Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1230
“เพียงแต่ว่าครั้งนี้ตำหนักเป่าหลินได้ส่งนักปรุงยาระดับแปดที่ถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะมาเป็นผู้ประลอง” คังซิวหยวนกล่าวทักทันที
นักปรุงยาระดับแปด?
หลิงฮันยิ้ม ถ้าเป็นเมื่อครึ่งปีก่อนเขาอาจจะคิดหนัก หากให้นักปรุงยาระดับแปดมาหลอมเม็ดยาระดับเจ็ด อัตราหลอมสำเร็จและคุณภาพของเม็ดยาก็จะเหนือกว่าเม็ดยาที่นักปรุงยาระดับเจ็ดหลอมหนึ่งขั้น
แม้เขาจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน เรื่องที่ไม่คาดคิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้
แต่ตอนนี้เขาหลอมเม็ดยาเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งสำเร็จแล้ว ฝีมือของเขาในตอนนี้เกือบจะเทียบได้กับนักปรุงยาระดับเก้า มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องกลัวนักปรุงยาระดับแปดด้วย?
“ไม่ใช่ปัญหา!” หลิงฮันกล่าว
คังซิวหยวนกับหยุนหย่งหวังมองหน้ากันและพยักหน้า พวกเขาคิดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าหลิงฮันนั้นประสบความสำเร็จในศาสตร์แห่งการปรุงยาอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้าเม็ดยาระดับเจ็ดที่เขาหลอมมีคุณภาพยอดเยี่ยม นักปรุงยาระดับแปดก็ใช่ว่าจะชนะเอาได้เสมอไป
ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปถึงตำหนักเปาหลิงในไม่ช้า
ตำหนักเป่าหลินนั้นตรงข้ามกับตำนักพวกเขาโดยสิ้นเชิง ขนาดของตำหนักเป่าหลินนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตำหนักฮันหลิงมากกว่าสิบเท่า มันราวกับไม่ใช่ตำหนักขายเม็ดยาแต่เป็นพระราชวังที่งดงาม
ด้วยการที่พวกเขาเป็นตำหนักที่ทรงอิทธิพลมาตั้งแต่แรก แม้จะแพ้กระประลองไปแต่ชื่อเสียงของพวกเขาก็ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว ลูกค้าต่อแถวเข้าออกประตูตำหนักไม่ขาดสาย
หลิงฮันเดินเข้าไปอย่างมั่นใจและกล่าวเสียงดัง “ข้าผู้อาวุโสหลิงฮันจากตำหนักฮันหลิงมาขอท้าประลอง นักปรุงยาคนใดในที่นี้กล้ารับทำท้าของข้าบ้าง?”
เมื่อเสียงดังลั่นของหลิงฮันถูกเอ่ยออกไป แถวของลูกค้าก็หยุดชะงักแน่นิ่งทันทีและหันควับมามองหลิงฮัน
ตำหนักฮันหลิงมาขอท้าประลอง?
กำลังจะมีการแสดงสนุกให้ดู!
ผ่านไปครู่หนึ่งก็มีเสียงดังมาจากฝั่งของตำหนักเป่าหลิน “โอ้ ปรมาจารย์หลิงผู้ขี้ขลาดในที่สุดก็กล้าโผล่หัวมาแล้ว?”
“เมื่อครู่คือเสียงสุนัจเห่างั้นรึ?” หลิงฮันเอ่ยขึ้นทันที
“จะ เจ้ากล้าเรียกข้าว่าเป็นสุนัขงั้นรึ?” เสียงนั่นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
“ฮ่าๆ ข้าพูดถึงสุนัขแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” หลิงฮันหัวเราะ “หรือที่เจ้าร้อนตัวเป็นเพราะตัวเจ้าเองมีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับสุนัข?”
“บัดซบ!”
ปัง!
เสียงกระแทกบางอย่างดังสะท้อนออกมา เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนกำลังเกรี้ยวกราด
“ปรมาจารย์หลิงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” เสียงชราอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับนักปรุงยาคนเฒ่าที่ปรากฏตัวออกมาจากห้องโถงตำหนัก เนื่องจากบันไดจากพื้นตำหนักไปถึงห้องโถงเป็นระนาบต่ำขึ้นสูง ชายชราจึงดูราวกำลังก้มมองหลิงฮันด้วยท่าทีดูถูก
‘โอ้ กล้าเล่นแง่เช่นนี้กับเขา?’
