Advent of the Archmage - ตอนที่ 329: แมวดำเป็นพระเจ้างั้นหรอ?
เมืองเมฆขาว
ในขณะที่ลิงค์กำลังยุ่งอยู่กับการสร้างขวานให้โฮลุน, เฟลิน่าเองก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ, เธอพาพ่อค้ามาโซสวนรอบเมืองเมฆขาวเพื่อตามหาพระเจ้าผู้ถูกเนรเทศอีโลดิม
อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่ตามหาตลอดทั้งวัน, เธอก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเลย เธอรู้สึกว่าเขาอยู่ในเมืองเมฆขาวแน่ๆ แต่มันก็น่าแปลกที่เธอไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา
เธอมีความรู้สึกว่าพระเจ้าผู้ถูกเนรเทศคนนี้กำลังตั้งใจหลบหน้าเธอ
ในเวลากลางดึก, มาโซสกับเธอได้กลับมายังโรงแรมยักษ์หลับด้วยความรู้สึกเซื่องซึมหลังจากผ่านการทำงานที่ไร้ประโยชน์มาทั้งวัน
ลิงค์เองก็ยุ่งอยู่ตลอดทั้งวัน เขากำลังจะพักผ่อนในตอนที่เห็นเฟลิน่า พอเห็นสีหน้าหงอยๆของเธอ, เขาก็พูดขึ้น “ดูเหมือนจะไปได้ไม่ค่อยดีนะ”
เฟลิน่าพยักหน้าแล้วพูด “ข้าหาเขาไม่เจอ ข้ามีความรู้สึกว่าเขากำลังเล่นซ่อนแอบกับข้า ในตอนที่กำลังหา, ข้ามีความรู้สึกว่าเขากำลังจ้องมองข้าจากมุมลับตาด้วยซ้ำ
มาโซสก็อยู่ด้วยเหมือนกัน เขาตามเฟลิน่าตลอดทั้งวันและรู้สึกเหนื่อยมากๆ เขารู้สึกเหมือนกับว่าขาของเขากำลังจะขาดแล้ว
จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็มุ่งหน้าไปที่ห้องโถงของโรงแรมก่อนที่จะหาโต๊ะว่างๆเพื่อพักขาที่อ่อนล้าของพวกเขา มาโซสนวดขาของตัวเองในขณะที่ถาม “ขอข้ารู้หน่อยได้ไหมว่าท่านกำลังตามหาใครอยู่? ถ้าท่านบอกข้า, ข้าอาจจะช่วยได้นะ”
เฟลิน่าไม่รู้ว่าเธอควรเปิดเผยความลับกับมาโซสรึเปล่า ดังนั้นเธอจึงจ้องไปที่ลิงค์, ซึ่งเขาก็พยักหน้าเป็นการยินยอม
เธอคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “ตอนนี้ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง ข้าบอกได้แค่ตำแหน่งคร่าวๆของเขาเท่านั้น เขาเป็นพระเจ้าที่ถูกเนรเทศและครอบครองสติปัญญาที่ไม่สามารถจินตนาการได้ พวกเราอยากตามหาคนๆนี้และถามวิธีตอบโต้กับอุปกรณ์ระดับพระเจ้าจากเขา”
“ท่านไม่รู้หน้าตาจริงๆของเขาหรอ?” มาโซสขมวดคิ้วในขณะที่ลูบหนวดที่เขาเพิ่งจะจัดให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็พูดออกมา “ต่อให้ท่านอธิบายอย่างคลุมเครือ, ข้าก็น่าจะสามารถช่วยตามหาเขาได้นะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้, ข้าคงไม่สามารถช่วยอะไรได้หรอก”
มันเป็นทางตันจริงๆ
จากนั้นลิงค์ก็ตกอยู่ในห้วงความคิด เขาดื่มเครื่องดื่มที่เสริฟมาให้ในขณะที่นึกถึงหนังสือแปลกๆของอีโลดิมที่เขาเคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว เขาสามารถสัมผัสนิสัยของอีโลดิมได้จากหนังสือเล่มนั้น
หลังจากผ่านไปครึ่งนาที, ลิงค์ก็พูดขึ้น “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้จักหน้าตาของเขา แต่เขาก็เป็นคนที่แปลกประหลาดคนนึงอย่างแน่นอน ใช่, แปลกมากๆเลยหล่ะ ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธทุกอย่างในโลกและหยิ่งทะนงมากๆ, แถมยังชอบดูถูกทุกอย่างรอบตัวเขาด้วย…และเขาก็น่าจะมีงานอดิเรกอีกอย่างนึงด้วยนะ เขาชอบนั่งบนหลังคาในขณะที่จ้องมองดวงดาวยามค่ำคืน”
เฟลิน่าชำเลืองมองลิงค์อย่างสับสนแล้วพูด “ลิงค์, เจ้ารู้..”
