Advent of the Archmage - ตอนที่ 456: ดยุคเหล็กดูผิดปกติไป
Advent of the Archmage Chapter 456: ดยุคเหล็กดูผิดปกติไป
สคินอร์สแต่งตัวได้แนบเนียนมากจนคนอื่นแทบจำไม่ได้ว่าเป็นเขา ลิงค์ดูออกว่าเขามีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย
ลิงค์ดีดนิ้วเรียกสคินอร์สเบาๆแล้วส่งลำแสงเล็กๆลอยไปทางเขา
เวทย์ไร้ร่องรอย
สคินอร์สหายตัวไปจากตรงนั้นในทันที
ลิงค์ส่งสัญญาณให้เขาเข้าไปที่หอคอยเวทมนตร์พร้อมกับเขาเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของแสงในตอนที่สคินอร์สเดินตามหลังเขา
จำนวนนักเรียนที่อยู่ในหอคอยเวทมนตร์ชั้น1 นั้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80 คน ในทันทีที่เขาเดินมาถึงประตู พวกนักเรียนก็สังเกตเห็นเขาในทันที และทุกคนก็รีบยืนขึ้นทำความเคารพอย่างลุกลี้ลุกลน
ก่อนหน้านี้ลิงค์ไม่ชินกับการถูกเป็นที่เคารพ; แต่ตอนนี้ เขาไม่ค่อยสนใจมันมากนัก เขาทักทายนักเรียนหนุ่มสาวด้วยการโบกมือให้ก่อนที่จะเดินขึ้นไปชั้นบนของหอคอยเวทมนตร์
และในตอนที่พวกเขามาถึงห้องใต้หลังคาที่อยู่ชั้นบนสุดของหอคอยลิงค์ก็ดีดนิ้วของเขาและยกเลิกเวทย์หายตัวของสคินอร์ส
ห้องใต้หลังคานั้นเต็มไปด้วยของใช้ประจำวันเขาพิงไปที่อะไรบางอย่างที่เต็มไปด้วยขน และลิงค์ก็รอให้สคินอร์สเข้ามาในห้อง จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์กำแพงเสียงใส่กำแพง
“โอเคนายพูดได้แล้ว”
สคินอร์สส่งคริสตัลความทรงจำให้กับลิงค์“ลอร์ดลิงค์ ท่านควรจะดูสิ่งนี้นะ”
ลิงค์รับคริสตัลจากเขาพอเปิดใช้มัน ภาพอันเรือนรางก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ภาพนั้นถูกถ่ายจากมุมต่ำ ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าผู้ถ่ายมีความระมัดระวังอย่างมากในการใช้คริสตัลความทรงจำในขณะที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน
ภาพนั้นแสดงให้เห็นถึงด้านหลังของกลุ่มทหารจากนั้นก็มีเสียงพูดดังขึ้น “นักเวทย์คนนี้ได้ทำการฝึกเวทมนตร์แห่งความมืด ในตอนที่เขาถูกจับได้ ไม่เพียงแค่เขาจะไม่ยอมเผยแพร่เรื่องเวทมนตร์ของเขาสู่สาธารณะ แต่เขายังทำร้ายผู้สอบสวนด้วย มีนักรบได้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เขาจะต้องเป็นสมุนของกองกำลังแห่งความมืดแน่ๆ!”
ในตอนที่เขาพูดจบก็มีเสียงดังมากๆเกิดขึ้น แต่ว่าในภาพนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นว่าต้นเสียงมาจากไหน แต่ลิงค์ก็คุ้นชินกับมันมากจนถึงขนาดที่เขารู้ว่ามันคือเสียงศรีษะของใครบางคนหลุดออกจากบ่า
“นั่นมันเสียงดยุคอาเบลใช่ไหม?”