ทันใดนั้นร่างของหลิงฮันก็ขยายใหญ่ขึ้น ปราณก่อเกิดที่ทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมา เขาก้มมองนักปรุงยาเฒ่าและกล่าว “ข้ามาที่นี่เพื่อท้าประลอง มีคนที่พอมีคุณสมบัติประลองกับข้าได้ในตำหนักเป่าหลินรึไม่?”
มุมปากของชายชรากระตุก รุ่นเยาว์ผู้นี้ต้องการเอาชนะแม้แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้? เขายิ่มและกล่าว “เช่นนั้นปรมาจารย์หลิงช่วยตามมาสักครู่ ชายชราผู้นี้จะไปแจ้งปรมาจารย์ของตำหนักเป่าหลินให้”
เขาหันเดินกลับเข้าห้องโถง หลิงฮันคืนสภาพร่างกายกลับเป็นขนาดเท่าเดิม เขาทำเช่นนั้นไปเพราะนึกสนุกเท่านั้น
“ไปกันเถอะ!” หลิงฮันกล่าวและเดินนำ
พวกคังซิวหยวนมองหน้ากันและรีบเดินตามหลิงฮัน เมื่อจ้องมองหลิงฮันที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกประหลาด ราวกับว่าพวกเขาได้ย้อนกลับไปในขณะอยู่ในทวีปฉงเทียน พวกเขาเดินตามอาจารย์ของตนที่เดินทางพิชิตศาสตร์แห่งการปรุงยาใต้หล้าจนหลิงฮันได้รับขนานนามว่าจักรพรรดิปรุงยา
ทั้งสามคนเข้าห้องโถงไปอย่างรวดเร็ว ทางตำหนักเป่าหลินเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในห้องโถงมีเหล่านักปรุงยาชุดเขายืนเรียงกันราวกับเป็นกำแพงมนุษย์ พวกเขาเอามือกุมหน้าอกเอาไว้ด้วยท่าทีเหนื่อยหอบเหมือนกับเพิ่งรีบมาถึงที่นี่
หลิงฮันนำเก้าอี้ออกมาจากหอคอยทมิฬและนั่งลง เขาไม่ทำตัวเป็นคนนอกแม้แต่น้อย
การกระทำของเขาทำให้ฝั่งตำหนักเป่าหลินเป็นกังวลใจ เจ้าทำตัวคุ้นเคยราวกับตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่อย่างนั้นล่ะ…
เมื่อหลิงฮันมาถึงแล้วกำแพงมนุษย์ก็สลายตััััวปรากฏให้เห็นสตรีผู้หนึ่งเดินเข้ามา
นางเป็นที่งดงามและเยือกเย็น หุ่นของนางเพรียวบางและมีผิวที่เนียนดั่งหยก
“เจ้าคือหลิงฮัน?” สตรีเย็นชาผู้นั้นกวาดสายมองหลิงฮันและแสดงท่าทีเหยียดหยามถึงขั้นรังเกียจออกมา “ข้าเป็นนักปรุงยาระดับแปด ทำไมเห็นข้าแล้วยังไม่คารวะสดงความเคารพข้าอีก?”
โอ้ ช่างยิ่งยโสนัก!
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะไม่ใข่นักปรุงยาระดับเก้า?”
ไร้สาระรึเปล่า? ในโลกนี้จะมีนักปรุงยาระดับเก้าที่เยาว์วัยเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าคิดว่าทุกคนเป็นอัจฉริยะเหมือนข้า หานซินเหยียนผู้นี้รึไง?
สตรีงดงามผู้นี้แสดงท่าทีโอ้อวด นางเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงในศาสตร์แห่งการปรุงยา อายุของนางเพิ่งจะเกินหมื่นปีมานิดหน่อยเท่านั้น ที่นางยังไม่ได้เป็นนักปรุงยาระดับเก้าเป็นเพราะข้อจำกัดในเรื่องพลังบ่มเพาะที่ทำให้พลังวิญญาณของนางไม่กล้าแกร่งพอ
อีกฝ่ายดูแล้วเยาว์วัยกว่านางเสียอีก แต่กลับคิดว่าตนเองจะเหนือกว่านางด้านศาสตร์ปรุงยา?
