Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 2006 สังหารหม่าถงกวาง
ตอนที่ 2006 สังหารหม่าถงกวาง
‘พรึบ พรีบ พรึบ’ อักษรจากม้วนคัมภีร์แต่ละตัวส่องประกายแสงเจิดจรัส
หลังจากแสงของมันส่องสว่างไปถึงจุดหนึ่ง%uid% อักษรแต่ละตัวก็ควบแน่นแปรเปลี่ยนกลายเป็นร่างมนุษย์ความสูงสี่ฟุต ที่ทั่วร่างปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว
อักษรทั้งเจ็ด ได้แปรสภาพกลายเป็นจอมยุทธเจ็ดคน
ตามปกติแล้ว หม่าถงกวางจะใช้อักษรหนึ่งตัวต่อการต่อสู้หนึ่งครั้งเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของหลิงฮันแล้ว เขาจึงกระตุ้นใช้พลังอํานาจของอักษรราชานิรันดร์ทั้งเจ็ดพร้อมกัน
จุดประสงค์ของเขาง่ายมาก เขาต้องการสังหารหลิงฮันให้สิ้นซากโดยไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
“โอ้ น่าสนใจขึ้นมาหน่อย” หลิงฮันก้าวเดินขึ้นหน้า ร่างของเขาสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่ ร่างดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์จะปรากฏออกมาจากร่างของเขา
“สังหารเขาให้ข้า!” หม่าถงกว่างชี้ไปยังหลิงฮัน
แต่เดิมเขาอยากกลับไปถึงดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกก่อนค่อยสังหารหลิงฮัน แต่ด้วยความเกรี้ยวกราดในตอนนี้ เขาจึงไม่คิดจะรออีกต่อไปแม้วินาทีเดียว
ตายไปซะ!
จอมยุทธร่างแสงทั้งเจ็ดเคลื่อนที่ไปล้อมหลิงฮันเอาไว้ ถึงแม้พวกมันจะมีร่างกายเหมือนมนุษย์ แต่ก็ไม่อาจมองออกว่าพวกมันมีโฉมหน้าเช่นไร เพราะใบหน้าของพวกมันทั้งเจ็ดล้วนแต่เลือนราง
ปัง!
จอมยุทธทั้งเจ็ดโจมตีเพื่อกําราบหลิงฮันพร้อมกัน
หลิงฮันทั้งสองเองก็ตอบโต้กลับไปพร้อมกัน จนเกิดเป็นการปะทะที่ดุเดือด
อะไรคือความแตกต่างของการทะลวงผ่านระดับ ด้วยหินวิญญาณหยางในแต่ละความบริสุทธิ์ ?
ในกรณีของหินวิญญาณหยางสีม่วง มันจะทําให้ดวงวิญญาณมีพลังต่อสู้ที่เหมือนกับร่างต้นอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่หินวิญญาณหยางสีฟ้าคราม จะทําให้ดวงวิญญาณมีพลังต่อสู้เก้าในสิบส่วนของร่างต้น ส่วนความบริสุทธิ์อื่นๆ ก็ลดละตามกันลงไป
หลิงฮันสองคน มีทั้งพลังต่อสู้และความคิดที่เหมือนกัน ถ้าหากดวงวิญญาณของเขามีหอคอยทมิฬอยู่ในร่างกายล่ะก็ ดวงวิญญาณกับหลิงฮันคงจะไม่มีอะไรเลยที่แตกต่างกัน
“ตูม ตูม ตูม” หลิงฮันทั้งสอง และร่างแสงทั้งเจ็ดเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด
“ฝ่ายไหนกําลังได้เปรียบกัน?” ใครบางคนเอ่ยถาม ในขณะที่มองดูจากระยะไกล
“ข้าก็มองไม่ออกเช่นกัน” คนที่อยู่ข้างๆ ส่ายหัว
คนอื่นๆ จะมองไม่ออกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก พลังต่อสู้ของหลิงฮันกับร่างแสงนั้น อยู่ในระดับของตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์ขั้นต้น ซึ่งทรงพลังเกินกว่าจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางทั่วไปจะมองออก
จักรพรรดินีและฮูหนิวเผยรอยยิ้ม พวกนางมองออกอย่างชัดเจนว่าหลิงฮัน กับจอมยุทธร่างเงานั้นมีพลังต่อสู้ที่ทัดเทียมกัน เพียงแต่หลิงฮันนั้นเป็นจอมยุทธที่แท้จริง ในขณะที่จอมยุทธร่างแสง เป็นสิ่งที่เกิดจากพลังอํานาจของตัวอักษรราชานิรันดร์ ซึ่งคิดว่ามันจะคงสภาพอยู่ได้นานเท่าไหร่กัน?
การต่อสู้ครั้งนี้ หลิงฮันต้องชนะอย่างแน่นอน
หม่าถงกว่างเองก็เป็นถึงจักรพรรดิ แน่นอนว่าเขาย่อมมองเรื่องนี้ออกเช่นกัน การที่จอมยุทธร่างเงาทั้งสามไม่สามารถจัดการหลิงฮันได้ สร้างความตกตะลึงให้แก่เขามาก
เขารู้ยิ่งกว่าใครว่าอํานาจของราชานิรันดร์นี้คงสภาพอยู่ได้เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หากภายในหนึ่งชั่วโมงพวกมันไม่สามารถสังหารหลิงฮันได้ เขาก็จะไม่มีโอกาสครั้งต่อไป
หม่าถงกว่างกัดฟัน และเรียกดวงวิญญาณของตนเองออกมาร่วมมือจัดการหลิงฮัน ต่อให้เขาจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าหลิงฮัน แต่ก็เป็นถึงจักรพรรดิที่มีพลังต่อสู้ที่ไม่อาจดูถูกได้
ครืนน!
ดวงวิญญาณเพลิงเกล้าสวรรค์ถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นเปลวเพลิง และรับมือกับร่างแสงทั้งเจ็ดด้วยตัวคนเดียว หลังจากได้รับอิสระ เพลิงเก้าสวรรค์ก็สามารถปลดปล่อยพลังของตนเองได้อย่างสมบูรณ์
หลิงฮันใช้โอกาสนี้ลงมือโจมตีใส่หม่าถงกว่าง
เมื่อไม่มีจอมยุทธร่างกายคอยช่วยเหลือ มีรึที่หม่าถงกว่างจะเป็นคู่ต่อสู้ให้หลิงฮันได้? ร่างของหม่าถงกว่างถูกทุบตีจนบอบช้ํา และมีโลหิตไหลออกมา หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าภายในหนึ่งร้อยกระบวนท่าเขาจะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน
“มาคุ้มกันข้า!” จิตใจของหม่าถงกว่างหวาดผวา และไม่กล้าสู้กับหลิงฮันซึ่งๆ หน้า ทั้งๆ ที่เขาเองก็เป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แต่ความแตกต่างก็ยังมีมากถึงขนาดนี้
ร่างแสงทั้งเจ็บรีบพุ่งไปโจมตีหลิงฮัน เพื่อสร้างทางหนี้ให้กับหม่าถงกว่าง
แน่นอนว่าภายใต้การรุมกระหน่ําอย่างบ้าคลั่งของร่างแสงทั้งเจ็ด หลิงฮันย่อมไม่สามารถหาโอกาสโจมตีหม่าถงกวางได้อีกต่อไป ทําให้หม่าถงกว่างเผยเผยสีหน้าโล่งอก และรีบหันหลังเผ่นหนีอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่กําลังหลบหนี เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย เขาเป็นถึงจักรพรรดิ แถมยังใช้สมบัติลับราชานิรันดร์ด้วยแล้ว แต่ก็ยังทําได้เพียงหันหนี ความอัปยศเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
หลังจากกลับไปถึงดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก เขาจะต้องสังหารหลิงฮันเพื่อแก้แคให้ได้
