Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 820
หลังจากครุ่นคิด หลิงฮันก็ตกลงกับราชินีหยินว่าจะไปภูมิภาคกลาง
เขาไม่ค่อยมีหน้าที่อะไรในเมืองจักรพรรดิเท่าไหร่ ที่นี่ไม่มีศัตรูที่แข็งแกร่งพอให้เขาลงมือ ในด้านของเผ่าใต้สมุทรก็มีเฮ่อเหลียนเทียนหยุนคอยดูแลแล้ว สิ่งที่เหลือในตอนนี้คือการสะสางปัญหาที่ภูมิภาคกลาง
นี่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด ถ้าห้านิกายโบราณไม่ถูกกำจัดแล้วจะเปิดสวรรค์ได้อย่างไร?
หลังจากเตรียมตัวไม่นาน หลิงฮันก็พร้อมออกเดินทาง
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเมืองจักรพรรดิ ดังนั้นคนที่ติดตามหลิงฮันไปจึงมีเพียง จูเสวียนเอ๋อ ฮูหนิว เจ้ากระต่ายและหนูทองคำ ด้วยการมีอี้ชวงชวงเป็นผู้คุ้มกันเมือง เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าใครจะมารุกรานเมืองของเขา
“ฮ่าๆๆ หลิงฮันอยู่ไหน!” พวกเขายังไม่ทันได้ออกเดินทางก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองดังขึ้น พวกเขามองเห็นร่างของชายลึกลับที่สวมชุดคลุมมิดปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าของเมืองจักรพรรดิ
หลิงฮันอดแสดงท่าทีแปลกใจไม่ได้ ชายลึกลับผู้นี้ต้องเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติแน่นอน แถมพลังของเขายังน่าทึ่งอีกด้วย กลิ่นอายของเขาที่ปลดปล่อยออกมานั้นทำให้ชั้นอากาศโดยรอบปริแตก
หลิงฮันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาจ้องมองอีกฝ่ายอยู่ชั่วขณะก่อนจะอุทานออกมา “เจ้าคือจักรพรรดิจอมอสูร!”
“ฮ่าๆๆ เจ้าหนู นับว่าเจ้ายังมีสายตาที่เฉียบคมอยู่บ้าง!” ชายลึกลับดึงผ้าคลุมออกเผยให้เห็นร่างที่สูงโปรง เขาเป็นชายหน้าตาดีไว้หนวด
จักรพรรดิจอมอสูรนั้นไม่มีร่างกายของตนเอง ใครก็ตามที่ถูกครอบงำโดยปราณอสูรย่อมถูกเขายึดร่างได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางถูกสังหารให้ตกตายและถูกแยกออกเป็นเก้าส่วนแทน
แต่จักรพรรดิจอมอสูรในตอนนี้ทรงพลังอย่างมาก เพียงแค่จ้องมองก็ทำให้หลิงฮันรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาแล้ว
ระดับทลายมิติสิบห้าดาว?
ให้ตายเถอะ ทำไมตัวตนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ถึงได้ผุดกันออกมาราวกับเป็นดอกเห็ด!
หากไม่นับรวมแปดราชัน ก็ยังมีราชันซากศพสิบห้าตา แมงมุมเงินยักษ์ และอี้ชวงชวงที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิตสิบห้าดาว ซึ่งตอนนี้ก็มีจักรพรรดิจอมอสูรปรากฏขึ้นมาอีกคน
“เจ้ารวบรวมชิ้นส่วนทั้งเก้าของเจ้าครบแล้ว?” หลิงฮันถาม
“ถูกต้อง!” จักรพรรดิจอมอสูรจ้องมองมายังหลิงฮัน แววตาของเขาปริ่มไปด้วยความคับแค้น ก่อนหน้านี้เขาโดนหลิงฮันหลอกและเกือบจะถูกลบให้หายไปตลอดการ
“มอบศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายมาซะ!” เขากล่าวอย่างโหดเหี้ยม
สำหรับเขา ศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายคือสมบัติล้ำค่ายิ่งกว่าสมุนไพรและทักษะบ่มเพาะใดๆ
หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “ต้องขอโทษด้วย ศิลาที่ว่ามันถูกใช้งานหมดไปตั้งนานแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองไปหามันใหม่ด้วยตัวเองล่ะ? หรือไม่เจ้าก็ยอมเลิกคิดถึงมันเสีย มันก็แค่ก้อนหินก้อนหนึ่งเอง”
“บังอาจ!” จักรพรรดิจอมอสูรคำราม เขาไม่เชื่อเด็ดคาดว่าหลิงฮันจะสามารถดูดซับพลังงานจากศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายทั้งได้ในระยะเวลาสั้นๆ แม้จะใช้เวลาสิบปีหรือหลายพันปี มนุษย์ก็ไม่อาจดูดซับพลังงานจากศิลาได้
“ไม่คิดจะส่งมา?” เขาแสยะยิ้ม “ก็ช่างประไร เมื่อข้ายึดครองร่างของเจ้า ทุกอย่างในตัวเจ้าก็จะกลายเป็นของข้าเอง!”
