Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่1627 เผ่นหนีด้วยความหวาดกลัว
จักรพรรดิเพลิงอัสนีคือตัวตนระดับใด?
ระดับขอบเขตตำหนักอมตะ!
ถึงแม้ตอนนี้พลังบ่มเพาะของเขาจะลดลงมาเหลือเพียงระดับเซียน แต่ความเข้าใจในหลักแห่งเต๋าของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
เพียงแค่คำชี้แนะไม่กี่คำของเขาก็ทำให้ราชาเซียนทุกคนร่างสั่นสะท้านและรู้สึกเคารพเลื่อมใส
หลิงฮันไม่ได้กลับเข้าไปในหอคอยทมิฬเนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าตนเองกำลังจะทะลวงผ่านระดับในอีกไม่กี่วันนี้
จักรพรรดิเพลิงอัสนีชี้แนะเป็นเวลาสามเดือน แต่เหล่าเซียนคิดว่าเวลาผ่านไปเพียงวันเดียวเท่านั้น พวกเขาแต่ละคนต่างรู้แจ้งและรู้สึกราวกับจะทะลวงผ่านระดับได้ตลอดเวลา
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงความรู้สึกที่พวกเขาคิดไปเอง ราชาเซียนส่วนใหญ่ต่างมีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับราชาเซียนขั้นสูงสุดอยู่แล้ว หากจะทะลวงผ่านเป็นระดับโลกียนิพพานพวกเขาจำเป็นต้องบ่มเพาะพลังในดินแดนแห่งเซียนเท่านั้น เนื่องจากอำนาจสวรรค์และปฐพีของดินแดนศักดิ์สิทธิ์และดินแดนใต้พิภพนั้นไม่เพียงพอ
แม้ความรู้สึกที่จะทะลวงผ่านระดับจะเป็นเพียงความรู้สึกที่พวกเขาคิดไปเอง แต่หากสามารถซึมซับความรู้ที่ได้รับจากการชี้แนะของจักรพรรดิเพลิงอัสนีได้ พลังต่อสู้ของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
อันที่จริงคนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดในการชี้แนะคือเซียนซิงฉาและเซียนระดับต้นอย่างพวกเซียนหมิงซิน การที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสมบัติและได้รับการชี้แนะนั้นเป็นเพราะพวกเขาเป็นเจ้าที่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาอยู่ในที่ที่มีแต่ราชาเซียน
พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กน้อยที่อยู่ในก๊วนสี่สหายแห่งความวุ่นวายจะมีความเข้าใจในศาสตร์วรยุทธสูงส่งจนแม้แต่ราชาเซียนก็ยังเคารพ
วันเวลาผ่านไปสามเดือน คลื่นแสงแห่งเต๋าสีทองก็เคลื่อนที่ใกล้เข้ามา ออร่าแห่งเซียนและจิตสังหารถูกปลดปล่อยออกมาท่วมท้นไปทั่วดาวมู่ถูอย่างไม่คิดปิดบัง
ราชาเซียน!
“หืม?”
เซียนทุกคนตื่นต่างสภาวะรู้แจ้ง ใบหน้าของพวกเขาเผยถึงความไม่สบอารมณ์อย่างแรง
นี่เจ้าปัญญาอ่อนรึเปล่า ที่นี่มีราชาเซียนอยู่หลายสิบคน เจ้ากล้าดีอย่างไรที่อยู่ๆก็โผล่มาท้าทายพวกเขา?
“ฮึ่ม!” เหล่าราชาเซียนเค้นเสียงไม่พอใจและปลดปล่อยออร่าเข้าใส่ผู้บุกรุก
ราชาไค่หยุนตกตะลึงจนใบหน้าซีดเผือด!
หลังจากการตายของฉงเยี่ยเขาก็ไล่ตามบ่งอาฆาตมาทันที เขาเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมีที่มีคนกล้าลงมือสังหารทายาทของเขา
แต่ถึงแม้ราชาไค่หยุนจะอยากปลิดชีวิตตัวการที่สังหารคนของเขามากขนาดไหน ดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาก็ตั้งอยู่ไกลเกินไป เขาจึงไม่สามารถล้างแค้นได้ในทันที ซึ่งเหตุผลที่เขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในสถานที่ห่างไกลและโดดเดี่ยวเป็นเพราะว่าต้องการหลีกเลี่ยงดินแดนต้องห้ามต่างๆ เขามีบาปในจิตใจที่หวาดกลัวต่อการถูกดินแดนต้องห้ามมากมายรุมโจมตี
ด้วยความคับแค้นใจ เมื่อมาถึงดาวมู่ถูเขาจึงควบคุมจิตสังหารเอาไว้ไม่ไหวและระเบิดพลังออกมาทันที ราชาเซียนเช่นเขามีใครที่ต้องหวาดกลัว?
ทว่าคลื่นพลังที่ตอบโต้กลับมานั้นคือออร่าอันทรงพลังของราชาเซียนนับสิบคนโดยแต่ละคนไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขา
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!
ราชาไค่หยุนรีบเผ่นหนีทันที สัญชาตญาณบ่งบอกเขาว่านี่คือกับดักที่ล่อเขามาฆ่า
ในอดีตที่เขาทำการทรยศราชันวารีสวรรค์นั้นเขาได้รับส่วนหนึ่งของทักษะบ่มเพาะระดับดาราชาเซียนมาครอบครอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นความลับที่ดินแดนต้องห้ามอื่นๆไม่รู้ ด้วยเหตุผลนี้เขาจึงหวาดกลัวว่าสักวันหนึ่งหากมีล่วงรู้ความลับของเขา เขาจะถูกดินแดนต้องห้ามมากมายล้อมโจมตีเหมือนราชันวารีสวรรค์
ในตระกูลฉง มีเพียงทายาทที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากเขาเท่านั้นที่จะถูกสอนเศษเสี้ยวทักษะระดับราชานิรันดร์ ยิ่งกว่านั้นวิญญาณของทายาทที่ถูกสอนทักษะจะถูกผนึกเอาเพื่อไม่ให้ถูกตรวจสอบความทรงจำจากดวงวิญญาณได้
ด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกล้อมสังหาร เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของราชาเซียนหลายสิบคนราชาไค่หยุนก็จิตใจสั่นสะท้านจนเยี่ยวแทบราด
‘พรึบ’ เขาหันร่างทะยานหนีในพริบตา
หือ?
เหล่าราชาเซียนรู้สึกมึนงง อีกฝ่ายเป็นบ้าอะไร เหตุใดถึงปรากฏตัวมาทำท่าข่มขู่แล้วจู่ๆก็เผ่นหนีกลับไปง่ายๆแบบนั้น?
“นั่นมันเฒ่าฉงจากดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆา?” ราชาเซียนคนหนึ่งเอ่ย
ในดินแดนแห่งนี้มีราชาเซียนอยู่ไม่มาก แน่นอนว่าพวกเขาต้องรู้สึกออร่าของราชาเซียนด้วยกันเป็นอย่างดี
“ยังคงขี้ขลาดเหมือนเคย!” ราชาเซียนชิงอวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงดูหมิ่น
“หากเป็นเขาก็ไม่แปลกที่จะหลบหนี ฮ่าๆๆ” ราชาเซียนคนหนึ่งกล่าว
“หมอนั่นคงจะมาแก้แค้น แต่พอรู้ว่าที่นี่มีราชาเซียนอยู่มากมายจึงหวาดกลัวและรีบเผ่นหนี” ราชาเซียนทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
หืม?
เหล่าราชาเซียนชะงักเล็กน้อย การที่จู่ๆราชาไค่หยุนก็ปรากฏตัวในขณะที่พวกเขาอยู่ที่นี่ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอน สถานการณ์เช่นนี้ราวกับว่าถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้ว
ทำไมหลิงฮันต้องเชิญพวกเขามาที่นี่เวลานี้?
หรือว่าเขาจะไม่มีไพ่ลับสำหรับสังหารราชาเซียนเหลืออยู่แล้ว? เพราะงั้นหลังจากการตายของฉงเยี่ย เขาจึงได้เรียกพวกเขามาที่นี่เพื่อเป็นดาบคุ้มกัน
เป็นไปได้!
เหล่าราชาเซียนครุ่นคิดเรื่องนี้ในใจ มีบางคนที่ยังคงมีท่าทีสงบนิ่งเช่นเดิมและฟังการชี้แนะต่อไปในขณะที่มีบางคนที่ความคิดชั่วร้ายเริ่มผุดขึ้นในจิตใจ
บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสทอง!
หลิงฮันชำเลืองมองราชาเซียนที่มีท่าทางเปลี่ยนไปและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกๆท่าน ที่ข้าเชิญทุกคนมาที่นี่ในวันนี้มีอีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อเป็นสักขีพยานการก้าวสู่ระดับเซียนของข้า”
เขาปลดปล่อยออร่าที่พยายามระงับเอาไว้ ‘ตูม’ ออร่าอันทรงพลังแต่ไม่มั่นคงระเบิดออกมา พร้อมกันนั้นหมู่เมฆสีดำก็ลอยมารวมตัวกันเหนือฟากฟ้า
อะไรกัน เจ้าหนูนี่จะทะลวงผ่านเป็นเซียนแล้ว!
ราชาเซียนทุกคนตกตะลึง ตอนที่พวกเขาเห็นหลิงฮันเมื่อไม่กี่ปีก่อนเขายังเป็นเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงอยู่เลยแท้ๆ แต่เวลาเพิ่งผ่านไปไม่กี่ปีเขากลับกำลังจะกลายเป็นเซียนแล้ว!
ไม่ได้การ!
หลังจากหลิงฮันเป็นเซียนแล้วต่อให้เขาจะไม่มีพลังต่อสู้สูงพอจะสังหารพวกเขา แต่ก็มีพลังมากพอที่จะปกป้องตัวเอง
หากเซียนระดับต้นคิดหนี ต่อให้เป็นราชาเซียนก็ไม่สามารถไล่จับได้ง่ายๆ
ราชาเซียนบางคนผุดความหนึ่งขึ้นมาในหัว ทำไมไม่ใช้โอกาสสุดท้ายนี้สังหารหลิงฮันเสียล่ะ?
โลกก็เป็นเช่นนี้ นอกจากดินแดนต้องห้ามจำนวนน้อยที่ต้องการเป็นสหายกับหลิงฮันจริงๆ ดินแดนต้องห้ามส่วนใหญ่ต้องการเป็นพันธมิตรกับหลิงฮันเพราะเขาสามารถสังหารราชาเซียนสองคนได้อย่างง่ายดาย
แต่ตราบใดที่หลิงฮันสูญเสียพลังที่ว่าไป พวกเขาก็จะเปลี่ยนท่าทีกลับมาช่วงชิงความลับอันน่าอัศจรรย์ที่เขาครอบครองอยู่แทน!
ณ เวลานี้มีราชาเซียนถึงเจ็ดคนที่เผยจิตสังหารออกมาและพร้อมลงมือ