ตอนที่ 14 ความตั้งใจของคนฝึกสิงโต (2)
แม้แต่บยองกุกก็ยังประหลาดใจจนต้องคว้าแขนแฮจินไว้ ครั้งนี้แฮจินทำเกินไป อีกฝ่ายเป็นถึงกับชายที่มีอำนาจมากที่สุดในเกาหลี
อย่างไรก็ตามแฮจินกลับยังคงพูดกับซองจุนอย่างใจเย็น
“แม็กซ์ เบ็คมันน์เขาเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยม ผมจำได้ว่าภาพวาดผืนนี้อยู่ในการประมูลแรมพาร์ดที่เคิลน์ เมื่อปี…”
“2011”
เป็นหญิงสาวที่แอบมองแฮจินเมื่อครู่ แต่ตอนนี้เธอจ้องไปที่แฮจินอย่างเย็นชาเช่นเดียวกับซองจุน
“ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่มันจะต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่”
“ผิดพลาด? นายกล้าพูดเรื่องไร้สาระที่นี่?”
แฮจินยิ้มให้เธอ
“นี่ไม่ใช่ภาพวาดของแม็กซ์ เบ็คมันน์”
ภาพนี้มันดึงดูดสายตาของแฮจินตั้งแต่เขาเข้ามาในบ้านโดยที่เขายังไม่ได้ใช้เวทมนตร์เลยด้วยซ้ำ เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาได้เห็นภาพวาดของจริงมาด้วยตาของเขาเอง
“ไร้สาระ นายกล้าพูดว่าภาพวาดของพ่อฉันเป็นของปลอมงั้นเหรอ? นายกำลังทำให้ภัณฑารักษ์และผู้ประเมินทั้งหมดของแฮวิชิแกลเลอรี่ดูโง่ ฉันคงปล่อยนายไปหลังจากที่นายทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ พ่อคะเราควรโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้!”
เธออาละวาดราวกับมีคนมาดูถูกเธอซึ่งหน้า แตกต่างจากเธอ ซองจุนยังคงเงียบอยู่ เขาทำเพียงจ้องไปที่แฮจินด้วยแววตาโกรธเกรี้ยวจากนั้นจึงเปิดปากของเขา
“เธอกำลังพูดในสิ่งที่เธอรับผิดชอบไม่ได้”
“ผม? งั้นคุณก็โทรแจ้งตำรวจได้เลย ผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมจะโดนข้อหาอะไร แต่เนื่องจากผมทำให้ฮวาจินขุ่นเคือง ชีวิตต่อจากนี้ของผมคงไม่ง่ายแน่”
แฮจินมั่นใจราวกับพูดว่า ‘ก็แจ้งไปสิ’ แม้แต่มินซองก็ยังต้องเหลือบมองซองจุน เมื่อดูจากท่าทีของแฮจินแล้วดูเหมือนมันจะมีบางอย่าง…
“ทำไมเธอถึงคิดว่ามันเป็นของปลอม?”
“ผมเป็นนักประเมิน ผมคงไม่สามารถบอกคุณฟรีๆได้”
บรรยากาศกำลังดำเนินไปอย่างจริงจัง แต่เมื่อแฮจินขว้างระเบิดออกมามันก็ทำให้สถานที่แห่งนี้หยุดนิ่งราวกับพวกเขาอยู่ในไซบีเรีย
มินซองตกตะลึงก่อนที่เขาจะตะโกนออกมา “คุณคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหนกัน? ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับเรื่องล้อเล่นของคุณ!”
“ผมไม่ได้ล้อเล่น แต่ผมต้องขอโทษด้วยถ้าคุณรู้สึกแบบนั้น แต่… คุณคงไม่ได้หวังว่าจะได้รับการประเมินฟรีหรอกใช่ไหม? บอกตามตรงการที่ผมบอกว่ามันเป็นของปลอมก็ถือว่าผมจริงใจมากพอแล้ว”
บยองกุกเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้น เขาวางกล่องลงและยืนอยู่ข้างหลังแฮจิน เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเพราะมันสายเกินไปแล้วที่จะหยุดแฮจิน เขาทำได้เพียงแค่สนับสนุนเขาเท่านั้น
“ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้จะให้เธอประเมินฟรีอยู่แล้ว บอกราคาของเธอมา”
“1% ของสิ่งที่ประเมิน นั่นคือค่าธรรมเนียมของผม”
สิ่งต่างๆเริ่มเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
“พ่อ! หนูว่าเขาต้องบ้าแน่ พ่อคิดจะฟังเขาต่ออีกงั้นเหรอ?”
