Advent of the Archmage - ตอนที่ 403: ของกล้วยๆ
Chapter 403: ของกล้วยๆ
ปิ้บ, ปิ้บ ปิ้บ ปิ้บ, ปิ้บ, ปิ้บ
ที่จุดเชื่อมโยงตาข่ายเวทมนตร์, หินรูนของมาสเตอร์กรีนได้เชื่อมต่อกับบ่อมานาผ่านเข็มขัดรูน มันส่องแสงเป็นจังหวะ, คล้ายรหัสมอร์สจากโลก
ลิงค์นั่งรออยู่ข้างๆ ในตอนที่เขาเบื่อ, เขาก็เริ่มจดจํารหัสเพราะบางทีมันอาจจะมีประโยชน์ก็ได้
หลังจากผ่านไปประมาณห้านาที, ก็มีการตอบสนองเกิดขึ้น
หินรูนส่องแสงสดใส มาสเตอร์กรีนปล่อยมัน, แล้วหินรูนก็ลอยขึ้นฟ้า จากนั้นมันก็เริ่มส่องแสงเป็นจังหวะอีกครั้ง
กรีนเอาปากกากับดินสอออกมา เฝ้ามองหินรูนอย่างใกล้ชิด, แล้วเขาก็เริ่มบันทึกมัน ด้วยเหตุผลบางประการ, ในขณะที่เขาเขียน, คิ้วของกรีนก็ขมวดแน่น ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ลิงค์กับแลนนี่ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้, แต่พวกเขาก็ไม่ได้ส่งเสียง พวกเขาไม่อยากรบกวนกรีน
หลังจากผ่านไปกว่าสิบนาที, หินรูนก็สูญเสียพลังไปอย่างกระทันหัน มันร่วงลงมาจากฟ้าเข้ามาในมือที่ลิงค์วางรองเอาไว้
่ ่
ที่อีกด้านนึง, มาสเตอร์กรีนจ้องไปที่สมุดด้วยสีหน้าอันหนักหน่วง เขาจะเขียนคําพูดบางอย่างเป็นครั้งคราว
แลนนี่ถามด้วยความรู้สึกผิดปกติ “มาสเตอร์, เกิดอะไรขึ้น?”
กรีนส่ายหัวแล้วโชว์สมุดให้เธอดู “ดูสิ, รหัสพวกนี้มันแปลกๆนะ ส่วนคําพูดที่แปลออกมาแปลกยิ่งกว่าอีก มันไม่มีคําสั่ง, และขาก็ไม่สามารถทําความเข้าใจมันได้เลย”
แลนนชําเลืองตามอง, คิ้วของเธอขมวด, แล้วใบหน้าของเธอก็กระตุกด้วยความรังเกียจ “หา, นี่พวกเขาส่งคําพูดหยาบคายแบบนี้มาได้ยังไงกัน? น่ารังเกียจชะมัด!”
ลิงค์รู้สึกสงสัย, ดังนั้นเขาจึงชะเง้อไปดู แล้วเขาก็เห็นสิ่งที่เขียนอยู่ “นกตัวใหญ่, นกตัวใหญ่, ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยขน มันบินเข้าไปในกอหญ้าแล้วหายไป” และ “บ้าจริง, นี้ข้านอนหลับกับลาตัวเมียของเจ้าหรอเนี่ย”
เขาเองก็รู้สึกว่ามันแปลก, ลิงค์คาดเดา, “คุณคิดว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า? หรือว่ามีคนมารบกวนสัญญาณแล้วแกล้งพวกเรา?”
