Advent of the Archmage - ตอนที่ 457: จะยกเกาะนี้ให้ไม่ได้!
Advent of the Archmage Chapter 457: จะยกเกาะนี้ให้ไม่ได้!
บันทึกของลูซี่ชัดเจนมาก รายรับรายจ่ายทั้งหมดถูกจัดเรียงให้ดูง่าย ลิงค์ไล่ดูอย่างรวดเร็วและเข้าใจสภาพทางการเงินของดินแดนได้ในทันที
เพราะเหมืองดิน, เฟิร์ดถึงมีรายรับที่สูงแต่ก็ยังใช้เงินไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน พวกเขาพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วและยังมีข้อพิพาทกับอาณาจักรเดลอนก้าทางตอนใต้อีก
รายจ่ายก้อนใหญ่อีกส่วนนึ่งก็คือป้อมโอริด้า ในระหว่างการต่อสู้สุดท้าย, มีแร่ธาตุหลายชนิดถูกส่งไปทางใต้, และเฟิร์ดก็มีส่วนรับผิดชอบถึง 60%
สภาพเช่นนี้จะให้เรียกว่ากระแสเงินออกก็คงไม่ได้; มันต้องเรียกว่าเงินไหลหลาก
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้, เฟิร์ดได้พัฒนาเหมืองดินอย่างกว้างขวางเพื่อพัฒนาทุกซอกทุกมุมของฟิรุแมน
จากบันทึก, ลิงค์เห็นว่าผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดก็คือมนุษย์สัตว์จากที่หญ้าสีทอง พวกเขานําเรือค้าขายโทรมๆออกเดินทางกว่าครึ่งโลกพวกเขาเดินทางหลายพันใหม่เพื่อการซื้อขายนี้โดยเฉพาะ
ดังนั้น, ภายในเวลาแค่หนึ่งปีครึ่ง, เหมืองดินจึงแทบจะว่างเปล่า
“ลอร์ดคะ” ลูซี่พูดอย่างจริงจัง “ด้วยความเร็วในตอนนี้, พวกเราคงใช้เหมืองได้อีกแค่สองเดือนเท่านั้นค่ะ ถ้าพวกเราไม่รีบหาแหล่งรายได้ใหม่จนกว่าจะถึงตอนนั้น, พวกเราจะต้องลดการพัฒนาลง ไม่อย่างนั้น, พวกเราจะล้มละลายได้”
“อ่า, นี่เป็นปัญหาจริงๆแหล่ะ” ลิงค์วางบันทึกลงและมองออกไปนอกหน้าต่าง นี่คือชั้นบนสุดของหอคอยเวทมนตร์ด้วยสายตาที่ยอดเยี่ยมของเขา, เขาจึงมองเห็นพื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่ที่นี่ไปจนถึงมหาสมุทร
“ก่อนที่ฉันจะออกไปครั้งล่าสุด, ฉันได้พูดถึงเรื่องเกาะแม่เหล็ก เอาไว้นี่เธอได้ส่งเรือไปสํารวจรึเปล่า?”
ลูซี่พยักหน้าแล้วเอาคําภีร์อีกแผ่นออกมา “นี่คือเรื่องที่สองที่ข้าอยากจะปรึกษาท่าน พวกเราเจอเกาะนั้นจริงๆ แต่สถานการณ์ไม่ดีเลยในตอนที่พวกเราไปถึงที่นั่น, พวกเราเห็นกองเรือของไฮเอล ฟอยู่ พวกเขากําลังทําเหมืองบนเกาะแห่งนั้น”
ลิงค์ตกใจกับเรื่องนี้แล้วสบถอยู่ในใจ ไอ้พวกไฮเอลฟ์นี่เป็นตัวปัญหาจริงๆ เขาอดตบหน้าผากไม่ได้ “เห้อ, ความผิดของฉันเองแหล่ะฉันควรจะบอกเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วนี่คําภีร์อะไร?”
