Advent of the Archmage - ตอนที่ 474:ใครลอบโจมตีใครกันแน่
Advent of the Archmage Chapter 474:ใครลอบโจมตีใครกันแน่
เฟิร์ด, บนฐานปล่อยเรือเหาะ
เรือเหาะรบยับบ้าได้ลอยขึ้นเหนือฐานปล่อย 20 ฟุต, เตรียมพร้อมที่จะออกตัว มันเปิดประตูเอาไว้อยู่, กําลังรอให้คนบนฐานเดินเข้ามา
จุดประสงค์ของลิงค์ในการไปเยี่ยมป้อมโอริด้าในครั้งนี้ก็คือการถอดถอนอํานาจของแม่ทัพอาเบล, แต่เขาไม่สามารถทําเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวได้ แม้ว่าจะเป็นลอร์ดเฟิร์ด, แต่ดยุคอาเบลก็มีตําแหน่งสูงกว่าเขา ไม่ว่าเขาจะมีเกียรติประวัติที่สูงส่งขนาดไหน, เขาก็ไม่มีอํานาจที่จะสั่งปลดดยุคอาเบลได้
แน่นอนว่า ถ้าจะมีใครที่มีอํานาจในการออกคําสั่งแบบนั้นให้กับดยุคได้, มันก็คงจะต้องเป็นตัวกษัตริย์ลีออน, ที่กําลังพํานักอยู่ที่เฟิร์ด
และด้วยเหตุนั้นเอง, กษัตริย์ลีออนจึงยอมตกลงที่จะมากับเขาด้วย
ลีออนมักจะกังวลเรื่องน้องชายของเขา และด้วยการที่มีกษัตริย์อยู่ฝั่งเขา, ลิงค์ในตอนนี้จึงมีจุดยืนที่จะเคลื่อนไหว
นอกจากนี้เขายังต้องการพลังที่จะปกป้องตัวเขาจากอีกฝ่าย
เขาจะต้องเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดประจําตัวของดยุคอาเบล, ซึ่งอาจจะรวมทั้งพวกอกาธา นากาด้วย
เขาไม่สามารถวางแผนที่ครอบคลุมทุกความไม่แน่นอนได้ในปฏิบัติการนี้, และนั่นจึงเป็นเห็นผลที่ทําไมเขาถึงพาความช่วยเห เลื่อมาด้วย
เซลีนเป็นคนแรกที่ลิงค์พามา ปืนเพลิงยักษ์ของเธอมีพลังโจมตีเลเวล 9 และเธอก็มีความสามารถในการโจมตีก่อน ระยะโจมตีของเธอนั้นไกลถึง 2,000 ฟุต, และลิงค์จะเป็นฝ่ายเหนือกว่าอย่างแน่นอน ถ้าเขามีเธอคอยคุ้มกันจากระยะไกล
เธอคือไพ่ตายของลิงค์
ข้างๆเธอ, ลิงค์ได้พานักรบชุดเกราะ 40 คนพร้อมปืนเวทมนตร์มาด้วย ถ้าจําเป็น, พวกเขาจะสาดห่ากระสุนเลเวล 7 ในทันที
แล้วเขาก็ยังพานักรบมังกรเลเวล 8 มา, รวมทั้งเฟลิน่า
การรวมพลนักรบเหล่านี้, และปืนใหญ่เวทมนตร์ที่ติดตั้งอยู่บนเรือเหาะก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะข่มขวัญไปทั่วทั้งสนามรบ
หลังจากผ่านไปพักนึง, ทุกคนก็ขึ้นไปบนเรือ จากนั้นเรือเหาะก็เริ่มลอยขึ้นในตอนที่ทุกคนเข้าประจําที่เรียบร้อยแล้ว พอพวกเขาไปถึงระยะ 6,000 ฟุตในอากาศ, เรือเหาะก็เริ่มมุ่งหน้าตรงไปยังโอริด้า
หลังจากที่บินไปได้ครู่นึง, ลิงค์ก็รู้สึกขึ้นมาอย่างกระทันหันว่ามีบางอย่างผิดปกติ
มันเป็นความรู้สึกที่เลือนลาง, แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าอาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นถ้าพวกเขาบินตรงไปทางป้อม