มาสเตอร์กรีนส่ายหัว “ข้าไม่รู้ ยังมีเนื้อหาต่อจากนั้นอีก ข้าจะลองตรวจสอบเพิ่มอีกสักหน่อย”
เขาขอสมุดคืนแล้วทําการแปลต่อ หลังจากผ่านไป 20 นาที, เขาก็แปลจนจบแต่ก็ยังส่ายหัวอย่างจนปัญญา “ส่วนที่เหลือมันหยาบคายกว่าเดิมอีก มันไม่มีความหมายอะไรเลย”
แลนนี่มองดูแล้วยอมแพ้ ลิงค์รับสมุดมาแล้วอ่านมันทีละนิด ถ้าเริ่มต้นเป็นแค่คําด่า, เนื้อหาหลังจากนั้นก็แทบจะเป็นเรื่องหื่นกามโดยตรงเกี่ยวกับชายโสดแก่ๆคนนึงที่ไปเคาะหน้าต่างยามค่ำคืน
หลังจากที่อ่านมันจบ, ลิงค์ก็อ่านมันอีกครั้ง ครั้งนี้, แทนที่จะดูทั้งหมด, เขาดูแค่คําพูด, แล้วเปรียบเทียบกับรหัสที่ละตัวแทน
เนื้อหานั้นเหมือนเดิม, แต่หลังจากที่อ่านมันอีกครั้งแล้วเปรียบเทียบมัน, ลิงค์ก็ได้เรียนรู้รูปแบบของรหัสยับบ้าแล้ว เขาก็พบว่าสัญญาณส่วนใหญ่นั้นชัดเจน มาสเตอร์กรีนได้ใช้เส้นแนวตั้งเพื่อแสดงสัญญาณแฟลชขึ้นมา อย่างไรก็ตาม, มีบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจน, แล้วเขาก็ใช้เส้นแนวนอน มันมีจํานวนไม่มากนัก ประมาณ 30 ส่วนจากทั้งหมด
ลิงค์รับสมุดมาดูแล้วถาม “มาสเตอร์ เส้นแนวนอนหมายความว่ายังไงครับ?”
มาสเตอร์กรีนชําเลืองมอง “มีกระแสสถิตบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างการส่งข้อความ สัญญาณแฟลชเร็วมากในสถานที่เหล่านี้, ประมาณสองหรือสามเท่าของช่วงเวลาที่กําหนดไว้ พวกมันน่าจะเป็นความผิดพลาดนะ…มาสเตอร์ลิงค์, ขอฟังความเห็นของท่านหน่อยได้ไหม?”
“ผมว่ามันค่อนข้างแปลกจริงๆนั่นแหล่ะ” ลิงค์มีความคิดอยู่ เขาพยายามไม่สนใจสัญญาณที่ชัดเจนแล้วให้ความสําคัญแค่สัญญาณที่ไม่ชัด ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เขาก็นึกย้อนสัญญาณหินรูนที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ในหัวของเขา
ลิงค์มีความทรงจําที่ดีมากจริงๆ ในตอนที่เขาคิดกลับ, เขาสามารถสร้างกระบวนการแฟลชขึ้นมาใหม่ได้แทบทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งสอง, เขาก็เขียนรหัสสัญญาณใหม่ลงไป แล้วสามนาทีต่อมา, ลิงค์ก็ใช้ความทรงจําของตัวเองบันทึกรหัสอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็เริ่มแปล
ครึ่งนาทีต่อมา, เขาก็พบข้อความใหม่ มันสั้นมากๆ แค่สองประโยค “ไม่สามารถระบุความน่าเชื่อถือของข้อความได้แต่ระวังออาเคนเซอร์ด้วย มันกําลังเฝ้าดูอยู่!”
ข้อความนี้ทวนซ้ำทั้งหมดสามครั้งผ่านชิ้นส่วนข้อความพวกนี้
ลิงค์คืนสมุดให้มาสเตอร์กรีนแล้วพูด “ผมได้ลองเรียบเรียงส่วนที่ยังไม่ชัดเจนดูใหม่ ผมแปลถูกรึเปล่า?”
มาสเตอร์กรีนตรวจสอบดู, แล้วมือของเขาก็สั่น เขาพูดออกมาด้วยความตกใจ “ข้าเกร็งว่านี้จะถูกต้องนะ สิ่งที่ข้าได้รับอาจจะเป็นการรบกวนจากอาเคนเซอร์ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้หล่ะก็, มันคงไม่ใช่งานง่ายๆแล้วหล่ะ”
สําหรับการที่ลิงค์อ่านรหัสได้นั้น, กรีนไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลก เขาไม่ได้ซ่อนกระบวนการแปลจากลิงค์เลย, และในฐานะนักเวทย์ระดับตํานานที่สามารถใช้เวทย์มิติได้นั้น, รหัสแบบนี้ก็เป็นแค่ของง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม, แลนนี่ถามอย่างสงสัย “มาสเตอร์ลิงค์, ท่านรู้วิธีอ่านรหัสของพวกเราได้ยังหรอ?”
