Advent of the Archmage - ตอนที่ 473:โชคชะตาที่ไม่อาจต่อต้าน
Advent of the Archmage Chapter 473:โชคชะตาที่ไม่อาจต่อต้าน
ถ้าหลังน้ำตก
สคินอร์สอ่านเนื้อหาในจดหมาย
“มาสเตอร์ข้าไม่สามารถควบคุมปีศาจที่อยู่ภายในจิตใจของข้าได้อีกแล้ว ความต้องการที่จะฆ่าฟันกำลังกลืนกินวิญญาณของข้า ข้าถูกตัวตนที่น่ากลัวล่อลวง และเธอยังเป็นคนแพร่โรคที่แกลดสโตนด้วย อ้าก ข้าจะต้องควบคุมตัวเอง ไม่ ไม่ มันยากเกินไป ข้าไม่รู้ว่าข้าต้องทำยังไงบ้าง ข้าอยากจะฆ่าคนเดี๋ยวนี้เลย ข้าอยากจะฆ่าทุกคน ข้าต้องการพลัง อ้าก ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!”
ทั้งเนื้อหาในจดหมายและลายมือนั้นยุ่งเหยิงไปหมดและในบางครั้งก็จะมีการหยุดเป็นช่วงๆ ผู้อ่านสามารถรู้ถึงความคิดที่สับสนของผู้เขียนได้เลย สคินอร์สอ่านออกเสียงเบาๆ เนื้อหาในนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในถ้ำเงียบกริบ
ในตอนที่เขาอ่านจบในถ้ำก็ตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงแค่เสียงที่ดังมาจากนักบวชโมย่าเท่านั้น เธอกำลังรักษาบาดแผลของแอนนี่ สีหน้าของเธอยังคงนิ่งสงบ และการเคลื่อนไหวก็มั่นคง เธอไม่ได้รับผลกระทบจากมันเลยซักนิด
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆคาร์โนสก็พูดขึ้นมา “ข้าเห็นท่านแม่ทัพสังหารหมู่ประชาชนในเมืองการาซอนด้วยตาของข้าเอง มีประชาชนบริสุทธิ์มากมายถูกฆ่าเพียงเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ ในเมืองนั้นมีคนอยู่มากกว่า 30,000 คน มีไม่ถึง 800 คนที่รอดมาได้ ถ้าแกลดสโตนมีโรคระบาดแบบเดียวกันหล่ะก็ ข้าหล่ะกลัวจริงๆ”
เมืองแกลดสโตนนั้นมีประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า100,000 คน พวกทหารได้ไปที่นั่นแล้วในตอนที่เกิดโรคระบาดขึ้น ด้วยสภาพในตอนนี้ของแม่ทัพ มันจะต้องการการสังหารหมู่ที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์อย่างแน่นอน
“ข้าเกรงว่ามาสเตอร์ลิงค์น่าจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถหยุดดยุคอาเบลได้”มอริแกนพูด “พวกเราจะต้องนำจดหมายนี้ไปให้เขา”
“แล้วใครจะเป็นคนเอาไปให้หล่ะ?”สคินอร์สถาม
ในตอนที่เขาพูดจบทุกคนก็หันมามองเขา รวมทั้งนักบวชโมย่าด้วย
“ออร่าต่อสู้ของเจ้ามีเลเวล8” มอริแกนพูด “เจ้าซ่อนตัวเก่งที่สุดแถมยังว่องไวด้วย นอกจากนี้เจ้าก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เจ้านั่นแหละเหมาะสมที่สุดแล้ว”
“ข้าหรอ,ตัวคนเดียวเนี่ยนะ?” สคินอร์สรู้สึกไม่มั่นใจ นากาเคยหยุดสคินอร์สมาก่อน และพวกมันก็รู้ถึงการมีอยู่ของจดหมายด้วย
เขารู้ถึงความน่ากลัวของนากาดีถ้าเกิดว่าเขาเจอพวกมันระหว่างทาง เขาจะต้องกลายเป็นเศษเนื้ออย่างแน่นอน
ในตอนนั้นเองโมย่าก็ดึงเอาเศษไม้ออกจากหลังของแอนนี่จนหมด เธอหยิบเข็มเงินออกมาและทำการเย็บแผลของแอนนี่ ในขณะที่กำลังร้อยด้ายอย่างระมัดระวัง เธอก็พูดขึ้น “บาดแผลของเจ้าหญิงแอนนี่กับคาร์โนสสาหัสมาก มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยเฉพาะคาร์โนส ข้ารู้สึกได้เลยว่าพลังของเขาเปลี่ยนไป ในตอนที่เขารักษาตัวหายดีแล้ว เขาอาจจะเพิ่มเลเวลเป็นระดับตำนานเลยก็ได้ แต่ว่าเขาต้องการการพักผ่อน เขาไม่ควรใช้พลังมากเกินไปจนกว่าจะถึงเดือนหน้า”
มอริแกนยักไหล่“ข้าทำได้แค่ส่งกำลังใจให้เจ้านะ เพราะข้าต้องใช้เวทย์ในการซ่อนถ้ำแห่งนี้เอาไว้”
สคินอร์สทำสีหน้าและเกาหัว“ไม่น่าไปอ่านจดหมายนั่นเลย ดูเหมือนว่าข้าจะหาเรื่องใส่ตัวซะแล้วสิ”
ถ้าเขารู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้เขาน่าจะสนใจเรื่องของตัวเองมากกว่าไปช่วยเหลือพวกเขา
คาร์โนสมองอย่างขอโทษ“ให้ข้าไปกับเจ้าด้วยดีไหม?”
สคินอร์สถอนหายใจและส่ายหัว “ไม่ต้องหรอก เจ้าบาดเจ็บหนักเกินไป ถึงไปด้วยก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ”
เขาเก็บจดหมายและพูดกับทุกคนที่อยู่ในถ้ำ“ก็ได้ ถ้างั้นข้าจะเตรียมตัวออกเดินทางเลย ภารกิจนี้อันตรายมาก ถ้าเกิดว่าพวกเจ้ามีของช่วยชีวิตอะไรซักอย่าง ช่วยเอามาให้ข้าทีเถอะ”
โมย่าโยนขวดมาให้“นี่เป็นยารักษาระดับสูงที่ประสิทธิภาพดีมาก มันมีพลังเทียบเท่ากับเวทย์รักษาเลเวล7 ถ้ามีเรื่องจำเป็นก็ใช้ได้ตามสบายเลย”
มอริแกนโยนแหวนมาให้เขา“มันคือแหวนวิญญาณ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ข้าเอาตัวรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ เจ้าน่าจะรู้วิธีใช้อยู่แล้วนี่ ใช่มั้ย?”
“ข้ารู้ข้าอยากได้แหวนนี้มาตั้งนานแล้ว ขอบใจนะ”
คาร์โนสคิดอยู่ซักพักเขาไม่มีอะไรเลยและทำได้แค่ยักไหล่ “ขอโทษนะ”
สคินอร์สไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้เลยคาร์โนสนั้นเป็นนักรบโดยแท้จริงและรู้แค่วิธีต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา แถมเขาก็ไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีฐานะด้วย ของดีเพียงอย่างเดียวที่เขามีก็คือดาบที่ลิงค์เป็นคนสร้างให้
ถ้าเกิดว่าเขามีของสำหรับช่วยชีวิตล่ะก็เขาก็คงจะไม่ถูกนากาทำให้บาดเจ็บหนักขนาดนี้
“เอาหล่ะของพวกนี้กับหน้าไม้ขององค์หญิงแอนนี่ก็น่าจะพอแล้ว” สคินอร์สเก็บของทุกอย่างแล้วพูด “เวลามีไม่มาก ถ้างั้นข้าขอตัวหล่ะ โมย่า ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องร้องไห้เพื่อข้านะ แค่อธิษฐานก็พอแล้ว ข้าจะได้ขึ้นสวรรค์อย่างมีความสุข”
“เหอะ!”โมย่ากรอกตามองบนและกลับไปทำการรักษาต่อโดยไม่สนใจเขา
สคินอร์สหัวเราะเขาหันกลับไปทางน้ำตกและสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเขาก็พูดกับมอริแกน “ขอโล่กันน้ำให้ข้าหน่อยสิ”
มอริแกนร่ายบาเรียป้องกันเลเวล2 ให้ มีแสงอ่อนๆห่อหุ้มตัวสคินอร์สเอาไว้ และเขาก็เริ่มวิ่งออกไป ตอนที่ถึงปากถ้ำ เขาก็กระโดดออกไปด้วยท่าดิ่งพื้นฐาน เขาพุ่งทะลุออกไปจากน้ำตก มีเพียงแค่เสียงของเขาที่ดังกลับเข้ามาในถ้ำ “ทุกคน ฮีโร่สุดอัศจรรย์ได้ออกไปสู่เส้นทางแห่งตำนานอีกครั้งแล้ว”
ทุกคนที่อยู่ในถ้ำถึงกับพูดไม่ออก
