Advent of the Archmage - ตอนที่ 475: คาทูช่าแห่งความพินาศ
Advent of the Archmage Chapter 475: คาทูช่าแห่งความพินาศ
สามไมล์ในอากาศ,ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินไพลิน นกอินทรีย์ยักษ์บินถลาบนท้องฟ้าไปได้ไกลกว่า 100 ฟุต
นกอินทรีย์ตัวนั้นดูแปลกจริงๆจากที่ไกลๆ, มันดูเหมือนกับนักอินทรีย์ตัวนึง แต่พอสังเกตุดูดีๆ, ลิงค์ก็พบว่ามันถูกปกคลุมด้วยเกล็ดที่เหมือนกับโลหะสีแดงเข้ม พวกมันเปล่งแสงอ่อนๆออกมา, และเขาก็เห็นรูนศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ตามเกล็ด พวกมันแผ่ออร่าที่ดุดันออกมา ส่วนที่บริเวณปีก, พวกมันทำมาจากขนนก, แต่ในแวบแรกนั้น, พวกมันดูเหมือนกับแถวของมีดเลย แถมที่ปลายขนเองก็เงาวับเหมือนกับคมมีดด้วย
พอเห็นแบบนี้,ลิงค์ก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง, ที่แปลงมาจากมังกรอินทรีย์ มันต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ
มังกรอินทรีย์ทั่วๆไปก็มีลักษณะคล้ายกัน,แต่ปีกของพวกมันยาวแค่ 60 ฟุต อกาธา นากานั้นเคยแสดงเวทย์ทำให้เชื่องมาก่อนดังนั้นลิงค์จึงไม่ได้ประหลาดใจ
มีเสียงลอยมาตามลมมันคือเสียงของอกาธา นากาที่กำลังพูดคุยกันจากบนหลังอินทรีย์มังกร แทนที่จะโจมตีในทันที, ลิงค์กลับลอยห่างจากอินทรีย์มังกรสองไมล์แล้วตั้งใจฟังแทน
“แปลกจังแหล่งข่าวบอกว่าเรือของลิงค์ออกมาแล้ว, แต่ไม่เห็นจะมีร่องรอยเลย หรือว่าเราจะคลาดกับพวกมันไปแล้ว?” นักรบนากาคนนึงพูด แล้วลิงค์ก็เห็นนากาผมดำตัวเล็กๆคนนึงนั่งอยู่ข้างหน้าเธอ ด้วยเหตุผลบางประการ, ลิงค์รู้สึกคุ้นหน้าเธอ, แต่ร่างกายส่วนใหญ่ของเธอถูกคลุมเอาไว้ดังนั้นเขาจึงเห็นไม่ชัด
“เอาเถอะ,หยุดบ่นกันได้แล้ว ไม่มีอะไรที่แน่นอนในโลกนี้ ถ้าลิงค์ถูกจัดการได้ง่ายขนาดนั้น, มันก็คงจะไม่มีชื่อเสียงขนาดนี้หรอก มันต้องใช้ทางอ้อมแน่ๆ” มีอีกเสียงดังขึ้น มันไกลเกินไปดังนั้นลิงค์จึงระบุไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูด แต่เขาก็รู้สึกว่าเสียงนั้นฟังดูคุ้นเคยเหมือนกัน มันนุ่มนวลเหมือนกับขนนก; แถมยังน่ารักด้วย
เสียงฟังดูเหมือนเมียสเมอร์แต่นุ่มนวลกว่าฉันต้องเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนแน่ๆ
ถ้าลิงค์ฟังจากข้างหน้า,เขาคงจะสามารถจำได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม, พวกเธออยู่ข้างหน้าสามไมล์และใช้ความเร็วที่สองร้อยฟุตต่อวินาที มีลมแล่นผ่าน, และบิดเบือนเสียงที่ลิงค์ได้ยิน, ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดถึงคนๆนึงในช่วงเวลานี้
หลังจากนั้นสักพัก,ก็มีอีกเสียงดังขึ้น “ผู้บัญชาการ, พวกเราจะไปที่ป้อมโอริด้าทั้งแบบนี้เลยหรอ?”
“ใช่พวกเราจะเปลี่ยนชุดแล้วเข้าไปข้างใน มนุษย์ดูเหมือนกับพวกเรา ถ้าพวกเราบอกว่าจะเข้าร่วมกับกองทัพ, พวกมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหยุดไม่ให้พวกเราเข้าไปข้างใน”
มันคือเสียงน่ารักนั้นอีกครั้งตอนนี้ลิงค์รู้แล้วว่าเธอคือผู้บัญชาการนากา
หลังจากนั้น,ก็มีอีกบทสนทนานึงเกิดขึ้นบนหลังมังกรอินทรีย์ มีการบ่นด้วย ลิงค์ฟังอย่างอดทนและไม่นานนักก็สามารถปะติดปะต่อแผนการของพวกเธอได้
เขากำจัดสปายจากดินแดนไม่หมดพวกนากาสามารถรู้เวลาและเส้นทางที่เขาจะใช้ไปทางเหนือได้ พวกเธอมาดักรอเขาระหว่างทาง, แต่หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเส้นทาง, ดังนั้นพวกเธอจึงไม่พบอะไร และในเมื่อคลาดกับเขา, พวกเธอจึงตัดสินใจกลับขึ้นเหนือและไปเข้าร่วมกับป้อมโอริด้าเพื่อกลายเป็นทหารของแม่ทัพ
เอาจริงๆ,แผนของพวกเธอไม่มีอะไรผิดปกติ จากภายนอก, นากาไม่ได้ต่างอะไรจากมนุษย์เลย พลังของพวกเธอคือพลังทำลายสีแดงเข้ม มันแตกต่างจากพลังแห่งความมืดโดยสิ้นเชิงและหาได้ยากในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมันใช้หลอกคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
และพอนากาพวกนี้เข้าไปอยู่ฝ่ายดยุคอาเบลได้สำเร็จ,มันก็จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับลิงค์
ในตอนนี้,ทัศนวิสัยของลิงค์ก็สว่างขึ้น มันคือภารกิจ
เปิดภารกิจ:ขัดขวาง
รายละเอียด:ในขณะที่รับรองความปลอดภัยของตัวเอง, ให้หยุดอกาธา นากาจากการเข้าไปในป้อมโอริด้าด้วย
รางวัล:10 โจกุ
พอเห็นแบบนี้,ลิงค์ก็ได้ความคิดขึ้นมา มีนากาอยู่บนหลังมังกรอินทรีย์แค่ 13 คน, ทุกคนมีเลเวลประมาณ 8 หรือ 9 มีแค่สามคนเท่านั้นที่เป็นภัยคุกคามจริงๆสำหรับลิงค์
คนแรกคือนากาที่อยู่หน้าสุด,ที่สวมชุดเดรสสีดำแดง เธอน่าจะเป็นนากานักบวช ส่วนคนถัดมาก็คือนากาผมดำ ลิงค์รู้สึกได้ว่าเธออยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 10 และท้ายที่สุดก็คือสัตว์เลี้ยงมังกรอินทรีย์ เทพแห่งการทำลายปกป้องมันอยู่, และมันก็สู้เก่งมาก อย่างไรก็ตาม, ขนาดของมันนั้นก็เป็นตัวบ่งบอกว่ามันไม่ได้คล่องแคล่ว มันน่าจะเป็นภัยคุกคามที่น้อยที่สุดในบรรดาทั้งสามนี้
แต่ถึงจะมีทั้งสามคนนี้อยู่,เขาก็น่าจะรับมือไหวถ้าเขาระมัดระวังดีๆ…พวกเธอมีเทคนิคการต่อสู้ที่แข็งแกร่งหรืออาวุธบ้าๆอยู่รึเปล่านะ? แต่ไม่ว่ายังไง, เกมส์ก็เตือนเขาแล้ว, ดังนั้นเขาต้องเตรียมตัวให้ดี
เขารับภารกิจแล้วแอบออกจากเรือเหาะไปอย่างเงียบๆมุ่งหน้าไปยังส่วนใต้ท้องของมังกรอินทรีย์
เดินอากาศของลิงค์นั้นทรงพลังมากที่พลังสูงสุด, มันเร็วพอๆกับร่างมังกรเลย มังกรอินทรีย์ไม่ได้เร็วขนาดนั้น มันช้ากว่าความเร็วเรือเหาะของยับบ้าด้วยซ้ำ มันบินด้วยความเร็วแค่ประมาณ 400 ฟุตต่อนาที, และลิงค์ก็สามารถไล่ทันได้อย่างง่ายดาย
ระยะทางระหว่างพวกเขาค่อยๆลดลงสองไมล์…หนึ่งไมล์…ครึ่งไมล์…จากนั้นลิงค์ก็เห็นว่านากาผมดำเริ่มมองซ้ายมองขวา เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
ลิงค์หยุดเข้าใกล้ในทันทีและเริ่มกลบกลิ่นอายไปตามสายลมรอบตัวเขาหลังจากตามไปอย่างเงียบๆเป็นเวลากว่าสิบวินาที, นากาผมดำก็ยังไม่ลดการป้องกันลง
“แปลกจังมีบางอย่างผิดปกติ” เธอเริ่มพูด
ตอนนี้,ลิงค์เข้ามาอยู่ในระยะที่สามารถฟังเสียงเธอได้ชัดขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกคุ้นหูมากกว่าเดิม เขาต้องเคยเจอมาก่อนตอนที่อยู่ในเกมส์อย่างแน่นอน, และเธอต้องเป็นบอสนากาที่เคยสร้างปัญหาให้เขาเป็นอย่างมาก
เธอเป็นใครกันนะ?เธอเป็นใครกันนะ?
ลิงค์เริ่มนึกย้อนกลับไปตอนที่อยู่ในเกมส์, เขาฆ่าบอสนากาจากเกาะซิลเวอร์แซนด์ไปทั้งหมด 16 ตัว แต่ละตัวนั้นมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง บางตัวก็มีผมสีดำแบบนี้…เดี๋ยวนะ, จู่ๆลิงค์ก็นึกชื่อของเธอขึ้นมาได้
ชื่อเต็มของเธอคือ:คำสัตย์แห่งชัยชนะ, ความรุ่งโรจน์ของอกาธา, คาทูช่าแห่งความพินาศ เธอปรากฎขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเกมส์และเป็นหนึ่งในบอสตัวปัญหาไม่กี่ตัวที่สามารถฆ่าได้ด้วยเทคนิคการต่อสู้แบบฆ่าตัวตายเพียงเท่านั้น
แล้วเทคนิคการต่อสู้แบบค่าตัวตายคืออะไรหล่ะ?
มันหมายความว่าบอสตัวนี้จะใช้การเคลื่อนไหวอันทรงพลังทุกๆสองวินาทีการเคลื่อนไหวนี้จะโจมตีผู้เล่นด้วยความเกลียดชังสูงสุด มันไม่สามารถหลบหลีก, ป้องกัน, หรือเป็นอิสระจากการเคลื่อนไหวนี้ได้ แม้กระทั่งโล่ศักดิ์สิทธิของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่า “เอาชนะไม่ได้” ก็ยังพ่ายแพ้ในการโจมตีเดียว
มีแค่ทะเลนักรบเท่านั้นที่สามารถเอาชนะคาทูช่าได้พวกเขาต้องพุ่งเข้าไปทีละคนเพื่อกันการเคลื่อนไหวของเธอและทำให้เธอหน่อยด้วยวงล้อมนักรบ
ลิงค์จำได้ว่าภายในเกมส์นั้น,มีสองกิลด์ตั้งทีมขึ้นมาด้วยผู้เล่น 1,000 คน และในท้ายที่สุด, มีคนตายไปทั้งสิ้น 857 คน, แต่ละคนตายด้วยการโจมตีเดียว ในตอนที่หลอดเลือดของคาทูช่าลดลงมาต่ำกว่าสิบเปอร์เซนต์, ความเร็วโจมตีของเธอจะเพิ่มขึ้น 200%และจะเคลื่อนไหวทุกๆ 0.6 วินาที…มันคือช่วงเวลานองเลือดอย่างแท้จริง
การได้พบกับคาทูช่าอีกครั้งในชีวิตจริง,ลิงค์รู้สึกว่าเธอไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น เพื่อที่จะจัดการผู้เล่น, เกมส์จึงตั้งกฎให้คาทูช่าทำการเคลื่อนไหวทุกสองวินาทีและโจมตีผู้เล่นด้วยความเกลียดชังสูงสุด แต่คงไม่มีกฎแบบนั้นในโลกจริงหรอก
ในโลกจริง,เธออาจจะมีข้อจำกัดอื่น, แต่เธอคงจะไม่คล่องแคล่วจนถึงขีดสุดอย่างแน่นอน ถ้าเธอมาหาลิงค์และเขาไม่พร้อม, เขาก็คงจะเละไม่เหลือซาก
ลิงค์ใช้สมาธิอยู่ไม่กี่วินาทีและคิดแผนขึ้นมาได้
ขั้นแรก,เขารอเป็นเวลานานกว่าสิบวินาที ในระหว่างนั้น, คาทูช่าก็มองซ้ายมองขวาบนหลังของมังกรอินทรีย์ เธอไม่เจออะไรแปลกๆเลยแต่ก็ยังรักษาการป้องกันต่อไป มีหอกเล่มนึงที่เปล่งประกายเหมือนกับสายฟ้าปรากฎขึ้นในมือของเธอ
พอเห็นหอกนี้,ลิงค์ก็กลืนน้ำลายโดยอัตโนมัติ