“ฉันพึ่งจะศึกษาดูเมื่อสักครู่นี้”
แลนนี่พูดไม่ออก
“ตอนนี้เหตุการณ์ค่อนข้างซับซ้อน” มาสเตอร์กรีนพูด “พวกเขาสามารถรับสัญญาณของพวกเราได้, แต่การที่มีอาเคนเซอร์อยู่ที่นี่นั้น, ทําให้พวกเราไม่สามารถพูดอะไรได้เลย พวกเขาจะไม่เชื่อเราและอาจจะคิดว่านี่เป็นอุบายก็ได้”
มันเป็นปัญหาจริงๆ ผู้ส่งสารคนอื่นอาจจะรู้สึกสิ้นหวัง แต่สําหรับลิงค์, นี่ก็เป็นแค่ของกล้วยๆ!
เขาหันไปหากรีน “นี่ ช่วยติดต่อพวกเขาให้หน่อยแล้วบอกว่าผมอยากคุยกับเอลิน พวกเราเคยไปที่หมู่บ้านมังกรด้วยกัน คนนอกไม่รู้ประสบการณ์ที่พวกเรามีร่วมกันหรอกครับ ด้วยสิ่งนี้, พวกเขาก็จะสามารถยืนยันได้ว่าพวกเราพูดความจริงรึเปล่า!”
ดวงตาของมาสเตอร์กรีนเป็นประกายขึ้นเขาเริ่มเคลื่อนไหวในทันที ด้วยการหยิบหินรูนขึ้นมา, เขาก็เริ่มส่งสัญญาณอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที, ก็มีการตอบสนองเกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอให้แปลก่อน, ลิงค์ก็สามารถดูได้จากความถี่ว่ามันคือการรบกวนของอาเคนเซอร์อีกครั้ง แล้วมันก็เป็นถ้อยคําหยาบคายเหมือนเดิม เมื่อมองข้ามมัน, เขาก็รออีกครึ่งนาที แล้วหินรูนก็ส่องแสงขึ้นอย่างกระทันหันแล้วแสดงข้อความบางอย่าง
ลิงค์ให้ความสนใจกับมัน เอลินอยู่ที่นี่ เธอมีคําถามหนึ่งข้อ… เธอถามว่าชื่อของมังกรหญิงคือ “มาสเตอร์, บอกเธอไปว่าเฟลิน่า”
่ ่
มาสเตอร์กรีนส่งข้อความในทันที
หลังจากนั้นสักพักนึง, ก็มีอีกคําถามปรากฏขึ้น ทําไมในวันนั้นที่วิหารมังกรราชินีมังกรแดงถึงไม่ได้รับอันตราย?
ลิงค์พูดในทันที “ตอบกลับไปว่าเพราะพวกเราแอบทําลายตาชั่งแห่งสมดุลย์อย่างลับๆ”
ดวงตาของกรีนเบิกกว้าง เขาจ้องมาที่ลิงค์ด้วยความไม่เชื่อ ทําลายอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นหรอ..นี่มันเป็นข่าวที่น่าตกใจจริงๆ, แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังส่งข้อความไปให้อยู่ดี
การตอบกลับนั้นรวดเร็วมาก หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที, ลิงค์ก็เห็นข้อความของหินรูน, ลิงค์, นั่นเจ้าจริงๆหรอ! นี่มันเยี่ยมไปเลย!
แม้ว่าจะมีตาข่ายเวทมนตร์ขั้นอยู่ระหว่างพวกเขา, แต่ลิงค์ก็ยังสัมผัสถึงความดีใจของเอลินได้ ในตอนนี้, การแลกเปลี่ยนสําเร็จแล้ว
ลิงค์พูดกับกรีน “บอกเรื่องสถานการณ์ในโอริด้าไปอีกครั้ง ต่อให้อาเคนเซอร์รู้ก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะมันรู้อยู่แล้ว”
“โอเค” กรีนทําตามคําสั่ง
่ ่
ไม่กี่วินาทีต่อมา, เอลินก็ตอบกลับ, เข้าใจแล้ว ระวังตัวด้วยนะ เรือะเหาะของพวกเราจะรีบออกจากกําแพงแสงและเริ่มทําการโจมตีในอีกไม่นานนี้ ไปหาที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยซะ
ในตอนที่ข้อความนี้ปรากฏขึ้น, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าสัญญาณรบกวนหายไปแล้ว ลิงค์กับกรีนแลกเปลี่ยนสายตากัน
“ดูเหมือนอาเคนเซอร์จะรู้แล้วว่าการรบกวนล้มเหลว, ดังนั้นมันก็เลยถอย” มาสเตอร์กรีนพูดอย่างตื่นเต้น
แทบจะในจังหวะเดียวกัน ก็มีข้อความนึ่งปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของลิงค์ เขาชําเลืองมองมันแล้วเห็นข้อความภารกิจสําเร็จ
ภารกิจสําเร็จ: ส่งข้อความ
ผู้เล่นได้รับรองเท้านักฆ่า(อีพิค)
ภารกิจใหม่: ร้องขอกําลังเสริม
ภารกิจ: โน้มน้าวให้ยับบ้าส่งกําลังเสริมไปที่ป้อมโอริด้า
รางวัลภารกิจ: เข็มขัดนักฆ่า (อีพิค)
พอเห็นข้อความนี้ ลิงค์ก็รับภารกิจด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเขาก็พูด “การโจมตีตอบโต้จะเริ่มขึ้นในอีกไม่นานนี้ ไปหาที่สังเกตุการณ์ที่ปลอดภัยกันเถอะ”
แลนนี่พูดในทันที “ ข้ารู้จักอยู่สถานที่นึง ตามข้ามาสิ!”
