Advent of the Archmage - ตอนที่ 409: สมบัติของเทพ
Advent of the Archmage Chapter 409: สมบัติของเทพ
ลิงค์เดินกลับมาทางเดิม
ก่อนที่เขาจะไปถึงทางออก เขาเห็นใครบางคนกระโดดลงมา เธอคือนากาที่โดนระเบิดไปก่อนหน้านี้ เธอมองไปที่ร่างของพรรคพวกของเธอ และส่งเสียงหวีดแหลมออกมา ปากของเธอเปิดกว้าง มันแทบจะฉีกไปถึงมุมปากและกลายเป็นรูที่เต็มไปด้วยเลือด
“อ้า!!” เสียงของเธอแหลมมากๆ เหมือนกับการเอามีดไปขูดกับแก้ว มันทําให้ผู้ฟังต้องรู้สึกทรมาณกับเสียงที่ได้ยิน
“โอ้ยย!” เอลินร้องออกมาและเอามือปิดหูของเธอ ทั่วทั้งร่างของเธอสั่น; เธอสูญเสียความสามารถในการร่ายเวทย์ไปอย่างสมบูรณ์
กรีดร้องเกรี้ยวกราด
สกิลต่อสู้ของอกาธาร์ นากา
ผล: รบกวนการร่ายเวทย์ของนักเวทย์ด้วยเสียงร้องแสบแก้วหู โอกาสสําเร็จนั้นสูงมากๆ
(หมายเหตุ: เป็น 1 ใน 3 เสียงที่ดังที่สุดในฟิรุแมน)
ลิงค์เองก็เจ็บปวดจากเสียงร้องของนากา เขาบิดตัวไปมา แต่ก็ต้องขอบคุณที่, เขายังไม่จําเป็นต้องร่ายเวทย์ในตอนนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ของเขาซักเท่าไหร่ เขาพุ่งตรงไปแทงนากาที่กําลังส่งเสียงร้องอยู่
แทนที่เธอจะป้องกัน เธอกลับแทงไปที่หน้าอกของลิงค์ เธอต้องการลากเขาไปตายด้วยกัน ถ้าเกิดว่ามีนากา 2 คนพยายามทําวิธีการนี้ มันคงจะสร้างปัญหาให้ลิงค์ได้จริงๆ ยังไงก็ตาม อุโมงค์นี้แคบมาก เธอจึงทําได้แค่เผชิญหน้ากับลิงค์ตัวต่อตัว
ด้วยการหลบอย่างรวดเร็ว ลิงค์ก็หลบการโจมตีได้อย่างเฉียดฉิว เขาดึงดาบออกมาและหัวของนากาก็กระเด็นออกไปพร้อมกับเสียงดังฉับ!
การต่อสู้ด้วยการทําให้แพ้ทั้งสองฝ่ายนั้นทรงพลัง แต่ถ้าเกิดว่ามีความแตกต่างของพลังขึ้นมา มันจะทําให้คุณตายได้ในทันที
ในตอนที่นากาตาย ลิงค์ก็อุ้มเอลินขึ้นมาและวิ่งต่อ ที่ทางออกของอุโมงค์ ลิงค์พูดขึ้น “โล่!”
เอดินเริ่มร่ายเวทย์ ด้วยเสียงดังพรึ่บ! ร่างของเธอกับลิงค์ก็ถูกปกคลุมด้วยแสงหลากสี มันคือเวทย์ป้องกันเลเวล
ลิงค์ได้หยิบระเบิดเพลิงยับบ้าออกมา เขากดมันและโยนมันออกไปนอกอุโมงค์ และเขาก็พุ่งออกไปข้างนอกพร้อมกับระเบิด
ตุ้ม! เขาหยีตามอง ลิงค์เห็นนากากําลังตั้งท่าป้องกันอยู่ข้างทางออกของอุโมงค์ เธอซ่อนอยู่ใกล้ๆกับทางออกเพื่อที่จะลอบโจมตีแต่ว่าเธอคิดไม่ถึงว่าจะมีระเบิดออกมาก่อน
ลิงค์นั้นมีเวทมนตร์ป้องกันและได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว เขามองผ่านเปลวเพลิงและพุ่งไปข้างหน้า เขาฝ่าเปลวเพลิงออกมา และดาบของเขาก็ฟันไปที่หัวของนากา
นากาไม่ได้คาดคิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน เธอหลบตามสัญชาติญาณ แต่ก็ไม่พ้น… ด้วยเสียงดังฉีบ! หัวของเธอก็หลุดออกจากบ่า
ลิงค์ไม่มีความลังเลเลย เขาม้วนตัวลงมาและวิ่งไปทางเมือง 2 นาทีต่อมา เขาก็มาอยู่ที่ด้านหน้าของบาเรียแสง
มีรูเปิดกว้างประมาณ 10 ฟุตอยู่บนบาเรียแสง ที่ด้านหน้าของมันมีรอยเท้าลึกอยู่มากมาย และอากาศโดยรอบก็มีออร่าความวุ่นวายที่เป็นลักษณะเฉพาะของนากา
ลิงค์มองดูอยู่พักนึงและพูดออกมา “ที่รูของบาเรียยังมีมานาเหลืออยู่นิดหน่อย เอลิน เธอคิดว่าพวกมันเข้าไปนานแค่ไหนแล้ว?”
“อย่างน้อยก็น่าจะประมาณ 1 นาทีนะ” เอดินนั้นคุ้นเคยกับบาเรียแสงมากๆ
“พวกมันน่าจะอยู่ไม่ไกล เอลินใช้เวทย์หายตัวระดับสูง!”
ทันทีที่เขาพูด ลูกบอลแสงจางๆก็ปรากฏขึ้นบนอากาศ มันปกคลุมทั้งลิงค์และเอลิน และพวกเขาก็หายตัวไปอีกครั้ง
เวทมนตร์หายตัวของเอดินไม่ได้มีทักษะขั้นสูงสุด แต่ว่ามันก็ยังมีประโยชน์ มันสามารถซ่อนเสียง เงา และกลิ่นได้ ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในระยะห่างออกมา 150 ฟุต พวกเขาก็จะไม่มีวันถูกพบ
ตอนนี้มันมืดกว่าเดิมมาก และเนื่องจากผลของบาเรียแสง เมืองส่วนในจึงมืดยิ่งกว่า ลิงค์ไม่เห็นมือของเขาที่อยู่ตรงหน้าเลยด้วยซ้ํา
ยังไงก็ตาม ส่วนในของลาริเอลนั้นไม่ได้รับความเสียหายจากการต่อสู้ สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ทําขึ้นมาจากหิน และถนนก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี ทางเดินนั้นเรียบ และลิงค์ก็มีสายตาที่ดี เขาไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดล้มเลย
ลิงค์ตามรอยเท้าจางๆและไล่ตามพวกมันไป หลังจากผ่านไปประมาณ 150 ฟุต อยู่ๆรอยเท้าก็หายไป เขามองไปรอบๆและพบว่าร่องรอยทั้งหมดก็หายไปด้วย มันเหมือนกับว่าพวกนากาได้ระเหยหายไปหมด
“พวกมันหายไปไหน?” เขาไม่เข้าใจ
ในตอนที่เขากําลังสับสนอยู่ อยู่ๆก็มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น มันฟังดูน่าสงสารมาก เขาสามารถบอกได้เลยว่าคนๆนั้นกําลังพบกับความเจ็บปวดแสนสาหัส
เอลินตัวสั่น “ตรงนั้น!” เธอตะโกน
ลิงค์พยักหน้า เขาหันและเดินไปทางแหล่งที่มาของเสียง หลังจากเดินไป 20 ก้าว ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากที่เดิมอีกครั้ง ในครั้งนี้เสียงร้องนั้นแหลมมากกว่าเดิม มันคือเสียงของยับบ้าหญิง และมันก็อยู่ที่เดียวกับยับบ้าชายในตอนแรก
พอได้ยินสิ่งนี้ เอลินก็ตกใจมากๆ “พวกมันกําลังฆ่าทุกคน โอ้ พระเจ้า ปีศาจพวกนี้มัน… อาเคนเซอร์ ไอ้คนทรยศ!”
สติของเธอยุ่งเหยิงอย่างมาก ยังไงก็ตาม หลังจากที่ได้ยินเสียงร้องครั้งที่ 2 ลิงค์ก็เดินช้าลง
“ลิงค์ เร็วสิ เร็วๆเข้า!” เอดินกระโดดลงจากไหล่ของลิงค์ และวิ่งไปด้วยตัวเอง ความคิดของเธอมีอยู่อย่างเดียวคือการไปช่วยพวกเขา
“เดี๋ยวก่อน!” ลิงค์กดไหล่ของเอดินลง “ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย มันน่าจะเป็นกับดักนะ!”
