BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++ - โคตรเลว #21 - ออกปล้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา..
“ไง คิดได้ยังตกลงจะทำไม่ทำ” ความเงียบภายในห้องถูกทำลายลงด้วยเสียงทุ้มของเพลิงที่เอ่ยถามคนบนโซฟา ขณะนั่งอยู่บนพิงเก้าอี้ตัวโปรดพร้อมยกขาวางซ้อนกันบนโต๊ะ ระหว่างที่พวกเพื่อนรักทั้งสามคนไปเตรียมตัวเพื่อออกปฎิบัติการ
“……” คำถามนั้นซึ่งไร้คำตอบ เนเน่เหม่อมองฝาผนังตรงหน้าไปพร้อมกับปาดเหงื่อตามกรอบหน้าและลำตัว จนไม่ได้ยินคำถามของโจรหนุ่ม
“กูถามไม่ได้ยินรึไง”
“…..” น้ำเสียงเริ่มไม่พอใจของเพลิงดึงสติของหญิงสาวกลับมาอีกครั้ง เธอหันไปมองหน้าคมคายแล้วเอ่ยถาม “ถะ..ถามอะไร”
“กูไม่ชอบพูดซ้ำๆซากๆ”
“แต่ฉันไม่ได้ยิน”
“หูตึง?” เพลิงเลิกคิ้วถามอีกคนด้วยสีหน้านิ่ง
“ไม่ได้หูตึง ฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่เลยไม่ได้ยินคำถามของนาย” ว่าแล้วเธอก็หันกลับไปมองฝาผนังดังเดิม ก่อนจะพูดต่อ “เมื่อไหร่นายจะฉีดมันให้ฉันสักที” อาการออกหนักขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จนเธอเริ่มจะหักห้ามความต้องการของร่างกายตัวเองไม่ไหวแล้ว เหมือนกำลังลงแดงยังไงไม่รู้
“กูบอกว่าไง”
“ฉันไม่ทำ” ไม่ว่าเปล่าเนเน่หยัดกายตัวลุกขึ้นเดินไปหาเพลิงด้วยอารมณ์หงุดหงิด แล้วยื่นแขนไปให้เขาพร้อมบังคับ “นายต้องฉีดมันให้ฉันเดียวนี้”
“…..” พอจะดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังทนไม่ไหว ถ้าเธอไม่ทำงานแลกยังไงเขาก็ไม่มีวันฉีดมันให้ต่อให้ชักตายตรงหน้าก็ไม่สน
“นายต้องรับผิดชอบในสิ่งที่นายทำ” มุมปากหนาเหยียดยิ้มอย่างนึกสมเพชทันทีที่เธอพูดจบประโยค ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดนั้นเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมกูต้องรับผิดชอบ ในเมื่อมึงเป็นคนบังคับให้กูต้องใช้มันเอง”
“กูบังคับงั้นเหรอ?” เนเน่กัดฟันพร้อมกับดึงมือกลับมากำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด “ไม่ใช่เพราะความเลวของมึงเองหรอกเหรอ..ที่ใช้มันบำเรอความต้องการของตัวเอง จนกูต้องเป็นแบบนี้”
“อึก” พอพูดจบก็ถูกเขาดีดตัวลุกขึ้นมาตะปบลำคออย่างแรงโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว เพลิงมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น พร้อมกับกระชากร่างเธอเข้ามาประชิด
“จะมาโทษกูคนเดียวมันก็ไม่ถูก เป็นเพราะมึงทำตัวเองด้วย” ก็มีส่วนที่เขาใช่บำเรอความต้องการของตัวเอง แต่ถ้าคืนนั้นเธอครางออกมาเขาก็คงไม่ต้องใช่มันแล้ว เธอก็ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้ จะมาโยนความผิดให้เขาฝ่ายเดียวมันก็ไม่ใช่
“อึก..อะ..ไอ้เลว..อึก..มึงมันเลวยันเงา” เนเน่พ่นคำด่าออกไปอย่างไม่เกรงกลัว พยายามแกะมือใหญ่ออกจากลำคอ ดวงตาแดงก่ำที่มีน้ำตาเอ่อมาคลอจากการหายใจติดขัด จ้องมองคนตัวสูงไปด้วยความทรมาน
แกร็ก|
ยังไม่ทันที่เพลิงจะได้พูดอะไรบานประตูก็ถูกเปิดเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ทำให้เขาละสายตาไปมองก่อนจะเป็นเป็นตี๋โผล่หน้าเข้ามา
“ไอ้เพลิงได้เวลาแล้ว” แล้วเสียงทุ้มก็เอ่ยบอกอย่างเร่งรีบ เมื่อเห็นว่าเพลิงไม่ได้ตอบอะไรหรือแสดงปฏิกิริยาใดๆกลับ ตี๋จึงพูดขึ้นต่อในประโยคถัดมา “งั้นเดียวพวกกูลงไปรอที่รถนะ รีบตามมา” ว่าจบตี๋ก็ขยับหน้าถอยออกไปปิดประตูลงทันที
ปึง!
สายตาเยือกเย็นหันกลับมามองใบหน้าสวยซึ่งตอนนี้กำลังเหยเกไปเพราะแรงบีบของเขาที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม เนเน่ดิ้นพล่านรวบรวมแรงทั้งหมดทุบตีท่อนแขนแกร่งทั้งน้ำตาที่รินไหลลงมาหวังให้เขาคลายมือออก
“อึก..ปะ..ปล่อยกู”
“กูจะเลวมากกว่านี้อีก ถ้ามึงยังกล้ามาปากดีใส่กู” พูดจบเพลิงก็เหวี่ยงร่างเธอลงพื้น
ตุ้บ!
“อึก” ความไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้แขนเรียวกระแทกกับพื้นปูนเต็มแรง จนเกิดบาดแผลที่ข้อศอกและหัวเข่า
หญิงสาวมีท่าทีหอบหายใจหนักๆก้มมองบาดแผลนั้นด้วยความเจ็บปวด พลางกำหมัดแน่นตวัดสายตาไปมองเจ้าของการกระทำหน้าตัวเมียเดินสูบบุหรี่ออกไปด้วยความแค้น
แต่แล้วเพียงแค่ดึงเปิดประตูโจรหนุ่มก็หยุดฝีเท้าอัตโนมัติ ก่อนน้ำเสียงเย็นชาจะเอ่ยขึ้นโดยไม่หันหลังกลับมามอง
“ไม่ทำก็ไสหัวกลับไปซะ แต่ถ้าจะทำก็ตามกูลงไปที่รถ” ว่าจบเขาก็ก้าวผ่านบานประตูออกไปทันที
เธอฟาดหมัดทั้งสองข้างลงบนพื้นปูนระบายความแค้น แล้วปล่อยโฮออกมาดังลั่นอย่างสุดจะกลั้น “ฮืออออออ”
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าธนาคารแห่งหนึ่งในชุมชนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ่อนเถือนสักเท่าไหร่ ช่วงเวลาหกโมง แน่นอนว่าธนาคารปิดทำการเป็นที่เรียบร้อย บ่งบอกว่าเป็นจังหวะดีของพวกเขาในการออกปล้น ตอนนี้พนักงานทุกคนคงนับเงินใส่ถุงของมันรอรถขนเงินมารับ
“ใส่เสื้อเกาะ แล้วเอาโม่งคลุมหน้าซะ” เพลิงหันบอกคนข้างๆ พร้อมกับคว้าหยิบเสื้อเกาะกับไอ้โม่งจากมือเสือที่ส่งมาให้จากเบาะหลังโยนใส่หน้าเธอ
เธอที่ว่านั้นก็คือเนเน่
ใช่ฟังไม่ผิดหรอกหลังจากที่เขาเดินลงมาไม่นานเธอก็เดินตามลงมา แล้วรับข้อตกลงว่าจะทำงานแลกโดยต่อรองให้เขาฉีดมันให้ก่อน แต่เขาก็ปฏิเสธแล้วย้อนกลับไปว่าจบงานเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ซึ่งเธอก็ยอมไม่ได้พูดอะไรต่อ สงสัยจะอยากยาจนยอมทำเพื่อมันได้ทุกอย่างอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
ทุกอย่างมันเป็นเพราะความปากดีและความอวดดีของเธอ ทำให้เขานึกหมั่นไส้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้เขาสะใจไม่แพ้กัน
“…..” เนเน่นั่งเงียบด้วยอาการไม่ค่อยจะโอเคสักเท่าไหร่ มือเล็กหยิบเสื้อกันเกาะมาสวมใส่ตามด้วยไอ้โม่งทำตามคำพูดของอีกฝ่าย ขณะที่เพลิงและเพื่อนของเขาก็สวมใส่มันเหมือนกัน
“ไอ้เสือไอ้เล้งเดียวถ้าพนักงานส่งเงินให้พวกมึงแล้วก็รีบยัดใส่กระเป๋าสองใบนั้นให้เต็ม วิ่งออกไปทางด้านหลังเลยนะ ส่วนไอ้ตี๋รอขับรถอ้อมไปรับมันด้านหลัง” หลังจากที่ทุกคนใส่เสร็จเรียบร้อย เพลิงก็เอ่ยบอกแผนทุกอย่างด้วยความรอบคอบ
“แล้วมึงล่ะ” เล้งถามกลับ
“เดี๋ยวกูกับมัน..” ดวงตาคมกริบมองผ่านไอ้โม่งไปยังหญิงสาวข้างๆ “..จะดักทางตำรวจไว้แล้วจะรีบตามออกไป” การปล้นทุกครั้งของพวกเขาแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเจอกับตำรวจ ทว่าก็ปะทะกันจนชินไปเสียแล้วไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกังวล อาจจะเจ็บตัวไปบ้างแต่นั้นไม่ใช่ปัญหา ‘นักรบ’ย่อมมีบาดแผลเป็นธรรมดา
“เออๆ ยังไงมึงก็ดูแลตัวเองกับน้องเขาด้วย” ว่าจบเล้งกับเสือก็เปิดประตูลงนำไปก่อน ตามด้วยตี๋ลงมายืนรอเพื่อทำตามหน้าที่ ก่อนเพลิงกับเนเน่จะเปิดลงตามไป
ปัง!
เพียงแค่เดินมาถึงหน้าประตูเสือก็ยกปืนขึ้นยิงพนักงานที่ยืนรักษาความปลอดภัยเข้ากลางศีรษะ คาดว่าน่าจะตายคาที เสียงปืนที่ดังสนั่นไม่มากหนักเพราะเป็นปืนเก็บเสียง แต่ก็ทำให้พนักงานด้านในได้ยินแล้วตกใจกรีดร้องกันดังลั่นด้วยความกลัว
“กรี๊ดดดดดดดดด!!” ทุกคนต่างพากันก้มหลบอยู่หน้าเคาน์เตอร์ของตัวเอง บางคนก็วิ่งออกไปทางประตูหลัง
เหตุการณ์ที่เห็นทำเอาเนเน่ตกใจไม่น้อย ไม่ได้กลัว แต่รู้สึกใจคอไม่ดีที่ต้องมาเห็นคนบริสุทธิ์ตายต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง ก่อนเสือกับเล้งจะรีบสาวเท้าเดินไปยังเคาน์เตอร์ โดยมีเพลิงและเนเน่เดินตามประกบหลังไม่ห่าง
“ถ้าพวกมึงไม่อยากตายก็ส่งเงินมาให้หมด” เล้งเป็นเจ้าของเสียงขู่นั้น พร้อมยกปืนขึ้นไปจ่อพนักงานที่หลบอยู่หลังเคาน์เตอร์
“คะ..ค่ะ ยะ..อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ” พนักงานสาววัยกลางคนว่า แล้วค่อยๆดันตัวลุกขึ้นหยิบถุงเงินทั้งหมดยื่นไปให้เล้งกับเสืออย่างว่าง่าย
ทันใดทั้งสองคนรีบหยิบเงินพวกนั้นยัดใส่กระเป๋าใบใหญ่ที่เตรียมมา ยังไม่ทันจะยัดเสร็จเสียงไซเรนของรถตำรวจดังแว่วเข้ามา..
หวี้หว่อ~ หวี้หว่อ~
ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้สนใจรีบยัดต่อจนเสร็จ แล้ววิ่งหนีไปทางประตูหลัง ในตอนที่ตำรวจวิ่งถือปืนเข้ามาพอดี ทำให้เพลิงและเนเน่วิ่งตามออกไปไม่ทันต้องหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์ข้างๆพนักงาน
“กรี๊ดดดดดดดดด!!” พนักงานสาววัยรุ่นข้างๆตกใจกรีดร้องออกมาดังลั่น
“เงียบปากถ้ามึงไม่อยากตาย” ทว่าเพลิงยกปืนขึ้นมาขู่ พนักงานคนนั้นก็เงียบลงทันที ก่อนเขาจะหันไปมองคนข้างๆที่กำลังนั่งสั่นอยู่ด้วยความกลัว ท่ามกลางเสียงประกาศเรียกพวกเขาให้หมอบตัวผ่านโทรโข่งอย่างต่อเนื่อง
“ถ้ากูนับหนึ่งถึงสามมึงยิงไปที่พวกมันเลยนะ” หลังจากที่ถูกตำรวจล้อมจนไม่เหลือทางหนี เพลิงจึงเอ่ยบอกหญิงสาวให้ช่วยกันอีกแรง เพื่อจะวิ่งอ้อมออกไปทางประตูหลังได้ ขืนให้เขาเป็นฝ่ายสกัดอยู่คนเดียวคงอีกนานกว่าจะได้ออกไป เผลอๆได้ถูกวิสามัญ
“มะ..ไม่”
“แต่มึงต้องทำ ถ้าไม่อยากตายเป็นผีเฝ้าธนาคาร”
“…..”
“นี่ก็หลายนาทีแล้วนะเว้ย ทำไมไอ้เพลิงกับผู้หญิงของมันยังไม่ออกมาสักทีวะ” เสือว่าอย่างเป็นกังวล ขณะนั่งรอเพื่อนรักและผู้หญิงของเพื่อนอยู่ในรถยนต์คันหรู
“เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ คนอย่างไอ้เพลิงเก่งจะตาย เห็นก็รอดกลับไปทุกที”
ปัง!
ทันทีที่ตี๋พูดจบเสียงปืนยิงปะทะกันก็ดังขึ้นมาจากข้างในธนาคาร ทำให้เสือและเล้งรีบคว้ากระบอกปืนที่วางอยู่บนเบาะข้างๆ เปิดประตูรถวิ่งลงไปข้างในอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรักจึงต้องเข้าไปช่วยพาออกมา จะให้นั่งรออยู่แบบนี้พวกเขาทำไม่ได้
—————————————