บทที่ 84 ล่าหรือถูกล่า 3
แป๊ะ!
ถังเส้าหยางดีดนิ้วไปที่หน้าผากของหญิงสาว
“โอ๊ย!” คังเสวี่ยอทานอย่างเจ็บปวดในขณะที่เธอยกมือขึ้นมาปิดหน้าผากของเธอ
“สาวน้อย เธอควรจะรู้ว่าตอนนี้โลกนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว! มันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ ได้ แม้แต่ซอมบี้ก็ยังปรากฏตัวขึ้นข้างๆเธอในเวลาเที่ยงคืนอย่างกะทันหัน หรือเธอ จะลืมมันไปแล้ว?” ถึงเส้หยางหันกลับมาในขณะที่เดินไปที่ห้องครัว เขาหยิบแก้ว และเทน้ําให้ตัวเอง “ไรเมื่อเธอรอดชีวิตมาได้นานขนาดนี้ เธอก็น่าจะฆ่าซอมบี้แล้วได้ รับเลเวลมาบ้างแล้วสิ?” เขาดื่มน้ําหลังจากที่เขาถามอย่างนั้น
“มันไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่นายสามารถรักษาตัวเองได้เร็วขนาดนั้นเลย!” เธ อต้องการที่จะพูดหักล้างถังเส้าหยาง แต่เธอก็หยุดมันเมื่อเธอได้ยินค้าถามถัดไปที่ ถามเธอ เมื่อพูดถึงเลเวล ตอนนี้เธออยู่ที่เลเวล 6 หลังจากฆ่าซอมบี้ไปหลาย สิบตัวด้วยขวานฉุกเฉินของเธอ
เมื่อถึงเส้าหยางดื่มน้ําเสร็จ เขาก็เดินไปที่เตียงเพื่อนั่ง มันไม่มีเก้าอี้อยู่ในห้อง และห้องก็ใหญ่กว่าห้องเก่าของเขา กระนั้นมันก็เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับห้องในปัจ จุบันของเขา ห้องนอน ห้องครัว และห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกัน
“ฉันจะถือว่าเธอรู้เรื่องเลเวลแล้ว แล้วค่าคุณสมบัติล่ะ?” เขาเหยียดร่างกายขณะที่ สายตายังคงจับจ้องไปที่หญิงสาว
“ฉันรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติ!” คังเสวี่ยตอบตามความจริง เมื่อเธอมาถึงเลเวล 6 เธอก็ ได้รับคะแนนค่าคุณลักษณะมาทั้งหมด 10 คะแนน และเธอก็ได้จัดสรรคะแนนทั้ง หมดไปที่ความแข็งแกร่งและความว่องไว
“แล้วเธอรู้มั้ยว่าค่าพลังชีวิตทําอะไรได้?” เขาถามอีกครั้ง
“อืม…” เสียงของเธอขาดหายไป เธอกําลังคิดอยู่ว่าค่าพลังชีวิตนั้นหมายถึงอะไร “ค่าสุขภาพ?” เธอพยายามเชื่อโยงสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับค่า สุขภาพของบุคคล
ถังเส้าหยางหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคําตอบ เขาไม่สามารถพูดได้ว่าค่าตอบนั้นผิด เพราะมันก็เกี่ยวข้องกับสุขภาพอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ถูกต้องซะทีเดียว “เปิดหน้าจอค่าสถานะของเธอ แล้วแตะที่ค่าว่าค่าพลังชีวิต!” แทนที่จะบอกเธอโดยต รง เขาทําเพียงแค่แนะนําเธอเกี่ยวกับวิธีการค้นหา
คังเสวี่ยไม่สงสัยในค่าสั่งของถังเส้าหยาง เมื่อมาถึงจุดนี้ ผู้ชายคนนี้ก็ได้รับความ ไว้วางใจจากเธอแล้ว เธอเปิดหน้าจอค่าสถานะและแตะไปที่ค่าพลังชีวิต หญิงสาว แปลกใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็มองไปที่ชายคนนั้น
“เธอพูดถูกส่วนหนึ่ง เพราะฉันมีค่าพลังชีวิตสูง ดังนั้นบาดแผลแค่นี้จึงไม่เป็นอัน ตรายใดๆสําหรับฉัน!” ถังเส้หยางบอกหญิงสาวในขณะที่เขาอ่านความคิดของเธอ
