Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 571
เฟิงผั่วหยุน
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ ชายคนนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นพี่ใหญ่เฟิงผั่วหยุนที่เขาเพิ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบายด้วย
“ชายคนนั้นเขาเป็นใครกัน ถึงกล้าเรียกจอมยุทธระดับสวรรค์ว่าตาเฒ่า”
“ข้าไม่รู้ บางทีเขาอาจอยู่ในเมืองนานเกินไปจนเป็นบ้าแล้วก็เป็นได้”
“ใช่แล้ว มันฟังดูสมเหตุสมผลดี”
มีผู้คนจำนวนมากยืนอยู่บนกำแพง พวกเขาไม่ได้มองหลิงฮันอีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าเฟิงผั่วหยุนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ในสายตาของคนทั่วไป เขาเป็นเพียงแค่ชายร่างใหญ่ที่ดูไม่มีอะไรพิเศษ
แต่ทว่าสำหรับจอมยุทธระดับสวรรค์นั้นพวกเขาไม่อาจมองระดับพลังของเฟิงผั่วจิวนได้
นี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าระดับพลังของอีกฝ่ายไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา
ไป๋หยวนเริ่มระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น มันไม่อยากทำตัวประมาท ดังนั้นมันจึงเรียกโลงศพเจ็ดโลงจากระยะไกลออกมาทันที
“เจ้าเป็นใครกัน?” ไป๋หยวนถาม
เฟิงผั่วหยุนแคะหูและพูดว่า “เจ้ามีปัญหาเรื่องการได้ยินรึ?ข้าบอกให้เจ้าล่าถอยไปเดี๋ยวนี้ หรือเจ้าต้องการให้ลงมือและทำให้เจ้าล่าถอยไปด้วยตนเอง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ปากดีนัก แน่จริงก็แสดงให้ชายชราผู้นี้ได้เห็น!” ไป๋หยวนกล่าว นี่คือรูปแบบอาคมสังหารที่สี่ แม้ว่ารูปแบบอาคมสังหารที่สี่จะไม่สมบูรณ์ ทำให้มันมีพลังเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติขั้นต่ำจะทำลายมันได้
สายตาของเฟิงผั่วจวินคล้ายกับสายฟ้า เมื่อเขาจ้องมองไปที่ไป๋หยวนทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาราวกับดวงตากำลังจะระเบิด
แข็งแกร่งยิ่งนัก!
ไป๋หยวนรู้สึกตกตะลึง มันจึงรีบเรียกใช้งานทหารซากศพ ปัง โลงศพทั้งเจ็ดเปิดออกมาพร้อมกัน พวกมันทั้งเจ็ดกระโจนออกมาจากโลงศพ ร่างของพวกมันเหลือเพียงแค่กระดูกเท่านั้น แต่ทว่ากระดูกพวกนั้นกลับเป็นสีทองที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
“ทหารซากศพเพียงแค่เจ็ดตัวแต่กลับต้องการที่จะขัดขวางข้า??” เฟิงผั่วหยุนกล่าวอย่างดูถูก
ทหารซากศพทั้งเจ็ดตัวของไป๋หยวนนั้นไม่ธรรมดา เพราะผู้นำนิกายช่วยเหลือมันในการปรับแต่งทหารซากศพ ในแง่ของพลังป้องกันของพวกมันเทียบได้กับจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับสวรรค์
ยิ่งไปกว่านั้น พลังโจมตีของพวกมันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าพลังป้องกันเลยแม้แต่น้อย
“ฆ่ามัน!” ไป๋หยวนชี้นิ้วไปที่เฟิงผั่วหยุน ทันใดนั้น ทหารซากศพทั้งเจ็ดร่างกระโจนออกไปพร้อมกันทันทีเพื่อสังหารเฟิงผั่วหยุน
“พวกเราควรเข้าไปช่วยหรือไม่?” บนหัวเมือง หญิงชราคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาและถามยิ่วเฉวยาง
“แม้แต่หยางน้อยยังมองความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นไม่ออก ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องสูงส่งกว่าพวกเราอย่างแน่นอนพวกเราควรเฝ้าดูอย่างเงียบๆ” ยิ่วเฉวหยางส่ายหัว
“เหมือนว่าข้าจะเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่ง” ชายชราอีกคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา เขาจ้องมองไปที่เฟิงผั่วหยุนด้วยสีหน้าสงสัย
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะรู้สึกกังวล เพราะทหารซากศพพวกนั้นเป็นถึงทหารซากศพระดับทองคำขั้นสาม แม้แต่ตัวเขาในชีวิตที่แล้วยังไม่อาจต่อกรกับพวกมันได้ ยกเว้นจักรพรรดิดาบและสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์
เฟิงผั่วหยุนไม่สนใจแม้แต่น้อย และกลับนำขวดน้ำเต้าสุราออกมาดื่มแทน
ทหารซากศพเริ่มโจมตี ทำให้เขาจมอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารซากศพกระดูกสีทอง
มันจบแล้ว!