“ฉันเคยอ่านหนังสือที่เขาเขียน มันเป็นหนังสือที่แปลกประหลาดแต่ก็แข็งแกร่งซึ่งเต็มไปด้วยความหยาบคายและความโกรธเคือง ผ่านการเขียนของเขา, ฉันสามารถสัมผัสนิสัยของเขาได้ มันน่าจะเป็นสัญชาติญาณบางอย่างหน่ะ”
ถ้อยคำก็คือการร้อยเรียงจิตวิญญาณของผู้เขียน ถ้าผู้อ่านหมกมุ่นในงานเขียนของนักเขียนคนนึงได้อย่างเต็มที่, พวกเขาก็จะสัมผัสจิตวิญญาณและตัวตนของนักเขียนคนนั้นได้ นี่เป็นปฏิสัมพันธ์ที่ลึกลับมากๆ โดยปกติแล้ว, ผู้คนที่บรรลุถึงขั้นนี้ได้จะเป็นคนที่อดทนและมีสมาธิพร้อมกับมีจิตใจที่แข็งแกร่ง
ซึ่งลิงค์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลังจากที่มาโซสฟังคำอธิบายของลิงค์, คิ้วของเขาก็กระตุกเล็กน้อย
ลิงค์รู้ว่ามาโซสเอะใจเรื่องบางอย่างแล้วถาม “นายมีอะไรจะพูดหรอ?”
“ในเมืองเมฆขาว, มีสิ่งมีชีวิตตัวนึงที่เข้ากับคำอธิบายของท่านเป๊ะเลย, แต่มันเป็นแมวนะไม่ใช่มนุษย์ แถมมันเป็นแมวที่ฉลาดมากๆเลยหล่ะครับ” มาโซสพูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ, แต่เขาก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆว่าแมวตัวนั้นคือสิ่งที่ลิงค์และพรรคพวกกำลังตามหา”
“แมวหรอ?” เฟลิน่ากับลิงค์มองพ่อค้าคนนี้อย่างคาดหวัง, และรอให้เขาบอกข้อมูลเพิ่มเติม
จากนั้นมาโซสก็พยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูด “ใช่ครับ, แมว!”
แล้วเขาก็เริ่มอธิบายลักษณะของแมวตัวนี้อย่างละเอียด “แมวตัวนี้มีขนที่เปล่งประกายมากๆ, มันดูเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายของพระเจ้า มันมีรูปร่างผอมเพรียวและรวดเร็วมากๆ, มันสามารถจับเหยื่อของมันได้ในทันที ซึ่งมันเป็นมติร่วมกันในเมืองนี้ว่าแมวตัวนี้คือสิ่งพิเศษ, และเชื่อว่ามันสามารถปกป้องพวกเขาจากวิญญาณร้ายได้ ข้าเองก็เคยเห็นมันอยู่สองสามครั้ง, และมันก็มีลักษณะเหมือนกับที่ท่านอธิบายเลย ในคืนหนึ่ง, ข้าเคยเห็นมันนั่งอยู่บนหลังคาของอาคารไม้, แล้วจ้องมองดวงดาว ในตอนนั้นข้าคิดว่ามันน่าสนใจดีก็เลยโยนลูกโอ๊กใส่เขา แล้วจากนั้นเขาก็จ้องมาที่ข้าด้วยสายตาเอาเป็นเอาตายที่ทำให้ข้ารู้สึกหนาวไปจนถึงสันหลังเลยหล่ะ”
นี่มันแปลกจริงๆ
เฟลิน่าเคี้ยวอาหารด้วยความสับสน แม้ว่ามันจะอร่อย, แต่สมาธิของเธอก็ไม่ได้อยู่กับมันเลย เธอพูด “ราชินีเคยบอกข้าว่าพระเจ้าผู้ถูกเนรเทศคนนี้โดยพื้นฐานแล้วไม่มีพลังเลย สิ่งพิเศษเดียวเกี่ยวกับเขาก็คือวิญญาณอมตะ ถ้าเป็นแบบนั้น, เจ้าคิดว่าเขาอาจจะเกิดใหม่โดยใช้ร่างของแมวดำไหม?”
นั่นก็อาจจะเป็นไปได้นะ ลิงค์เริ่มรู้สึกสนใจแมวประหลาดตัวนี้แล้ว
“มาโซส, นายรู้ไหมว่าแมวดำตัวนี้อยู่ที่ไหน?”