เสียงร้องที่ 2 ดังขึ้นมา 3 วินาทีหลังจากเสียงแรกและมาจากที่เดียวกัน นั่นหมายความว่าคนที่ฆ่าไม่ได้ขยับไปไหน และคุมสถานการณ์ได้ จากที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้ พวกมันกําลังรีบเข้าไปในเมืองเพื่อทําการใหญ่บางอย่าง
การฆ่ายับบ้า 2 คนนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ดังนั้น ลิงค์จึงคิดว่ามันเป็นกับดัก พวกมันใช้เสียงร้องของยับบ้าเพื่อรบกวนลิงค์และล่อให้พวกเขาเข้าไปในวงล้อม ถ้าเกิดว่ามีนากาอย่างน้อย 5 ตัวเข้ามาล้อมลิงค์ มันก็คงจะเป็นปัญหาอย่างมาก เขาอาจจะหนีรอดได้ แต่ว่าเอลินนั้นน่าจะตายอย่างแน่นอน
ถึงจะคิดได้อย่างนี้ ลิงค์ก็ยังเดินไปที่ต้นเสียงอยู่ดีเพราะว่าตอนนี้มันเป็นเบาะแสเดียวที่มีเขามี เขาระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
แทนที่จะไปทางถนนหลัก เขาย่อตัวลงและไปทางซอยเล็กๆ
หลังจากเดินไปได้ประมาณ 100 ฟุต กําแพงหินสูง 10 ฟุตก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา “จับแน่นๆนะ” ลิงค์กระซิบ
จากนั้นเขาก็จับที่รอยแตกของกําแพงและปีนขึ้นไปอย่างเงียบๆ ที่ด้านบนสุดลิงค์มองลงมาและเห็นลานกว้าง มีกองไฟที่เพิ่งจุดใหม่ๆอยู่ตรงกลางและมียับบ้าสองคนนอนอยู่ข้างๆผู้ชายและผู้หญิง
พวกเขายังไม่ตาย พวกเขายังคงดิ้นอยู่
แขนขาของผู้ชายโดนตัดออก เขานอนร้องอยู่ตรงนั้น เอวของผู้หญิงถูกฟันแต่ว่ามีใครบางคนได้ห้ามเลือดเธอไว้ ทําให้เธอยังไม่ตายในตอนนี้ เพราะความเจ็บปวดอันไร้สิ้นสุดนี้ เธอจึงใช้แขนของเธอคลานอยู่กับพื้น ทุกครั้งที่เธอขยับร่างกาย เธอจะส่งเสียงอู้อี้ออกมา มันน่าตกใจมาก
สําหรับพวกนากานั้น ไม่มีร่องรอยของพวกมันเลย
ร่างกายของเอดินสัน เธอต้องการจะไปช่วยพวกเขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะรบกวนแผนการของลิงค์ เธอฝืนทําให้ตัวเองอยู่เงียบๆ
ลิงค์เดินไปตามกําแพง หลังจากผ่านไปไม่กี่ฟุต เขาก็กระโดดลงระเบียงอย่างเงียบเชียบ
มันไม่มีสิ่งกีดขวาง และกองไฟก็สว่างมาก ลิงค์ย่อตัวลงบนระเบียงและมองดูรอบๆ
ประมาณ 10 วินาทีต่อมา เขาก็เห็นนากาอยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ตัวที่สองอยู่ที่รถม้าที่อยู่ไม่ไกลจากกองไฟ ส่วนตัวที่สามนั้นอยู่ตรงประตูทางเข้าลานกว้าง และเขาก็ยังเห็นตัวที่สี่ที่ซ่อนตัวอยู่ที่พุ่มต้นกุหลาบด้วย… ลิงค์เห็นนากาทั้งหมด 7 ตัว พวกมันซ่อนอยู่เงียบๆรอให้เขาเข้ามาติดกับ
มันเป็นแผนการอันแยบยลแต่ก็เปล่าประโยชน์
ลิงค์มองสํารวจต่อไป หลังจากผ่านไปซักพัก เขาก็เห็นรอยเท้าที่ด้านนอกลานกว้าง พวกมันตรงไปที่ใจกลางเมืองแทนที่จะทําให้พวกนากาแตกตื่น เขากระโดดลงจากกําแพง และตามรอยเท้าไป 100 ฟุต จากนั้นเขาก็หยิบระเบิดออกมา กดมัน และเขาก็โยนมันไปยังตําแหน่งที่เขาจําได้
เขาไม่สามารถช่วยยับบ้าพวกนั้นได้ พวกเขาบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาจึงทําได้แค่ปลดปล่อยพวกเขาจากความเจ็บปวด
หลังจากโยนระเบิด ลิงค์ก็เดินทางไปต่อ 4 วินาทีต่อมา ก็เกิดเสียงดังขึ้น มันคือเสียงระเบิด
เอลินเช็ดน้ําตาของเธอและเม้มปากเอาไว้ เธอจับคทาของเธอแน่นและสาบานอยู่ภายในใจว่าจะแก้แค้น เธอต้องทําให้ไอ้อาเคนเซอร์ชดใช้กับสิ่งที่มันทําแน่!