ทุกคนต่างพูดแบบนั้นอยู่ในใจ พวกมันเป็นถึงทหารซากศพระดับทองคำระดับสามที่แม้แต่จอมยุทธระดับสวรรค์ยังต้องเกรงกลัว
ไป๋หยวนแสยะยิ้ม นี่คือจุดจบของคนที่กล้าดูหมิ่นนิกายพันศพ
ปัง ภายใต้การโจมตีของทหารซากศพทั้งเจ็ดตัว เฟิงผั่วหยุนได้ระเบิดพลังแสงสีม่วงออกมา ทำให้ทหารซากศพทั้งเจ็ดร่างกระเด็นออกไปพร้อมกับพื้นดินที่สั่นไหว ทหารซากศพเจ็ดตัวที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับจอมยุทธระดับสวรรค์กลายเป็นเศษกระดูกนับไม่ถ้วนทันที
ร่างของเฟิงผั่วหยุนเปล่งแสงสีม่วงออกมา หากไม่มีพระเจ้า พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าและท้องฟ้าที่อยู่บนหัว โลกและสวรรค์จะต้องกรีดร้องและสั่นคลอนเพราะเขา
ดวงตาของเขาเปล่งประกายเหมือนกับดวงดารา เส้นผมของเขาพริ้วไหวและแสงที่น่าอัศจรรย์เปล่งประกายออกมาจากรอบตัวเขา เขาเป็นดั่งพระเจ้าที่สามารถสร้างสรรค์สรรพสิ่งและทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้
“จอมยุทธระดับทลายมิติ!” สีหน้าของไป๋หยวนกลายเป็นซีดขาวและบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่สามารถทำลายทหารซากศพที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับสวรรค์ได้นั้น คือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้
ระดับทลายมิติ!
“คารวะผู้อาวุโส!” ในเมือง ยิ่นเฉวหยางและจอมยุทธระดับสวรรค์คนอื่นต่างแสดงความเคารพออกมา จอมยุทธระดับทลายมิติในภูมิภาคกลางนั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ
“เฟิงผั่วหยุน!” ในที่สุดก็มีคนรู้ถึงตัวตนของเฟิงผั่วหยุน
เฟิงผั่วหยุนยกมือขึ้นมาและพูดกับไป๋หยวนว่า “อย่าหาว่าข้ากลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า จงถอนรูปแบบอาคมของเจ้าซะ แล้วห้ามกลับมาที่เมืองหมื่นสมบัติอีกเด็ดขาด!”
ใบหน้าของไป๋หยวนเองก็แสดงให้เห็นถึงความเคารพ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นมิตรหรือศัตรู จอมยุทธระดับทลายมิตินั้นมีสถานที่สูงส่งเกินไปที่ยืนอยู่เหนือมนุษย์ทุกคนและสามารถกลายเป็นพระเจ้าได้
ทว่ามันกลับพูดออกมาว่า “คำสั่งของท่านผู้นำคือทำลายเมืองหมื่นสมบัติและข้าไม่อาจขัดสั่งของท่านผู้นำได้!”
“เช่นนั้น จงเรียกผู้นำของเจ้าออกมา ข้าจะจัดการมันด้วยตัวเอง” เฟิงผั่วหยุนปลดปล่อยแรงกดดันออกมา
“ท ท่านผู้นำคงไม่อาจมาพบท่านเฟิงได้” ไป๋หยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน