน่ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อโดนสวมกอดทางด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่ยืนรับลมคิดมากสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่หน้าระเบียง เธอดิ้นพล่านหวังให้เพลิงคลายพันธนาการแต่ไม่เป็นผล กลับถูกเขากระชับท่อนแขนแกร่งกอดแน่นขึ้น พร้อมกับเกยคางวางลงบนไหล่ หันปลายจมูกโด่งคมกดเข้ามาหอมแก้มเธอแรงๆ
“คิดถึง”
“…..” อีกครั้งที่หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งกับคำพูดสั้นๆไม่คุ้นชินของโจรหนุ่มดังขึ้นข้างกกหูที่แฝงไปด้วยความรู้สึกโหยหา เธอรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นผ่านน้ำเสียงแผ่วเบาและอ้อมกอดอันอบอุ่นซึ่งมันไม่ต่างกันกับเธอเลย เขาเหมือนกับว่าตอนนี้เธอเป็นแฟนของเขาไม่ใช่ของที่มีไว้เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง แต่ทว่าตราบาปและความเจ็บปวดของสถานะนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในสมอง
“ปล่อย” มือเล็กพยายามแกะท่อนแขนแกร่งให้ปล่อย
“ฉันรักเธอ” ว่าแล้วเพลิงก็คลายพันธนาการออกจากเอวคอด จับตัวเธอหมุนให้หันหน้าเข้ามาหา
“แต่ฉันไม่ได้รักนาย” ไม่ว่าเขาจะพูดคำนี้ซ้ำๆก็เปลี่ยนใจเธอไม่ได้ ยังคงยืนกรานคำเดิมแม้ว่าสมองกับหัวใจจะไม่ตรงกันก็ตาม
สถานะตอนนี้ของเธอและเขาเป็นได้แค่แม่กับพ่อของลูก มีหน้าช่วยกันดูแลลูกให้ดีที่สุดให้ความรักความอบอุ่นเท่าที่จะทำได้
“ฉันไม่เชื่อ เธอกำลังโกหกหัวใจตัวเองเนเน่ลึกๆแล้วเธอรักฉัน”
“…..” ใช่ ไม่ปฏิเสธว่าไม่รัก ลึกๆแล้วเธอกำลังบังคับตัวเองไม่ให้หวั่นไหวไปกับคำพูดของเขาอยู่
“เงียบทำไม รักก็บอกรักดิวะจะโกหกกันทำไมฮะ”
“…..” เนเน่ยังคงใช่ความเงียบเป็นคำตอบยืนมองหน้าเขาผ่านแสงไฟสลัวจากระเบียง ถึงแม้ว่าเขาจะตะคอกออกมาด้วยความหัวเสีย แต่เธอกลับไม่ได้ตกใจในน้ำเสียงและสีหน้านั้นเลย ในเมื่อบอกไปแล้วไม่ฟังยังคงใช้นิสัยของตัวเองเป็นที่ตั้งเธอก็ไม่รู้จะพูดไปทำไมสู้เงียบไปเลยดีกว่า
“แค่คำว่ารักมันพูดยากพูดเย็นนักเหรอ”
“…..”
“เนเน่!”
“ฉันยอมรักคนที่มันทำลายชีวิตตัวเองไม่ได้” สุดท้ายเธอก็ยอมพูดออกไปอย่างตัดปัญหา เพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้ากำลังโมโหไม่พ้นที่จะเจ็บตัวอีก ต่อให้เขาจะเปลี่ยนไปแล้วแต่เชื่อว่าทิ้งนิสัยเดิมไม่ได้หรอก
มันอยู่ในสายเลือดไปแล้ว
“…..”
“นายคงเข้าใจฉันใช่ไหม”
“ขอโอกาสได้ไหมขอให้ฉันได้ชดใช้ ดูแลชีวิตของเธอที่ฉันทำลายไปให้กลับมาเหมือนเดิม” น้ำเสียงอ่อนลงไปพร้อมกับสีหน้าที่เดือดดาลแปรเปลี่ยนเป็นปกติ มือหนาเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าสวยให้ขยับเข้ามาใกล้ๆจนปลายจมูกของเขาและเธอแตะกัน “นะ” สายตาอ้อนวอนขอให้อีกฝ่ายเห็นใจมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม
“มันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิม ชีวิตของฉันมันพังไปไม่เหลือชิ้นดีแล้วมันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ นายได้ยะ..อื้อ!” อยู่ๆคำพูดที่ยังเอื้อนเอ่ยออกมายังไม่จบก็กลืนหายลงไปในลำคอ เมื่อคนตรงหน้าฉกริมฝีปากเข้ามาประกบจูบอุดมันอย่างรุนแรงจนเธอเบ้หน้า ขณะที่เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งสอดเข้ามาใต้ผมยาวสลวยแล้วขยุ้มไม่ให้ขยับหน้าหนี
—————————————