”ใช่ครับ”
ภายในภาพพอการตัดศรีษะจบลง ทหารที่อยู่รอบๆก็เริ่มแยกย้ายออกไปตามที่ต่างๆ นักเวทย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนนั้นได้ถ่ายรูปลานประหารเอาไว้เสี้ยวนึงก่อนที่เขาจะเก็บคริสตัลความทรงจำ
ตรงจุดนี้ลิงค์ได้กดหยุดภาพ
บนลานประหารมีศพไร้หัวอยู่ทั้งหมด4 ศพ ซึ่งนี่หมายความว่ามีสามคนถูกประหารไปก่อนที่จะถึงคิวของนักเวทย์ ดยุคอาเบลกับนายพลคนอื่นๆนั่งอยู่บนม้านั่งสูงที่อยู่ห่างออกไป สีหน้าของพวกเขาดูเคร่งเครียด
พอดูภาพพวกนี้จบลิงค์ก็ปิดคริสตัลความทรงจำและพูดกับสคินอร์ส “ก็แค่กองทัพกุดหัวพวกคนบาปและพวกคนที่ไม่เชื่อฟัง ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมมันสำคัญจนถึงกับต้องเอามาให้ฉันดู”
เสียงจากคริสตัลได้บอกถึงเหตุผลของการประหารอย่างชัดเจน:การฝึกเวทมนตร์แห่งความมืดและการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่นั้นผิดกฎหมายหลังจากที่ป้อมโอริด้าปะทะกับกองทัพแห่งความมืด พวกเขาก็มีความตื่นตัวต่อเวทมนตร์แห่งความมืดมากขึ้น สิ่งที่นักเวทย์คนนั้นทำมันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย
สคินอร์สพยักหน้า“ถ้าอิงจากสิ่งที่ท่านเห็นในภาพอย่างเดียว มันก็คงจะดูปกติแหล่ะครับ แต่ข้าสัมผัสได้ว่าช่วงหลังมานี้ท่านดยุคดูเกรี้ยวกราดมากขึ้น”
“นายหมายความว่ายังไง?”ลิงค์รู้ว่าสคินอร์สไม่ได้มาหาเขาเพียงเพราะลางสังหรณ์อย่างเดียวแน่ๆ; เขาจะต้องเอาหลักฐานมาด้วยอย่างแน่นอน
สคินอร์สมองไปนอกหน้าต่างหลังจากการปะทะทางเหนือ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูเหี่ยวลงไปมาก และมีกระจุกผมหงอกอยู่ที่ขมับของเขา เขาขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หลังจากที่ท่านจากไปได้ไม่นาน ดยุคก็เริ่มปรับปรุงกองทัพด้วยการตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวนนักรบทุกคน รวมไปถึงที่มาของพวกเขาด้วย สำหรับนักเวทย์ พวกเขาจะต้องทำการเปิดเผยสิ่งที่ค้นพบในงานวิจัยของพวกเขาสู่สาธารณะ มันดูไม่ค่อยมีอะไรมากในตอนแรก แต่หลังจากที่ทำไปได้ 1 เดือน พวกเขาก็เริ่มลงมือสืบสวนหนักข้อขึ้น จนไปถึงจุดที่พวกเขาไม่อาจถอยกลับได้แล้ว”
สคินอร์สหันมามองลิงค์“ข้าเคยเห็นเจ้าหน้าที่คนนึงถูกแขวนคอเพียงเพราะว่าเขามีเขี้ยวปีศาจอยู่ในครอบครอง และยังมีแม้กระทั่งนักรบที่สลักไม้เป็นรูปซัคคิวบัสขึ้นมาเพียงเพราะนึกสนุกและเขาก็ถูกกุดหัวเพราะเหตุนั้น นักเวทย์คนที่ถูกประหารในภาพนั่น ไอ้ ‘เวทมนตร์ดำ’ ที่เขาฝึกอยู่ก็คือเวทย์เลเวล 4 ดวงตาแห่งวิญญาณ มันเป็นเวทย์ตรวจจับที่ไม่มีพิษภัย และเหตุผลที่เขาทำร้ายเจ้าหน้าที่ก็เพราะว่าเจ้าหน้าที่ได้ฉีกงานวิจัยของเขาต่อหน้าต่อตา ช่วงหลังๆมานี้มันดูเหมือนกับว่าท่านดยุคจะทำมากเกินไปเลย ในตอนนี้จะบอกว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วก็ยังได้”
ลิงค์ขมวดคิ้วเรื่องนี้มันดูเกินไปจริงๆนั่นแหล่ะ เขาถาม “มีใครลองบอกเรื่องนี้กับเขารึยัง?”
