BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++ - โคตรเลว #55 - วันแห่งความสำเร็จ
ไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงอยากให้ชื่อลูกคล้องจองกับพ่อของเขา มันมาจากจิตใต้สำนึกมากกว่าว่าอยากจะได้ชื่อนี้จึงตั้งออกไป เปรียบเสมือนชื่อนั้นเป็นตัวแทนของอีกคน
เธอพยายามไม่รู้สึกและนึกถึงคนที่ทำร้ายตัวเองแล้ว แต่เหมือนกับว่ายิ่งดันทุรังมากเท่าไหร่ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งไม่หายไปไหนยังคงวนเวียนอยู่ในหัว แม้ว่าจะผ่านมาเกือบปีแล้วทว่าสักวันเธอสลัดมันออกไปจากหัวให้ได้
"อืม~ ม๊าว่าเพราะดะ.."
"ไม่เพราะป๊าไม่ชอบ" ยังไม่ทันที่แนทจะพูดจบเสียงทุ้มเข้มของโน่ก็ตวาดแทรกขึ้นอย่างไม่ชอบใจ แค่หลานหน้าเหมือนคนเป็นพ่อเขาก็แทบจะรับไม่ได้อยู่แล้ว นี่ยังจะมาตั้งชื่อให้คล้องจองอีกเขารับไม่ได้มันกระดากปาก
"อุแว้! อุแว้! อุแว้!" ทำเอาเด็กน้อยทั้งสองคนสะดุ้งตกใจตื่นตะเบ่งเสียงร้องแข่งกันลั่นด้วยความกลัว
"ไอ้แด๊ดอย่าเยอะ ลูกจะตั้งชื่ออะไรมันจะเพราะไม่เพราะก็สิทธิ์ของลูก" แนทพอเห็นอย่างนั้นก็หันขวับไปชี้หน้าแยกเขี้ยวใส่สามี ก่อนจะหันกลับมาโอ๋หลานในอ้อมแขน "โอ๋ๆไม่ร้องนะคะคนเก่งของยาย"
ขณะที่เนเน่ก็ส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับโอ๋ลูกอีกคนเหมือนกัน เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดว่าผู้เป็นพ่อต้องแย้งพอไม่ได้ดั่งใจเดี๋ยวก็อาละวาด ไม่ต่างจากเนมาร์และเนตินก็ถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างเอือมระอา
"ไม่ได้เยอะแต่แด๊ดเป็นตาแด๊ดก็มีสิทธิ์เหมือนกัน หลานของแด๊ดต้องชื่อขึ้นต้นด้วยน.หนูตามตระกูลเราเท่านั้น" เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ว่าต่ออย่างไม่ยอมแพ้ ยังไงหลานก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเหมือนกันฉะนั้นคนเป็นตาก็ต้องมีสิทธิ์และมากกว่าคนเป็นแม่ด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่มีเขาก็จะไม่มีลูกสาวและหลานสาวในวันนี้
"ป๊าอย่าไร้สาระ ไอ้เพลิงมันตายไปและเลิกอคติสักทีกับไอ้แค่ชื่อหลานจะอะไรหนักหนา"
เนเน่เม้มริมฝีปากอวบอิ่มเข้าหากันแน่นเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายพูด หัวใจดวงน้อยรู้สึกสะเทือนใจแปลบๆแต่ก็แสร้งทำเป็นหูทวนลมไปราวกับไม่ได้ยินมัน
"แล้วยังไงมึงจะให้หลานทนใช้พยัญชนะของมันรึไง เวลาเรียกมึงไม่กระดากปากบ้างเหรอไอ้เน"
"ไม่วะป๊า ยังไงมันก็ตายไปแล้วผมยอมรับในการตัดสินใจของน้อง ถ้ามันจะตั้งชื่อไหนผมเรียกได้หมดแหละไม่เรื่องมาก" ว่าแล้วเนมาร์ก็ยักไหล่ไม่ยี่ระโน้มตัวลงบีบแก้มยุ้ยแดงระเรื่อของหลานที่สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนผู้เป็นแม่เล่นเบาๆ หลังตัวน้อยเพิ่งจะเงียบไปเมื่อครู่
"นี่มึงว่าป๊าเรื่องมากเหรอไอ้ลูกเวร" คำพูดกัดของลูกชายทำเอาโน่หัวเสียสบถคำใส่อย่างลืมตัว คนถูกด่าไม่สะทกสะท้านแถมยังลอยหน้าลอย ขณะเดียวกันหลานสาวตัวน้อยทั้งสองคนสะดุ้งตกใจอีกครั้งตะเบ็งเสียงร้องลั่นด้วยความกลัว
"อุแว้! อุแว้! อุแว้!"
"ไอ้แด๊ดมึงเนี่ยนะ ไม่เห็นรึไงว่าหลานกลัวยังจะเสียงดังอยู่ได้" เป็นแนทกัดฟันว่า พลางหยัดกายลุกขึ้นส่งหลานสาวไปให้เนมาร์อุ้มแทน เธอหันไปมองสามมีตาเขม็ง พร้อมกับเดินเข้าไปหา "มานี่เลย"
"โอ๊ยยยยยย! อ้วนแด๊ดเจ็บ" มือหนาจับไปที่แขนของภรรยาเมื่อโดนดึงหูอย่างแรงลากให้เขาเดินตามออกไปนอกห้อง
ปึง!
แนทเอื้อมมืออีกข้างไปปิดประตูเบาๆ ก่อนจะลากสามีเดินต่อมายังห้องนอนของตัวเองโดยมีเสียงร้องของคนถูกกระทำนั้นดังมาตลอดทาง เธอคลายมือออกจากใบหูหนาที่เริ่มแดงเถือกจากการดึงและบิด
"เจ็บนะเว้ย" เขาตะคอกใส่ภรรยาอย่างหมดความอดทน พอยอมนิดหน่อยเธอชักจะเหิมเกริมใหญ่และคิดอยากจะทำอะไรกับเขาก็ได้งั้นสิ
"เจ็บสิดีก็ทำให้เจ็บไง แก่จะตายห่าและยังจะสร้างความวุ่นวายอยู่อีก ตัวเองมีปัญหาอยู่คนเดียวนั่นแหละคนอื่นเขาไม่เห็นจะมีปัญหาเลย" อีกคนก็ไม่ยอมแพ้เพราะเธอก็หมดความอดทนเหมือนกัน ตะคอกกลับด้วยอารมณ์เดือดดาลกับนิสัยเอาแต่ใจชอบบงการของคนตรงหน้า
"ก็แด๊ดไม่ชอบ" น้ำเสียงของโน่เริ่มอ่อนลง
"ตัวเองไม่ชอบและยังไงแต่ลูกชอบไหม นี่แค่หลานนะไม่ใช่ลูกตัวเองยังจะเรื่องมากอีก"
"หลานก็เหมือนลูกปะ..เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ถ้าไม่มีแด๊ดเนเน่ก็ไม่ได้เกิดและจะหลานไหม"
"เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันก็จริง แต่แด๊ดเป็นคนเบ่งคลอดรึไง"
"เปล่า"
"แล้วมีสิทธิ์อะไรห้ามไม่ให้ลูกตั้งชื่อนั้น กะไอ้แค่ตัวเองไม่ชอบ"
"สิทธิ์ของคนเป็นพ่อไง" แนทถอนหายใจหนักๆ การเถียงข้างๆคูๆของสามีทำเธอปวดหัวไม่น้อย ศักดิ์แต่อยากจะเอาชนะหารู้ไม่ว่าแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว
"คลอดก็ไม่ได้คลอดเองน้ำเชื้อตัวเองก็ไม่ใช่ยังจะดันทุรังใช้สิทธิ์อีกเหรอ"
"แล้วไงในตัวลูกก็น้ำเชื้อแด๊ดไหมล่ะ"
"คนอะไรหน้าด้านชะมัด" พูดจบแนทก็หมุนตัวเดินออกไปทันทีอย่างไม่อยากเถียงต่อเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์กับคนเอาแต่ใจตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะได้หมุนก็ถูกโน่คว้าแขนไว้ได้ทัน กระชากเข้ามาประชิดแผ่นอกแกร่งอย่างแรง "อ๊ะ!" ความตกใจบวกกับไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาเธอร้องเสียงหลง
