Advent of the Archmage - ตอนที่ 493: จากมดสู่มังกร!
Chapter 493: จากมดสู่มังกร!
ลิงค์เปิดใช้ข้ามมิติแล้ววาร์ปไปที่ร้านเหล้าในเมืองมอดไหม้เขาเห็นชายแก่สวมผ้าคลุมสีเทาคนนึงนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆตรงมุมร้าน มีจานอาหารเล็กๆกับเหล้าแอบซินธ์สองแก้ววางอยู่บนโต๊ะ เขากำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว
หลังจากที่เห็นลิงค์,ชายคนนั้นก็ยิ้มให้ “มาสิ, มาดื่มเป็นเพื่อนข้าหน่อย”
ลิงค์สวมเสื้อผ้าธรรมดาและไม่ได้สนใจว่าจะมีคนจำเขาได้เขาเข้ามานั่งตรงข้ามชายแก่แล้วจิบเหล้าเข้าไปหนึ่งอึก จากนั้นก็พูดออกมา “ตั้งแต่ที่แยกกันตอนหมู่บ้านมังกร, คุณบอกว่าจะไปจัดการกับนักเวทย์แห่งความมืดนี่หน่า เขาสร้างปัญหาให้หรอครับ?”
ชายแก่ถอนหายใจแล้วดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเพิ่มอีก“ใช่, ปัญหาค่อนข้างยุ่งยากเลยหล่ะ ข้ารู้สึกว่าข้าจัดการด้วยตัวเองไม่ไหวก็เลยนึกถึงเจ้าขึ้นมา”
“ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ”ลิงค์ดีดนิ้วเรียกเด็กเสริ์ฟแล้วส่งสัญญาณมือให้ นี่คือสัญญาณที่รู้กันในหมู่คนทั่วไปที่ร้านเหล้าแห่งนี้ มันหมายความว่าเขาขอสั่งเนื้อมักซอสสูตรพิเศษหนึ่งที่, และไวน์เพลิงสูตรลับของเฟิร์ดหนึ่งขวด
ดูเหมือนว่าเด็กเสริ์ฟจะรู้ถึงสถานะของลิงค์และรีบไปจัดเตรียมให้ตามคำสั่ง
ชายแก่หยุดดื่มเหล้าแอบซินธ์เขาวางหินสีดำลงบนโต๊ะแล้วใช้นิ้วดีดไปหาลิงค์ “เจ้าเคยเห็นสิ่งนี้ไหม?”
หินสีดำนี้ทั้งกลมและราบเรียบมันดูเหมือนกับหมากโกะสีดำและไม่มีออร่าอะไรเลย นอกจากสีแล้ว, มันมีหน้าตาเหมือนโจกุที่ลิงค์กำลังรวบรวมอยู่
เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วตรวจสอบดูอย่างระมัดระวังเขาสัมผัสถึงออร่าที่คล้ายกับโจกุได้ในทันที เขาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว “จิตวิญญาณดำหรอครับ?”
ภายในเกมส์,จิตวิญญาณดำกับโจกุขาวนั้นมีตัวตนอยู่ขั้วตรงข้ามกัน ผู้เล่นของค่ายแห่งแสงจะเก็บรวบรวมโจกุเพื่อใช้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการกับนักเวทย์พเนจร ส่วนฝ่ายความมืดเองก็มีสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนที่คล้ายคลึงกัน—นั่นก็คือจิตวิญญาณดำ
หลังจากที่ผู้เล่นคนนึงฆ่าสมาชิกระดับสูงของฝ่ายความมืดได้,พวกเขาก็จะได้รับสิ่งนี้ หลังจากที่มอบมันให้ไอเซนิส, พวกเขาจะสามารถเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นครึ่งโจกุขาวได้
นักเวทย์แสงพยักหน้าแล้วยิ้มให้“คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าเจ้าจะรู้จักสิ่งนี้ด้วย”
ในตอนนั้นเอง,เด็กเสริ์ฟก็เอาอาหารกับเครื่องดื่มเข้ามา ลิงค์รินไวน์ใส่แก้วของตัวเองแล้วพูด, “ไวน์เพลิงกับเนื้อหมักคือเมนูพิเศษของเทือกเขามอดไหม้, โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีฝนชุกแบบนี้ ทั่วทั้งร่างของคุณจะรู้สึกอุ่นขึ้นมาด้วยการดื่มเพียงจิบเดียว ลองชิมดูสิครับ”
นักเวทย์แสงทำตามคำแนะนำแล้วหัวเราะออกมา“ไอ้พวกหลอกกินเงินเอ้ย ข้าบอกให้พวกเขาเอาอาหารพิเศษของที่นี่มาให้, แล้วพวกเขาก็เสิร์ฟเหล้าแอบซินธ์กับปลาทอดให้ข้า พอเทียบกับของเจ้าแล้ว, ข้าอยากจะไปอัดคนพวกนั้นจริงๆ”
ลิงค์หัวเราะ“ผมอยากจะรู้ชื่อของคุณกับนักเวทย์แห่งความมืดคนนั้นมาตลอดเลย ขอทราบได้ไหมครับ?”
“ได้สิ,มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก ข้าชือฮาลิโน่, ส่วนไอ้หมอนั่นชื่อยูจิน พวกเราต่อสู้กันมาเกือบ 600 ปีแล้ว เจ้าไม่รู้หรอกว่ายูจินมันน่ารำคาญขนาดไหน ความปราถนาเพียงอย่างเดียวในชีวิตของข้าก็คือการกักขังเจ้าหมอนั้นเอาไว้แล้วใช้ชีวิตที่เหลือในการเฝ้าดูมัน!”
ในขณะที่พูด,นักเวทย์แสงฮาลิโน่ก็เก็บจิตวิญญาณดำกลับไปแล้วพูดต่อ “เหตุการณ์ในช่วงนี้มีความเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณดำอยู่ ยูจินได้ไปพบมอร์เฟียสแล้วทำการแลกเปลี่ยนลับๆกับมัน หลังจากนั้น, ยูจินก็เริ่มทำการเก็บรวบรวมจิตวิญญาณดำทั่วทุกที่เลย ข้าไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นกำลังวางแผนอะไรอยู่, แต่ข้ารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ มอร์เฟียสเองก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน หลังจากการแลกเปลี่ยนนั้น, มันก็เริ่มสร้างประตูวาร์ปข้ามภพขึ้นมา ข้าได้แอบสืบหาปลายทางของประตูวาร์ปนั่นแล้วและรู้ว่ามันพาไปที่ภพไร้กายเดลูว์ ยูจินต้องให้พิกัดกับมอร์เฟียสแน่ๆ”
พวกไร้กายคือวิญญาณประเภทนึงพวกมันไม่สามารถมีตัวตนในภพฟิรุแมนได้อย่างเป็นอิสระและต้องการร่างโฮสท์
ร่างโฮสท์นั้นจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ได้หลังจากที่กลายเป็นโฮสท์, สิ่งมีชีวิตนั้นจะได้รับความสามารถไร้กาย ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียก็คือพลังชีวิตของพวกเขาจะถูกกัดกินอย่างไม่รู้จบ พวกเขาจะสูญเสียการควบคุมจิตใจและตกเป็นหุ่นเชิดของไร้กายอย่างสมบูรณ์
นักรบไร้กายเคยปรากฎตัวในช่วงกลางเกมส์มันคือตอนที่อาณาจักรนอร์ตันกำลังสู้กับกองทัพแห่งความมืดทางภาคเหนือ
สมาคมได้สร้างกองทัพนักรบไร้กายที่แข็งแกร่งขึ้นมาเพราะพวกเขาแข็งแกร่งมากและมีพลังแห่งกฎที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยกองทัพนี้, มอร์เฟียสได้ยึดอำนาจในสมาคมการค้าทางใต้อย่างรวดเร็วและเตรียมที่จะเป็นผู้ปกครองทางใต้
ในตอนแรกมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายในช่วงเริ่มต้น, มอร์เฟียสได้ร่วมมือกับกองทัพแห่งความมืดและฆ่ามนุษย์ทุกคนที่เห็น หลังจากนั้นความสัมพันธ์กับเจ้านรกโนโซม่าก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับวางแผนจะก่อตั้งกองทัพห้าอาณาจักรเพื่อช่วยอาณาจักรนอร์ตันต่อสู้กับกองทัพแห่งความมืดด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม,มอร์เฟียสดูถูกพวกนักรบไร้กายเกินไปหน่อย
