After Coincidentally Saving the New Transfer Student’s Little Sister, We Gradually Grew Closer - ตอนที่ 5: โลลิคอน...?
บทที่ 5 โลลิคอน…
เอ็มม่าจัง ถ้ามองแต่แมวมันอันตรายนะรู้ไหม? ต้องมองทางด้วย”
ขณะกลับไปโรงเรียน ฉันพูดกับเอ็มม่าที่เดินข้างฉันพร้อมจับมือฉันไว้ เหตุผลที่เราจับมือกันตอนเดินก็เพราะเป็นคำขอร้องของเอ็มม่า ตอนแรกฉันรู้สึกลังเลเล็กน้อยเพราะสายตารอบๆที่จ้องมามาที่ตัวฉัน แต่สุดท้ายฉันก็ยอมรับคำขอที่ไร้เดียงสาของเธอ
ถ้าฉันพยายามที่จะเอามือถือกลับมา เอ็มม่าก็น้ำตาซึมและดูเหมือนว่าเธอใกล้จะร้องไห้แล้ว เธอคงจะชอบวิดีโอแมวจริงๆ
ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฝากมือถือไว้กับเธอ และด้วยเหตุนี้ เธอจึงเดินในขณะที่ดูวิดีโอแมวไปด้วย ถ้าฉันพยายามจะพูดกับเธอ เธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วตอบกลับ แต่ทันทีที่เธอตอบฉัน เธอก็ก้มหน้าไปดูวิดีโออีกครั้ง
ถึงพวกเราจะจับมือกัน เธอก็อาจจะสะดุดล้มได้ เพราะฉะนั้นคงต้องระวังให้ดี
“อืม…!”
หลังจากเอ็มม่ารับปากกับคำพูดของฉันเธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงอ้าแขนออกมาและมองมาที่ใบหน้าของฉันด้วยสายตาที่คาดหวัง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเธอต้องการอะไร
“อุ้ม-”
เมื่อเอ็มม่าเห็นท่าทางที่สับสนของฉัน เธอก็พูดออกมาด้วยท่าทางที่น่ารัก
เนื่องจากเอ็มม่ากับฉันมีส่วนสูงต่างกันมาก เธอจึงเงยหน้าขึ้นมามองที่หน้าของฉันด้วยสายตาที่กำลังจะร้องไห้
สถานการณ์แบบนี้— ฉันควรทำยังไง?
เธอเป็นเด็กหญิงที่อายุน้อยมาก ปกติถ้าคนรอบข้างเห็นว่าฉันอุ้มเธอละก็พวกเขาจะคิดว่าเราเป็นแค่พี่น้องที่สนิทกัน แต่ว่าเอ็มม่าเป็นชาวต่างชาติ เธอเลยไม่เหมือนกับฉันเลย สีตาและสีผมที่ต่างกัน-
ถ้าเราแค่จับมือกัน มันก็คงไม่น่าสงสัยหรอกเพราะฉันใส่เครื่องแบบนักเรียน.… การอุ้มเธออาจจะมากไปหน่อยสำหรับฉัน
ตอนนี้ฉันควรทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี โชคดีที่ดูเหมือนว่าไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจ พวกเขามองมาที่เราสองคนด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น หลังจากมองไปรอบ ๆ ฉันก็หันไปมองเอ็มม่าอีกครั้ง
สายตาของเธอดูเหมือนกับคนที่กำลังร้องไห้เลย
ช่วยไม่ได้….
มันคงจะเป็นปัญหาถ้าเธอร้องไห้อีกครั้ง ฉันเลยตัดสินใจที่จะอุ้มเอ็มม่า เมื่อฉันอุ้มเธอขึ้น ฉันรู้สึกเลยว่าเธอก็เบามาก ถ้าเป็นอย่างนี้มันคงไม่มีปัญหาอะไรระหว่างทางแน่
“เฮ้อ~”
เอ็มม่าแสดงใบหน้าที่สดใสออกมา เธอยังเป็นแค่เด็ก เป็นวัยที่อยากได้การตามใจ ฉันเดินไปโรงเรียนพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ร่าเริงของเธอ และเสียงแมวจากมือถือ
“ฉันไม่นึกเลยว่านายจะทำอย่างนี้ อาโอยากิ…”
ทันทีที่ฉันเข้าไปในห้องพักครูพร้อมกับเอ็มม่าที่จัยมือของฉัน อาจารย์มิยุก็ถอนหายใจออกมา
คุณกำลังคิดว่าฉันทำอะไรกันน่ะ?
“อาโอยากิ ฉันไม่ว่าหรอกนะถ้านายจะเป็น โลลิคอน แต่การลักพาตัวเด็กมามันเป็นอาชญากรรมนะ”
“อืม อาจารย์ช่วยหยุดล้อเล่นเถอะครับ สายตาพวกนั้นมันทำผมเจ็บจริงๆนะ”
ครูคนอื่นๆไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาตอนที่ฉันเข้ามาในห้อง แต่หลังจากอาจารย์มิยุ พูดออกมาทุกคนก็ได้แต่จับจ้องมาที่ฉัน
พวกครูคนอื่นๆหันมามองเอ็มม่าที่จับมือฉันไว้ แล้วหันมามองฉันด้วยใบหน้าที่สงสัย
ให้ตายสิ..ฉันเป็นพวกไม่น่าไว้ใจขนาดนั่นเลยหรอ ในสายราพวกเขาฉันควรจะเป็นนักเรียนดีเด่น…
ครูสอนดนตรีที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นโลลิคอนยกนิ้วโป้งให้ฉัน มันคงจะดีถ้าเลิกมองมาทางนี้ด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงมิตรภาพนะ
“ฮ่าฮ่า~ ฉันล้อเล่นอาโอยากิ”
ตัวต้นเหตุของบรรยากาศที่น่าอึดอัด พูดกับฉันเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยังไงก็ตาม ภาพที่เธอหันหลังพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบนั้น มันฝังใจฉันจริงๆ
ฉันจะขอให้อากิเตรียมอาหารที่เผ็ดที่สุดสำหรับมื้อเย็นในวันนี้
เนื่องจากอาจารย์มิยุเป็นคนชอบรสหวานและเกลียดอาหารรสเผ็ด เธอจะต้องร้องออกมาแน่ หลังจากกินอาหารเย็นวันนี้
ลืมเรื่องนั้นไว้ก่อน ฉันโชคดีจริงๆที่อาจารย์มิยุยังไม่กลับ ฉันสามารถขอให้เธอติดต่อชาร์ล็อตได้
“อากิโตะ… คนพวกนี้เป็นใครกัน?”
เอ็มม่าที่ดูวิดีโอแมวอย่างเงียบๆ จ้องมองไปที่พวกครูในห้องด้วยสีหน้าที่กังวลและถามฉันด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก
เป็นเรื่องธรรมดาที่เอ็มม่าจะถามแบบนั้นถ้าเธอถูกห้อมล้อมไปด้วยคนที่ไม่รู้หลายๆคน
“เธอรู้ไหมว่าครูคืออะไร”
“เอ๋? ล็อตตี้เคยบอกไว้ว่า ครูคือคนที่สอนหนังสือ”
“ถูกต้อง เอ็มม่าเก่งมากเลย”
เมื่อฉันชมเธอและลูบหัว เธอก็แสดงรอยยิ้มที่น่ารักมากออกมา
สมแล้วที่เป็นน้องสาวของชาร์ล็อต ความน่ารักของเธอมันเป็นสิ่งที่ชวนน่าหลงใหลมาก
“—พิจารณาได้แล้วว่าอาโอยากิเป็นโลลิคอน”
อาจารย์มิยุ ที่กำลังมองดู ฉันกับเอ็มม่า พูดออกมาด้วยใบหน้าที่น่าสงสัย
“ทำไม!?”
“เพราะนายไม่เคยมอง อากิด้วยท่าทางที่อ่อนโยนแบบนี้ไง ดูหน้าอาจารย์คนอื่นสิ”
ฉันมองตามเธอและมองไปที่อาจารย์คนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งขรึมที่น่าจะสื่อได้ว่า ‘นายคือโลลิคอน’ -ไม่ มีครูคนหนึ่งที่ไม่ทำอย่างนั้นกับฉัน….ใช่แล้วนั่นคือ อาจารย์สอนดนตรีที่มองมาด้วยความอิจฉา
ใช่ คนๆนั้นคือโลลิคอนของแท้เลย
“มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอการที่จะใจดีกับเด็ก? แล้วฉันก็ไม่ใช่โลลิคอน”
“ฉันรู้ อาโอยากินายสามารถคุยกับเธอเป็นภาษาอังกฤษได้ เพราะอย่างนั้นก็ช่วยแปลให้ฉันหน่อย”
เธอตัดบทกับพูดของบทอย่างชัดเจนด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะกับการเป็นครูเลย
ฉันรู้ว่าอาจารย์มิยุ เป็นครูพละและเธอไม่ชอบการเรียน แต่เธอไม่มีความภาคภูมิใจในฐานะครูเลยหรอ? แต่ว่าการเป็นศัตรูกับอาจารย์มิยุน่ากลัวเกินไป ฉันเลยตัดสินใจไม่พูดออกไป
“ฉันแค่บอกเธอเกี่ยวกับพวกครูคนอื่นๆ และเด็กคนนี้น่าจะเป็นน้องสาวของชาร์ล็อต”
ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องดีที่ควรจะลากยาวออกไป ฉันเลยตัดสินใจพูดตรงประเด็นสำคัญออกไป
อาจารย์มิยุเหลือบมามองที่เอ็มม่าและพยักหน้าเล็กน้อย
“โอ้ ชาร์ลอตติดต่อมาที่โรงเรียนแล้วว่าน้องสาวของเธอหายตัวไปจากบ้าน และเธอกำลังตามหาอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงฉันติดต่อเธอไปแล้ว อีกไม่นานเธอก็จะมาที่นี่”
“คุณติดต่อเธอตั้งแต่ตอนไหน…?”
“ฉันติดต่อเธอเมื่อเห็นนายเดินผ่านหน้าประตูโรงเรียน ฉันเห็นเด็กคนนั้นมีผมสีเงินฉันก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นน้องสาวของชาร์ล็อต”
อาจารย์มิยุเป็นคนที่ไม่ควรเป็นศัตรูด้วยอย่างยิ่ง….
อาจารย์มิยุ มีพลังงานลึกลับบางอย่าง ฉันควรจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องที่ เธอยังไม่ได้แต่งงาน
เมื่อเห็นเอ็มม่ามีสีหน้าพอใจกับการที่ฉันลูบหัวเธอ ฉันก็ตั้งคำมั่นบางอย่างกับตัวเองเอาไว้