“มันคือแผนที่เดินทะเลอย่างละเอียดที่ลูกเรือของเราวาดขึ้นมาค่ะลองดูสิคะ”
ลิงค์เปิดคําภีร์ดู มันคือแผนที่เดินทะเลจริงๆ ลักษณะของแนวชายฝั่งทะเลดูคุ้นมาก พอคิดอยู่สักพัก, เขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งนี้เหมือนกับแผนที่ในเกมส์จริงๆ มันละเอียดสมชื่อเลย
แผนที่นี้ได้บันทึกเกาะที่ถูกสํารวจบริเวณใกล้ๆเฟิร์ดเอาไว้ทั้งหมด รวมทั้งลมสินค้า, กระแสคลื่น และอื่นๆอีกมากมาย มันคือของมีค่ามากสําหรับกัปตันเรือ
นอกจากนี้ลิงค์ยังเห็นเกาะรุ่งอรุณ, ดินแดนเฟิร์ดและเกาะแม่เหล็กด้วยจากที่เขาประเมินเกาะแม่เหล็กนั้นอยู่ห่างจากเฟิร์ดประมาณ 310 ไมล์และห่างจากเกาะรุ่งอรุณ 300 ไมล์ เกาะนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสองดินแดนแต่ว่ามันอยู่ค่อนไปทางเกาะรุ่งอรุณเล็กน้อย
นี่มันน่ารําคาญมาก ถ้าเกิดว่าพวกเขาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังเกาะนี้ก็จะตกเป็นของไฮเอลฟ์ แต่ว่าเหมืองนั้นมีค่ามากเขาจะยอมแพ้ง่ายๆได้ยังไงกัน?
ลิงค์กางแผนที่ลงบนโต๊ะและเคาะมันอย่างเป็นจังหวะ ลูซี่กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว เธอเอามือวางไว้บนหน้าอกและรอการตัดสินใจจากลิงค์เธอนั้นเป็นผู้จัดการทั่วไปของเมืองมอดไหม้ แต่พออยู่ต่อหน้าลิงค์เธอก็ยังรู้สึกว่าเธอเป็นทหารรับจ้างหญิงอยู่ดี เจ้านายหนุ่มของเขานั้นกําลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากผ่านไป 2 นาที ลิงค์ก็ตัดสินใจได้ เขาพูดออกมา “เกาะนี้เป็นของพวกเรา”
ลูซี่หน้าซีดในทันที “พวกเราจะทําสงครามหรอคะ?”
เฟิร์ดได้ทําการพัฒนากองทัพเรือมาเป็นเวลากว่า 1 ปีและพวกเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง ตอนนี้พวกเขามีเรือรบเวทมนตร์ 7 ลําหลังจากที่มีพวกยับบ้ามาอยู่ด้วย ปืนใหญ่เวทมนตร์และปืนคาบศิลาทั้งหลายก็ถูกเพิ่มเข้าไปในเรือ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองเรือ
ตอนนี้ กองทัพเรือของเฟิร์ดนั้นเป็นที่น่าหวั่นเกรงในน่านน้ํา ยังไงก็ตาม พวกเขายังไม่ค่อยมีชื่อเสียง และพวกเขาก็ยังไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริง อย่าว่าแต่การฆ่ากันเลย ลอร์ดของดินแดนอื่นพากันเรียกพวกเขาว่ากลุ่มลูกเสือด้วยซ้ํา พวกเขาไม่ได้น่ากลัวไปมากกว่าโจรสลัดเลย
ถ้าเกิดว่าพวกเขาสามารถเอาชนะการต่อสู้เล็กๆกับพวกไฮเอลฟ์และกองกําลังที่แข็งแกร่งของพวกเขาได้ กองทัพเรือของเฟิร์ดก็จะได้รับชื่อเสียงตราบใดที่พวกเขาไม่ได้พ่ายแพ้อย่างราบคาบ
ลิงค์ส่ายหัวของเขา “ไม่หรอก พวกเราไม่สามารถประกาศสงครามอย่างง่ายๆได้”
“แล้วพวกเราจะชิงเกาะนั้นมาได้ยังไงกันคะ? พวกไฮเอลฟ์เริ่มทําการขุดเจาะไปแล้วนะ” ลูซี่พูด เหล็กนั้นมีค่ามาก และพวกเขาก็ไม่ได้โง่พวกเขาจะยอมให้ง่ายๆโดยที่ไม่ได้ต่อสู้กันได้ยังไง?
ลิงค์ส่ายหัวและยิ้มออกมา เขาลุกขึ้นเดินไปทางหน้าต่างและมองไปยังเมฆดําที่อยู่บนท้องฟ้า “มันผ่านไปอีก 1 ปีแล้วสินะ” เขาพูดอย่างอาลัย “ช่วงหน้าร้อนกลับมาอีกแล้ว”
ลูซีรู้สับสนแต่ก็ตอบกลับไปตามธรรมชาติ “ใช่ค่ะเวลาผ่านไปเร็วจริงๆ”
“ดูจากสภาพอากาศแล้ว ฉันคิดว่าอีกไม่นานจะมีพายุเข้าเอาคําสั่งของฉันไปให้กับนายพลและบอกให้เขาเตรียมกองเรือสําหรับเดินทางไปที่เกาะให้พร้อมตลอดเวลา”
ลูซี่ยังสับสนอยู่ “แต่ว่ามาสเตอร์เกรนซี่บอกว่าจะไม่มีพายุในช่วงนี้นะคะ”
มาสเตอร์เกรนซี่นั้นมีความรู้ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและเป็นนักพยากรณ์อากาศของเฟิร์ด เขาจะทําการแจ้ง เตือนเมื่อสภาพอากาศไม่ดีมันช่วยให้พวกเขาไม่เกิดความเสียหายขึ้นตอนนี้กัปตันหลายๆคนจะไปถามสภาพอากาศจากมาสเตอร์เกรนซี่ก่อนที่พวกเขาจะออกเรือ
ลิงค์หัวเราะ “มีสิ ครั้งนี้มาสเตอร์เกรนซีพยาการณ์ผิดแล้ว”
ลูซี่ไม่สามารถเถียงกับเขาได้ ลิงค์นั้นเป็นนักเวทย์ระดับตํานานในขณะที่เกรนซี่เป็นแค่นักเวทย์เลเวล7 มันมีความแตกต่างกันมหาศาลระหว่างพวกเขาถ้าเกิดว่าเขาบอกว่าเกรนซีผิดถ้างั้นเกรนี่ก็คงจะผิดจริงๆ
“ถ้างั้นดิฉันจะไปแจ้งให้นะคะ”
“โอเค ไปเถอะ อย่าลืมบอกพวกทหารเรือให้เตรียมพร้อมให้ดีนะพอพายุสงบลง พวกเราจะตรงไปที่เกาะนั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลูซี่ก็ปิ้งอะไรขึ้นมาได้ในใจ ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างออก แต่ว่าเธอไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน หลังจากที่ เงียบไปพักนึงเธอก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมา ดวงตาของเธอเป็นประกายแล้วเธอก็ถาม “นี่ท่านตั้งใจจะ ”
ลิงค์สบัดมือ “เธอเข้าใจก็ดีแล้วแต่อย่าพูดอะไรออกมาหล่ะจําไว้พวกเราไม่รู้อะไรเลย พวกเราก็แค่โชคดีและก็แน่นอนว่าพวกเราลงมือได้อย่างรวดเร็วด้วย!”
“รับทราบค่ะ!” ลูซี่เดินออกไป และมีสีหน้าพึงพอใจมาก
หลังจากที่ลูชื่ออกไป ลิงค์ก็กลับมาที่โต๊ะและทําการดูแผนที่ต่อหลังจากผ่านไปซักผัก เขาก็ตีหัวของตัวเองและถอนหายใจออกมาวัตถุดิบจากธรรมชาตินั้นต่างก็เป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไปถ้าเกิดว่าพวกเขาต้องการที่จะพัฒนาเมืองต่อเฟิร์ดก็จําเป็นต้องมีความพิเศษของตัวเอง
เขาเอนตัวพิงเก้าอี้ และใช้มือแห่งนักเวทย์โยกมัน ลิงค์มองไปที่ หน้าต่างอย่างจริงจังและจมสู่ห้วงความคิด
หลังจากที่เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เขาก็ลุกขึ้นและหยิบคัมภีร์เปล่าออกมาเขาเขียนมันว่า “การเสริมพลัง” ลงบนหน้าปกและเขียนว่า “ลิงค์โมรานี่” ด้วยตัวอักษรเล็กๆที่มุมขวาล่าง
เขาตัดสินใจที่จะพัฒนาห้องเสริมพลังของเฟิร์ดและจะขโมยธุรกิจของไฮเอลฟ์!
