BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++ - โคตรเลว #32 - ชำระล้าง
"….." เธอไม่อยากพูดอะไรแล้วไม่ว่าจะบอกสักกี่ครั้งว่าเธอกับฟีฟายเป็นแค่พี่น้องกันสนิทกันมากจะให้เลิกยุ่งกันมันทำไม่ได้หรอกเขาก็ไม่เข้าใจ เอาแต่อารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ไม่ฟังใครเลยซึ่งตอนนี้ยังหัวเสียใส่เธอไม่เลิก
ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธจ้องมองเธออย่างน่ากลัว ครั้งนี้เขาดูน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆเธอรู้สึกแบบนั้นเหมือนอารมณ์ที่เขากลั้นอยู่กำลังจะปะทุออกมามันน่ากลัวจนบอกไม่ถูก
"กูเคยบอกมึงไปแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร แล้วกูก็บอกไปอีกว่าอย่าร่านอีกถ้าไม่อยากให้มันตายทำไมมึงไม่ฟัง ฮะ! อยากเห็นมันตายมากใช่ไหมหรืออยากเจ็บตัว" มือหนาจากที่บีบปลายคางก็เลื่อนมาบีบลำคอระหงเต็มแรง ดึงเนเน่เข้ามาใกล้ๆทำให้ตัวเธอเอียงตามแรงไปจนแนบชิดกัน
"อึก" คนโดนกระทำดิ้นพล่านปัดป่ายพยายามแกะมือหนาออกจากลำคอ ความบีบแน่นทำเอาเธอแทบขาดอากาศหายใจ หยาดน้ำตาที่เอ่อออกมาคลอเบ้าค่อยๆกลิ้งไหลลงมาช้าๆอย่างรู้สึกทรมาน
"ตอบสิวะ.." หญิงสาวสะดุ้งโหยงกับเสียงตะหวาดเค้นถามลอดฟันของเขา "..ที่มึงกล้าโกหกกูกลับไปยุ่งกับมันอยากเห็นมันตายหรืออยากเจ็บตัว"
"ขะ..เขา..อึก..ปะ..เป็นพี่ชายฉัน" ริมฝีปากบางพยายามเปล่งเสียงเอ่ย ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เธอบอกออกไป
"ลูกพ่อมึงเหรอถึงบอกว่ามันเป็นพี่ชาย"
"อึก..เขาเป็นลูกของ..อึก..พี่ชายเพื่อนป๊า"
"กูไม่สนถ้ามันไม่ได้เกิดจากท้องแม่มึง กูจะคิดว่ามันคือชู้"
"จะให้..อึก..บอกกี่ครั้งว่าไม่ใช่ชู้เชื่อกันบ้างได้ไหม"
"เหอะ! กูไม่มีทางเชื่อผู้หญิงตอแหลอย่างมึง แล้วกูจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าให้เลิกยุ่งกับมันซะก่อนที่มันจะตายด้วยลูกปืนของกูจริงๆ"
"เราสนิทกันมาก..อึก..นายจะให้ฉันเลิกยุ่งฉันกับเขาทำไม่ได้"
"ในเมื่อมึงเลิกยุ่งไม่ได้และกล้าท้าทายความเลวของกูก็เตรียมตัวเก็บศพมันได้เลย" ว่าแล้วมือหนาก็เหวี่ยงร่างเธอกระแทกกับเบาะนั่งอย่างแรง
ปึก!
"อึก!" ทั้งเจ็บทั้งจุกสองมือเล็กยกขึ้นข้างหนึ่งจับลำคออีกข้างกุมท้องตัวเอง แต่ทว่าแค่เวลาสั้นๆเท่านั้นเมื่อเพลิงเคลื่อนรถออกไปด้วยความเร็วตรงไปยังจุดกลับรถด้านหน้าซึ่งอยู่ห่างไม่ไกล เธอก็ดีดตัวขึ้นเอื้อมมือไปหักพวงมาลัยเพื่อห้ามไม่ให้เขากลับไปทำอะไรคนที่เธอนับถือเป็นพี่ชาย
เอี๊ยดดดดดดดด!!
"ทำเหี้ยไรของมึง อยากตายรึไงวะ" โจรหนุ่มหันไปตะคอกใส่เนเน่อย่างหัวเสีย พร้อมกับเสียงล้อเสียดสีกับพื้นถนนขณะที่รถส่ายไปมาด้วยน้ำมือของเธอโดยที่เขาก็บังคับพวงมาลัยไว้ไม่ให้หักไปชนขอบกั้น
"ขอร้องอย่าทำเขา"
เอี๊ยดดดดดดดด!!
พอได้ยินอย่างนั้นเขาก็เหยียบเบรคเต็มแรงก่อนรถจะหยุดอยู่ข้างทาง ในช่วงดึกดื่นเกือบเที่ยงคืนไม่ค่อยมีรถสัญจรไปมาสักเท่าไหร่ ใบหน้าคมคายที่ตอนนี้กำลังเดือดดาลหันไปมองเจ้าของคำพูดนั้นด้วยแววตาดุดัน เป็นอีกครั้งที่เธอขอร้องเขาเพื่อช่วยชู้
"ทำไม..หวงมันมากเหรอ มึงอยากเห็นมันตายอยู่แล้วหนิ" เสียงทุ้มเข้มไม่สบอารมณ์เอ่ยถามออกไป
"ฉันไม่ได้อยากเห็นไม่ได้อยากให้เขาตาย นายอย่าทำแบบนี้" เธอตอบกลับทั้งที่มือยังจับพวงมาลัยไว้อยู่
"ไม่อยากแล้วขัดคำสั่งกู โกหกกูไปยุ่งกับมันอีกทำไม"
"….." ก็บอกไปหมดแล้วเธอไม่รู้ว่าเขาจะถามอีกทำไม รู้ดีว่าตัวเองเป็นคนผิดที่โกหกเขา ก็มันบอกความจริงไปไม่ได้เธอจำเป็นต้องโกหกแล้วไม่คิดว่าจะบังเอิญมาเจอเขาที่นี่
ต่อให้เธอระวังตัวแค่ไหนก็หนีจากสายตาเขาไม่ได้เลยจริงๆ
"ฮะ!"
เนเน่สะดุ้งเฮือกค่อยๆปล่อยมือออกจากพวงมาลัย จังหวะนั้นทำให้เพลิงโผเข้าบีบปากของเธออย่างแรง "อึก" น้ำตาที่เพิ่งแห้งเหือดไปค่อยๆกลิ้งไหลลงมาอีกครั้งเพราะความเจ็บ
"พูดสิวะ นี่เหรอคนที่บอกจะยอมกูทุกอย่าง"
"ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหก.." น้ำเสียงที่เปล่งออกมาอย่างไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำ มือหนาจึงผ่อนแรงเปิดโอกาสให้เธอได้พูดต่อ "..แต่แค่บอกนายไม่ได้ ถ้าฉันบอกไปนายก็ต้องไปฆ่าพี่ฟีฟายซึ่งเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย"
"มึงคิดว่ากูรู้เองแล้วจะไม่ฆ่ามันงั้นสิ มึงก็รู้ดีหนิว่ากูเป็นคนยังไง"
ใช่! เธอรู้ดีแค่ฆ่าใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาอยู่แล้ว ทางเดียวตอนนี้คืออยู่ที่เธอคนเดียวสินะ ถ้าไม่ยอมตัดสินใจเลิกยุ่งเด็ดขาดฟีฟายคงได้ตายของจริง "อึก..ฉะ..ฉันขอโทษ ฉันยอมเลิกยุ่งให้นายก็ได้แต่นายอย่าฆ่าเขานะ" สุดท้ายเธอต้องยอมครั้งนี้ต้องยอมเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะความรู้สึกผิดแต่เพื่อความปลอดภัยของฟีฟาย
"….." เพลิงขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน ปล่อยมือออกจากปากอวบอิ่มของเธอ แล้วทิ้งตัวลงพิงพนักเบาะหันหน้าไปมองเบื้องหน้าถนน พร้อมทั้งถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "แสดงว่าตั้งแต่เลิกเรียนมามึงอยู่กับมันตลอด?"
"….." หญิงสาวที่กำลังก้มใช้มือปาดน้ำตาออกจากแก้มพยักหน้ากลับแทนคำตอบ โดยไม่รู้ว่าเขาไม่ได้มองอยู่
"ทำไมชอบให้กูถามย้ำนักวะ" แน่นอนว่าเขาไม่เห็น เมื่อไม่ได้ยินคำตอบเสียงทุ้มจึงตะคอกออกมาดังลั่นจนคนข้างสะดุ้งครั้งแล้วครั้งเล่า
"อึก! ฉันพยักหน้าตอบไปแล้ว" เจ้าของใบหน้าสวยหันไปมองหน้าเขา ก่อนจะบอก
"….." เพลิงไม่ได้ถามอะไรต่อรีบเคลื่อนรถออกไปทันทีด้วยความเร็ว ด้วยแรงกระชากส่งผลให้เธอที่ไม่ทันได้ตั้งตัวร่างกระแทกกับคอนโซลประเข้าอย่างจัง
ปึก!