นักรบที่แข็งแกร่งพวกนี้เป็นอิสระจากการควบคุมของเขาอย่างรวดเร็วและหลั่งไหลเข้าไปในฟิรุแมนพวกมันยึดร่างสิ่งมีชีวิตกว่าหลายหมื่นชีวิต ร่างโฮสท์ที่เคยอ่อนโยนก็กลายเป็นโหดร้ายด้วย
ไร้กายได้กัดกินวิญญาณของร่างโฮสท์เพื่อยึดครองร่างของพวกเขาและมันก็เปลี่ยนเป็นหายนะทางใต้ในเวลาไม่นาน
สมาคมไม่มีเวลาไปสนใจคนอื่นแม้กระทั่งมอร์เฟียสก็ยังถูกนักรบไร้กายจัดการจนได้รับบาดเจ็บหนักและต้องหนีออกมา เขาซ่อนตัวอยู่ในอาณาเขตของตัวเองไม่กล้าปรากฎตัว ซึ่งนี่ก็ทำให้เกิดเควสรองผู้ไล่ตามแห่งความมืดขึ้นมา
ผู้เล่นจะฆ่ามอร์เฟียสและเดินทางลงใต้เพื่อต่อสู้กับนักรบไร้กายในตอนนั้นพวกเขาได้ทุ่มความพยายามทั้งหมดและขับไล่พวกไร้กายออกไปได้, แต่ทั้งห้าอาณาจักรเองก็แทบจะล่มสลายไปเหมือนกัน
แน่นอนว่า,นี่เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในเกมส์ พอเห็นว่ามอร์เฟียสกำลังจะทำผิดซ้ำสอง, ลิงค์ก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เขาเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปตั้งมากแล้ว ทำไมเหตุการณ์ในเกมส์ถึงยังกลับมาอีกหล่ะ?
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นนักเวทย์เลเวล11, แต่ลิงค์ก็ยังมีปัญหาในการต่อกรกับพวกนักรบไร้กาย สิ่งมีชีวิตพวกนี้ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น—พวกมันมีเลเวลอย่างมากที่สุดก็ประมาณ 8 หรือเก้า, มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ไปถึงเลเวล 10
แต่พวกมันมีกลยุทธ์มากมายและมีพรสวรรค์ที่ทำให้ถึงตายได้จริงๆภายในเกมส์, ผู้เล่นอิสระที่อยู่ระดับตำนานจำนวนนับไม่ถ้วนได้ตายด้วยเงื้อมมือของพวกมัน นักรบไร้กายนั้นมีอีกชื่อนึงว่า—นักฆ่าตำนาน!
พอคิดถึงเรื่องพวกนี้,ลิงค์ก็ถอนหายใจออกมา “ผมเคยอ่านเรื่องผู้ไร้กายเดลูว์มาก่อน พวกนั้นเป็นกลุ่มที่ทะเยอทะยาน มอร์เฟียสน่าจะอยากใช้พลังของพวกนั้น นี่มันไม่กลัวว่าไฟจะย้อนกลับมาเผาตัวเองบ้างหรอ?”
ฮาลิโน่สายหัว“ข้าไม่รู้เรื่องนั้นหรอก บางทีมันน่าจะมีวิธีการควบคุมบางอย่าง ยังไงซะมันก็มีเลเวล 19 นะ, แล้วก็มีความรู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย พลังของมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราเข้าใจได้หรอก”
“มอร์เฟียสก็แค่พวกชั้นต่ำที่พึ่งขึ้นไปอยู่ระดับสูง”ลิงค์ดื่มไวน์เข้าไปอีก, สีหน้าของเขาแสดงความดูถูกออกมา
ลิงค์ไม่ได้รู้ข้อมูลนี้มาจากในเกมส์;เขารู้มาจากห้องสมุดมังกร ตอนแรกมอร์เฟียสเป็นโจรคนนึงที่ชื่นชอบการผจญภัย เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 9 แต่หลังจากเดินทางไปตามโบราณสถานต่างๆ, เขาก็ดันโชคดีไปเจอชิ้นส่วนหัวของพระเจ้า
และจากนั้นเขาก็เหมือนหนูตกถังข้าวสาร!