หลังจากที่เขียนชื่อเสร็จ ลิงค์ก็เบิดคัมภีร์ ตอนนี้จิตใจของเขาสงบลงทักษะการเสริมพลังของเขาเป็นที่รู้จักกันทั่วทวีปในเรื่องของความละเอียดและความสมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะเป็นนักเสริมพลังของเกาะรุ่งอรุณก็ยังเทียบกับเขาไม่ได้
ในแง่ทฤษฎีเวทมนตร์ ลิงค์นั้นมีความรู้ด้านการเสริมพลังด้วยเครื่องราง, การเสริมพลังแบบสมัยใหม่ของไฮเอลฟ์ การเสริมพลังของมังกรและอื่นๆอีกมากมาย เขานั้นมีความเชี่ยวชาญอย่างกว้างขวางและทฤษฎีพวกนี้ก็บ่มเพาะอยู่ในตัวเขา หลังจากที่กลาย เป็นนักเวทย์ระดับตํานานระบบการเสริมพลังเองก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน
หลังจากที่รใช้ความคิดอยู่พักนึง ลิงค์ก็เริ่มเขียน
เขาไม่ได้เขียนคํานําเพราะว่านี่เป็นหนังสือเล่มแรกของเขา เขาต้องการให้อาจารย์คนแรกของเขาเอร์เรร่าเขียนให้เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเธอ
ตอนนี้ การเสริมพลังได้เติบโตอยู่ภายในใจของเขา เขาขยับปากกาและความคิดของเขาก็ไหลออกมาเหมือนกับสายน้ํา
โครงร่างของมันเสร็จภายในเวลา 1 ชั่วโมง ลิงค์ย้อนกลับไปตรวจดูอีกครั้งหลังจากที่ตรวจไป 2 รอบ มันก็สําเร็จด้วยจํานวนคําทั้งหมด 36,873 คําทุกๆคํานั้นต่างก็มีความสําคัญ-มันไม่สามารถน้อยหรือมากไปกว่านี้ได้
หลังจากนั้น ลิงค์ก็เริ่มเขียนหนังสือเล่มที่ 2 มันมีชื่อว่าการเสริมพลังขั้นพื้นฐาน หนังสือเล่มนี้มีชื่อที่เรียบง่ายแต่ว่าเนื้อหาของมันก็เข้าใจยากลิงค์ทําจิตใจให้สงบและค่อยๆเขียนที่ละนิดเขาพยายามที่จะเขียนออกมาให้ชัดเจนเพื่อที่จะทําให้คนอ่านเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเวลาผ่านไป ในตอนที่ลิงค์ทําแบบร่างอันแรกเสร็จมันก็เป็นเวลากลางคืนแล้วหูของเขากระตุก และเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้า อันคุ้นเคย
มีคนมาทั้งหมด 3 คน: เซลื่น แจ็คเกอร์ แล้วก็ลูซี่ ใช่พวกเขาพร้อมแล้ว
เมื่อฟังจากเสียง ลิงค์รู้ว่าพวกเขาทั้งสามนั้นอยู่ที่ประตูเขาใช้ความคิดของเขาและเขาก็เปิดประตู
เซลืนถือปืนเพลิงยักษ์อยู่ เธอเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มพอเห็นลิงค์เธอก็เร่งฝีเท้าเข้ามาและจูบที่ริมฝีปากของเขาต่อหน้าลูซี่กับแจ็คเกอร์ทั้งสองคนรู้สึกอึดอัด
หลังจากผ่านไปซักพัก ในที่สุดเซลืนก็ปล่อยเขาและบ่น“กลับมาแล้วก็ไม่ยอมบอกกันเลยนะฉันคิดถึงนายมากเลยรู้ไหม”
“โถ่ว ฉันออกไปแค่ประมาณ 1 เดือนเองนะ”ลิงค์ลูบหลังของเซลีนและหัวเราะ“นั่งลงสิ ลูซี่แจ๊กเกอร์พวกนายก็ด้วย”
ในตอนที่ทุกคนนั่งลง แจ็คเกอร์ก็พูดขึ้น “ท่านลอร์ด ทุกอย่างพร้อมแล้วพวกเราจะเริ่มกันเมื่อไหร่ดีครับ?”