ก่อนที่ลิงค์จะกลายเป็นนักรบระดับตํานาน, เขามีลางสังหรณ์แบบนี้อยู่พอสมควร เขาเคยฝันร้ายว่าปีศาจทาร์วิสหลุดจากที่คุมขังในตอนที่เขายังเป็นนักเรียนที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ
แต่มันก็เกิดขึ้นแค่ในความฝันของเขา
ในขณะที่หลับ, สมองของมนุษย์จะเข้าสู่สภาพพักผ่อน และในระหว่างนี้เอง, ลางสังหรณ์อาจจะแสดงขึ้นมาได้ในรูปแบบความฝัน สําหรับผู้คนที่มีวิญญาณแกร่งกล้า, อย่างเช่นนักเวทย์, เพื่อเป็นการตอบสนองกับอันตรายที่กําลังใกล้เข้ามา
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ตื่น, สมองของมนุษย์ก็จะเข้าสู่สภาพสับสน ลางสังหรณ์ทุกรูปแบบจะเผชิญกับการแทรกแซงจากความคิดต่างๆนาๆและจะถูกตีความผิดได้อย่างง่ายดายว่าเป็นจิตนาการที่เกินจริง ในอดีต, ลิงค์ค่อนข้างจะเพิกเฉยกับคําเตือนพวกนี้ที่ได้รับจากจิตใจของเขา
ตอนนี้, ลิงค์ก็มีความรู้สึกกวนใจแบบเดียวกัน, แต่ว่ามันเบาบางกว่ามาก เขาไม่มีทางรู้เลยว่าสังหรณ์นี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่สมองของเขากําลังหลอกเขาอีกครั้ง หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน, เขาก็ตัดสินใจเดินทางปลอดภัย
ก่อนที่เขาจะพูดออกมา, เซลีน, ที่นั่งอยู่ข้างเขา, ก็กระซิบ “ลิงค์, นายควรให้กัปตันเปลี่ยนเส้นทางบินนะ ทางนี้มีบางอย่างผิดปก
เซลีนมีพรสวรรค์ด้านการทํานาย พอได้ยินคําแนะนํานี้จากเธอ ลิงค์ก็สั่งกัปตันโดยไม่ลังเล “เมอร์ลิน, เปลี่ยนไปใช้ทางอ้อม”
ดูเหมือนว่าเมอร์ลินจะรู้สึกกังวลกับคําสั่งนี้ “นายท่าน, ข้าเกรงว่านั่นจะเป็นไปไม่ได้นะครับ”
“ทําไมหล่ะ?”
เมอร์ลินอธิบาย “ระยะบินของเรือเหาะมีจํากัดอยู่ครับ คริสตัลเวทมนตร์พอให้บินได้ไกลที่สุดแค่ 2,800 ไมล์เท่านั้น เส้นทางตรงจากจุดออกบินของพวกเราถึงป้อมโอริด้าคือ 1,200 ไมล์, พวกเรามีพอบินไปกลับได้แค่รอบเดียว ถ้าพวกเราอ้อมตอนนี้, ข้า เกรงว่าพวกเราอาจจะไม่สามารถกลับไปที่เฟิร์ดได้ครับ”
ลิงค์คิดอยู่พักนึง, จากนั้นก็ได้ไอเดียขึ้นมา “ถ้างั้นเอาแบบนี้เป็นไง; ตอนนี้หยุดใช้ผนึกเวทมนตร์ก่อน, แล้วฉันจะใช้สนามพลังมิติเคลื่อนย้ายเรือเหาะเอง”
ทุกคนในห้องเครื่องพูดไม่ออกกับวิธีนี้ เรือเหาะหนึ่งลํามีน้ําหนักประมาณ 100 ตัน ต่อให้ลิงค์สามารถยกมันลอยในอากาศได้, แต่เขาจะต้องใช้พลังมากแค่ไหนกัน? แล้วเขาจะสามารถทนแบกไปได้นานเท่าไหร่?
แล้วมันยังมีเรื่องที่สําคัญอีกอย่างก็คือว่าพวกเขายังเหลือระยะทางอีกพันนิดๆไมล์ก่อนจะถึงเป้าหมาย
เมอร์ลินพูดอย่างไม่มั่นใจ “นายท่าน, เอาจริงหรอครับ?”
เขาไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิตกัปตันเรือเหาะของเขา
ลิงค์พยักหน้า “เอาจริง, ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า”
เมอลินรู้ถึงความแข็งแกร่งของลิงค์ดี, จากนั้นเขาก็สั่งลูกเรือคนที่เหลือ “ลดความเร็วเรือเหาะแล้วทําให้มันลอยอยู่กลางอากาศ”
ครืน, ครืน…ผนึกเวทมนตร์เริ่มหมุนย้อนกลับ หลังจากผ่านไปครึ่งนาที, เรือเหาะก็หยุดเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและตอนนี้ก็กําลังลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ
ลิงค์เริ่มตั้งจิต, แล้วเขาก็ดําดิ่งเข้าไปในสมาธิ พลังมังกรแผ่ออกมาจากร่างของเขาไหลเข้าไปในเรือเหาะและกระจายไปทั่วจุดต่างๆของเรือ ด้วยการผลักดันความตั้งใจอย่างเฉียบพลัน, ลิงค์ก็เปิดใช้เวทย์ที่เขาใช้เวลาสองวันในการสร้าง: เดินอากาศ
เดินอากาศ
เวทย์ระดับตํานานเลเวล 11
พลังมังกร: 100 แต้มต่อวินาที
น้ําหนักจํากัด: 500 ตัน
รายละเอียด: ใช้การเปลี่ยนทางมิติโค้งเพื่อสร้างแรงผลัก ไม่มีขีดจํากัดในเรื่องของทิศทางการผลัก และการเปลี่ยนทิศทางนั้นจะมีผลทันที
(หมายเหตุ: นี่คือเวทย์สนามพลังที่แข็งแกร่งมากๆ”
ในตอนที่เวทย์นี้ถูกร่าย, ทุกคนก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กๆในเรือเหาะ หลังจากนั้นสักพัก, มันก็กลับมาเสถียรอีกครั้ง แล้วลิงค์ก็พูดกับเมอร์ลิน “เอาหล่ะ, ค่อยๆปิดผนึกเวทมนตร์นะ”
สมาชิกลูกเรือมองกัปตันเมอร์ลินด้วยความไม่มั่นใจ เมอร์ลินเองก็กังวลกับเรื่องนี้ เพราะเขากลัวว่าเรือเหาะอาจจะตกได้ทุกเวลา หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่นึก, ในที่สุดเขาก็ส่งสัญญาณให้ลูกเรือทําตามคําสั่ง
พลังเวทย์ที่ใส่เข้าไปในเรือเหาะค่อยๆลดระดับลง ครึ่งนาทีต่อมา, แหล่งพลังเวทย์ทั้งหมดก็ถูกปิดอย่างสมบูรณ์ แต่ถึงจะปิดไปแล้ว, เรือเหาะก็ยังคงลอยอยู่บนฟ้าอย่างมั่นคง
ลิงค์เริ่มยกเรือเหาะ เขารู้สึกได้ว่าพลังมังกรของเขาถูกใช้ไปในอัตราประมาณ 41 แต้มต่อวินาที และเมื่อนํามาหักลบกับอัตราฟื้นฟูพลังมังกรในตอนนี้, เขาจะใช้พลังในอัตรา 37 แต้มต่อวินาที,
ตอนนี้พลังมังกรสูงสุดของเขาอยู่ที่ 13,900 แต้ม การผลักเรือเหาะไปข้างหน้าเป็นเวลา 40 นาทีด้วยพลังมังกรนั้น, ลิงค์สามารถชดเชยพลังเวทย์ที่เสียไปจากการเดินทางอ้อมได้
“เอาหล่ะ, นั่งดีๆนะ ฉันจะเร่งความเร็วแล้ว” ลิงค์พูด
ลิงค์เริ่มเปลี่ยนทิศทางของสนามพลังอย่างช้าๆในขณะที่เพิ่มพลังมังกรเข้าไปในเรือเหาะ เรือทั้งลําเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นจนมันพุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วที่สูงกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ํา
ฟื้ว, ฟื้ววว…ลมพัดผ่านห้องบังคับเรือในขณะที่พวกเขาเร่งความเร็วผ่านอากาศ เมอร์ลินมองเกณฑ์วัดความเร็วของเรือเหาะแล้วมันก็แสดงความเร็วออกมาที่ 1,060 ไมล์ต่อชั่วโมง พวกเขากําลังเดินทางด้วยความเร็วที่สูงกว่าตอนที่เรือเหาะใช้พลังจากคริสตัลเวทมนตร์ถึงสองเท่า
และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าเรือทั้งลําไม่โคลงเคลงเลยในขณะที่มันลอยผ่านอากาศ ถ้าไม่มีลมพัดเข้ามาและทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว, พวกเขาคงจะไม่รู้สึกเลยว่าเรือเหาะกําลังเคลื่อนที่อยู่
การเคลื่อนไหวของเรือเหาะนั้นมั่นคงกว่าตอนแรกด้วยซ้ํา
ลูกเรือยับบ้าที่อยู่ในเรือเหาะต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้
สีหน้าของนักรบมังกรทั้งสามคนนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และพวกเขาก็ทําความเคารพให้กับการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของดยุคของพวกเขา
ในด้านของกษัตริย์ลีออนเอง, ตอนแรกเขารู้สึกค่อนข้างกังวลกับการเดินทางขึ้นเหนือ อย่างไรก็ตาม, พอได้เห็นพลังของลิงค์, เขาก็ถอนหายใจออกมา ลิงค์น่าจะดูแลความปลอดภัยของเขาได้
นักรบคนที่เหลือเองก็มองลิงค์ด้วยความชื่นชมอย่างแรงกล้า
มีแค่เซลื่นเท่านั้นที่ไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องนี้ เธอรู้จักพลังของลิงค์ดี พอเห็นสีหน้าหวั่นเกรงและความตกใจของทุกคนที่อยู่บนเรือ, เธอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม, ลิงค์หลงลืมสภาพรอบตัวไปชั่วขณะนึง สมาธิของเขาทุ่มไปกับการเคลื่อนย้ายเรือเหาะอย่างเต็มที่ในขณะที่คอยสัมผัสการทํางานภายในเรือและทุกๆการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมที่อยู่ด้านนอก
ห้านาทีต่อมา, ตอนนี้เรือเหาะก็บินอยู่เหนือมหาสมุทรและเลียบไปตามแนวชายฝั่งเป็นเส้นตรง
หลังจากบินไปได้ประมาณ 500 ไมล์ในเวลาครึ่งชั่วโมง ลิงค์ก็เริ่มลดความเร็วลง ในตอนที่เขาลดความเร็วของเรือเหาะมาอยู่ที่ 500 ไมล์ต่อชั่วโมง, ลิงค์ก็พูดกับเมอร์ลิน “เอาหล่ะ, กลับมาใช้พลังเวทย์ต่อเลย ฉันจะปล่อยแล้ว”
ด้วยความที่รู้สึกมั่นใจในความสามารถของลิงค์มากขึ้น, เมอร์ลินจึงสั่งให้ลูกเรือของเขาปฏิบัติในทันที
ลูกเรือเริ่มใส่พลังเวทย์เข้าไปในเรือเหาะตามคําสั่ง และลิงค์ก็ค่อยๆลดพลังมังกรของเขาลงในขณะที่ปล่อยให้เรือเหาะกลับมาควบคุมตัวเอง
ห้านาทีต่อมา, ในที่สุดลิงค์ก็คืนการควบคุมเรือเหาะกลับไปให้ลูกเรือ ตลอดกระบวนการนี้, เรือเหาะไม่ได้โคลงเคลงเลยสักนิด
หลังจากนั้นลิงค์ก็มองเซลีน, ที่รู้ในทันทีว่าเขากําลังจะถามอะไร เธอพยักหน้า “ตอนนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วหล่ะ”
พอได้ยินแบบนี้, เขาก็ออกคําสั่งกับลูกเรือ “บินตรงไปที่โอริด้าเลย”
พวกเขาได้อ้อมมาตามที่ต้องการ ถ้ายังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก ลิงค์ก็คงทําได้แค่ยอมรับว่าโชคไม่ได้อยู่ข้างพวกเขามาตั้งแต่แรกแล้ว
หลังจากที่บินไปอีก 20 นาที, พลังมังกรของลิงค์ก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างเต็มที่, จากนั้นเมอร์ลินก็เข้ามารายงานเขาอย่างกระทันหัน “นายท่าน, มีบางอย่างอยู่ข้างหน้าครับ”
เขาส่งสัญญาณให้รองกัปตัน, จากนั้นรองกัปตันคนนั้นก็ไปแตะรูนบางจุด แล้วภาพเวทมนตร์ก็ปรากฏขึ้นที่กลางห้องเครื่อง, แสดงให้เห็นถึงนกอินทรีย์ยักษ์ตัวนึงที่กําลังบินถลาอยู่เบื้องหน้าพวกเขา บนหลังของนกอินทรีย์มีคนอยู่สิบคน หรืออาจจะมากกว่านั้น
จากภาพ, ลิงค์จําลักษณะร่างกายได้ว่าเป็นของอกาธา นากา จากทิศทางการบินของมัน, พวกเธอน่าจะมุ่งหน้าไปยังป้อมโอริด้า ซึ่งนี่ไม่ใช่ลางดีสําหรับพวกเขาเลย
ลิงค์ถามด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย “พวกมันอยู่ไกลแค่ไหน? แล้วสังเกตเห็นพวกเราไหม?”
“พวกมันอยู่ห่างจากเรา 50 ไมล์, น่าจะยังไม่สังเกตเห็นพวกเราครับ” เมอร์ลินตอบกลับ
พวกมันจากด้านหลัง!”
ในโลกเกมส์ก่อนหน้านี้ นอกจากนากานักบวชบางคนแล้ว, อกาธา นากาส่วนใหญ่จะบินไม่ได้ แค่ฆ่าอินทรีย์ยักษ์ทิ้ง, เขาก็สามารถส่งนาการ่วงลงไปตายจากความสูง 6,000 ฟุตได้แล้ว