Advent of the Archmage - ตอนที่ 515 ประสบผลสําเร็จอย่างน่าอัศจรรย์!
Chapter 515 ประสบผลสําเร็จอย่างน่าอัศจรรย์!
ณ หอคอยเวทมนตร์ของลิงค์
วันนี้, ในตอนที่นักเวทย์ทุกคนตื่นขึ้นมาและไป ที่ห้องทํางานของตัวเอง, พวกเขาก็เห็นกระจกน้ําสดใสตั้งอยู่ตรงกลางห้อง
ในกระจกมีคําประกาศเขียนเอาไว้ยาวเหยียดมันบอกว่านับจากนี้ไปหอคอยเวทยมนตร์จะมีระบบการลงโทษและการให้รางวัลโดยมันได้อธิบายรายละเอียดเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีคนยืนอยู่ที่ข้างกระจกคอยแจกตราประทับเวทมนตร์แบบพิเศษให้ด้วย
โซรอสโต้เป็นนักเวทย์เลเวล 2 แต่ตอนนี้เขาอายุ 30 ปีแล้ว เนื่องจากเขาเป็นสามัญชน, เขา จึงไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้เวทมนตร์จนกระทั่งอายุ 20 ปีหลังจากนั้น,เขาก็เริ่มทํางานในขณะที่เรียนรู้เวทมนตร์พื้นฐานไปด้วย หลังจากที่เวลาล่วงเลยมา 5 ปีแล้ว,เขาก็ยังเป็นนักเวทย์ฝึกหัดอยู่
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา, เขาทํางานอย่างหนักเพื่อ สร้างคําภีร์เวทมนตร์และยาพื้นฐานเพื่อขายในราคาที่ถูกที่สุดหลังจากการเก็บหอมรอมริบมาหลายปีในที่สุดเขาก็เก็บเงินได้ 600 เหรียญทองเพื่อนําไปสมัครเข้าเรียนที่สถาบันเวทมนตร์ในเมืองเล็กๆ ทางเหนือซึ่งนั่นก็คือตอนที่เขาได้เริ่มเรียนเวทมนตร์อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามอาจารย์ที่นั่นก็ไม่ได้มีทักษะ มากมายนัก ผู้อาวุโสมีเลเวลแค่ 4 หนังสือที่ทัน สมัยที่สุดในห้องสมุดก็คือหนังสือเวทมนตร์เลเวล3;มันถูกมองว่าเป็นหนังสือที่หายากและคนทั่วไปไม่สามารถอ่านได้
โซรอสโต้ได้เรียนรู้เวทมนตร์จากนักเวทย์เล เวล 3 ที่มีอายุ 60 ปีเวลาส่วนใหญ่ของเขา,จะเสียไปกับการสร้างคําภีร์เวทมนตร์ให้ชายชราคนนี้โดยไม่ได้รับอะไรตอบแทนเลยมันเป็นเรื่องยากสําหรับเขาที่จะหาเวลาหนึ่งชั่วโมงในการเรียนเวทมนตร์อย่างจริงจัง
หลังจากเรียนมาเป็นเวลา 3 ปี, ในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 1 จากนั้นเขาก็ถูกบังคับให้จบการศึกษาและถูกไล่ออกจากสถาบัน
นักเวทย์เลเวล 1 อาจจะดูน่ากึ่งสําหรับคนทั่วไปพวกเขาสามารถใช้ชีวิตที่สุขสบายจากการขายอุปกรณ์เวทมนตร์ได้แต่นั่นก็ยังไม่พอสําหรับโซรอสโต้เขากระหายความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์และปราถนาที่จะเป็นปราชญ์แห่งปัญญาโลกใบนี้ไม่มั่นคงและเต็มไปด้วยสงคราม
โซรอสโต้ทํางานหนักมานานกว่า 1 ปี แต่เขาสามารถซื้อหนังสือเลเวล 1 ได้แค่ 4 เล่มเท่านั้นอย่างไรก็ตาม,มานาของเขาอยู่ที่เลเวล 2, แต่เขาก็ไม่มีเงินสําหรับซื้อหนังสือเหล่านั้นซึ่งโดยปกติแล้ว,หนังสือเลเวล 2นั้นมีราคาสูงกว่า 500 เหรียญทอง