หลังจากที่รู้ว่าเกาะแม่เหล็กอันทรงคุณค่าถูกพวกไฮเอลฟ์ยึดไปทั้งๆที่ลิงค์เป็นคนค้นพบมัน แจ็คเกอร์ก็แทบจะระเบิดความโกรธออกมาเขาต้องการที่จะไปสู้กับพวกไฮเอลฟ์ซะเดี๋ยวนั้นเลย
ตอนนี้เขาเป็นนักรบเลเวล 7 แล้ว และเฟิร์ดก็ร่ํารวยเขาไม่มีความกลัวอยู่เลย!ยังไงก็ตามตอนนั้นลิงค์ไม่อยู่และพวกไฮเอลฟ์ก็
ยังครงเป็นศัตรที่แข็งแกร่ง เขาทําได้แค่ควบคบตัวเองเอาไว้
แต่ตอนนี้พอลิงค์บอกว่าจะไปยึดเกาะแห่งนั้น แจ็คเกอร์ก็ตื่นเต้นมากเขาไม่สามารถทนพวกไฮเอลฟ์แสนเย่อหยิ่งได้
ลิงค์เก็บหนังสือที่ยังเขียนไม่เสร็จและยิ้มออกมา “ฉันคิดว่าตอนนี้ได้เวลาแล้วหล่ะ มาเริ่มกันเลย”
ที่ด้านข้างของเขา เซลีนพูดขึ้นมา “ฉันจะไปด้วย ฉันไม่ยอมถูกกันจากภารกิจนี้หรอกนะ”
“โอเคๆ เธอไปด้วยก็ได้ เราไม่ทิ้งเธอหรอก”
ลิงค์ทํารูนสื่อสารขึ้นมา 4 อัน เขาส่งมันให้แจ็คเกอร์กับเซลื่นคนละอันและเก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งอัน ส่วนอันสุดท้ายนั้นเป็นของนายพลเรือที่จะอยู่ที่ท่าเรือ
“ไปเตรียมตัวกันได้แล้ว ลูซี่ พวกไฮเอลฟ์ที่อยู่ที่เฟิร์ดอาจจะมาหาเธอเพื่อทําการประท้วงเธอต้องเตรียมตัวเอาไว้ด้วยนะ”
“ไม่มีปัญหา ดิฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” ลูซี่ตอบ
“โอเค พวกเราจะลงมือกันเดี๋ยวนี้ ฉันจะออกไปก่อนรอสัญญาณจากฉันนะ”
จากนั้นลิงค์ก็ลุกขึ้น มีแสงสีขาวเกิดขึ้นและจากนั้นเขาก็ไปอยู่บนดาดฟ้าเขาผิวปากเบาๆ 1 นาทีต่อมามังกรที่ล่องหนอยู่ก็ร่อนลงมาจากบนฟ้าเธอคือเฟลิน่า
“ท่านดยุค มีอะไรให้ข้ารับใช้คะ?”
“พาฉันไปที่ทะเล” ลิงค์กระโดดขึ้นหลังของเฟลิน่าและร่ายเวทย์หายตัวใส่ตัวเองในทันทีเพื่อไม่ให้คนอื่นตกใจกลัว
พรึ่บ! เฟลิน่ากางปีกของเธอออกและบินไปทางทะเล