"โอ้ย!!" ความเจ็บทำให้เนเน่ร้องออกมาเบาๆ เหล่ตามองเขาเขม็งทว่าอีกคนก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอพ่นลมหายใจออกมาเบาๆตวัดสายตามองไปยังถนนเบื้องหน้า พอเห็นว่าขับตรงไปก็โล่งใจเอนตัวพิงพนักเบาะหันมองบรรยากาศด้านนอกที่มีแสงไฟสลัวส่องผ่านกระจกเข้ามาเป็นระยะ ก่อนความเงียบจะปกคลุมภายในรถ
แกร็ก|
"อ้าว! ทำไมมาคนเดียวอะไหนบอกไปตามน้องเน่?" เหนือเอ่ยถามเพื่อนรักทันทีที่เดินกลับเข้ามา สีหน้าของฟีฟายตอนนี้ดูกังวลไม่น้อย
"เออนั่นดิ" สิงห์ว่าต่ออย่างสงสัย
"ไม่รู้หายไปไหนว่ะ กูโทรไปถามยังคุยไม่ทันรู้เรื่องสายก็ตัดไป พอติดต่อไปอีกก็ติดต่อไม่ได้แล้ว" ฟีฟายหย่อนตัวนั่งลงประจำที่ของตัวเอง
"หนีกลับไปแล้วมั่ง" เป็นสิงห์ที่พูดขึ้นบ้าง
"เน่ไม่เคยหนีกูกลับก่อน"
"อาจจะมีธุระแล้วลืมบอกมึงก็ได้" ว่าจบเหนือก็กระดกเหล้าเข้าปาก
"งั้นเดี๋ยวกูกลับก่อน" พูดจบฟีฟายก็หยัดกายลุกขึ้นเดินออกไปทันที ไม่สนใจเสียงเพื่อนรักทั้งสองคนที่ตะโกนเรียกเขาอย่างงุนงง
"เห็นเน่เดินออกมาไหม" ครั้นก้าวออกมาหน้าคลับฟีฟายก็หันไปถามการ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า ถ้าเนเน่หนีกลับไปจริงการ์ดก็ต้องเห็น
"เห็นครับ คุณเน่ไม่ได้บอกคุณฟีฟายเหรอครับว่ากลับไปแล้ว" การ์ดคนหนึ่งตอบกลับ
"….." ทำไมเราถึงหนีกลับก่อนไม่บอกพี่สักคำ ฟีฟายพูดขึ้นในใจก่อนจะเอ่ยถามต่อ "กลับกับใคร"
"เห็นบอกว่ากับเพื่อนครับ"
"….." เพื่อนงั้นเหรอเพื่อนคนไหนกัน เขาพูดในใจอีกครั้งด้วยความสงสัยและงุนงงไม่น้อยทั้งที่มากับเขาแต่กลับไปกลับเพื่อนเฉย
สองขาแกร่งเดินออกมายังรถซุปเปอร์คาร์ของตัวเองโดยไม่ถามอะไรต่อ แล้วเคลื่อนที่ออกไปด้วยความเร็วหมายจะรีบไปหาเธอที่คอนโด
"นายจะพาฉันไปไหน" พอเห็นเขาเลี้ยวมาคนละกับทางกลับบ่อน เธอจึงดีดตัวขึ้นอย่างหน้าตาตื่นหันไปถามคนข้างๆด้วยความสงสัย ขณะที่เพลิงขบกรามแน่นเหยียบคันเร่งมาด้วยความเร็วไม่ผ่อนแรงเลย สีหน้าของเขายังคงเดือดดาลราวกับอยากจะฆ่าคนยังไงยังงั้น
"….." คนถูกถามไม่ตอบเลื่อนมือไปเลื่อนเปิดกระจกรถหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ระบายอารมณ์ตัวเองที่ตอนนี้มันปะทุหนักหน่วงทว่ารอระเบิดเมื่อถึงที่หมาย
"เพลิง"
"….." แล้วเขาก็ไม่ตอบเหมือนเดิม
"เฮ้อ!!" เนเน่เลยไม่ถามต่อไม่อยากจะเซ้าซี้อะไรมาก ก่อนจะทิ้งตัวลงไปพิงดังเดิม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป..
@เกาสีชัง (ชลบุรี)
เอี๊ยดดดดดดดดดด!!