สถานการณ์ที่น่ากลัวนี้ไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นมาเลย จนกระทั่งครึ่งปีที่ผ่านมา
ในเวลานั้นโซรอสโต้ได้เดินทางหลายพันไมล์ จากทางเหนือมาที่เมืองเฟิร์ด ด้วยความบังเอิญตอนนั้นหอคอยเวทมนตร์เฟิร์ดกําลังต้องการนัก เวทย์เป็นจํานวนมากในฐานะนักเวทย์ธรรมดาเลเวล 1, เขาโชคดีมากที่ได้รับการยอมรับ
ในช่วงเวลานี้เอง โซรอสโต้ก็ได้รับหนังสือเล เวล 2 เล่มแรก เขาเห็นการพัฒนาที่รวดเร็วของ หอคอยเวทมนตร์แห่งนี้นอกจากนี้เขายังเห็นเด็กที่มีพรสวรรค์มีเลเวลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
ทั้งหมดนี้ทําให้โซรอสโต้รู้สึกถึงความแข็งแก ร่งของหอคอยเวทมนตร์แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ รู้สึกกดดันด้วยเขาต้องทุ่มเทให้มากกว่าเดิมไม่อย่างนั้นคนอื่นจะแซงเขาไปไม่เห็นฝุ่น
วันนี้จะมีอะไรพัฒนาขึ้นอีกนะ? โซรอสโต้ เดิน เข้าไปในหอคอยด้วยความคาดหวัง
นอกจากกระจกน้ํา,เขาเห็นคาร์ริโด้ด้วย เขา เป็นนักเวทย์เลเวล 5 และเจ้าหน้าที่ของหอคอย เวทมนตร์พอมองไปที่เขา เขาก็หัวเราะเบาๆและพูดขึ้น”โซรอสโต้!แป็บนึงสิ… นี่ตราของนายรับไป”
“ตราประทับหรอ?” โซรอสโต้รู้สึกแปลกใจ แต่ เขาก็รับมาตรวจสอบดูในทันที
ตรามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เซนติเมตรอีกด้านหนึ่งเขียนเอาไว้ด้วยรูนว่าเฟิร์ดอีกด้านหนังมีข้อมูลส่วนตัวของจริงอยู่หากสังเกตดูดีๆของสิ่งนี้มาจากลอร์ดเฟิร์ดวัสดุเป็นแบบพิเศษพื้นผิวมีเส้นสีเงินจํานวนมากมันทํามาจากมิธริลซึ่งภายใต้เส้นเหล่านี้มีลักษณะกึ่งโปร่งใสและมีสี แดงสดใสปนอยู่ และข้างในก็มีเศษเงินที่ดูงดงาม ด้วย
ในแวบแรก, มันดูเหมือนตราทั่วๆไป มันไม่มี อะไรที่ดูเด่นสะดุดตาแต่ถ้ามองดูดีๆ, จะรู้ว่ามันมี อะไรให้น่าค้นหาอยู่มากมาย
ในฐานะนักเวทย์, โซรอสโต้ได้ส่งมานาเข้าไปตามสัญชาตญาณและทันใดนั้นเองเสียงที่สดใสของผู้หญิงก็ดังขึ้นในหัวของเขายินดีต้อนรับค่ะ คุณโซรอสโต้
เขารู้สึกตกใจ,โซรอสโต้มองไปรอบ ๆและพบว่าหลายคนที่มีตราเหมือนกับเขาแสดงสีหน้าแบบเดียวกันออกมาสุดยอดเลย,โซรอสโต้ไม่ใช่นักเวทย์ที่โง่เขลาเขาเก็บอาการอย่างรวดเร็วนี่จะต้องเป็นเวทย์โทรจิตอย่างแน่นอน
เขาตอบในใจว่า “แล้วคุณเป็นใคร”
ฉันชื่อลิลลี,เป็นวิญญาณของหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป,ฉันจะเป็นที่ ปรึกษาของคุณในส่วนของรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงคุณสามารถอ่านได้ที่ประกาศหรือจะให้ฉันอธิบายคุณดีคะ
โซรอสโต้มองไปที่กระจกน้ําในทันที ประกาศ เขียนเอาไว้ยาวเหยียดแต่เขาก็อ่านมันทุกคํา หลังจากอ่านจบเขาก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของตัวเองได้ “ตอนนี้สิทธิ์การเข้าถึงของข้าคือเลเวล 2 ใช่ไหม?” เขาถาม.