เห็นได้ชัดว่าเขาจำหอกเล่มนี้ได้มันคือหอกแห่งชัยชนะ, อาวุธระดับตำนานที่ใช้ได้แค่นักรบเท่านั้น ในบรรดาอุปกรณ์ระดับตำนานทั้งหมดที่ปรากฎขึ้นภายในเกมส์, มันอยู่อันดับสี่, เหนือกว่าดาบราชามังกรพิโรธของเขาซะอีก
หลังจากฆ่าคาทูช่า,เธอจะดรอปเศษดาบ หลังจากที่เก็บครบ 20 ชิ้นและทำภารกิจสำเร็จไปสองสามภารกิจ, นักตีดาบคนแคระคนนึงก็จะทำหอกแห่งความรุ่งโรจน์ที่อยู่ขั้นตำนานระดับต่ำให้ และหลังจากที่ทำภารกิจต่อไปอีกโหลนึง, ภารกิจสุดท้ายก็จะเป็นภารกิจหลอกลวงเทพแห่งการทำลาย และพอทำสำเร็จก็จะสามารถเปลี่ยนหอกแห่งความรุ่งโรจน์เป็นหอกแห่งชัยชนะได้
พลังโจมตีพื้นฐานของหอกนี้อยู่ในระดับที่สูงมากมันมีผลพิเศษแค่อย่างเดียวแต่มันก็แข็งแกร่งจนผิดธรรมดาและสามารถเปิดใช้ได้ในทันทีด้วย มันถูกเรียกว่าหนามแห่งโชคชะตา พอเปิดใช้, การโจมตีต่อไปของผู้เล่นที่มีต่อสิ่งมีชีวิตจะเพิ่มขึ้น 50 เท่า หรือ 10 เท่าถ้าใช้กับผู้เล่น และมันก็ไม่สามารถหลบได้ด้วย
และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ,ผลนี้ใช้ได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกล ในตอนที่อยู่ระยะใกล้พอ, มันสามารถเสียบศัตรูได้โดยตรง ในตอนที่อยู่ระยะไกลออกมา, มันสามารถใช้เขวี้ยงได้ แต่ไม่ว่าทางไหนมันก็จะล็อคตำแหน่งศัตรูเอาไว้และไม่สามารถหยุดได้
ภายในเกมส์,นักรบนั้นเป็นอาชีพที่น่าสงสารมาก พวกเขาทำได้แค่ต่อสู้และพุ่งเข้าไปเหมือนสัตว์ป่า อาชีพอื่นๆสามารถหยอกพวกนักรบเล่นได้เลยถ้าพวกเขามีเทคนิคแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม โดยเฉพาะนักเวทย์, พวกนักเวทย์นั้นสามารถส่งนักรบลอยขึ้นไปบนฟ้าและทิ้งพวกเขาลงมาได้อย่างสบายๆ
แต่ว่า,หากนักรบคนไหนมีหอกแห่งชัยชนะ, พวกเขาก็จะกลายเป็นฮีโร่ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ พวกเขาสามารถจัดการใครก็ได้ในเวลาไม่กี่วินาที, และทุกคนก็จะพยายามหลีกเลี่ยงพวกเขา
แต่ก็แน่นอนว่า,ผู้เล่นที่มีหอกแห่งชัยชนะนั้นสามารถใช้มือข้างเดียวนับได้เลย
แต่นี่คือชีวิตจริงไม่มีความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตกับผู้เล่น ในตอนที่ลิงค์เห็นหอกแห่งชัยชนะ, เขาก็ล้มเลิกความคิดที่จะปะทะกับคาทูช่าตรงๆไปเลย
คาทูช่าตั้งท่าป้องกันเต็มที่,ลิงค์ค่อยๆย่องเข้าไปทางมังกรอินทรีย์ ในตอนที่เขาอยู่ห่างประมาณ 2,000 ฟุต, เขาก็หยุด ตอนนี้เขาอยู่ใต้สัตว์ยักษ์ตัวนี้และอยู่ตรงจุดบอดของคาทูช่า เขาสามารถโจมตีจากตรงนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตอบโต้ของคาทูช่า
ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆ,ลิงค์ก็เอาดาบราชามังกรพิโรธออกมา
ลูกบอลความสิ้นหวัง
ลูกบอลมิติที่มีวังวนสีดำอยู่ข้างในปรากฎขึ้นในทันทีลิงค์แทงดาบเข้าไป แล้วลูกบอลความสิ้งหวังอีกลูกก็ปรากฎขึ้นที่ระยะไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้, จากนั้นเขาก็เปิดใช้อีกลูกนึง ด้วยวิธีนี้, ปลายดาบจะข้ามไปได้ไกลถึง 2,300 ฟุตในทันที, และไปถึงใต้ท้องของมังกรอินทรีย์
มังกรอินทรีย์เป็นสัตว์เลี้ยงของพระเจ้าและถูกคุ้มครองด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ลูกบอลความเศร้าของลิงค์ไม่สามารถเจาะได้, แต่แค่นี้ก็พอแล้ว
ดาบราชามังกรพิโรธแทงเข้าไปโดนเกล็ดที่ท้องของมังกรอินทรีย์เขาเปิดใช้ความคมไร้สิ้นสุด, และเกล็ดก็ถูกเจาะ ดาบฝังลึกเข้าไป 12 นิ้ว, และไปอยู่ในร่างของมังกรอินทรีย์
“ทลายความว่างเปล่า!”
ราชินีมังกรแดงได้มอบเวทย์นี้ให้เขามันทำงานได้ดีกับพลังมังกร และความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ต้องพูดถึง, แถมมันยังเร็วอีกด้วย บอลเพลิงสีม่วงเข้มปรากฎขึ้นที่ปลายดาบในทันทีและจากนั้นก็ระเบิด
ตูม!เปลวไฟพวยพุ่งจากท้องของมังกรอินทรีย์ ไฟนั้นลามลึกเข้าไปและเผาส่วนอื่นๆ พอเห็นแบบนี้, ลิงค์ก็รู้ว่ามันเป็นจุดจบสำหรับมังกรอินทรีย์แล้ว
เขาไม่ได้หยุดสักวินาทีเดียวแล้วเปิดใช้ข้ามมิติในทันที, เขาวาร์ป, วาร์ป, แล้วก็วาร์ปเป็นจำนวนสามครั้งก่อนที่จะเริ่มบิน
ลิงค์ได้คิดถึงทิศทางการบินเอาไว้แล้วแทนที่จะตรงไปยังเรือเหาะ, เขากลับบินไปทางอื่น, เผื่อเอาไว้ในกรณีเลวร้าย
เขาได้ยินเสียงโอดครวญของมังกรอินทรีย์กับเสียงร้องด้วยความตกใจและความโกรธของอกาธานากา เขาหันไปดูแล้วเห็นร่างที่ลุกเป็นไฟของมังกรอินทรีย์กำลังตกลงไป อกาธา นากาที่อยู่บนหลังของมันก็ร่วงลงไปด้วย
ลิงค์เห็นคาทูช่าเหมือนกันเธอยืนบนหลังของมังกรอินทรีย์แล้วจ้องมาที่ลิงค์ น้ำเสียงอันเดือดดาลของเธอลอยมาตามลม “ลิงค์, อย่าหนีนะ!”
หลังจากนั้นเขาก็เห็นนากานักบวชร่ายเวทย์ลึกลับใส่คาทูช่าแล้วก็มีปีกสีแดงคู่นึงงอกมาจากหลังของเธอ เธอกระพือปีกแล้วพุ่งมาทางลิงค์ เธอช้ากว่าเขาแค่เล็กน้อย
ลิงค์พูดไม่ออกเขาไม่ได้กลัวที่ถูกไล่ตาม, แต่ตอนนี้พอเขามีคนไล่ตาม, เขาก็จะไม่สามารถไปที่ป้อมโอริด้าได้ทันเวลา
แต่หลังจากนั้นเขาก็คิดขึ้นได้,เวทย์ศักดิ์สิทธิ์มีขีดจำกัดอยู่ ฉันแค่ต้องยืดเวลาออกไปอีกนิดหน่อยเท่านั้นหน่า