After Coincidentally Saving the New Transfer Student’s Little Sister, We Gradually Grew Closer - ตอนที่ 6: โอนี่จัง!
บทที่ 6 โอนี่จัง
หลังจากได้ติดต่อชาร์ล็อตไป ไม่นานนักเธอก็ได้เปิดประตูเข้ามาในห้องพักครู
เมื่อสายตาของฉันหันไปมองทางชาร์ล็อต เธอดูแตกต่างกับเมื่อเช้าอย่างชัดเจน
เธอมีสีหน้าที่อ่อนล้า เธอคงจะเหนื่อยกับการตามหาเอ็มม่า
จากที่ดูเธอในตอนนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอต้องเป็นห่วงเอ็มม่าอย่างมาก
“เอ็มม่า? เอ็มม่าอยู่ที่ไหน!?”
“ใจเย็นๆ ชาร์ล็อต น้องสาวของเธอนอนอยู่ตรงนั้น”
ตรงกันข้ามกับชาร์ล็อตที่มีสีหน้ากังวลใจ อาจารย์มิยุชี้ไปทางโซฟาด้านหลังอย่างเงียบๆซึ่งเอ็มม่ากำลังหลับอยู่
ประมาณห้านาทีก่อน เอ็มม่าได้นั่งเล่นอยู่บนโซฟาและเผลอหลับไป
แม้แต่ตอนหลับเธอน่ารักราวกับนางฟ้าเลย
แต่ถ้าดูจากสภาพชาร์ล็อตในตอนนี้ ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเธอตื่นอยู่
เมื่อเธอมองดูน้องสาวที่กำลังหลับชาร์ล็อตก็ทรุดตัวลงกับพื้น
“เธอเป็นอะไรไหม…?”
จู่ๆ เธอก็ทรุดลงไป ฉันเลยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
ชาร์ล็อตที่ได้ฟังคำพูดของฉันอยู่ๆเธอก็หันมามองที่ฉัน เพราะตอนนี้เธอนั่งอยู่กับพื้นเธอเลยต้องเงยหน้าขึ้นมา
อาจเป็นเพราะว่าเธอเป็นห่วงเอ็มม่า ดวงตาของเธอสั่นไหวราวกับกำลังร้องไห้และใบหน้าแดงเล็กน้อย
…ฉันพูดจากใจจริงเลยว่า เธอเป็นคนที่น่ารักมากๆเลย
“ฉันขอโทษ- ฉันดีใจมากที่เอ็มม่าปลอดภัยดี ก็เลยเผลอตัวไป”
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดี ถ้าฉันมีน้องสาวและเธอหายตัวไป ฉันคงจะเป็นห่วงและออกตามหาอย่างสุดชีวิต และถ้าได้พบเธอ ฉันเองก็คงดีใจจนร้องไห้ออกมาเลยล่ะ”
“นายพูดถูก…หลังจากที่ฉันกลับบ้านและไม่พบเธอ- ฉันรู้สึกเป็นห่วงจนไม่อันทำอะไรเลย อาโอยากิคุง ขอบคุณมากเลยนะที่ช่วยเอ็มม่าเอาไว้”
ชาร์ล็อตพูดขอบคุณกับฉันพร้อมกับโค้งตัวลง ท่าทางที่สุภาพของเธอสามารถบ่งบอกถึงการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังพูดญี่ปุ่นได้ค่อนข้างคล่อง ฉันสงสัยจริงๆว่าใครเป็นคนสอนภาษาญี่ปุ่นของเธอ?
“เธอจำชื่อฉันได้ด้วยหรอ”
ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยแนะนำตัวเองกับเธอ
เธอคงเคยได้ยินชื่อของฉันเพราะอาจารย์มิยุและเพื่อนร่วมชั้นเรียกชื่อฉันในห้องเรียน แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะจำได้ด้วย
“อ่า มันเป็นเพราะนายเคยช่วยฉันเมื่อตอนนั้น นอกจากนี้อาจารย์ฮานาซาวะ บอกให้ฉันพึ่งพานายได้ถ้าฉันมีปัญหา”
“เหมือนกับที่เธอพูดเลย นายเป็นคนที่พึ่งพาได้จริงๆ”
จู่ๆ ชาร์ล็อตต์ก็พูดชมฉันออกมา หน้าฉันคงจะแดงแน่ๆ ก็เลยต้องเบือนหน้าหนีเพื่อไม่ให้เธอเห็น
[ฮานาซาวะ มิยุ] นั่นคือชื่อเต็มๆของอาจารย์มิยุ แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รู้จักชาร์ล็อตด้วยเรื่องแบบนี้ ถึงจะอายนิดหน่อย แต่ฉันก็มีความสุข
อาจารย์มิยุฉันขอขอบคุณเธอจริงๆ
“อาโอยากิ ปกตินายต้องหงุดหงิดใส่ฉันไม่ใช่หรอ ทำไมหน้านายแดงล่ะ?”
…..ฉันขอถอนคำพูดเมือกี้นี้
“อยากจะพูดอะไรหรอครับ อาจารย์มิยุ”
“โอ้~? อย่างงั้นเหรอ~? ฉันควรจะส่งรูปหน้านายเมือกี้ให้อากิดีไหม?”