แม้หลิงฮันจะมีร่างกายที่สามารถต้านทานต่อการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติได้ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องวิญญาณล่ะ? จักรพรรดิจอมอสูรตรงหน้านี้ย่อมเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวต่อเขาแน่นอน
“เหอะๆ จงมอบทุกสิ่งให้ข้าผู้นี้!” จักรพรรดิจอมอสูรลงมือโจมตีใส่หลิงฮัน
ตูม! ตูม!
แต่ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของจักรพรรดิจอมอสูรก็ถูกหมัดสองหมัดอัดใส่พร้อมกัน พลังทำลายล้างของหมัดทั้งสองส่งผลให้ร่างของจักรพรรดิจอมอสูรกระเด็นลอยออกไป
จักรพรรดิอสูรพยายามลุกขึ้น ใบหน้าของเขาที่ถูกโจมตียุบลงไปเป็นรอยเว้า หากเป็นจอมยุทธคนอื่นพวกเขาคงจะตกตายไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับจักรพรรดิจอมอสูร รอยเว้าบนใบหน้าของเขานูนขึ้นกลับสู่สภาพเดิมภายในพริบตา
“ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีตัวตนที่ทรงพลังไม่ด้อยไปกว่าข้าถึงสองคนอยู่ที่นี่”
“ถ้ารู้ตัวแล้วก็ไสหัวไป!” ราชินีหยินกล่าวอย่างเกียจคร้าน
“ฮ่าๆๆ คิดจะขับไล่ข้าผู้นี้งั้นรึ? นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีพลังมากพอรึไม่!” จักรพรรดิจอมอสูรเลียริมฝีปาก “เหอๆ ข้าไม่ได้ลิ้มรสร่างกายของสตรีมานานมากแล้ว!”
ใบหน้าอันงดงามของราชินีหยินบูดบึ้งและกล่าว “กล้ามีความคิดเช่นนั้นกับราชินีผู้นี้ ช่างแส่หาความตาย!” นางพุ่งเข้าใส่จักรพรรดิจอมอสูรอย่างไม่รีรอ
ที่จริงแล้วจักรพรรดิจอมอสูรนั้นรู้สึกตกตะลึงมากที่จักรวรรดิต้าหลิงเล็กๆแห่งนี้มีสตรีที่สามารถทัดเทียมเขาได้อยู่ถึงสองคน พวกนางคือจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้สิบห้าดาว
แต่แน่นอนว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังชีวิตของเขาก็อยู่ที่ปราณอสูรไม่ใช่ร่างกาย ต่อให้ร่างกายได้รับบาดสาหัส… เขาก็สามารถเปลี่ยนร่างใหม่ได้อยู่ดี
“จะว่าไปแล้วร่างกายของเจ้าก็ไม่เลวเลย ขอข้าลิ้มลองหน่อยก็แล้วกัน!” จักรพรรดิจอมอสูรแสยะยิ้มและเข้าปะทะกับราชินีหยิน
“จันทราแปดวิถี!” จักรพรรดิหยินใช้ทักษะ ผมสีดำของนางสยายออกกลายเป็นกระบี่สีดำและโจมตีใส่จักรพรรดิจอมอสูรอย่างต่อเนื่อง
“อะไรกัน!” จักรพรรดิจอมอสูรอุทาน “เจ้าสามารถใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้!”
เขาอุทานออกมาอย่างหวาดกลัวราวกับพบเห็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่
“เหอะ อสูรมารจากดินแดนใต้พิภพเช่นเจ้านั้นถูกจำกัดพลังเอาไว้ด้วยอำนาจสวรรค์และปฐพีของโลกนี้ ซึ่งอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ก็คือพลังส่วนหนึ่งของสวรรค์และปฐพี มันคือพลังที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการเจ้า!” ราชินีหยินลงมือโจมตีอย่างต่อเนื่อง
จักรพรรดิจอมอสูรกลายเป็นหดหู่ พลังบ่มเพาะของเขานั้นบรรลุเกินระดับทลายมิติไปแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์นั่นคืออำนาจของดินแดนใต้พิภพ มันแตกต่างกับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของโลกนี้อย่างสิ้นเชิง
“น่ารังเกียจ! ช่างน่ารังเกียจ!” หลังจากปะทะกันอยู่ไม่กี่กระบวนท่า จักรพรรดิจอมอสูรก็หยุดมือและหันหลังเพื่อหนีไป
“เจ้าหนู เมื่อใดที่เจ้าไม่หลบอยู่หลังจากสตรีสองนางนี้ ร่างกายของเจ้าจะต้องถูกข้ายึดครอง!” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะหายไปจากสายตาทุกคน
หลิงฮันแสยะยิ้ม เมื่อใดที่เขาบรรลุระดับทลายมิติ เขาจะใช้แก่นแท้แห่งดาบสะบั้นใส่อสูรตนนี้ซะ!