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากเตียง “เอาล่ะ ฉันโอเคขึ้นแล้ว เราไปหาผู้รอดชีวิตที่เหลื อกันเถอะ เราต้องเคลื่อนที่ให้เร็วก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกฆ่าโดยก็อบลินที่สุดแส นจะน่ารัก”
คังเสวี่ยกลอกตาเมื่อชายคนนั้นยังคงเรียกสัตว์ประหลาดที่หน้าตาน่าเกลียดว่าน่า รัก ในขณะที่เธอกําลังจะพยักหน้า ดวงตาของเธอก็เหลือบมองไปที่ประตูบานหนึ่ง ถังเส้าหยางสังเกตเห็นแววตาของเธอ เขาหันไปทางนั้นแล้วถามเธอ
“อะไร? มันมีอะไรสําคัญอยู่ข้างในประตูนั้นหรอ?” เขาเดินเข้าไปใกล้ประตูและเปิด มัน ข้างในเป็นห้องน้ํา เมื่อเห็นแบบนี้เขาก็หันกลับไปหาหญิงสาวที่ตัวเหม็นอย่างเจ้า เล่ห์
ถังเส้าหยางขมวดคิ้วและลูบคาง หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “สิบนาที! เธอมีเวลาสิบนาทีในการทําความสะอาดร่างกาย!” เมื่อได้ยิดังนี้ หญิงสาวก็ดูมีท่าที ไม่พอใจ
“สิบนาทีหรอ? นั่นมันสั้นไป ฉันต้องการอย่างน้อยยี่สิบนาที..” เธอไม่ได้อาบน้ํา มาเกือบหนึ่งเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าในระยะเวลาเพียงแค่ 10 นาทีนั้นมันก็ไม่พอที่จะทําให้เธอทําความสะอาดร่างกายจนสะอาดได้
ถังเส้าหยางยักไหล่เบาๆในขณะที่เขาเดินกลับไปที่เตียง “10 นาทีหรืออยู่ที่นี่ต ลอดไป!”
“เข้าใจแล้ว!” คังเสวี่ยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและเอาเสื้อผ้าของเธอเข้าไปด้วย เธอจํา เป็นที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอด้วย
ในขณะที่รอเธออาบน้ํา ถังเส้าหยางก็นอนรอเธอยู่บนเตียง จากนั้นรอยิ้มก็ปรากฎ ขึ้นเมื่อเขาได้กลิ่นหอม
เขารู้ว่ากลิ่นหอมนี้เป็นของหญิงสาวคนนั้น และเมื่อได้ยินเสียงน้ําไหลดังออกมา จากห้องน้ํา ริมฝีปากของเขาก็ยิ้มกว้างขึ้น จากนั้นเขาก็นั่งลงและคิดถึงการแผนผัง
คังเสวี่ยบอกเขาว่ามันมีอาคารสามหลังในหอพัก อาคารแต่ละหลังจะมีสิบชั้น และ ที่ชั้นหนึ่งก็จะเป็นโรงอาหาร และถังเส้าหยางก็สันนิษฐานว่าหากมีผู้รอดชีวิตอยู่ที่นี่ พวกเขาก็น่าจะอยู่ใกล้สถานที่ที่มีอาหาร
ในตอนนี้ เขาก็อยู่ในอาคารหอพักแห่งหนึ่งบนชั้นเจ็ด เขากําลังคิดถึงเส้นทางที่ เขาควรจะเลือกใช้
“ฉันจะขึ้นไปดูชั้นบนก่อนแล้วค่อยลงไปดูชั้นล่างทีหลัง…
ขณะที่เขากําลังวางแผนเรื่องเส้นทางอยู่ เวลา 10 นาทีก็ได้ผ่านไป คังเสวี่ยออก มาตรงเวลาเมื่อเธออาบน้ําเสร็จ เธอออกมาจากห้องน้ําพร้อมกับผมที่ยังเปียกอยู่ เนื่องจากถังเส้หยางไม่ได้ให้เวลาเธอมากเพียงพอ ดังนั้นเธอจึงมีเวลาเช็ดหัว
ถังเส้าหยางหลุดออกจากความคิดของเขาเมื่อทั้งเสวียเดินออกมาจากห้องน้ํา เขา ประหลาดใจที่เธอออกมาในขณะที่เธอสวมชุดออกกําลังกายที่ปกปิดเฉพาะบริเวณห น้าอกและกางเกงรัดรูปเท่านั้น
หญิงสาวรักษารูปร่างของเธอไว้ได้อย่างดี กางเกงรัดรูปแสดงส่วนโค้งที่งดงาม ออกมา หน้าอกที่นูนออกมาเองก็สมบูรณ์แบบเช่นกัน
“อะไรกัน? เธอพยายามจะยั่วฉันหรอ?”
ใบหน้าที่สกปรกของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ถังเส้หยางรู้สึกประหลาดใจที่ หงส์ขี้เหล่ไม่ได้ขี้เหล่จริงๆ แต่เธอเนสาวงามที่ถูกความสกปรกปกปิดเอาไว้
คังเสวี่ยสามารถสัมผัสได้ถึงสายตานักล่าของถังเส้าหยาง สาเหตุที่เธอเลือกชุดนี้ ก็เป็นเพราะมันทําให้เธอสามารถเคลื่อนไหวได้ง่าย
เธอมาถึงหน้าตู้เสื้อผ้าของเธอ และในขณะที่เธอกําลังจะเปิดตู้เสื้อผ้า เงาๆหนึ่งก็ โผล่ขึ้นที่ด้านหลังของคังเสวี่ย เธอหันกลับมาโดยไม่รู้ตัวและเธอก็พบกับใบหน้าของ ถังเส้หยาง จมูกของเธอและจมูกของเขาอยู่ห่างจากกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร เธ อตกใจมาก และเธอก็พยายามตีตัวออกห่างจากผู้ชายคนนั้น แต่หลังของเธอก็กระแท กกับตู้ เธอไม่มีที่ไปและแขนของถังเส้าหยางก็ล็อคไม่ให้เธอขยับไปด้านข้าง
ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!
หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นขณะที่เธอรู้สึกประหม่า เธอไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะ เกิดขึ้นกับเธอเมื่อเธอไว้วางใจผู้ชายคนนั้นอย่างเต็มที่
ถังเส้าหยางค่อยๆเข้ามาใกล้เธอจนแก้มของพวกเขาสัมผัสกัน จากนั้นเธอก็ได้ยิน เสียงกระซิบเบาๆจากชายคนนั้นว่า “สาวน้อย เธอกําลังเล่นกับไฟ!”
บนชั้นสอง
กลุ่มของหยานเฉิงพบกับซอมบี้ระยะที่ 2 ห้าตัว ห้าคลาวเลอร์พุ่งออกมาจากห้องๆ หนึ่ง พวกมันกําาลังรอดักซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่
หยานเฉิงยังคงความสงบไว้ในขณะที่เขาแทงหอกไปข้างหน้า โชคดีที่นี่เป็นโรงพ ยาบาลขนาดใหญ่ที่มีทางเดินกว้างขวาง ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้หอกในการต่อสู้ ได้ได้อย่างอิสระ
และยิ่งไปกว่านั้น มันก็ต้องขอบคุณการต่อสู้กับฝูงซอมบี้ มันทําให้เขามีเลเวลค่อน ข้างมาก และปัจจุบันเขาก็อยู่ที่เลเวล 42 ในขณะที่เขาเน้นค่าคุณสมบัติของเขาไปที่ ความว่องไวและความแข็งแกร่ง
เมื่อคลาวเลอร์พุ่งเข้ามาโจมตีหยานเฉิง หยานเฉิงก็พุ่งเข้าไปรับมือกับพวก มันในทันที เขาแทงหอกของเขาไปที่พวกมันตัวหนึ่งแล้วเหวี่ยงมันกับพวกที่เหลือไป ที่ด้านข้าง
เพลง!
พวกคลาวเลอร์พุ่งทะลุกระจกทางด้านขวาไป และโดยไม่ลังเล หยานเฉิงก็กระ โดดไปในห้องนั้นในทันที การกระทําที่รวดเร็วของหยานเฉิงทําให้สมาชิกในทีมรู้สึก ประหลาดใจ
ลูกทีมทั้งสี่กาลังเตรียมคตั้งรัการโจมตีของคลาวเลอร์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากห ยานเฉิงได้เหวี่ยงพวกมันเข้าห้องไปแล้ว ดังนั้พวกเขาจึงรีบเข้าไปในห้องเพื่อช่วยห ยานเฉิง
ในขณะที่ทั้งสี่กําลังจะพุ่งเข้าไปช่วย พวกเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นว่าคลาวเลอร์ ทั้งห้านั้นไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไปแล้ว พวกเขาสังเกตเห็นว่ามันมีรูโม่ปรากฎอยู่บนหัว ของคลาวเลอร์แต่ละตัว จากนั้นทั้งสี่ก็มองไปทางชายหนุ่มที่กาลังยืนอยู่ใกล้ๆกับค ลาวเลอร์ทั้งห้าตัว หยางเฉิงยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่เขามองไปที่พวกัน ภาพลัก ษณ์ของหยานเฉิงในตอนนี้นั้นแทบจะไม่ต่างอะไรไปจากคนบ้าที่คลั่งไคล้การฆ่า
ทั้งสี่มองหน้ากันเมื่อรู้ว่าหวัวหน้าทีมของพวกเขานั้นดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมา จากถังเส้หยาง
แน่นอนว่าหยานเฉิงไม่ได้สนุกกับการฆ่า แต่เขามีความสุขเพราะเขาเพิ่งได้รับการ แจ้งเตือนว่าเขาเลเวลอัพ เขาจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติแล้วเดินออกไป
“ไปกันเถอะ! เราจะขึ้นไปชั้นบน!” เขาชี้ไปที่ประตูบันไดฉุกเฉิน ทีมมาถึงสุดทาง เดินปีกขวาของอาคารแล้ว
“ห้ะ!? มันง่ายแบบนี้เลยหรอ!” ชายคนหนึ่งที่ดูอายุราวๆสามสิบต้นๆ กล่าว เขาเป็ นส่วนหนึ่งของกลุ่มทาสและเขาก็ก่าลังเริ่มรู้สึกอวดดีเพราะเขายังไม่พบสิ่งที่เป็นอัน ตรายใดๆ จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็พบเพียงคลาวเลอร์ทั้ง 5 ตัวหวหน้าทีมของพวกเขา เพิ่งจะฆ่าไปเท่านั้น และสิ่งนี้ก็ทําให้ชายคนนี้เริ่มรู้สึกอวดดี
หยานเซิงหยุดฝีเท้าของเขาและมองย้อนกลับไปที่ชายคนนั้น “ถ้านายไม่อยาก ตาย นายก็ควรจะระวังให้มากกว่านี้! ตลอดทางมานี้เราก็ยังไม่เคยเจอเคียวมรณะเลย แต่ตัวเดียว!” เขาเตือนชายคนนั้น
หยานเฉิงต้องการเตือนให้ชายคนนั้นไม่ประมาท อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นก็ไม่ได้ คิดแบบนั้น เขาคิดว่าหยานเฉิงกําลังอวดเบ่งในฐานะหัวหน้าและคิดว่าหยางเจ๋งมอง ว่าเขากระจอก
แม้ว่าชายคนนั้นจะไม่มีความสุข แต่เขาก็ยังกลืนความโกรธลงไป
ประตูไม่ได้ล็อค ดังนั้นหยานเฉิงจึงสามารถเข้าไปได้อย่างราบรื่น พวกเขาเดินขึ้น ไปด้วยกันจนมาถึงชั้นที่มีเลข “4” เขียนไว้บนผนังข้างประตู
“นี่ไง!” เขาเปิดประตูเข้าไป และทันทีที่เขาเปิดประตู เส้นผมองเขาก็ปลิวไปตาม ลมที่กระโชกเข้ามาในขณะที่เขาสังเกตเห็นว่ามันกําลังมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาที่หัว ศีรษะของเขา
“ซุ่มโจมตี หมอบลงไป!” หยานเฉิงตะโกนออกมาก่อนที่เขาจะกลิ้งไปข้างหน้าและ หลบการโจมตีของเคียวที่เกือบจะตัดคอของเขา
ต้องขอบคุณคําเตือนที่ทันท่วงที่ของเขา คนอื่นๆจึงสามารถรอดมาได้เช่นกัน พวก เขากลิ้งตามเขาไปข้างหน้า
“เชี่ยเอ้ย! วิ่ง” คนที่เพิ่งพูดว่ามันง่ายตะโกนออกมาและวิ่งไปทางอื่น เสียงตะโกน ของเขาทําให้อีกสามคนรู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน
พวกเขาคิดว่านั่นเป็นเสียงตะโกนของหยานเฉิง เพราะหยานเฉิงเป็นคนแรกที่ตะ โกนขึ้นมา และพวกเขาก็คิดว่าหยานเฉิงอาจจะต้องการที่จะหนีไปก่อนเพื่อที่จะกลับ ไปตั้งหลัก
ต้องโทษความตื่นตระหนกที่ทําให้พวกเขาทั้งสามไม่สามารถแยกแยะความแตก ต่างของเสียงตะโกนได้ พวกเขาวิ่งไปทางซ้ายและทิ้งหยานเฉิงเอาไว้ข้างหลัง
“ไอ้ขี้ขลาด!” หยานเฉิงสาปแช่งในขณะที่เขามองเข้าไปในบันไดฉุกเฉิน ดาร์คก็ อบลินห้าตัวกําลังห้อยตัวอยู่บนเพดาน
“ฉันควรจะวิ่งด้วยไหม? หรือฉันควรจะต่อสู้กับพวกมัน? ความคิดที่มีเหตุผลของ เขากาลังบอกให้เขาวิ่ง แต่เท้าของเขาก็ไม่ยอมขยับ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขากลับต์ องการที่จะต่อสู้กับก็อบลิน
ในขณะที่เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็อบลินสามในห้าก็วิ่งไล่ตาม สมาชิกในทีมของเขาไปโดยทิ้งอีกสองตัวไว้ข้างหลัง
“ในเมื่อมันมีกันแค่สองตัว งั้นฉันจะต้องสู้ไหวแน่!”
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ เขาก็ยกหอกขึ้น เขาพร้อมที่จะต่อสู้เพราะมันมีคู่ต่อสู้ เหลือเพียงสองคนเท่านั้น
MANGA DISCUSSION