ฮาลิโน่เห็นด้วยกับลิงค์อย่างเห็นได้ชัดเขาพูดพลางหัวเราะ “แสดงว่ามอร์เฟียสไม่ได้เป็นภัยคุกคามขนาดนั้นสินะ ยูจินต่างหากหล่ะที่เป็นภัยคุกคามจริงๆ พูดตามตรง, ยูจินอยู่เลเวล 13 แล้ว, ไอ้หมอนั่นหน่ะถือว่าเป็นอัจฉริยะตัวจริงเลย แล้วมันก็ชื่นชอบความเสี่ยงด้วย เจ้านั่นไม่สนใจชีวิตของผู้คน ข้าหล่ะกังวลในสิ่งที่มันทำได้จริงๆ”
เลเวล13 เลยหรอ หัวใจของลิงค์สั่นระรัว ความแข็งแกร่งระดับนี้ค่อนข้างน่ากลัวจริงๆ แถมมอร์เฟียสเองก็แข็งแกร่งกว่าไบรอันท์ด้วย ในขอบเขตความรู้ของลิงค์, เหตุการณ์น่าตกใจมากมายตั้งแต่สหัสวรรษที่ผ่านมานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักเวทย์คนนี้
หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วน,ลิงค์ก็พูดขึ้น, “ผมเกรงว่าผมคงช่วยคุณไม่ได้หรอก ผมสู้เขาไม่ไหว”
ในแง่ของพลังอย่างเดียว,ลิงค์นั้นมีเลเวล 11 ไม่ได้ใกล้เคียงกับยูจินเลย แต่ก็แน่นอนว่า, ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ระหว่างความเป็นความตาย นักเวทย์ระดับตำนานทุกคนมีทักษะการฆ่าของตัวเอง และพวกเขาต่างก็หวาดกลัวกันเอง
“ไม่,เจ้าอย่าพึ่งดูถูกตัวเองสิ ในฟิรุแมน, เจ้าถือเป็นหมายเลขหนึ่งในด้านกฎมิติ ถ้าพวกเราร่วมมือกัน, ยูจินคงไม่สามารถหนีไปไหนได้หรอก” ฮาลิโน่พูด
แต่ลิงค์ก็ยังส่ายหัวอยู่ดี“ไม่, ไม่, ไม่ ยูจินเป็นคนที่อันตรายมาก, แต่เขาก็มีคติของตัวเอง ถ้าผมไม่สู้กับเขา, เขาก็จะไม่มาสร้างปัญหาให้กับผม แต่ถ้าผมทำ, ดินแดนของผมจะถูกคุกคามแน่ๆ เขาอาจจะทำลายมันเลยก็ได้, ผมรับความเสี่ยงไม่ไหวหรอก”
เขาไม่อยากสร้างความขัดแย้งกับยูจินการทำลายแผนการของเขาโดยไม่มีเหตุผลจะทำให้เขาเกลียดลิงค์ อย่างไรก็ตาม, เขาไม่ได้ห่วงชีวิตตัวเอง อย่างมากที่สุด, พวกเขาก็แค่สู้กันจนตายไปข้าง
แต่เขามีดินแดนกับเซลีนอยู่เขาสามารถหนีได้, แต่เฟิร์ดก็จะตกเป็นเป้าหมายการล้างแค้นของยูจิน
พอมาถึงจุดนี้,ลิงค์ก็ดื่มไวน์เข้าไปอีกเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นมา “พอเทียบกับเรื่องนั้น, ผมกังวลเรื่องมอร์เฟียสอัญเชิญพวกไร้ตัวตนออกมามากกว่า เขาไม่เข้าใจว่าพวกไร้ตัวตนน่ากลัวแค่ไหนและวิธีการของเขาก็หยาบเกินไปด้วย ผมรู้สึกได้เลยว่าในท้ายที่สุดแล้วเขาจะควบคุมพวกไร้ตัวตนไม่อยู่”
พอได้ยินแบบนี้,ฮาลิโน่ก็ดูไม่พอใจ “เจ้าแน่ใจนะ?”