มีคบเพลิงอยู่แถวสิ่งปลูกสร้างทั้งสองฝั่งของถนน มันถูกจุดโดยยับบ้าที่อยู่ในเมือง ไม่มีใครอยู่บนถนน แต่ว่ามีศพของพวกเขามากมาย นากาที่ผ่านมาได้ฆ่าทุกคนที่พวกมันเจอ พวกมันเร็วมากๆและไม่ได้เสียเวลาเลย
“มีอะไรอยู่ที่ใจกลางเมือง?” ลิงค์ถามด้วยเสียงแผ่วเบา
“ศูนย์ควบคุมกลางของตาข่ายเวทมนตร์ ตัวเปิดบาเรียแสง คลังสมบัติของช่างฝีมือ ห้องสมุด…ของมีค่าของพวกเราอยู่ที่นั่นทั้งหมด”
ลิงค์ขมวดคิ้ว ด้วยเป้าหมายที่มากมายขนาดนี้ เขาไม่สามารถตัดสินได้ว่าอะไรคือสิ่งที่นากาต้องการ เขาทําได้แค่ไล่ตามไปเท่านั้น
3 นาทีต่อมา ปราสาทขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น มีศพจํานวนนับไม่ถ้วนอยู่ที่หน้าทางเข้าของมัน ทั้งหมดคือชาวยับบ้า และมีนากา 2 คนยืนเฝ้าประตูอยู่
“ที่นี่คือที่ไหน?” ลิงค์ถาม ดูเหมือนว่าพวกนากาทั้งหมดจะเข้าไปในปราสาท
“มันคือคลังสมบัติของช่างฝีมือ! วัตถุดิบหายากทั้งหมดที่พวกเรารวบรวมมาได้อยู่ที่นี่ และรวมถึงเครื่องจักรเวทมนตร์ที่ยังสร้างไม่เสร็จด้วย” เอลินอธิบาย
ลิงค์ขมวดคิ้วแน่น “วัตถุดิบและของที่ยังสร้างไม่เสร็จงั้นหรอ?”
สิ่งของพวกนี้ไม่ทําให้ได้อํานาจมาในทันที ทําไมพวกนากาถึงเข้าไปในนั้น? เพราะจะไปหาวัตถุดิบหายากจริงๆเหรอ?
ในระหว่างที่เขาสงสัย ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ประตู มีคนออกมามากมาย ลิงค์ตกใจจึงรีบถอยกลับไปหลบหลังหินในทันที
ไม่กี่วินาทีต่อมา ลิงค์ก็เห็นอาเคนเซอร์และนากา 20 ตัว เดินออกมาจากปราสาท นากา 8 ตัวได้แบกรูปปั้นหินสูง 30 ฟุตเอาไว้ มันหนักอย่างน้อย 20 ตัน พวกมันส่งเสียงอึดฮัด พร้อมกับแบกรูปปั้นไปที่หอคอยที่อยู่ไกลออกไป
เอลินไม่เข้าใจ “นั่นคือรูปปั้นของนักปราชญ์ ทําไมพวกมันถึงแบกมันไปที่ศูนย์ควบคุมกลางของตาข่ายเวทมนตร์หล่ะ?”
ลิงค์ก็คิดว่ามันแปลกเช่นกัน ยังไงก็ตาม เขานั้นถูกดึงความสนใจด้วยรูปปั้น “เนื้อผิวของมันดูแปลกๆนะ” เขาพูด “มันทํามาจากอะไร?” ท้องฟ้าค่อนข้างมืด พวกเขาไม่สามารถมองเห็นมันได้ชัดนักเพราะอยู่ห่างออกมาไกลพอสมควร
“ข้าเองก็ไม่มั่นใจ ข้าคิดว่ามันคือหินแบล็คคุน”
“อะไรนะ?” ลิงค์ตะลึง
“หินแบล็คคุน มันเป็นของพื้นเมืองของเหมืองดาเรียนทางตอนเหนือ มันไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้นนะ” เอลินพูด
ลิงค์ขมวดคิ้วและส่ายหัวของเขา “ไม่ๆ สําหรับมนุษย์หินแบล็คคุนนั้นธรรมดามาก แต่สําหรับพวกเทพมันมีค่ามากๆ มันคือสมบัติก้อนโตเลยหล่ะ”