หลิงฮันยิ้ม จริงอยู่ที่เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้ แต่หม่าถงกวางเองก็ลืมไปอย่างหนึ่งว่า ตอนนี้เขาไม่นิรันดร์ห้านิพพานอีกต่อไป แต่เป็นจอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณแล้ว
“พรึบ” เพลิงเก้าสวรรค์ลงมือจู่โจม ตอนนี้ร่างแสงทั้งเจ็ดกําลังพัวพันกับหลิงฮันอยู่ พวกมันจึงไม่อาจหยุดยั้งเพลิงเก้าสวรรค์ได้
“ไม่!” หม่าถงกว่างโอดครวญ พร้อมกับรีบเผ่นหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ปัง” ดวงวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ปล่อยหมัดเปลวเพลิง ทะลวงเข้าใส่หน้าอกของหม่าถงกวาง
ดวงตาของหม่าถงกว่างแข็งค้าง และมองลงมาที่บริเวณหน้าอกด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ เขากําลังจะกล่าวคําพูดอะไรบางอย่างออกมา และชีวิตก็ดับสูญไปในทันที
หลู่เซียนหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดผวาในจิตใจ หม่าถงกว่างที่เป็นถึงราชทูตจากดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก หลิงฮันก็ยังสังหารได้อย่างไร้ความเมตตา แล้วเขาล่ะ? เขาเป็นเพียงนักปรุงยาสองดาว และอดีตผู้สืบทอดเท่านั้น ซึ่งไม่อาจเทียบชั้นกับหม่าถงกว่างได้
ในขณะนั้นเอง จอมยุทธร่างแสงทั้งเจ็ดก็ส่องประกาย ก่อนจะหายไปในทันที
หลิงฮันก้าวเดินไปหาหมู่เซียนหมิง และจดจ้องด้วยแววตาเย็นชา “หลู่เซียนหมิง เห็นแก่ที่เจ้ามีพรสวรรค์ในศาสตร์ปรุงยา ข้าถึงได้ทําเป็นหูทวนลมในการกระทําหลายๆ อย่างของเจ้า แต่เจ้าก็ยังยั่วยุข้าครั้งแล้วครั้งเล่า นี่คีโชคชะตาที่เจ้าเป็นคนเลือกเอง”
“ไม่เจ้าจะสังหารข้าไม่ได้ ข้าเองก็เป็นคนของเมืองวิถีโอสถเหมือนกัน!” หลู่เซียนหมิงตะโกน
“นี่คือการลงโทษ!” หลิงฮันปล่อยหมัดออกไป “ปัง” ร่างของหลู่เซียนหมิงถูกบดขยี้เป็นฝนโลหิตในพริบตา
เขาปัดคราบบนมือด้วยท่าทางผ่อนคลาย
“ไปกันเถอะ ที่นี้ไม่เห็นสนุกเลย!” ฮูหนิวกล่าว
หลิงฮันพยักหน้า และทั้งสี่คนได้ทําการมุ่งหน้าต่อ
“เจ้าสังหารราชทูตของดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกไปแล้ว จะไม่เป็นอะไรงั้นรึ?” จักรพรรดินถาม
“ใครใช้ให้มายั่วยุข้าก่อนกันล่ะ แถมหมอนั่นก็ยังคิดไม่ดีกับเจ้าด้วย” หลิงฮันไม่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
จักรพรรดินีพยักหน้าและไม่กล่าวอะไร
“ฮูหนิวจะปกป้องหลิงฮันเอง!” ฮูหนิวกอดรัดแขนข้างหนึ่งของหลิงฮัน
“ช่างรักกันดีเหลือกันนะ!” เสียงหัวเราะดังขึ้นด้านหลังพวกหลิงฮัน
จิตวิญญาณสู้รบของหลิงฮันลุกโชนทันที เขาค่อยๆ หันหลังกลับไปและพูดเน้นเสียง “จี่อู๋หมิง!”
Related