ใช่ค่ะ ด้วยสิทธิ์นี้คุณจะสามารถเข้าถึงหนังสือเวทมนตร์ทั้งหมดที่มีเลเวล 2 หรือต่ํากว่านั้นในห้องสมุดได้และคุณยังสามารถใช้วัสดุเวทย์มนตร์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้เลเวล 2 หรือต่ํา กว่าที่อยู่ในหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้ได้เช่นกัน
“ตอนนี้ข้ามีแต้มเวทย์มนตร์อยู่เท่าไหร่?” โซรอสโต้ถาม
ลิลลี่ตอบในทันที,นักเวทย์ทุกคนจะได้รับแต้มเวทมนตร์เริ่มต้นเทียบเท่ากับระดับของพวกเขาในขณะนี้คุณมีอยู่ 200แต้มซึ่งคุณสามารถใช้แต้มเพื่อซื้อเวลาในการเข้าใช้บ่อธาตุการใช้งานเครื่องมือในห้องเสริมพลัง,การใช้งานอุปกรณ์ปรุงยาและอื่นๆโดยคุณสามารถขอรายการราคาได้ตลอดเวลาค่ะ
โซรอสโต้ตื่นเต้นขึ้นไปอีกการพัฒนานี้ดูเหมือนจะไม่มากนักแต่สําหรับคนที่ต้องเผชิญกับความยากลําบากของโลกมาโดยตลอดนั้น,เขาเห็นประโยชน์ของมันในทันที
นับจากนี้ไป, เขาไม่ต้องไปหาอาจารย์ดีๆหรื อการสร้างไมตรีเพื่อเรียนรู้เวทมนตร์แล้วเขาสามารถขวนขวายในสิ่งที่เขาต้องการได้ด้วยการเก็บแต้มเวทมนตร์ความไม่แน่นอนและเวลาที่ต้องเสียไปกับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้ถูกกําจัดทิ้งไปด้วยระบบใหม่นี้
เขาถามเรื่องราคาและวิธีการเก็บคะแนนเวทมนตร์มันเป็นอีกหนึ่งรายการที่ยาวเหยียดเสียงของลิลลี่ฟังดูอ่อนหวานและมีความอดทนในขณะที่เธออธิบายให้เขาฟัง
พอได้ฟังจนจบ โซรอสโต้ก็ค่อนข้างประหลาดใจ 200 แต้มเวทมนตร์ที่เขามีอยู่นั้นถือว่าค่อนข้างเยอะขั้นแรก,เขาสามารถนําไปแลกเป็นเงิน 2,000เหรียญทองได้ซึ่งมันมีมูลค่าเป็นสิบเท่าของแต้มที่ใช้แลกแต่ก็แน่นอนว่าเขาคงไม่ทําเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นนับจากนี้ไปทรัพยากรทั้งหมดในหอคอยจะต้องซื้อด้วยแต้มเวทมนตร์
ด้วยแต้มพวกนี้เขาสามารถซื้อสิทธิ์ในการอ่านหนังสือเลเวล 2 ได้จํานวน 2 เล่ม แถมเขายังสามารถซื้อสิทธิในการเข้าบ่อธาตุและบริการอื่นๆได้ถึง 20 ชั่วโมง
มีหลายวิธีในการเก็บแต้มเวทมนตร์พวกนี้ ยก ตัวอย่างเช่นเขาสามารถรวบรวมวัสดุเวทมนตร์, เขียนคําภีร์เวทมนตร์,สร้างยา,ทํางานต่างๆในสํานักงานทั้งหลายที่อยู่ในเมืองให้สําเร็จ และอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าเขามีพรสวรรค์ที่จํากัด, เขาก็ยังสามารถ เก็บแต้มได้จากการทําเรื่องพวกนี้ แล้วเขาก็สามารถไปหาพวกสามัญชนที่มีพรสวรรค์ได้ด้วยถ้าเขาพบอัจฉริยะทางด้านเวทมนตร์เขาก็จะได้รับแต้มเวทมนตร์ 5,000 แต้ม
นี่ไม่ใช่ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุด ในบรรดารายการ ทั้งหลาย, มีระบบที่ปรึกษาอยู่ด้วย
ในระบบนี้,นักเวทย์ทุกคนมีค่าที่ปรึกษาตามลําดับตราบใดที่นักเวทย์ระดับล่างมีแต้มพอจ่ายพวกเขาก็สามารถถามคําถามอะไรก็ได้กับนักเวทย์ระดับสูงซึ่งนักเวทย์ระดับสูงนั้นจะไม่สามารถปฏิเสธได้และต้องพยายามตอบคําถามให้ดีที่สุด
ระบบจะทําการบันทึกและให้คะแนนตลอดทั้งกระบวนการถ้านักเวทย์ที่ให้คําปรึกษา”ขาดความรับผิดชอบ” 3 ครั้งค่าธรรมเนียมการปรึกษาของพวกเขาก็จะลดลงอย่างมากพวกเขาจะได้รับการจัดอันดับที่ไม่ดีซึ่งจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของพวกเขา
นักเวทย์ระดับสูงทุกคนมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกันโซรอสโต้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมของตัวเอง และพบว่าตัวเขามีราคาอยู่ที่ 20 แต้มเวทมนตร์ต่อชั่วโมงซึ่งสามารถแปลงเป็นเงินได้ 200 เหรียญทองต่อชั่วโมงเขาอดหัวเราะไม่ได้พลังของข้าก็ค่อนข้างมีค่าอยู่นะเนี่ยข้าหวังว่าจะมีคนมาขอคําปรึกษาจากข้านะหึหึ
20 แต้มเวทมนตร์ต่อชั่วโมงเร็วกว่าการทําอุปกรณ์เวทมนตร์
ซึ่งสิ่งที่ทําให้โซรอสโต้ตื่นเต้นอย่างถึงที่สุดก็คือว่าเขาเห็นค่าธรรมเนียมการปรึกษาของนักเวทย์ระดับตํานานลิงค์อยู่ในระบบด้วยมันเขียนเอาไว้ว่า 2,000 แต้มต่อครึ่งชั่วโมงและเขาจะยอมให้คําปรึกษาแค่ห้าครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
มันแพงเอาเรื่องเลยนะเนี่ย,แต่เขาเป็นนักเวทย์ระดับตํานานนี้นะ!
โซรอสโต้รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา,เขาก็รีบไปที่ห้องทํางานอักขระ ทองคําเขาวางแผนที่จะสร้างอุปกรณ์บางอย่างเพื่อเก็บแต้มเวทมนตร์เพิ่ม จากนั้นเขาก็จะสามารถปรึกษานักเวทย์ระดับตํานานได้
แต่ในความเป็นจริงนั้น, มันไม่ได้มีแค่เขา หลัง จากที่นักเวทย์ทุกคนอ่านจบ, พวกเขาทุกคนก็ทําแบบเดียวกันและรีบไปเก็บแต้มเวทมนตร์
โซรอสโต้เดินลงมาจากห้องโถงสําหรับนัก เวทย์ทางการและมาถึงห้องโถงฝึกหัดชั้นหนึ่ง เขาเห็นพวกนักเวทย์ฝึกหัดกําลังส่งเสียงเอะอะกันอยู่ด้วย
นักเวทย์ฝึกหัดพวกนี้ก็มีตราประทับเหมือนกันแต่ของพวกเด็กฝึกหัดดูเรียบง่ายกว่า ข้ามั่นใจเลยว่าพวกนี้มีแต้มเวทมนตร์เริ่มต้นต่ํากว่าข้าอย่างแน่นอน
โซรอสโต้รู้สึกภูมิใจแต่ก็ยังตื่นตัวอยู่ถ้าพวกนักเวทย์ระดับสูงมาเห็นข้าพวกเขาอาจจะรู้สึก แบบนี้เหมือนกันก็ได้ ข้าได้ยินมาว่ามีงานเลี้ยงจัดขึ้นเป็นครั้งคราบนดาดฟ้าของหอคอยหลักนักเวทย์ผู้มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่จะมีโอกาสได้รับประทานอาหารกับลอร์ดเฟิร์ด … ซึ่งนั่นถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่มาก!
เขาเร่งฝีเท้าของเขา
หนึ่งวันหลังจากการประกาศเรื่องสิทธิ์และระบบแต้มเวทมนตร์ลิงค์กับนักเวทย์ระดับสูงคน อื่นก็ได้รับผลตอบรับจากลิลลี่จากข้อมูลผลรวมการผลิตของหอคอยเวทมนตร์ มันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
อัตราการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 100% มันแทบจะไม่เสียเวลาเลยสักนาทีเดียว
ซึ่งผลสําเร็จนี้เกินกว่าที่คาดเอาไว้ซะอีก
นี่เป็นข่าวดีจริงๆ, แต่ลิงค์ก็ไม่ได้สําเร็จไปซะ ทุกอย่าง เมล็ดปลุกพลังของพวกเขาเจอกับ ปัญหาบางอย่าง
ในขณะนี้ ลิงค์, เอเลียร์ด, แวนซ์, อัลโลว่า และเอเลนอร์กําลังทํางานร่วมกันเพื่อสร้างเมล็ด ปลุกพลังแบบใหม่แต่หลังจากที่เริ่มพวกเขาก็ได้รู้ว่ามันยากกว่าที่คิด
ร่างกายมนุษย์มีระบบที่ซับซ้อน นอกจากนี้,มัน ก็เหมือนกับการที่พวกเขาสร้างของบางอย่างมาโดยไม่มีอะไรเลยและไม่มีจุดเริ่มต้น หลังจากใช้เวลาไปเต็มวัน,ก็ไม่มีพวกเขาคนไหนเสนอไอเดียดีๆขึ้นมาเลย
ลิงค์รู้สึกว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ “การสร้างแบบนี้ช้าเกินไป พวกเราต้องยืมพลังจากคนอื่นแล้วหล่ะ!”