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านของตัวเองที่รวมเงินซื้อกับเพื่อนๆเมื่อหลายปีก่อนใช้เงินที่ปล้นมาได้นั่นแหละซื้อ เป็นบ้านตากอากาศริมทะเลพวกเขาชอบมาเที่ยวพักผ่อนกันบ่อยเลยซื้อเป็นของตัวเองซะเลย บริเวณรอบๆจะไม่มีบ้านคนเลยแม้แต่หลังเดียวเพราะจุดที่เขาซื้อมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว
เพลิงหันไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้หลับไปแล้ว มือหนาเอื้อมเปิดประตูรถก้าวลงเดินวนไปหาเนเน่เพื่ออุ้มลงมา
ปึง!
เท้าใหญ่ถีบปิดประตูรถหลังอุ้มเธอลงมาแล้ว สองขาแกร่งเดินเลยบ้านพักตรงไปยังทะเล ท่ามกลางสายลมโกรกพัดโชยมากระทบร่างของเขาและเธอรวมถึงเสียงคลื่นซัดเข้าออกฝั่งมาเป็นระลอก
ตูม!
"อึก"
แค่ก~ แค่ก~
เนเน่ตกใจตื่นสำลักหน้าดำหน้าแดง เธอมองไปรอบๆขณะที่ยกมือขึ้นมาลูบน้ำออกจากหน้าตัวเอง เมื่ออยู่ๆก็ถูกเขาโยนลงน้ำทะเลโดยที่เจ้าตัวหลับไม่รู้เรื่อง
นี่เขาพาเธอมาทะเลหรอกเหรอ ทำไมไม่บอกกันสักคำ
"ทำบ้าอะไรของนาย โยนฉันลงทะเลทำไม" เธอแหงนหน้าขึ้นมองเจ้าของการกระทำบ้าคลั่งอย่างไม่เข้าใจ คงไม่คิดจะเล่นน้ำเวลาป่านนี้หรอกนะ
"ตรงไหนที่มันแตะต้องตัวมึง" ว่าแล้วเพลิงก็หย่อนตัวนั่งลงยองๆตรงหน้าเนเน่ อยู่ใกล้กันขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ฟีฟายจะไม่แตะต้องตัวเธอเลย
"….." หญิงสาวขมวดคิ้วงุนงงกับคำถามของโจรหนุ่ม ก่อนถูกเขาจะกระชากแขนเรียวอย่างแรงในนาทีต่อมา "อึก"
"กูถามว่าตรงไหนที่ไอ้เวรแตะต้องตัวมึง" เขาตะคอกทวนคำถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นทว่าหนักแน่น
"ขะ..แขน หัว มือ เอว"
"….." สิ้นสุดคำพูดของคนตรงหน้า เพลิงก็กวักน้ำขึ้นใส่ตัวของหญิงสาว พร้อมกับใช้มือเริ่มถูกตามแขนอย่างแรง
"โอ้ยยยย! นายทำบ้าอะไรเนี่ย เจ็บนะ" การกระทำของเขาสร้างความเจ็บให้เธอเอามาก ขณะเดียวกันก็ทำเอาเธองุนงงไม่แพ้กัน มือเล็กปัดป่ายผลักอีกฝ่ายให้ออกห่างหวังให้หยุดการกระทำนี้ มองแขนของตัวเองที่เริ่มแดงเถือกจากการถูกของเขา
"….." ต่อให้เธอร้องโอดโอยให้ตายเขาก็ไม่สนใจสนอย่างเดียวคือต้องชำระล้างสิ่งที่ฟีฟายแตะต้องตัวเธอออกให้หมด ในเมื่อปล่อยให้ผู้ชายอื่นแตะต้องเธอก็ต้องทนเจ็บปวดให้ได้ นี่ถือว่าเขาใจดีมากแล้วที่ยอมปล่อยให้มันยังมีชีวิตรอด
"ปล่อย! หยุดได้แล้ว"
"….."
"เพลิง! ฉันเจ็บ"
"….." แต่เขาก็ไม่สนใจยังคงถูกต่อไปแบบนั้น
"บอกให้หยุด"
แค่ก~ แค่ก~
"อื้อ~" ทันทีที่เธอตวาดใส่เขาเขาก็เลื่อนมือมาจับศีรษะของเธอกดน้ำ พร้อมกับใช้มืออีกข้างถูกมันอย่างแรงเหมือนกันกับที่ถูกแขนเลย "ปะ..ปล่อย แค่ก~ แค่ก~ ฮืออออ" เนเน่ได้แต่ดิ้นพล่านปัดป่ายอยู่แบบนั้นด้วยความทรมาน ก่อนมือหนาจะเลื่อนมาถูมือต่อตามด้วยเอวตามที่เธอได้บอกมาทั้งหมด
—————————————