“อาจารย์ใหญ่ของสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟได้เข้าไปคุยกับเขาแล้วแต่พวกเขาก็ยังไม่ลงรอยกัน ดยุคยอมสงบอยู่ได้ไม่กี่วัน และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาทำการสอบสวนอีกครั้ง”
“นี่ราชาลีออนรู้เรื่องรึเปล่า?”ลิงค์ถาม
“ครับพระองค์รู้เรื่องแล้ว องค์ราชาได้ทรงเขียนจดหมายไปหาเขาหลายฉบับ แต่ว่าก็อย่างที่ท่านรู้ หลังจากที่เมืองฮอทสปริงค์พังทลายไป อำนาจของราชาก็ได้ตกต่ำจนถึงขีดสุด ดูเหมือนว่าดยุคจะไม่สนใจพระองค์ซักเท่าไหร่” สคินอร์สตอบ
ในที่สุดลิงค์ก็ถามออกมา“นอกจากเรื่องนี้แล้ว ช่วงนี้การเพิ่มการป้องกันของดยุคอาเบลเป็นยังไงบ้าง?”
“ด้วยความที่เขาเกรี้ยวกราดขึ้นกว่าแต่ก่อนเขาจึงจัดการเรื่องนี้ได้ดีขึ้นมาก ในป่าทมิฬทุกๆวันจะมีปีศาจกว่า 30 ตัวถูกสังหาร ในระยะแรก พวกเราฆ่าดาร์กเอลฟ์ไปได้มากว่า 100 คนแทบทุกวัน และตอนนี้ พวกเราก็หาดาร์กเอลฟ์ในระยะ 200 ไมล์รอบๆป้อมโอริด้าไม่เจอแม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ยังมีครั้งนึงด้วยที่คานอร์สได้จัดการปราบปีศาจเลเวล 8 ดยุคตบรางวัลให้เขาอย่างงามและเขาก็ได้กลายเป็นหัวหน้าของกองกำลังที่1”
เรื่องนี้เป็นความจริงทั้งหมดสคินอร์สได้รายงานทุกสิ่งที่เขาเห็นให้กับลิงค์โดยที่ไม่ปิดบังอะไรเลย
“อย่างนี้นี่เอง”ลิงค์ตกลงสู่ความเงียบ
สำหรับคนธรรมดาอย่างสคินอร์สสิ่งที่ดยุคอาเบลทำนั้นอาจจะดูโหดร้ายและดูรุนแรงเกินไป แต่ในสายตาของลิงค์ ดยุคได้ทำตามหน้าที่ของเขาอย่างพอดิบพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป
หน้าที่แรกของดยุคอาเบลกก็คือการปกป้องป้อมปราการจากพวกปีศาจและดาร์กเอลฟ์จากป่าทมิฬเขาไม่ควรถูกกล่าวหาเพราะเขาทำได้ดีมากถึงขนาดนี้
และที่สำคัญกว่านั้นลิงค์เป็นแค่ลอร์ดของเฟิร์ด เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา
การเขียนจดหมายขอเข้าพบดยุคเป็นการส่วนตัวมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเขาณ จุดนี้ ในเมื่อราชาลีออนกับมาสเตอร์แอนโทนี่ได้พูดเรื่องพวกนี้ไปแล้ว และมันก็ไม่ได้ผล ดังนั้นหากเขาทำไปมากกว่านี้อาจจะทำให้ดยุคโกรธขึ้นมาได้ และบางทีมันอาจจะลามมาถึงเขาได้ด้วยซ้ำ
ยังไงก็ตามนี่เป็นเรื่องที่เขาไม่อาจมองข้ามได้ ดยุคอาเบลได้รับความบอบช้ำจากสงครามครั้งใหญ่ และในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ สภาพจิตใจของเขาก็คงจะไม่ดีซักเท่าไหร่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
หลังจากที่คิดอยู่พักนึงลิงค์ก็ตัดสินใจว่าทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการรอดูไปก่อน
เขาหยิบเศษทอเรียมและหินคุนดำออกมาและเริ่มร่ายเวทย์เสริมพลังให้พวกมันประมาณ 10 นาทีต่อมา เขาก็สร้างหินรูนที่เกิดจากการผสมของวัตถุดิบทั้งสองได้ จากนั้นเขาก็ใส่พลังมังกรเข้าไป และลิงค์ก็ส่งหินรูนให้กับสคินอร์ส “ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะเข้าไปแทรกแซงได้สักเท่าไหร่ เอาหินรูนนี่กลับไปทางเหนือและทำการสังเกตการณ์ต่อนะ ถ้ามีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้ให้รายงานมาที่ชั้น และถ้าเกิดว่านายคิดว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย ก็ให้ใช้หินรูนอันนี้เพื่อร่ายเวทย์เทเลพอร์ท 2,000 ฟุตแบบใช้ครั้งเดียวซะ”
สคินอร์สรับหินรูนไปและอ้าปากขึ้นมาเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างก่อนที่จะปิดปากเงียบ
“มีอะไรอีกหรอ?”
สคินอร์สถอนหายใจออกมา“จริงๆแล้ว ข้าไม่ได้มีแผนที่จะกลับไปในครั้งนี้ ตอนนี้อุปกรณ์ระดับพระเจ้าหายไปแล้ว และพวกดาร์กเอลฟ์ก็พ่ายแพ้ไปแล้วด้วย ข้าไม่มีความคิดที่จะเป็นทหารอีกต่อไป มันกดดันมากเกินไป ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อส่งข้อความให้กับท่าน จากนั้นข้าก็จะออกไปทำการผจญภัยทั่วทวีปต่อ”
ลิงค์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี“งั้นนายก็เป็นทหารหนีทัพสินะ?”
แน่นอนว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์เขาเลือกที่จะบอกข้อมูลอันแสนสำคัญนี้และตั้งใจจะหนีไปหลังจากที่เขาได้รับหินรูนจากลิงค์!
สคินอร์สเริ่มกลัว“ท่านคงจะไม่บังคับให้ข้ากลับไปที่ป้อมปราการใช่มั้ย?”
การถูกประหารคือชะตากรรมที่รอทหารหนีทัพทุกคนอยู่
ลิงค์ส่ายหัว“ไม่หรอก ในเมื่อนายไม่คิดจะกลับไป ฉันก็แค่ต้องส่งคนอื่นไปทำหน้าที่สังเกตุการณ์ทางเหนือแทนนายเท่านั้นเอง…ก็นายบอกว่าจะออกไปผจญภัยใช่มั้ยหล่ะ?”
“ครับนั่นเป็นสิ่งที่ข้าใฝ่ฝันมาโดยตลอด” ในตอนที่เขาพูดเรื่องนี้ สีหน้าของเขาก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
ลิงค์ค่อนข้างตกใจกับเรื่องนี้เขาถามต่อ “อ้อ ฉันจำได้ว่าในตอนแรกที่นายมาเจอฉัน นายบอกว่ามีแผนการจะไปหลุมศพของราชาคนแคระองค์ก่อนใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นกับพรรคพวกของนายหล่ะ?”
“ความจริงคือพวกเขาได้พบจุดจบที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ นักบวชหญิงยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ว่าคนอื่นตายไปในการต่อสู้หมดแล้ว เธอจะลงไปทางใต้กับข้า ท่านยังอยากจะไปกับพวกเราอยู่มั้ย?”
ตอนนี้ลิงค์เป็นนักเวทย์ระดับตำนานทำไมเขาถึงต้องลดตัวไปปล้นสุสานกับเขาด้วยหล่ะ?