ที่ด้านนอกสคินอร์สสไลด์ลงจากน้ำตกและมาถึงบ่อน้ำที่อยู่ข้างล่างอย่างรวดเร็ว เขาดิ้นรนอยู่พักนึงก่อนที่เขาจะหลุดจากกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ในตอนที่เขาปีนขึ้นมาถึงฝั่ง เวทย์ป้องกันของเขาก็จางลงแล้ว
ยังไงก็ตามหน้าที่ของมันได้หมดลงแล้ว สคินอร์สยังคงตัวแห้งดีอยู่ ออร่าต่อสู้ของเขาสั่นและทำลายบาเรียเวทมนตร์ จากนั้นออร่าต่อสู้สีเทาได้แผ่ออกมาและปกคลุมร่างกายของเขาเอาไว้
เขาหลบเข้าไปในป่าและหายตัวไป
หลังจากนั้นไม่นานนากาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ริมน้ำ เธอเดินวนไปวนมา หลังจากนั้นซักพัก เธอก็เดินไปทางที่สคินอร์สหายตัวไป
ยังไงก็ตามการที่จะไล่ตามใครซักคนให้สำเร็จนั้นมันขึ้นอยู่กับความฉลาดมากกว่าความเร็ว
ซึ่งนากาก็ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เธอก็ต้องหยุดลงเพราะพลัดหลงกับสคินอร์สไปแล้ว เธอเดินวนไปวนมา และดูกระวนกระวายมาก ไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็เดินไปอีกทิศทางหนึ่ง หลังจากผ่านไปหลายไมล์ ก็มีพื้นที่ว่างกว้างประมาณ 150 ฟุตปรากฎขึ้น ที่นั่นมีค่ายที่ถูกห้อมล้อมด้วยกำแพงไม้อยู่
มีปีศาจตัวใหญ่2 ตัวยืนคุ้มกันอยู่ที่หน้าทางเข้า ข้างในนั้นมีนากาอยู่ประมาณ 7-8 ตัวและดาร์กเอลฟ์อีกกว่า 20 คน
ดาร์กเอลฟ์เดินมาหานากา“เชิญครับ ลอร์ด”
นากาพยักหน้าและโยนหอกของเธอให้ดาร์กเอลฟ์เธอตรงไปที่กระท่อมไม้หลังคาทรงกลมที่อยู่ตรงกลางค่าย แล้วเคาะประตูเบาๆ “ผู้บัญชาการอยู่ไหมคะ?”
“เข้ามา”เสียงผู้หญิงอันนุ่มนวลดังขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นเองประตูก็เปิดออก
นากาเดินเข้าไปที่ข้างใน นากาผมดำกำลังบิดตัวไปมาด้วยท่าทางที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่บนพื้น เธอกำลังออกกำลังกายอยู่
นอกจากร่างกายจะยืดหยุ่นอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้แล้วนากาผมดำคนนี้ยังดูไม่ต่างไปกับมนุษย์ผู้หญิงเลย ร่างของเธอเล็กยิ่งกว่านากาทั่วไปเสียอีก ลักษณะพิเศษเพียงอย่างเดียวของเธอก็คือสัญลักษณ์หอกสีแดงเข้มที่อยู่ตรงหน้าผากซ้าย
พอเห็นลูกน้องเข้ามาเธอก็เอาขาลงมาจากหลังหัว เธอสังเกตสีหน้าของลูกน้องแล้วถามขึ้น “ทำไมเจ้าถึงทำพลาด? นี่เอลลี่ถูกฆ่าด้วยหรอ?”
นากาพยักหน้าและตบขาตัวเอง“พวกเรากำลังจะทำสำเร็จแล้ว แต่ว่ามีนักเวทย์มนุษย์เข้ามายุ่ง และช่วยพวกมันเอาไว้ ข้ามาเจอออร่าของเจ้าพวกนั้นอีกทีนึง แต่ว่ามันเจ้าเล่ห์มาก ข้าก็เลยพลัดหลงกับมัน”
“มันได้เอาจดหมายของแม่ทัพไปด้วยรึเปล่า?”นากาผมดำเอามือกุมขมับ ดูเหมือนว่าเธอจะปวดหัว แม่ทัพชาวมนุษย์นั้นกำลังจะได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการฆ่าแล้ว แต่ก็ดันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซะก่อน
หลังจากเงียบไปหลายนาทีเธอก็พูดขึ้น “ลิงค์ได้ทำลายแท่นบูชาของนายท่านไปแล้ว นั่นหมายความว่ามันกำลังจะขึ้นเหนือมาในเร็วๆนี้ ในเมื่อพวกเราไม่สามารถหยุดจดหมายได้ ก็มาหยุดลิงค์กันเถอะ”
“ยังไงหล่ะคะ?พวกเราไม่รู้เลยนะว่ามันจะมาที่นี่ด้วยวิธีไหน”
“เรื่องง่ายๆพวกยับบ้าอยู่ที่ดินแดนของลิงค์ ดังนั้นมันจะต้องมีเรือเหาะของพวกยับบ้าอยู่แน่ๆ ในเมื่อมันจะเดินทางขึ้นเหนือ มันก็น่าจะใช้เรือเหาะของพวกยับบ้า ด้วยวิธีนั้น มันจะสามารถตรงจากเฟิร์ดมาที่ป้อมโอริด้าได้เลย ถ้าเกิดว่าพวกเราตรงไปทางใต้ พวกเราก็จะต้องพบกับมันอย่างแน่นอน”
นากาตัวอื่นยังคงลังเลอยู่“ผู้บัญชาการคะ” เธอพูดเบาๆ “ลิงค์เป็นนักเวทย์ระดับตำนานที่เชี่ยวชาญเวทย์มิติ ข้าเกรงว่าพวกเราไม่อาจจะสู้กับมันไม่ไหว”
ก่อนหน้านี้เขาได้ทำลายแท่นบูชาไป3 อันและฆ่าสัตว์เลี้ยงไป 2 ตัว ความสามารถระดับเขานั้นเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก
นากาผมดำพูดเยาะเย้ย“ถึงมันจะแข็งแกร่ง แต่พวกเรามีคนมากกว่า และข้าก็ต้องการทดสอบพลังของมันด้วย! ข้าเชื่อว่าต่อให้ข้าฆ่ามันไม่ได้ ข้าก็สามารถทำให้มันพ่ายแพ้ได้ พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว รีบไปกันเถอะ!”
ในระหว่างที่เธอพูดเธอก็ลุกขึ้นและกำมือในอากาศ เกิดแสงกระพริบขึ้น และหอกที่มีลายสายฟ้าสีเงินก็ได้ปรากฏขึ้นที่มือของเธอ
มันไม่ได้เป็นแค่สายฟ้าหากสังเกตดูใกล้ๆ จะเห็นว่าในตอนที่ปลายหอกสัมผัสกับอากาศ มันจะสร้างระลอกคลื่นขึ้นมา และที่ตัวหอกสีเงินนั้นยังมีเส้นรูนอกาธาสีทองอีกด้วย
เมื่อแปลแล้วมันจะมีความหมายว่า“โชคชะตาที่ไม่อาจต่อต้าน”
พอเห็นหอกเล่มนี้พวกนักรบนากาต่างก็พากันตกตะลึง “หอกแห่งชัยชนะ! นี่นายท่านเป็นคนมอบให้ท่านหรอ?”
หอกแห่งชัยชนะนั้นเป็นอาวุธระดับตำนานขั้นสูงมันอยู่อันดับ 5 ของอาวุธระดับตำนานที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์ของอกาธา โดยปกติแล้ว เทพแห่งการทำลายจะให้มันเฉพาะกับอกาธา นากาที่แข็งแกร่งและเป็นที่รักมากที่สุดของเขา
นากาผมดำดูภาคภูมิใจมาก“ใช่ ท่านมอบมันให้ข้า ข้าเชื่อว่ามันจะนำชัยชนะมาสู่พวกเรา เหมือนกับในประวัติศาสตร์ยังไงหล่ะ!”
นักรบนากาได้คุกเข่าลงและถอนหายใจ“ครั้งนี้เจ้านักเวทย์มนุษย์นั่นจะต้องเจอปัญหาแน่ๆ!”