เธอนั้นตื่นเต้นมากจริงๆและกระโดดโลดเต้นไปในขณะที่นําทาง ลิงค์กับกรีนเดินตามเธอ หลังจากนั้นสักพัก, ลิงค์ก็รู้สึกว่าพวกเขาช้าเกินไป เขาอุ้มกรีนกับแลนนี่ขึ้น, ด้วยแขนคนละข้าง, แล้วแบกพวกเขาขึ้นไหล่ “แลนนี่, คอยบอกทางฉันด้วย, เดี๋ยวฉันจะแบกทั้งคู่ไปเอง”
“โอเค เลี้ยวซ้ายตรงนั้นแล้วตรงไปเลย”
ภายใต้การนําของแลนนี่, ลิงค์ก็เริ่มวิ่งแล้วฆ่าปีศาจไปบางส่วนในระหว่างทาง หลังจากผ่านไปสิบนาที, ทางออกก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ลิงค์ออกมาจากตรงนั้นแล้วตระหนักได้ว่าเขาอยู่ที่ตีนเขาเล็กๆทางใต้ของลาริเอล
“ตรงนี้คือชานเมือง, เรือเหาะมาไม่ถึงที่นี่หรอก ดูนั่นสิ ยอดบนสุดของกําแพงแสงเปิดออกแล้ว เห็นนั่นไหม, พวกปีศาจที่อยู่บนฟ้ากําลังถอยอยู่!” แลนนี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น
ลิงค์เงยหน้ามอง เขาเห็นรูมากมายอยู่บนกําแพงแสงสีเหลืองที่ความสูงประมาณ 700 ฟุต มีเรือเหาะจํานวนนับไม่ถ้วนบินออกมาจากรูพวกนั้น
เรือเหาะนั้นมีหลายขนาด ขนาดใหญ่ที่สุดมีสามลํา, พวกมันมีขนาดเกือบ 300 ฟุต แล้วก็มีลําเล็กกว่าที่มีขนาดตั้งแต่ 65 ฟุต – 33 ฟุต โดยรวมแล้ว, มีทั้งหมด 37 ลํา
ลิงค์มองด้วยความตกใจ เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรือเหาะพวกนี้มีร่องรอยการถูกซ่อมแซมอยู่มากมาย เห็นได้ชัดว่าเรือเหาะพวกนี้ได้ผ่านการต่อสู้ที่ยากลําบากมากๆมาและถูกบังคับให้ถอยเข้ามาในกําแพงแสง
ในตอนที่เรือเหาะลํายักษ์บินออกมา, จะเห็นว่ามีจุดสีดําที่เหมือนกับผึ้งจํานวนนับไม่ถ้วนบินออกมาจากพวกมัน ลิงค์มองอย่างตั้งใจและพบกว่าพวกมันเป็นเรือขนาดเล็กที่มีความยาวประมาณหกฟุต พวกมันไม่ได้เร็วมากแต่พวกมันก็คล่องแคล่วมากๆ พวกมันสูสีกับการ์กอยที่อยู่บนฟ้าเลย
มีเรือเล็กๆพวกนี้กว่า 200 ลํา แต่ละลํานั้นได้ติดตั้งปืนใหญ่เวทมนตร์เอาไว้หนึ่งกระบอก พวกมันบินออกมาเหมือนกับฝูงผึ้งและมุ่งหน้าไปหาพวกปีศาจที่กําลังบินอยู่
ทั้งสองฝั่งเริ่มต่อสู้กันในทันที
ทางปีศาจเองก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน โดยเฉพาะปีศาจปีกโหยหวน พวกมันส่งเสียงร้องออกมาแล้วหลบซ้ายหลบขวา ในตอนที่พวกมันพุ่งไปถึงเรือเหาะ, พวกมันก็จะใช้ดาบผ่าลงมา
เรือเหาะไม่สามารถทนรับการโจมตีได้เลย พวกมันถูกผ่าเป็นสองส่วนในทันที