“ยืมจากใครหรอ?” เอเลียร์ดถาม ในบรรดา พวกเขาทั้งห้า เอเลียร์ดเป็นคนที่ไร้เดียงสาที่สุด และไม่เข้าใจสิ่งที่ลิงค์อยากจะสื่อ
แวนซ์เข้าใจในทันที และอธิบายว่า “ไฮเอลฟ์มี พลังของธรรมชาติอยู่, มังกรมีพลังมังกร, ปีศาจมี พลังปีศาจและสัตว์ป่าก็มีพลังบ้าคลั่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์ถ้าเราต้องการยืมเราจะยืมจากคนเหล่านี้นี่แหล่ะ”
“แต่พวกเขาคงไม่เห็นด้วยหรอกมั้ง”เอเลียร์ดพูดเสียงค่อย“อย่างเช่นพวกไฮเอลฟ์,พวกนั้นมีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงมากแถมตอนนี้พวกนั้นก็กําลังเหม็นหน้าพวกเราจากเรื่องอุปกรณ์เวทมนตร์ด้วย”เขารู้สึกว่าบรรยากาศมันทะแม่งๆ
อัลโลว่าเงยหน้าขึ้นมองเพดานโดยไม่พูดอะไรเลยริมฝีปากของเอเลนอร์เผยอขึ้น“ใครบอกว่า เราต้องขออนุญาตจากพวกนั้นหล่ะ?เราทํากันแบบลับๆก็ได้นี่หน่า”
“อย่างลับๆหรอ? เราจะไปที่เกาะรุ่งอรุณแล้วแอบขโมยหนังสือกันใช่ไหม?” เอเลียร์ดถาม “ไฮเอลฟ์มีหนังสือแต่ปีศาจกับพวกสัตว์ป่าไม่มี”
ลิงค์ส่ายหัว “ไม่, ไม่ แค่ใช้หนังสืออย่างเดียวยังไม่พอหรอก ภูมิปัญญาของปราชญ์มีความซับซ้อนไม่ธรรมดาและไม่ใช่สิ่งที่จะทําความเข้าใจกันได้ง่ายๆพวกเราต้องหาคนมาลองดู”
เขามีหนังสือเวทมนตร์มังกรและหัวใจมังกรอยู่ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เข้าใจแก่นพลังมังกรอย่าง ถ่องแท้ก็ตามมันใช้นักปราชญ์ถึง 72 คนตั้งแต่สมัยโบราณหลายร้อยปีเพื่อสร้างพลังมังกรขึ้นมา จากนั้นมันก็ได้รับการปรับแต่งมาหลายศตวรรษในส่วนของเขานั้นกําลังคืบหน้าไปที่ละนิด,เพราะส่วนใหญ่แล้วเขาไม่มีของจริงให้ศึกษา
อย่างไรก็ตาม, ในตอนนี้, เทพแห่งการทํา ลายได้สร้างกองทัพขึ้นมาในภาคเหนือแล้ว พวก เขาจะมัวมาเสียเวลาไม่ได้ และในช่วงที่จนตรอก แบบนี้ มันก็ต้องใช้วิธีที่จนตรอก!
เอเลียร์ดกลืนน้ําลาย พวกเขาอยากหาคนมาชํา แหละหรอ? นี่มันศาสตร์แห่งความมืดนะ: และ พวกเขาก็เป็นนักเวทย์ถูกกฎหมายด้วย
แวนซ์หัวเราะเสียงดัง”ทุกคนไม่จําเป็นต้องทําให้มือของตัวเองแปดเปื้อนหรอกเดี๋ยวข้าจัดการเอง! ข้าเคยมีประสบการณ์อยู่!”