"ด่ากันแล้วคิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆเหรออ้วน"
"ดะ..แด๊ดจะทำอะไรอะ ปล่อยนะ" เธอดิ้นพล่านหลังถูกยกตัวอุ้มขึ้นพาดบ่า กำปั้นเล็กทุบลงบนแผ่นหลังแกร่งเต็มแรงขณะเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่พาเดินตรงมายังเตียงนอน
"ทำโทษคนเหิมเกริม" ว่าแล้วเขาก็โยนร่างเธอลงไปนอนบนเตียงอย่างแรง แล้วก้าวขึ้นไปคร่อมบนตัวเธอในทันที
พอตกตอนเย็นทุกคนในครอบครัวของเนเน่ก็ต่างพากันบินกลับไทยในวันนั้นเลย ส่วนชื่อของลูกยังคงเป็นชื่อที่เธอตั้งให้เพราะทุกคนให้สิทธิ์เธอเป็นคนตั้ง ตอนแรกผู้เป็นพ่อไม่ยอมหรอกโวยวายลั่นบ้านจนผู้เป็นแม่รำคาญเลยบอกว่าอยากจะให้หลานชื่ออะไรก็เรียกไปแบบนั้นคนเดียวเลยจบ ทุกอย่างก็เลยจบมีแต่พ่อของเธอคนเดียวที่เรียกหลานตามชื่อที่ท่านได้ตั้งเอง
หลังจากวันนั้นเพื่อนรักทั้งสองคนของเธอก็พากันมาหาหลานมาช่วยกันเลี้ยงอยู่นานหลายอาทิตย์เลย ตัวน้อยเลี้ยงง่ายมากไม่ดื้อและไม่งอแงสักนิด นอกจากได้ยินเสียงอะไรตกใจก็ยังมีร้องไห้บ้างนิดๆหน่อยๆ พอแคนดี้และแคทกลับไปเรียนต่อผู้เป็นย่าและพี่เลี้ยงก็คอยมาช่วยเลี้ยงทุกวัน ได้ผ่อนแรงเธอไปเยอะรู้สึกไม่เหนื่อยเลยสบายสุดๆ
สองปีต่อมา..
@ประเทศไทย(มหาวิทยาลัยww)
วันนี้เป็นวันสำคัญของหญิงสาวกับพี่ชายและเพื่อนๆของทั้งคู่ เจ้าของร่างอรชรอยู่ในชุดนักศึกษาติดกระดุมบน กระโปรงเลยเข่าคาดด้วยเข็มขัดหนังสีดำ สวมทับด้วยชุดครุยสีกลมคาดชมพูตามคณะของตนเองทับลงไปบนชุด เท้าเล็กบนรองเท้าคัชชูสีดำเงาเดินลงบันไดหอประชุมผ่านผู้คนมากมายมาหาครอบครัวพร้อมในมือถือใบปริญญาบัตร หลังได้รับจากอธิบดีเรียบร้อยแล้ว
ใบหน้าสวยแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางจนดูสวยเป็นพิเศษ ผมยาวดำขลับยีด้านหน้า ม้วนเล็กน้อยแล้วเกล้าขึ้นครึ่งหัว เธอฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขสุดท้ายวันแห่งความสำเร็จของเธอก็มาถึง
วันที่ได้จบการศึกษาสักที
บรรยากาศรอบๆทุกคนต่างยืนถ่ายรูปกันอย่างมีความสุขและสนุกสนาน ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องรวมไปถึงคนที่มาร่วมแสดงความยินดีแก่บัณฑิตใหม่
หมับ!