ยังเร็วไปล้านปี!
“ฮึ่ม งั้นก็มาดูกัน!” หานซินเหยียนกล่าวอย่างโอ้อวด “มาประลองกัน ถ้าเจ้าแพ้เจ้าจะต้องก้มหัวขอโทษข้าหนึ่งร้อยครั้งโทษฐานที่เสียมารยาทกับข้า!”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ในกรณีที่เจ้าแพ้ สุภาพบุรุษเช่นข้าไม่คิดจะให้เจ้าก้มหัวขอโทษ เจ้าแค่รินชาให้ข้าและเขียนกระดาษสำนึกผิดก็พอ!”
หานซินเหยียนมีสีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเดิม นักปรุงยาก็เหมือนกับจอมยุทธ แม้ระดับจะห่างกันระดับเดียว แต่ความต่างนั้นราวกับสวรรค์และปฐพี อีกฝ่ายเป็นเพียงนักปรุงยาระดับเจ็ดแต่กล้าทำตัวอวดดีต่อหน้านักปรุงยาระดับแปดเช่นนาง… นี่มันช่างไร้ความเคารพสิ้นดี!
นางพยายามระดับความโกรธเอาไว้ “เลิกสนทนาไร้สาระแล้วเริ่มประลองปรุงยาได้แล้ว เห็นแก่เจ้าเป็นรุ่นเยาว์ ข้าจะเลือกเม็ดยาที่จะหลอมก่อน เม็ดยาที่ข้าจะหลอมคือ… เม็ดยาชำระล้างกระดูก!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
ใครไม่รู้บ้างว่าก่อนหน้านี้หลิงฮันหลอมเม็ดยาชำระล้างกระดูกเอาชนะนักปรุงยาหลีของตำหนักเป่าหลินได้ได้อย่างราบคาบ ครั้งนี้หานซินเหยียนได้เลือกหลอมเม็ดยาชำระล้างกระดูกเช่นกัน ท่าทีของนางดูแล้วมั่นใจเป็นอย่างมาก
หลิงฮันสะบัดมือและกล่าว “”วันนี้พวกเราไม่ได้ประลองหลอมเม็ดยาระดับเจ็ด!
“เหอะ งั้นเจ้าอยากประลองหลอมเม็ดยาระดับหกรึไง?” หานซินเหยียนแสยะยิ้มดูถูก
“ผิดแล้ว พวกเราจะประลองหลอมเม็ดยาระดับแปด!” หลิงฮันกล่าว
ณ วินาทีนั้นเอง บรรยากาศรอบข้างได้กลายเป็นเงียบสงัดทันที
เจ้าต้องล้อพวกข้าเล่นแน่ๆ ก่อนหน้านี้เจ้าบอกเองว่าตัวเองเป็นนักปรุงยาระดับเจ็ด ตอนนี้เวลาผ่านไปเพียงครึ่งปีแต่เจ้ากลับบอกว่าเจ้าต้องการหลอมเม็ดยาระดับแปดงั้นรึ? ใครจะไปมีพัฒนาการที่รวดเร็วขนาดนั้น?
คังซิวหยวนกับหยุนหย่งหวังแทบจะเป็นบ้า ท่านล้อเล่นรึเปล่า? หากทำเตาแรกระเบิดไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสหลอมเตาต่อไปนะ
หานซินเหยียนแสดงสีหน้าตกตะลึงและกล่าว “อย่าหาว่าข้าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เจ้าหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดได้จริงๆรึ?”
“มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะหลอมไม่ได้ล่ะ?” หลิงฮันนำเตาหลอมออกมา “เม็ดยาที่ข้าจะหลอมวันนี้คือเม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง!”
“ว่าไงนะ!” หานซินเหยียนสั่นสะท้าน
เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งคือเม็ดยาที่หายสาปสูญไปแล้ว อย่างน้อยในดาวดวงนี้ก็ไม่มีใครสามารถหลอมมันได้ เม็ดยาชนิดนี้ล้ำค่าอย่างมาก หากมันปรากฏขึ้นมาจะต้องชักนำไปสู่ความโกลาหลเป็นแน่