บนท้องฟ้ามีปีศาจปีกโหยหวนเลเวล 8 อย่างน้อย 13 ตัว พวกมันมีพละกําลังอันน่าหวาดกลัวและความเร็วที่น่าตกใจ แทนที่จะถอย, พวกมันกลับนําฝูงกากอยและปีศาจบินตัวอื่นๆ เพื่อทําการต่อสู้กลับ
พวกปีศาจทะลวงการขัดขวางของเรือเหาะลําเล็กอย่างต่อเนื่องและหลบการโจมตีหลากหลายรูปแบบ, พร้อมกับบินตรงไปยังเรื่องเหาะลํายักษ์
ในตอนนี้, ลิงค์ไม่สามารถดูอยู่เฉยๆได้อีกแล้ว
เขามั่นใจว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป, ถึงยับบ้าจะเอาชนะปีศาจได้แต่พวกเขาก็คงจะได้รับความสูญเสียอย่างมากมายแล้วถ้าพวกเขาสูญเสียมากขนาดนั้นหล่ะก็, พวกเขาจะเป็นกําลังเสริมให้โอริด้าได้ยังไงกัน?
ลิงค์พูดพร้อมกับยืนขึ้น “ผมเองก็ต้องไปสู้ด้วย กรีน, คุณช่วยทําให้พวกมันเห็นผมหน่อยได้ไหม?”
สําหรับยับบ้านั้น, ปีศาจปีกโหยหวนเลเวล 7 กับ 8 ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ แต่สําหรับเขา, พวกมันก็เป็นแค่มดปลวก
กรีนเองก็หวาดกลัวกับเหตุการณ์นี้ พอได้ยินคําพูดของลิงค์, เขาก็ยกคทาขึ้นในทันที, เขาใส่มานาเข้าไปแล้วร่ายพรแห่งเกียรติยศใส่ตัวเอง
พรแห่งเกียรติยศ
เวทมนตร์จอมเวทย์เลเวล 6
ผล: พละกําลังของเป้าหมายจะเพิ่มขึ้น 100%, ความเร็วเพิ่มขึ้น 50%, ความคล่องแคล่วเพิ่มขึ้น 50% ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, โล่แสงอันเจิดจ้าจะปรากฏขึ้นรอบตัวเป้าหมาย
(หมายเหตุ: คุณจะกลายเป็นจุดสนใจ!)
บอลแสงสีแดงเพลิงปรากฏขึ้นในระยะสามฟุตรอบตัวลิงค์ แสงสีทองสะท้อนอยู่ในเปลวเพลิงนี้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองข้ามมัน แสงนี้จะเพิ่มอันตรายให้กับลิงค์ในสนามรบอย่างมหาศาล แต่นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ
ไม่ใช่แค่นั้น, มาสเตอร์กรีนยังได้เปิดใช้เวทย์แสงขนาดยักษ์อีกด้วย มีบอลแสงสีขาวเหมือนหิมะขนาดกว้างสิบฟุตปรากฏขึ้น เรือเหาะที่อยู่บนฟ้าตรวจพบมันในทันที แล้วเรือเหาะขนาดเล็กและขนาดกลางยี่สิบลําก็หันหลังกลับแล้ว พุ่งไปทางจุดกําเนิดของเวทย์แสงนี้
“พวกเขากําลังจะมาเป็นกําลังเสริมให้กับพวกเรา!” มาสเตอร์กรีนตะโกน
ลิงค์สุดหายใจเข้าลึกๆ “ระวังด้วยหล่ะ ผมจะไปแล้ว”
โดยที่ไม่คาด, มาสเตอร์กรีนหัวเราะออกมาเบาๆ “มาสเตอร์ลิงค์, ถึงข้าจะแก่แล้ว, แต่ข้าก็ยังต่อสู้ได้อยู่นะ”
แลนนี่กําปืนคาบศิลาของเธอแล้วยิ้ม “มาสเตอร์ลิงค์, นี่เป็นการต่อสู้ของเผ่าข้า จะให้ข้านั่งดูอยู่เฉยๆได้ยังไงกัน?”
พอได้ยินแบบนี้, ลิงค์ก็หัวเราะ “ก็ได้, ไปต่อสู้ด้วยกันเถอะ!”