“ครับ”ลิงค์พยักหน้า
“ช่างน่าเศร้าจริงๆ”ฮาลิโน่เอาหินรูนออกมา “ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจก็ติดต่อข้ามาแล้วกัน”
พอมาถึงจุดนี้,คำพูดหลังจากนี้ของพวกเขาจะต้องกลั่นกรองออกมาอย่างรอบครอบ ไม่มีใครซักไซ้และพยายามโน้มน้าวอีกฝ่าย เพราะมันมีแต่จะทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง, ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“เข้าใจแล้วครับ”ลิงค์พยักหน้าแล้วรับหินรูน
ฮาลิโน่ลุกขึ้นแล้วโค้งให้เล็กน้อย“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดีนะ, ลอร์ดเฟิร์ด”
เขาถอยกลับไปในมุมมืดแล้วหายตัวไปลิงค์ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ดื่มคนเดียวและครุ่นคิด
การที่มอร์เฟียสกำลังอัญเชิญไร้ตัวตนนั้นเป็นปัญหาจริงๆหมอนั่นทำเรื่องพวกนี้แถวอาณาเขตของเขาแถมยังเป็นนักเวทย์เลเวล 19 ที่เอาชนะได้อยากด้วย เขาได้เปรียบอย่างเต็มที่ ถ้าลิงค์ไปหยุดเขา, มันก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย เขาจะเละไม่เหลือซากอย่างแน่นอน
อีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไปอีกครึ่งทางก็เข้าสู่ดินแดนแห่งพระเจ้าแล้ว ต่อให้ลิงค์เรียกเพื่อนระดับตำนานของเขามาช่วย, เขาก็ยังสู้ไม่ไหวอยู่ดี
แม้ว่าจะนั่งคิดอยู่พักนึง,แต่ลิงค์ก็หาวิธีดีๆในการจัดการมอร์เฟียสไม่ได้เลย เขาทำได้แค่พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนและเฝ้าดูสถานการณ์ทางใต้ต่อไป ในตอนที่มอร์เฟียสได้รับบาดเจ็บจากการถูกพวกไร้ตัวตนทรยศ, เขาค่อยออกไปสะสางงานให้เรียบร้อยจะดีกว่า
ณเวลานี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
มนุษย์อ่อนแอเกินไปในขณะที่ขีดจำกัดพลังในฟิรุแมนกลับสูงเกินไปบุคคลที่มีอำนาจและความทะเยอทะยานจะปรากฎตัวออกมาสร้างหายนะขึ้นเรื่อยๆ ฉันต้องวางแผนกระจายพลังมังกรอย่างจริงจังแล้วหล่ะ…จะมัวมารีรอไม่ได้แล้ว
สำหรับมดตัวนึง,แค่ลมโชยอ่อนๆก็อาจจะเป็นจุดจบของโลกแล้ว ซึ่งตอนนี้มนุษย์ถือว่าเป็นมดอยู่
ตอนแรก,พวกเขาเจอกับกองทัพแห่งความมืด, แล้วต่อด้วย, เทพแห่งการทำลาย ตอนนี้, มอร์เฟียสก็กำลังอัญเชิญนักรบไร้ตัวตนออยู่ที่ทางใต้อีก, แถมนักเวทย์แห่งความมืดก็กำลังสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นมาให้อยู่เรื่อยๆ แล้วลิงค์จะจัดการเรื่องพวกนี้ด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?
ในเมื่อมดเอาตัวรอดได้อย่างยากลำบาก,ฉันก็ต้องเปลี่ยนมดให้เป็นมังกร!
เผ่าเวทมนตร์อย่างไฮเอลฟ์แข็งแกร่งมากจนไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกเขาเกาะรุ่งอรุณจึงอยู่อย่างสงบสุขเหมือนสวรรค์ได้เป็นเวลา 3,000 ปี ดังนั้นในเมื่อไฮเอลฟ์สามารถทำได้, แล้วทำไมมนุษย์จะไม่ได้หล่ะ
พอตัดสินใจได้,แก้วของลิงค์ก็หมดพอดีเขาทิ้งเหรียญทองไว้ให้หนึ่งเหรียญแล้วจากไป เขาคิดวิธีสร้างเมล็ดพันธุ์มังกรเอาไว้เรียบร้อยแล้ว