ลูกสาวของซองจุนตะโกนว่าให้แจ้งตำรวจ เพราะทันทีที่พวกเขายอมรับค่าธรรมเนียมพวกเขาก็จะต้องให้เงินหลายสิบล้านวอนกับคนเปลกหน้าคนนี้ หากตระกูลเจ้าของบริษัทรายอื่นพบเรื่องนี้เข้า พวกเขาจะต้องถูกเยาะเย้ยเป็นแน่ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอโวยวาย
ซองจุนมองราวกับจะพูดว่า ‘ทำสิ่งที่เธอต้องการ’ จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่แฮจินก่อนจะพูดออกมาเสียงดัง “ผู้อำนวยการลีตรวจสอบว่าเขาเป็นใคร หากเธอพูดเรื่องไร้สาระเธอจะต้องจ่ายราคาสำหรับมัน 1% ของสิ่งที่ประเมิน? เธอจะได้มัน แต่ถ้าเธอคิดผิดฉันเอาเงินนั้นคืนและจับเธอเข้าคุก ถ้าเข้าใจแล้วก็เริ่มได้เลย”
แฮจินรู้สึกได้ว่าเวทมนตร์ได้เปลี่ยนแปลงเขาอย่างแน่นอน ในสถานการณ์นี้ไม่ว่าใครก็ต้องสั่นกลัว แต่เขากลับไม่ประหม่าเลยแม้แต่น้อย
“โอเค งั้นผมจะบอกคุณว่าค่าธรรมเนียมของผมคือเท่าไหร่ก่อนที่ผมจะบอกคุณว่าทำไมมันถึงเป็นของปลอม เมื่อครั้งที่มันยังอยู่ในงานประมูลแรมพาร์ด ภาพวาดผืนนี้ถูกขายในราคา 864,000 ยูโร ซึ่งตอนนี้ราคามันน่าจะสูงขึ้น แต่ผมจะมองข้ามมันไปและกำหนดค่าธรรมเนียมของผมตามราคาที่ได้กล่าวไปข้างต้นรวมแล้วเป็นเงินจำนวน 12ล้านคุณเห็นด้วยหรือไม่?”
คราวนี้เป็นมินซองที่ร้องเสียงหลง
“คุณบอกว่า 1% ของสิ่งที่ประเมิน ดังนั้นค่าธรรมเนียมคงไม่ใช่ 12ล้านหรอกใช่ไหม?”
“โอ้ ผมลืมบอกไป แม้ว่ามันจะเป็นของปลอมค่าธรรมเนียมก็จะถูกคิดตามราคาภาพวาดจริง หากคุณไม่ต้องการ คุณก็สามารถปฏิเสธได้”
“ฮะ… อะไรนะ…”
มินซองมองไปที่ซองจุน เขากำลังจะถามเจ้านายของเขาว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอบ้าๆนี้หรือไม่
“ไม่เป็นไร”
ซองจุนไม่ได้ปฏิเสธเพราะมันเป็นแค่เงิน 12ล้าน เขาอยากจะรู้ว่าวันนี้เขาจะต้องส่งแฮจินเข้าคุกหรือเขาจะได้รู้ว่าภาพวาดตรงโถงทางเดินของเขามันเป็นของปลอมจริงๆ
แฮจินยิ้มและเดินเขาไปใกล้ภาพวาด จากนั้นเขาก็ลูบสิงโตที่กำลังแสดงอยู่บนเก้าอี้เบาๆ
“คุณต้องรู้ก่อนว่า ‘Lion Tamer’ เป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นของเกอริง”
“ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิตเลอร์และนาซีได้ปล้นสะดมภาพวาด ประติมากรรม งามฝีมือและเครื่องประดับทุกชนิดรวมแล้วประมาณห้าล้านชิ้น”
“พวกเขาสร้างกองกำลังพิเศษที่เรียกว่าElnsatzstab โดยรับคำสั่งจากแฮร์มัน เกอริงผู้เป็นมือขวาของฮิตเลอร์และมุ่งเน้นไปที่การค้นหาโบราณวัตถุโดยใช้รถถัง ภาพLion Tamerของแม็กซ์ เบ็คมันน์ก็เป็นหนึ่งในภาพที่ถูกเกอริงปล้นหรือริบมา”
“ตอนนี้เรากำลังเรียนเรื่องประวัติศาสตร์อยู่รึเปล่า? เข้าเรื่องได้แล้ว”
ลูกสาวของซองจุนกระตุ้นเขาด้วยใบหน้าเย็นชา
“ผมก็ไม่ชอบเรียนประวัติศาสตร์เช่นกัน แต่เราไม่สามารถพูดถึงแม็กซ์ เบ็คมันน์ได้โดยไม่เอาเรื่องประวัติศาสตร์ขึ้นมาพูด อย่างไรก็ตามผมครั้งนี้ไม่ได้หยิบเรื่องประวัติศาสตร์ขึ้นมาพูดเพื่ออธิบายเรื่องของเบ็คมันน์ แต่เป็นของเกอริง”
“เงียบ ส่วนเธอต่อได้เลย”
ซองจุนสงบสติอารมณ์ลูกสาวของตัวเองและเอนหลังพิงโซฟาราวกับบอกให้แฮจินทำตามสบาย
“เมื่อตอนที่เกอริงเริ่มสะสมงานศิลปะมันก็มีภาพวาดของเฟอร์เมร์ด้วย คุณรู้จัก’Christ with the Adulteress (คริสต์กับชายชู้)’ ไหม?”
ไม่เหมือนลูกสาวที่กำลังสับสน ตัวซองจุนรู้สึกประหลาดใจ เขาถึงกับลุกขึ้น
“เมเซอร์! เขาเป็นนักต้มตุ๋นที่ขายภาพปลอมให้กับเกอริง แต่เขาก็ได้รับเงินปลอมกลับมาเช่นกัน หืมม.. เธอกำลังจะบอกว่าเมเซอร์เป็นคนวาดภาพนี้?”
ฮัม เฟอร์ เมเซอร์เป็นศิลปินชาวดัตซ์ที่มีชื่อเสียงจากการลอกเลียนแบบงานของโยฮันเนิส เฟอร์เมร์(เธอมีชื่อเสียงจากภาพ Girl with Pearl Earring (สาวใส่ต่างหูมุก)) และขายให้เกอริง
ในเวลานั้นเมเซอร์ถูกตำหนิจากเหล่านักวิจารณ์ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาสี่ปีในการเตรียมการปลอมแปลงเพื่อหลอกพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้วอับราฮัม เบรเดียสนักประวัติศาสตร์ศิลปะและนักประเมินที่โด่งดังที่สุดซึ่งอุทิศทั้งชีวิตของเขาเพื่อศึกษาผลงานของเฟอร์เมร์ได้ประกาศว่าภาพ ‘The Supper at Emmaus’ ของเมเซอร์เป็นภาพที่เฟอร์เมร์วาดจริงๆ
หลังจากนั้นเมเซอร์ก็ขายภาพปลอมของเฟอร์เมร์เพื่อหาเงิน และหนึ่งในนั้นคือภาพ ‘Christ and the Adultress’ ที่ขายให้กับเกอริง หลังสงครามสิ้นสุดลงเขาก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมมือกับนาซี
เมเซอร์เปิดเผยว่าภาพวาดนั้นไม่ใช่ของจริง แต่เป็นของปลอมที่เขาสร้างขึ้น มันจึงทำให้เขาเปลี่ยนจากคนทรยศที่ทำงานให้นาซีมาเป็นฮีโร่ที่หลอกเกอริง
“ในตอนนั้นเมเซอร์พบว่าการทำให้ของปลอมดูเก่าเป็นส่วนที่ยากที่สุด ดังนั้นเขาจึงเริ่มปลอมภาพวาดของศิลปินในยุคของเขาเอง และหนึ่งในนั้นคือ…”
“แม็กซ์ เบ็คมันน์?”
“แม็กซ์ เบ็คมันน์เป็นที่เกลียดชังของพวกนาซีมากทำให้เขาต้องหนีไปอเมริกา ดังนั้นจะมีใครบ้างที่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นของปลอม? บวกกับสมัยนั้นมันก็ยังไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์แล้วด้วย”
“ภาพวาดนี้ถูกขายในการประมูลที่น่าเชื่อถือ เธอมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นของปลอม?”
“ภาพวาดในการประมูลน่าจะเป็นของจริง นั่นคือเหตุผลที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้ว่ามันต้องมีข้อผิดพลาดในระหว่างกระบวนการ… อย่างไรก็ตามหลักฐานที่คุณต้องการมันอยู่ตรงมุมขวาล่างของภาพ ตรงส่วนสีดำของเก้าอี้มันมีลายเซ็นของเมเซอร์อยู่”
มินซองเดินเข้าไปใกล้ภาพวาดอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมันอยู่นานและพบบางอย่าง เขาชี้ไปที่จุดหนึ่งของภาพวาดและทำเสียงแปลกๆ
“ฮะ? ฮ๋า?”
เขาประหลาดใจที่พบมันจริงๆ
“หลบไป”
ลูกสาวของซองจุนรีบเดินมาและจ้องไปที่จุดที่มินซองชี้ไป จากนั้นเธอก็เห็นตัวอักษร ‘mee’ ที่มีขนาดเท่าเมล็ดข้าว เธอหันกลับมามองแฮจิน
“นี่คือลายเซ็นที่นายบอก?”
“ใช่ มันเป็นลายเซ็นที่เมเซอร์ทิ้งเอาไว้บนภาพวาดของเขา ภาพวาดของจริงจะไม่มีมัน”
“แล้วภาพวาดของจริงมันอยู่ที่ไหน?”
“อันนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
จริงๆแล้วแฮจินรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
เมื่อห้าปีก่อนตอนที่เขาและพ่อของเขาได้ไปที่อุฟฟิสิแกลเลอรี่ในอิตาลีทำให้พวกเขาได้พูดคุยกับหญิงชราคนหนึ่ง
น่าแปลกที่เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เธอถูกใจพ่อของแฮจินและเชิญพวกเขาไปที่บ้านของเธอ แม้ว่าภาษาอังกฤษของยอนซอกจะไม่ได้ดีนัก แต่เธอก็รับรู้ได้เลยว่าเขาเชี่ยวชาญเรื่องวัตถุโบราณมาก
เมื่อแฮจินและยอนซอกไปที่บ้านของเธอ พวกเขาก็พบว่าครอบครัวของหญิงชราเป็นตระกูลชนชั้นสูงของฟลอเรนซ์ที่มีประวัติยาวนาน เธอมีภาพวาดมากมายรามถึงภาพ The Lion Tamer ด้วย
เธอไม่คิดจะขายมันเพราะมันมีค่ามาก ดังนั้นแฮจินจึงรู้สึกว่ามันแปลกเมื่อเห็นมันที่นี่ แต่เขาก็เลือกจะเพิกเฉยมันเนื่องจากเขาไม่สามารถมองมันใกล้ๆได้
อย่างไรก็ตามซองจุนและลูกสาวของเขากลับล้อเลียนเขาและบยองกุกซึ่งมันทำให้เขาโกรธ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้เวทมนตร์ของเขา
เวทมนตร์นี้ทำให้เขามองเห็นได้ดีขึ้นราวกับว่าเขากำลังใช้แว่นขยายหรือกล้องโทรทรรศน์ แม้ว่ามันจะเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขาก็พบบางอย่างที่ไม่ควรอยู่บนนั้น
หากไม่ใช่เพราะมันเขาอาจจะไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ของจริงจากนั้นเขาก็จะถูกบังคับให้ต้องปล่อยมันไป
“เธอบอกว่าเธอไม่รู้ แต่เมื่อดูจากที่เธอพูดแล้ว ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้ว่าภาพวาดของจริงอยู่ที่ไหน”
บางทีการอยู่ในตำแหน่งสูงอาจทำให้ซองจุนกลายเป็นผู้หยั่งรู้ เขาดูเหมือนจะมั่นใจมากว่าแฮจินรู้
อย่างไรก็ตามตอนนี้แฮจินสนใจเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
“ผมขอให้เลขบัญชีกับผู้อำนวยการลีก่อนได้ไหม? ผมจะปล่อยเรื่องนี้และคิดว่าคุณต้องให้เงินผมแน่เพราะยังไงมันก็ไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้หากคุณเบี้ยวเงิน แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะ…”
แฮจินต้องการกล่าวเสริมเพื่อความมั่นใจ แต่ซองจุนหยุดเขา
“พอได้แล้ว เงินจะเข้าบัญชีของเธอวันนี้”
“ขอบคุณมากครับ นับเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดี”
แฮจินรู้สึกดีราวกับว่าเขาได้ชกหน้าอันเย่อหยิ่งของซองจุน เราจะได้เห็นใบหน้าที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงของลูกสาวเขา แต่ตอนนี้ซองจุนไม่ได้สนใจเธอและมองไปที่บยองกุกอย่างสงบ
“น่าสนใจ… และสำหรับเธอ ฉันจะซื้อเจ้าสิ่งนั้นในราคาสามพันล้าน”
“จริงเหรอ? โอ้ ขอโทษด้วยครับ สิ่งนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน… งั้นผมจะเอามันออกมาอีกครั้ง”
บยองกุกยกกล่องขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะและเปิดมันออก
“เขาเป็นหลานชายของเธอ?”
“ใช่ครับ แม้ว่าเขาจะดูหยาบคายไปสักเล็กน้อย แต่เขาก็เป็นคนดี และเขาก็ยังทำงานของตัวเองได้ดีด้วย”
“ใช่ อย่างที่เธอพูด เขาดูเป็นคนหยาบคาย แต่เก่งในงานของเขา”
“คุณลิมมีอะไรกับเจ้าเด็กหยาบคายแต่มีฝีมือคนนั้นหรือไม่?”
บยองกุกเป็นคนหัวไว ซองจุนลูบศิลาดลอย่างระมัดระวังก่อนจะพูดออกมา
“ฉันอยากให้เขาช่วยฉัน…”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 21 ภาพสองภาพ (2) พฤศจิกายน 6, 2021
- ตอนที่ 20 ตุลาคม 29, 2021
- ตอนที่ 19 ตุลาคม 22, 2021
- ตอนที่ 18 มรดกที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ตุลาคม 15, 2021
- ตอนที่ 17 ตุลาคม 9, 2021
- ตอนที่ 16 มรดกที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ (1) ตุลาคม 9, 2021
- ตอนที่ 15 ความตั้งใจของคนฝึกสิงโต (3) ตุลาคม 9, 2021
- ตอนที่ 14 ความตั้งใจของคนฝึกสิงโต (2) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 13 ความตั้งใจของคนฝึกสิงโต (1) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 12 ก้าวแรกในฐานะผู้ประเมินวัตถุโบราณ (2) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 11 ก้าวแรกในฐานะผู้ประเมินวัตถุโบราณ (1) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 10 Ma Won’s Ume Flower Seowon (2) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 9 Ma Won’s Ume Flower Seowon (1) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 8 งามใหม่ (2) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 7 งานใหม่ (1) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 6 ใช้เวทมนต์ (2) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 5 ใช้เวทมนตร์ (1) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 4 มันอยู่ในสายเลือด (3) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 3 สายเลือดไม่สามารถปฏิเสธได้ (2) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 2 สายเลือดไม่สามารถปฏิเสธได้ (1) กันยายน 24, 2021
- ตอนที่ 1 ภายในห้องหินที่ไหนสักแห่ง ….(อารัมภบท) กันยายน 24, 2021
MANGA DISCUSSION