“ทำไมอยู่ๆชื่ออากิก็โผล่มาได้กันล่ะ! -แย่ละฉันลืมเรื่องของอากิไปซะสนิทเลย”
ฉันกำลังจะส่งข้อความไปบอกอากิ แต่ว่ามันคงจะสายไปแล้ว ฉันรีบดึงมือถือออกมาจามือเอ็มม่าเบาๆ เพื่อไม่ให้เธอตื่น และเปิดดูหน้าจอทันที
――ตามที่คาดไว้ การแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับหลายรายการและข้อความที่แสดงเต็มหน้าจอมือถือ แน่นอนว่าคนที่ส่งมาก็คือ อากิ
“คุณชนะแล้ว….”
“ทำไมคุณถึงทำหน้าแบบนั้นกัน อาจารย์มิยุ นี่มันก็เป็นความผิดของคุณครึ่งหนึ่งนะรู้ไหม!?”
“…เอ่อ อาโอยากิ ฉันจะให้เงินกับนาย ดังนั้นไปซื้อเค้กแล้วรีบเอาไปให้อากิเดี๋ยวนี้เลย”
อาจารย์มิยุยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเธอเช่นกัน และยื่นเงินพันเยนให้ฉัน ฉันเชื่อว่านี่จะทำให้อากิอารมณ์ดีได้ แน่นอนว่าคนที่จะได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของอากิมากที่สุดคือไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาจารย์มิยุเอง
“ขอบคุณครับ…งั้นฉันควรจะต้องรีบไปแล้ว ชาร์ล็อต พรุ่งนี้ไว้เจอกันนะ”
เมื่อฉันกำลังจะเดินออกจากห้องพักครูหลังจากได้รับเงินจากอาจารย์มิยุ เอ็มม่าที่ควรจะนอนก็จับชายเสื้อของฉัน ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงจับเสื้อผ้าของฉันไว้กัน
“อากิโตะ นายจะไปไหน”
ดูเหมือนว่าเธอจะยังตื่นไม่สนิท แต่เอ็มม่าก็มองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่กังวล ชาร์ล็อตเองก็แสดงสีหน้าวิตกกังวลอยู่เช่นกัน แต่ตอนนี้ฉันต้องทำอะไรบางอย่างกับเรื่องนี้
“ขอโทษนะ ฉันต้องไปแล้ว พี่สาวของเธอ—ฉันหมายถึงลอตตี้อยู่ที่นี่แล้ว”
เพื่อไม่ให้เธอทำหน้าเศร้า ฉันยิ้มให้เธอและหันมามองที่ชาร์ล็อต เอ็มม่าก็หันไปมองตามสายตาของฉันและหลังจากเห็นชาร์ล็อตยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเธอก็สดใสขึ้นทันที
“ล็อตตี้!”
เธอเรียกชื่อพี่สาวอย่างร่าเริงและวิ่งไปกอดร่างของชาร์ล็อต —นั้นคือสิ่งที่ฉันคิดไว้แต่ทำไมเธอยังจับแขนเสื้อของฉันต่อล่ะ…..?
“เอ็มม่า ทำไมไม่เรียกเขาว่าโอนี่จังล่ะ”
“โอนี่จัง?”
ฉันคิดว่าชาร์ล็อตจะพาเอ็มม่าออกไปจากฉัน แต่เธอกลับแนะนำให้เรียกฉันว่า ‘โอนี่จัง’ เอ็มม่าก็พูดตามราวกับว่าเธอกำลังอ่านตัวหนังสือ แต่ก็ตามที่คาดไว้สำหรับเด็กตัวเล็กๆ เพราะเธอเป็นชาวต่างชาติ ก็เลยไม่คุ้นกับภาษาญี่ปุ่น แต่ว่าจะยังไงก็เถอะ เธอช่างน่ารักราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆเลย
“อืมม ชาร์ล็อต…?”
“อ้ะ! ขอโทษ ฉันคิดว่าในฐานะคนญี่ปุ่นนายคงไม่ชินกับการที่ถูกเด็กเรียกชื่อแบบนั้น เด็กที่อายุน้อยกว่าจะเรียกผู้ชายที่โตกว่าว่าพี่ชายใช่ไหม?”
อ่า นั่นคือสิ่งที่เธอคิด….เป็นความจริง การที่คนอายุน้อยกว่าเรียกฉันด้วยชื่อมันเป็นเรื่องแปลกในญี่ปุ่น ในทางกลับกันในต่างประเทศมันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ
“มันก็จริงสำหรับญี่ปุ่นมันเป็นเรื่องแปลก แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอก ”
“ไม่ได้! (อยู่ในกรุงโรม ก็ต้องทำตามที่ชาวโรมันทำ) และตอนนี้เอ็มม่าอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเธอเลยต้องทำตามประเพณีของญี่ปุ่นด้วย”
อย่างที่คิดเลย เธอเป็นคนฉลาด เธอคงจะได้ศึกษาเรื่องของญี่ปุ่นมาเป็นอย่างดี
“ก็ได้ ตามใจเธอเลย”
“โอ้~ขอบคุณ”
เมื่อเห็นว่าฉันตอบตกลงแล้ว ชาร์ล็อตก็ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่มีความสุขและหันกลับไปหาเอ็มม่า จากนั้นเธอก็ก้มตัวลงและพูดกับเอ็มม่าว่า “โอนี่จัง”
ภาพตรงหน้าเป็นสิ่งที่ชวนอบอุ่นและน่าหลงไหลมาก มันคือภาพที่ชาร์ล็อตกำลังสอนเอ็มม่าเมื่อสองคนนั้นพูดกันเสร็จแล้ว เอ็มม่าก็มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“โอนี่จัง!”
ผู้แปล-[ขอเรียกแทนไปว่า โอนี่จัง ละกันดูน่ารักดี]