เมื่อเดินมาถึงเนเน่ก็โผกอดผู้เป็นพ่อและแม่ พร้อมกลับหอมแก้มพวกท่านสลับกัน ก่อนจะคุกเข่าลงก้มกราบเท้าที่ท่านทำให้เธอได้มีวันนี้ ทำเอาน้ำตาของคนเป็นแม่กลิ้งไหลลงมาด้วยความปลื้มปีติมันพูดไม่ออกขณะย่อตัวนั่งลงยองๆลูบศีรษะทุยของลูกสาวเบาๆพร้อมกับสามี
"เฮ้ยเน่!" เสียงตะโกนดังขึ้นแต่ไกลทำให้เนเน่ดันตัวขึ้นหันไปมองตามเสียงนั้น เห็นพี่ชายวิ่งมาในชุดครุยคลุมชุดนักศึกษาชายเหมือนกัน
"ทำไมไม่รอก่อนวะ" ว่าแล้วเนมาร์ก็หย่อนตัวนั่งคุกเข่าลงไปกราบเท้าผู้เป็นพ่อและแม่เหมือนกันกับน้อง โน่กับแนทหันไปยิ้มกริ่มให้กันด้วยความปลื้มปริ่ม
"ต่อไปนี้หนูทั้งสองคนต้องรับผิดชอบงานต่อจากป๊าแล้วนะ ขอให้พวกหนูตั้งใจทำงานให้ดีและเป็นพ่อแม่ที่ดีของหลานนะลูก" ทันทีที่เนมาร์ดันตัวขึ้นโน่ก็กล่าวบอกออกไปตามด้วยให้พร ทั้งสองคนก็พยักหน้ารับคำอย่างยินดีและจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด แล้วเข้าไปกอดท่านทั้งสองด้วยความรัก
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็หยัดกายลุกขึ้นมาเดินกรูกันไปถ่ายรูปครอบครัวตามซุ้มต่างๆที่ทางมหาลัยจัดไว้ รอบสุดท้ายเนเน่หันไปอุ้มลูกทั้งสองคนจากพี่เลี้ยงขึ้นแนบอกคนละข้างมาถ่ายรูปคู่กับพี่ชายและหลานชายทั้งสองคน ฟังไม่ผิดหรอกเนมาร์มีลูกแล้วแต่เพิ่งมีหลังเธอเกือบๆปีชื่อน้องมาร์คกับมั้นหน้าตาไม่ต้องพูดถึง ก็ได้พ่อเขามาเต็มๆนั่นแหละ
ถ้าถามว่าแคนดี้กับแคทไปไหนทำไมไม่มาถ่ายรูปด้วยกัน ต่างคนต่างอยู่กับครอบครัวของตัวเองโน้น เนื่องจากในช่วงเช้าพวกเราถ่ายด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วในส่วนของตอนเย็นจะเป็นของครอบครัว
"พี่เนเน่คะ"
"….." เนเน่หยุดฝีเท้าหันกลับไปมองด้านหลังขณะที่กำลังเดินออกจากสนามหญ้าพร้อมกับทุกคน เมื่อได้ยินเสียงรุ่นน้องเอ่ยเรียกพร้อมกับวิ่งเข้ามาหา แล้วยื่นดอกไม้ช่อใหญ่มาให้
"มีคนฝากดอกไม้มาให้ค่ะ"
มือเล็กเอื้อมไปหยิบมันมาอุ้มไว้ "ใครฝากมาเหรอ" เธอก้มมอง พลางเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนอยากรู้ว่าของใคร จะว่าเป็นของฟีฟายไม่น่าจะใช้เพราะเมื่อเช้าเจ้าตัวมาแสดงความยินดีด้วยตัวเองแล้ว
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ งั้นหนูไปบูมต่อแล้วนะเพื่อนรออยู่" ว่าจบรุ่นน้องสาวสวยก็วิ่งออกไปทันทีอย่างรีบร้อน จุดที่เธอบูมอยู่ห่างกันไม่ไกลเท่าไหร่
"ของใครกัน" มือเล็กหยิบการ์ดที่เสียบอยู่หลังดอกไม้ขึ้นมาค่อยๆพลิกอ่าน
'ยินดีด้วยนะบัณฑิตใหม่ วันนี้เธอสวยมากเลยนะรู้ไหม'
'ฉันไม่รู้ว่าเธออยากได้อะไร เลยสั่งทำดอกไม้มาให้เป็นของขวัญ'
'ไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าฉันเป็นใครแล้วก็ไม่ต้องมองหาด้วย เพราะมองไปก็ไม่เจอ'
'และสุดท้ายอยากจะบอกว่า ฉันขอโทษสำหรับทุกอย่าง'
—————————————