จากนั้นมาโซสก็ยักไหล่ในขณะที่พูด “ข้าไม่รู้ มันปรากฎตัวออกมาเอง ยังไงซะ, ก็คงไม่มีใครมานั่งติดตามดูหรอกว่าแมวอยู่ที่ไหน มันคงจะแปลกพิลึก ปกติแล้วข้ามักจะเห็นเขาอยู่แถวนี้บ่อยๆนะ, แต่หลังจากที่พวกท่านมาถึง, ข้าก็ไม่เห็นเขาเลย”
พอคิดถึงประสบการณ์ของเฟลิน่า, ลิงค์ก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว “แมวดำตัวนี้น่าจะใช่คนที่เรากำลังตามหานะ แต่เขาพยายามซ่อนตัวจากพวกเราอยู่”
“เขาทำแบบนั้นไปทำไมกัน?” เฟลิน่าขมวดคิ้ว พวกเขาแค่อยากจะถามคำถามบางอย่าง นอกจากนี้, เขาก็เป็นพระเจ้า; ถึงแม้ว่าเขาจะถูกเนรเทศและสูญเสียพลังทั้งหมดไป, แต่ก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำเขาได้ เขากลัวอะไรกัน?
“บางทีเขาคงจะไม่อยากเจอพวกเราหน่ะ หรือไม่…เขาก็อาจจะพบวิธีหนีออกจากกรงที่จองจำเขาแล้วก็ได้ ซึ่งเขาคงจะคิดว่าพวกเราจะทำลายมัน” ลิงค์คาดการณ์
ลิงค์ไม่ได้คาดการณ์มั่วๆ เขาได้สมุติฐานนี้มาจากการกระทำของพระเจ้าผู้ถูกเนรเทศ พระเจ้านั้นไม่พอใจกับสภาพนี้ เขาอยากจะทวงคืนความเป็นอิสระและหลุดพ้นจากโลกฟิรุแมน แล้วเขาจะยอมปล่อยโอกาสนี้ไปหรอถ้าเขาได้มา? เห็นได้ชัดว่าไม่อยู่แล้ว
แล้วสิ่งที่จะช่วยเขาหนีจากโลกฟิรุแมนคืออะไรหล่ะ? อุปกรณ์ระดับพระเจ้าอสรพิษทมิฬหรอ?
นั่นคงเป็นไปไม่ได้ ตามที่ราชินีมังกรแดงบอก, อสรพิษทมิฬนั้นเคยปรากฎขึ้นมาสามครั้งแล้ว แถมอีโลดิมยังเป็นคนชำละล้างอสรพิษทมิฬในการปรากฎตัวสองครั้งที่ผ่านมาด้วย ซึ่งนี่หมายความว่าอสรพิษทมิฬนั้นไม่ใช่โอกาสของเขา
จากนั้นลิงค์ก็นึกถึงคำพูดของดาบลอร์ดพายุขึ้นมาได้อย่างกระทันหัน
ดาบของลอร์ดพายุเคยบอกว่าโลกกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าประหลาด ซึ่งสิ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็น่าจะเป็นเทคนิคการชุบชีวิตของอิเซนดิลัน”
เขาได้อธิบายเอาไว้ว่าเวทย์นี้เป็นเวทย์ที่ทำลายกฎของโลก, สร้างรอยแยกในมิติเวลา, และกัดกร่อนโลก
กัดกร่อนโลก? ถ้าโลกถูกทำลายจริงๆ, เขาก็จะสามารถหนีไปได้ไม่ใช่หรอ? นอกจากนี้, อิเซนดิลันเองก็เป็นมังกรแดง เขาสามารถสัมผัสตัวตนของพระเจ้าผู้ถูกเนรเทศได้เหมือนกันและสามารถเข้าหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือได้ หรือว่าอีโลดิมกับอิเซนดิลันจะผนึกกำลังกัน, ทำให้อิเซนดิลันได้รับเทคนิคการชุบชีวิตมา?
ในทันทีที่ความคิดนี้เข้ามาในหัวของลิงค์ เขาก็รู้สึกกลัวมากๆและเสียวสันหลังขึ้นมาในทันที
แต่พวกนี้มันก็เป็นแค่การคาดเดาที่ไม่มีหลักฐาน เขาไม่สามารถพูดกล่าวหาโดยไม่มีมูลได้เพราะจะไม่มีใครเชื่อ
เฟลิน่าไม่ได้สังเกตุเห็นความไม่สบายใจของลิงค์ เธอยังคงกังวลเรื่องแมวดำในขณะที่พูด “ถ้าแมวตัวนั้นหลบหน้าพวกเราจริงๆ, ก็ไม่มีทางที่พวกเราจะตามหามันได้หน่ะสิ พวกเราจะทำยังไงกันดี?”
มาโซสส่ายหัวแล้วพูด “มีวิธีอยู่นะ”
“ไหนลองว่ามาสิ” ดวงตาของลิงค์เปล่งประกาย จากนั้นเขาก็พูดต่อ “แปบนะ, เฟลิน่า, เขาอยู่ใกล้พวกเรารึเปล่า?”
จากนั้นเฟลิน่าก็ใช้เวลาประมานสิบวินาทีก่อนที่จะส่ายหัวแล้วพูด “ไม่นะ, ข้าไม่รู้สึกถึงตัวตนของเขาเลย เขาต้องรู้ว่าข้ากำลังตามหาเขาแน่ๆ”
“โอเคถ้างั้นเชิญว่ามาได้เลยมาโซส”
มาโซสกระซิบ “ข้าได้ยินข่าวลือมาว่าแมวดำตัวนี้ตะกละมากๆ เขาจะปรากฎตัวในสถานที่ที่มีอาหารอร่อยรออยู่, โดยเฉพาะในตอนที่มีปลามาเกี่ยวข้องด้วย เขาชอบมันมากจนเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยหล่ะ”
“ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้หรอ? อธิบายมาให้ละเอียดหน่อยซิ” ลิงค์กดดัน
แม้ว่าเรื่องนี้จะค่อนข้างไร้สาระ, แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้สำหรับนักเวทย์ที่เคยเขียนหนังสือที่น่าหยาบคายและแปลกประหลาด ยังไงซะ, เขาก็เป็นคนแปลกๆคนนึง
มาโซสดื่มไวน์ข้าวในขณะที่พูดต่อ “นี่เป็นตำนานของแมวดำเต้นระบำ ทุกคนในเมืองเมฆขาวรู้ว่าถ้าอยากให้แมวดำเต้น, ก็ต้องจับปลาสดๆจากทะเลสาปคริสตัลบลูมาต้มทำซุปปลาอันแสนอร่อยแล้ววางมันเอาไว้บนหลังคา หลังจากที่ผ่านไปซักพัก, แมวดำก็จะมาถึงและเพลิดเพลินกับอาหาร แต่ครั้งแรกอย่าพูดอะไรหล่ะให้ทำต่อไปอีกสองสามครั้ง และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม, ก็จะสามารถต่อรองขอชมการเต้นรำแลกเปลี่ยนกับซุปปลาที่เพิ่มขึ้นได้ หลังจากนั้น, ในตอนที่แมวดำอิ่มเต็มที่, มันก็จะเต้นให้ดู…แน่นอนว่า, นี่ก็เป็นแค่ตำนานเท่านั้น, แต่ตำนานส่วนใหญ่ก็มักจะเก็บเศษเสี้ยงแห่งความจริงเอาไว้อยู่ ข้าพูดถูกไหมหล่ะ?”
ลิงค์พยักหน้า ตำนานนี้ได้พิสูจน์ว่านี่เป็นไปได้ นอกจากนี้, พวกเขาก็มาถึงทางตันแล้ว พวกเขาจะต้องลองทุกอย่างที่พวกเขามีอยู่ในมือ
“พวกเรามาลองดูกันเถอะ” ลิงค์พยักหน้าและลงรายละเอียดแผนอย่างรวดเร็ว “พวกเราไม่สามารถดำเนินแผนนี้ได้, โดยเฉพาะเฟลิน่า เพราะนั่นคงจะไปเพิ่มความระมัดระวังของเขา มนุษย์สัตว์ธรรมดาควรจะเป็นคนดำเนินแผนนี้นะ แมวดำตัวนี้ไม่มีพลังอะไรเลย ในตอนที่เขาปรากฎขึ้น, การจับเขาก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ”
มาโซสยืนยันอีกครั้งแล้วพูด “นี่เป็นงานง่ายๆ เดี๋ยวข้าหาคนทำให้เอง แต่ท่านมั่นใจนะว่าแมวดำตัวนี้ไม่มีพลังหน่ะ?”
เฟลิน่าพยักหน้าแล้วพูด “ใช่, เขาแค่เร็วกว่าแมวทั่วๆไปนิดหน่อย”
มาโซสยังกังวลอยู่และชำเลืองมองลิงค์ จากมุมมองของเขา, ลิงค์เป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุด
ลิงค์ยิ้มในขณะที่พูด “ถ้าเขามีพลังพอที่จะต่อต้านได้, ทำไมเขาถึงมีความเกลียดชังมากขนาดนี้หล่ะ? แล้วถ้าเขาแข็งแกร่งจริงๆ, นายจะใช้แค่ซุปปลาอร่อยๆล่อเขาได้ยังไง?”
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้, มาโซสก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็ตบมือแล้วพูด “ถ้างั้นก็ถือว่าเป็นอันตกลงนะครับ ถ้าตำนานเป็นเรื่องจริง, ข้าจะเอาแมวมาให้ท่านในวันพรุ่งนี้”
ถ้าแมวตัวนี้ไม่มีพลัง, มันก็คล้ายกับการจับแมวที่มีการเคลื่อนไหวเร็วกว่าแมวทั่วไปนิดหน่อย นี่ก็แค่งานง่ายๆ