ลิงค์ส่ายหัวและยิ้มให้“ไม่หล่ะ ฉันไปไม่ได้ ฉันยุ่งอยู่กับเรื่องของเฟิร์ดหน่ะ แต่ถ้าเกิดว่านายจะไป ฉันมีอะไรบางอย่างที่อยากจะให้นายหาให้ฉันสักหน่อย และนายจะได้รับการตอบแทนอย่างดีสำหรับค่าเหนื่อยของนายด้วยนะ”
ดวงตาของสคินอร์สเป็นประกายขึ้นมาในทันที“ข้าไม่ต้องการเงิน ข้าขอแลกเปลี่ยนกับอุปกรณ์เวทมนตร์เพียงเท่านั้น! จะให้ข้าขโมยกางเกงในของราชินีมังกรแดงก็ยังได้เลยนะถ้าเกิดว่าท่านสามารถมอบอุปกรณ์เวทมนตร์ให้กับข้าเป็นการแลกเปลี่ยนได้!”
“…”ลิงค์ทำหน้างงให้กับสิ่งนี้ เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ทำไมเขาต้องอยากได้กางเกงในของราชินีมังกรแดงด้วยหล่ะ? ชายคนนี้เปลี่ยนไปเยอะเลยหลังจากที่เขาประกาศบอกว่าจะออกจากกองทัพ
ลิงค์หยิบเศษโจกุออกมาแล้วส่งให้กับเขา“ฉันอยากได้หินที่เหมือนกับก้อนนี้ ระหว่างการเดินทางก็หามาให้ได้เยอะๆหล่ะ แล้วก็ ในระหว่างที่ตามหาหินพวกนี้นายอาจจะไปเจอเข้ากับสมาชิกของเผ่ามังกร ถ้าเจอก็ให้แสดงสิ่งนี้ให้พวกเขาดูนะ แล้วพวกเขาจะให้นายเอาหินไปได้”
จากนั้นลิงค์ก็ให้ชิ้นส่วนเกล็ดมังกรสีดำกับสคินอร์สซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนของเขาในเผ่ามังกร
“ข้าเข้าใจแล้ว”สคินอร์สลองเล่นกับมันดูเล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่ามันทำมาจากอะไร
“สำหรับรางวัลของนายถ้าเกิดว่านายสามารถเอาโจกุมาให้ฉันได้ 100 ชิ้น ฉันจะสร้างอุปกรณ์ระดับตำนานให้ชิ้นนึงตามที่นายต้องการเลย”
สคินอร์สพยักหน้าอย่างรุนแรงก่อนที่ลิงค์จะพูดจบซะอีก“เป็นมีดระดับตำนานจะได้ไหมครับ? เอาหล่ะ ไม่ว่ายังไงข้าก็จะทำให้ได้ เอ่อ แล้วสำหรับเพื่อนนักบวชสาวของข้าล่ะ?”
“เธอเองก็จะได้รับรางวัลเหมือนกันนายก็แค่พาเธอมาที่นี่ แล้วเธอเองก็จะได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์จากฉันเหมือนกัน”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยครับข้าจะพกเกล็ดนี้ติดตัวไปด้วยและจะนำโจกุกลับมา 100 ชิ้นก่อนที่ท่านจะรู้ตัวเสียอีก”
“เอามาให้มากเท่าที่จะหาได้เลยนะจำเอาไว้ โจกุ 100 ชิ้นต่ออุปกรณ์เวทมนตร์ 1 ชิ้น”
สคินอร์สถอนหายใจออกมายาวๆ“หึหึ ท่านนี่รู้วิธีทำให้คนตั้งใจทำงานหนักจริงๆนะ”
หลังจากที่ตกลงกันเสร็จสคินอร์สก็รู้สึกตัวว่าเขาไม่มีเงินอยู่เลย และเขาก็เป็นโจรที่จะไม่ขโมยเงินด้วย ดังนั้นเขาจึงยอมกล้ำกลืนความอับอายและขอเงินจากลิงค์ก่อนที่จะออกไปจากห้องด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ลิงค์กลับมาที่ห้องและพักผ่อนเล็กน้อยมันเป็นเวลาไม่นานนักก่อนที่ลูซี่จะเข้ามาในห้องของเขา
“ลอร์ดคะเหมืองดินต้านทานเวทมนตร์ของเราถูกขุดจนหมดแล้วค่ะ และทางกองกลางก็แทบจะไม่มีเงินเหลือเลย” ลูซี่กางสมุดบัญชีให้ลิงค์ดูซึ่งทุกอย่างในนั้นเป็นสีแดงไปหมด พวกเขาขาดดุลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว