BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++ - โคตรเลว #56 - ตามติด
ใบหน้าสวยขมวดคิ้วยุ่ง พลางชะเง้อมองไปรอบๆด้วยความงุนงงหลังอ่านข้อความจบ เธอได้แค่ตั้งคำถามในใจด้วยความสงสัย ทำไมเจ้าของดอกไม้นี้ถึงต้องทิ้งท้ายด้วยคำขอโทษหรือรุ่นน้องเอามาให้ผิดคน..
“ของใคร”
“..…” หญิงสาวสะดุ้งตกใจหลุดจากห้วงความคิดเมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม เธอหยุดชะงักรีบเสียบโปสต์การ์ดลงที่เดิม แล้วตอบกลับไป “หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เขาไม่ได้เขียนชื่อไว้”
“งั้นช่างมันเถอะ เรารีบไปหาพวกลุงๆกับเจ้และหลานๆหนูกันก่อนทุกคนรอหนูอยู่”
“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ ก่อนทุกคนจะเริ่มเดินกันต่อไปยังใต้อาคารหอประชุมเพื่อไปหาทุกคนที่รอแสดงความยินดีกับเธออยู่
“สวัสดีค่ะ” ทันทีที่มาถึงมือเล็กก็ประนมไหว้ทุกคน พร้อมกับกล่าวคำทักทาย ซึ่งทุกคนรับไหว้ด้วยรอยยิ้มพร้อมกับในมือถือของขวัญมาแสดงความยินดี
แนนนี่เป็นคนแรกที่เดินเข้ามาหาหลานสาว ก่อนจะพูดขึ้น “ยินดีด้วยนะคนเก่งของน้า” มือเล็กถือมาลัยเงินแสนพวงหนึ่งยื่นไปคล้องคอให้หลานสาวเป็นการแสดงความยินดีในความสำเร็จ
“ขอบคุณมากนะคะน้าแนน” สิ้นประโยคผู้เป็นน้าก็เข้ามากอดเบาๆ
“เก่งมากหลานลุง ต่อไปก็เข้ามาช่วยบริหารงานในบริษัทกับเจ้เขานะ” ตามด้วยคิมเข้าแสดงความยินดีต่อ พร้อมกับยื่นกล่องกุญแจรถสปอร์ตกล่องหนึ่งที่เพิ่งสั่งทำมาสดๆไปให้หลานสาว
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะลุงคิม” ว่าแล้วเนเน่ก็รับมา พลางถลึงตาโพล่งด้วยความตลึงเมื่อเห็นยี่ห้อรถสปอร์ตติดอยู่หน้ากล่อง มือเล็กรีบเปิดกล่องนั้นดูในทันทีแล้วถามขึ้น “ลุงคิมนี่มัน DS X E-TENSE รถสปอร์ตไร้คนขับ พร้อมห้องโดยสารแบบสองสไตล์ในคันเดียวหนิคะ”
“อืม” ลำคอหนาครางตอบเบาๆ
“ลุงคิมไหนของผม” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดอะไรต่อเนมาร์ก็โพล่งแทรกถามหาของขวัญตนขณะที่กอดกับคนเป็นน้าอยู่ เพราะความอยากรู้ว่าตัวเองจะได้รุ่นไหน
“ทีละคนสิวะ” ไม่ว่าเปล่ามือหนาชูกล่องขึ้นมาให้หลานชายดู
“ผมแค่ถามเฉยๆไม่รีบเล๊ย”
“…..” คิมส่ายหน้าเบาๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจน้ำเสียงสูงประชดประชันของหลานชาย “ชอบไหม” เขามากลับเอ่ยถามหลานสาวต่อ
“ชอบมากเลยค่ะ” เนเน่พยักหน้าบอก แล้วโผกอดผู้เป็นลุงแน่น
หมับ!
“โอ๊ะ!” แรงกระแทกทำให้คิมไม่ทันตั้งตัวถึงกับตกใจ ในวินาทีต่อมาท่าทางดีใจของหลานสาวเรียกรอยยิ้มมุมปากให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคาย
“รักลุงคิมที่สุดเลย” เนเน่พูดเสียงอู้อี้ออกมา ในระหว่างที่ใบหน้าสวยแนบติดกับอกแกร่ง เป็นคันที่เธออยากได้อยู่พอดีตอนแรกว่าจะขอผู้เป็นพ่ออยู่ไม่คิดว่าคนเป็นลุงจะสั่งมาให้เป็นของขวัญ
“ลุงก็รักหนู”
“รักมันให้เยอะๆพล่านมันให้จนเลยลูก” เป็นโน่ว่ากระแหนะกระแหนเพื่อนรัก ทว่าคิมตีหน้าเมินขณะที่ลูบศีรษะทุยเบาๆ ต่อให้หลานพล่านมากแค่ไหนคนอย่างเขาก็ไม่มีวันจน
แล้วหญิงสาวก็คลายพันธนาการออกจากจากร่างสูงกำยำของคนเป็นลุง ทำให้วอมกับคลีนและซันกับวินรวมไปถึงภรรยาของทั้งสองคนต่างเดินเข้ามาแสดงความยินดีแก่หลานชายและหลานสาวกันต่อ พร้อมทั้งถ่ายรูปรวมกันอย่างมีความสุข แต่ความชุลมุนทำทุกคนรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อยเนื่องจากผู้คนเดินพลุกพล่านไปมาตลอด
หลายวันต่อมา..
“น้องเพลินน้องเพลงคะ วันนี้อยู่กับคุณยายและพี่เจนนะคะ” เสียงใสของหญิงสาวเอ่ยบอกลูกสาวทั้งสองคนขณะที่หย่อนตัวนั่งยองๆตรงหน้า หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ
วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกของเธอเนื่องจากพักมาหลายวันแล้ว วันนี้จึงอยากจะเข้าไปช่วยพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันบริหารแล้ว ได้ข่าวว่าช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะถ้าปล่อยให้บริหารอยู่คนเดียวกลัวอีกคนจะเหนื่อยเธอไม่อยากเอาเปรียบ
“จุนแม่จาปายไหนหย๋อกะ (คุณแม่จะไปไหนเหรอคะ)” เป็นเพลงพิณถาม พลางทำตาปริบๆเหมือนกับไม่อยากให้ผู้เป็นแม่ห่างไปไหน
มือเล็กเอื้อมไปเกลี่ยปอยผมด้านหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นทัดหูให้อย่างรับรู้ แล้วอธิบายออกไป “คุณแม่ไปทำงานหาเงินมาให้หนูไงคะ”
“ฮึก..เปลงม่ายหยาดห้ายจุนแม่ปาย (เพลงไม่อยากให้คุณแม่ไป)” พอรู้ว่าผู้เป็นแม่จะห่างกายเด็กน้อยคนน้องก็บีบน้ำตาให้ไหลกลิ้งลงมาอาบแก้มยุ้ย มือตวัดกอดแขนเรียวของท่านไว้แน่น
“ฮึก..เปลินก็ม่ายหยาดกะ (เพลินก็ไม่อยากค่ะ)” เห็นน้ำตาของน้องคนเป็นพี่อย่างเพลินลินจึงอดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เลยปล่อยให้ไหลกลิ้งออกมาตามๆกัน
“…..” เนเน่ถอนหายใจเบาๆ เอื้อมฝ่ามือข้างหนึ่งไปปาดน้ำตาออกจากแก้มยุ้ยให้คนพี่แล้วดึงมืออีกข้างขึ้นปาดให้คนน้องพร้อมกัน ไม่แปลกหรอกที่ลูกสาวทั้งสองคนจะติดเธอมากเพราะเลี้ยงมาเองกับมือและเข้าใจหัวอกลูกดีแต่เธอเองก็ต้องทำงาน จะให้มานั่งกินนอนกินใช้เงินของผู้เป็นพ่อไปวันๆมันก็ไม่ได้ “ถ้าคุณแม่ไม่ไปแล้วหนูจะเอาเงินที่ไหนใช่ล่ะคะลูก”
“ขอจุนตางายกะ จุนตายวยมาด (ขอคุณตาไงคะ คุณตารวยมาก)”
“ซ่ายกะจุนตายวยมาดซาดนี้ก็ไซ้ม่ายบด (ใช่คะคุณตารวยมากชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด)”
ใบหน้าสวยส่ายไปมาเบาๆกับความไร้เดียงสาของลูกสาวทั้งสองคน นึกขำในความคิดของเด็กหญิงตัวน้อยพอคนพี่พูดคนน้องกับเห็นด้วยซะงั้น “จะให้คุณแม่ขอคุณตาไปตลอดเลยเหรอคะ?”
“…..” เด็กน้อยทั้งสองคนพยักหน้าให้เป็นคำตอบ พร้อมกับขยับเข้ามากอดคอเนเน่ไว้แน่นไม่ปล่อยให้ไปง่ายๆ ศีรษะทุยเอียงแนบเข้าหาแก้มนวลอย่างออดอ้อน
“จุนตาเยี้ยงปวกเยาต้าย (คุณตาเลี้ยงพวกเราได้)” เพลงพิณว่า
“ซ่ายกะเยี้ยงต้ายสาบายเยย (ใช่คะเลี้ยงได้สบายเลย)” เพลินลินว่าต่ออย่างเข้ากันดีกับน้องสาว
“แหงะ! ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนกันคะ”
“จุนตาบอดกะว่าถ้าปวกหนูหยาดต้ายอาใยห้ายปายขอต้ายเยย จุนตายวยมาดชื้อห้ายต้ายทุดย่าน (คุณตาบอกค่ะว่าถ้าพวกหนูอยากได้อะไรให้ไปขอได้เลย คุณตารวยมากซื้อให้ได้ทุกอย่าง)”
“เฮ้อ! ไปฟังคุณตาไม่ได้นะคะลูกคุณตาขี้โม้” ผู้เป็นพ่อเล่นเธอปวดหัวเลยทีเดียว ไปพูดกับเด็กแบบนี้ได้ยังไงเดี๋ยวโตขึ้นก็ไม่ยอมทำงานทำการกันพอดี
“โบ้หย๋อกะ?” เด็กน้อยคนพี่คลายอ้อมแขนออกจากลำคอระหง คิ้วอันน้อยนิดขมวดเข้าหากันด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ในเวลาที่พวกเธออ้อนอยากได้อะไรผู้เป็นตาก็ซื้อมาให้หมดทุกอย่างจริงๆ แล้วผู้เป็นแม่มาบอกว่าโม้และเธอจะเชื่อใครล่ะทีเนี่ย “ตึ๊งจาโบ้แท่หนูก้อนม่ายหยาดห้ายปาย (ถึงจะโม้แต่หนูก็ไม่อยากให้ไป)”
“งั้นก็ไปทำงานกับคุณแม่ด้วยเลย” เนเน่เบ้ปากอยากจะร้องไห้ พลางถอนหายใจเบาๆ ในเมื่อลูกตามติดไม่ยอมปล่อยให้ไปทำงานเธอจึงจะพาไปด้วยเลยได้จบๆ
“เย้ๆ” เด็กหญิงตัวน้อยร้องดีใจขึ้นพร้อมกัน ก่อนคนพี่จะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ส่วนคนน้องรีบคลายอ้อมแขนออกจากลำคอระหงมากระโดดโลดเต้นตามกัน ทำเอาคนเป็นแม่ส่ายหน้าเบาๆให้กับความเจ้าเล่ห์ของลูกสาว
“เจน” เนเน่ดีดตัวลุกขึ้นเรียกพี่เลี้ยงของลูกสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าข้างหลังเด็กๆ เพื่อให้เตรียมเสื้อผ้ากับของใช้ต่างๆและนมใส่ตะกร้ามาให้
“ขาคุณหนู”
“ไปเตรียมของเด็กมาใส่รถให้หน่อย”
“ได้ค่ะ” เจนรับคำแล้วรีบหมุนตัวออกไปเตรียมของตามคำสั่ง
“หยุดดีใจกันได้แล้วลูก ถ้าอยากจะไปกับคุณแม่เราต้องมาตกลงกันก่อน” หลังพี่เลี้ยงของลูกเดินออกไป เธอก็ก้มลงบอกเด็กน้อยทั้งสองคน เวลาจะไปไหนกันต้องมีข้อตกลงแบบนี้เสมอไม่งั้นเด็กๆจะซนมากและไม่เชื่อฟังเธอเลย
“ว่ามาเยยกะ (ว่ามาเลยค่ะ)”
“ไปถึงหนูต้องนั่งเล่นกันเงียบๆห้ามกวนคุณแม่ห้ามซนรู้ไหมคะ ถ้าซนคุณแม่จะไม่พาไปอีก”
“ยับชาบกะ (รับทราบค่ะ)” เด็กน้อยทั้งสองยกมือน้อยๆขึ้นมาทำท่าตำรวจเป็นการรับรู้ แต่ไม่รู้ไปถึงจะทำตามรับคำไว้ได้ไหมเพราะบางครั้งก็ลืมตัวเผลอไม่เชื่อฟัง
“โอเค งั้นเราไปรอพี่เจนเอาของมาให้บนรถกันเถอะ” ว่าจบมือเล็กก็เอื้อมไปจูงมือลูกสาวทั้งสองคนเดินไปยังรถยนต์คันหรู
—————————————