Advent of the Archmage - ตอนที่ 369: เจ้าหญิงปีศาจ “ผู้ดื้อรั้น”
Chapter 369: เจ้าหญิงปีศาจ “ผู้ดื้อรั้น”
“ท่านดยุค, เกิดอะไรขึ้น? ทําไมท่านถึงสั่งให้ถอยหล่ะ?” ราชาคนแคระริเอลเต็มไปด้วยเลือด เขามองกลับไปที่ป้อมด้วยความสงสัย
“นี่เป็นความคิดของฉันเอง” ลิงค์พูด
“มาสเตอร์, ทะ…ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ท่านยังมีแรงเหลืออยู่อีกหรอ?” ริเอลไม่ได้นับลิงค์เป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ประจันหน้า เขาได้ขัดขวางเทคนิคระดับพระเจ้าเพื่อกองทัพไปแล้ว ในฐานะนักเวทย์, ลิงค์ทํามามากพอแล้ว
ลิงค์พยักหน้า “พลังของฉันฟื้นกลับมาเยอะแล้ว, แต่พวกเรามีทหารไม่พอ ฉันตรวจสอบดูแล้ว, ตอนนี้พวกเรามีเหลือกันไม่ถึง 13,000 คน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป, พวกเราจะแพ้แน่ๆ–”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ, ก็มีเสียงร้องดังมาจากป่าทมิฬ
เสียงนี้ฟังดูแหบแห้ง มันคือเสียงร้องรูปแบบนึง ของปีศาจปีกโหยหวนและสะท้อนไปทั่วทั้งสนามรบ หลังจากนั้น, ปีศาจที่กําลังโจมตีกําแพงเมืองอย่างรุนแรงก็สับสน ไปครู่นึง แล้วพวกมันก็เริ่มถอย
ปีศาจที่กําลังปีนกําแพงเริ่มกระโดดลงมา ปีศาจเพลิงโฟดอร์ที่กําลังกระแทกประตูอยู่ก็ตกตะลึงก่อนที่จะวิ่งกลับไป ปีศาจระดับต่ําที่จตุรัสพากันล่าถอยเหมือนกับกระแสน้ํา, ทิ้งความสับสนเอาไว้ให้เหล่าดาร์คเอลฟ์ที่อยู่ข้างหลัง
เกิดอะไรขึ้น?มีนักรบตายไปมากมาย, และกําแพงก็ถูกฝ่ามาได้ชั้นนึงแล้ว กําแพงทั้งหมดกําลังจะถูกตีแตก แล้วทําไมตอนนี้พวกมันถึงถอยหล่ะ? พวกปีศาจไม่มีสมองกันรึไง?
นอกจากดาร์คเอลฟ์, กองทัพแห่งแสงก็ตกตะลึงเช่นกัน ไม่มีใครคาดถึงความเปลี่ยนแปลงนี้
ริเอลกระตุกหนวดของเขาด้วยความไม่เชื่อ “ผู้บัญชาการปีศาจโดนแพะภูเขาเตะหลังหัวรึไงเนี่ย?”
“ไม่, ไม่หรอก, ฝ่ายนั้นคงจะคิดว่าพวกเรากําลังจะใช้เวทมนตร์” ดยุคอาเบลพูดอย่างเฉยเมย เขามองไปที่ลิงค์ “มาสเตอร์, ตอนนี้พวกเราควรจะทํายังไงกันดีครับ?”
“พวกเราจะถอยกันต่อ พวกดาร์คเอลฟ์ยังไม่กลับไป” ลิงค์เองก็ตกใจกับการกระทําของผู้บัญชาการปีศาจ เพราะไม่ว่ายังไง, การถอยในขณะที่สถานการณ์กําลังไปได้ด้วยดีนั้น ก็เป็นเรื่องที่แปลกเกินไป
กองทัพแห่งแสงกําลังถอยเพราะพวกเขารักษากําแพงเมืองเอาไว้ได้อีกไม่นาน ซึ่งการที่พวกเขาถอยค่อนข้างเร็วนั้น, มันก็ยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่พวกปีศาจนี้คืออะไรกัน?
…
ป่าทมิฬ
ลอนเดลตกตะลึงกับเด็กสาวผมดํา “องค์หญิง, ทําไมท่านถึงทําแบบนั้น? พวกเรากําลังจะชนะแล้วนะครับ!”
สําหรับเขา, ถึงมนุษย์กําลังจะล่าถอย, แต่พวกเขาก็จําเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้นถ้าพวกเขาโจมตีต่อในทันทีและไล่ตามไปให้ได้ก่อนที่มนุษย์จะหนีได้สําเร็จ, ต่อให้เป็นเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คงจะไร้ประโยชน์ นักเวทย์คงจะไม่ฆ่าทหารของตัวเองหรอกถูกไหม?
นอกจากนี้ ความมั่นคงของป้อมโอริด้าก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว หลังจากสูญเสียไปหลายชีวิต, มันก็กําลังจะถูกตีแตก, แต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมแพ้..นี่พวกเขากําลังจะปล่อยให้ความตายของเหล่าทหารต้องสูญเปล่าอย่างนั้นหรอ?
หลังจากที่พวกเขาถอย, มนุษย์ก็จะฟื้นฟูสภาพจิตใจใหม่, ฟื้นกําแพงเมือง, และซ่อมหลุม ในอีกด้านหนึ่ง, พวกเขานั้นได้สูญเสียนักรบปีศาจระดับสูงไปมากมาย มันช่างน่าสงสัยจริงๆว่าพวกเขาจะสามารถโจมตีอีกครั้งได้หรือไม่
โถ, ผู้หญิงคนนี้เสียสติไปแล้วแน่ๆ!
“เจ้ากําลังคิดว่าข้าเสียสติอยู่ใช่ไหม?” เด็กสาวถามด้วย รอยยิ้ม
ลอนเดลตัวแข็งที่อ เขาส่ายหัวอย่างรุนแรง “ไม่, ไม่เลยครับ ข้าแค่ไม่เข้าใจการกระทําของท่าน ท่านก็น่าจะรู้นี่ว่าป้อมโอริด้าเป็นปราการเหล็กที่มันคงมากๆ เห็นๆอยู่ว่า พวกมนุษย์มันไม่สามารถยื้อเอาไว้ได้อีกแล้ว การถอยกลับเข้าไปในป้อมจึงเป็นเรื่องปกติ, และความเป็นไปได้ที่จะมีเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งปรากฏออกมานั้นก็ไม่ได้สูงเลย ผู้บัญชาการของมนุษย์ไม่ได้โง่ ถ้าพวกมันมีเวทมนตร์แบบนั้นจริงๆ ทําไมพวกมันถึงไม่ใช้ตั้งแต่เริ่มหล่ะ? ทําไมพวกมันถึงเก็บเอาไว้จนมีคนตายมากขนาดนี้?”
เด็กสาวผมดําพยักหน้า “เจ้าพูดถูก, แต่ข้าเป็นผู้บัญชาการของกองทัพปีศาจ ตอนนี้ข้าอยากถอย เจ้าไม่สามารถทําอะไรกับมันได้หรอก” ในตอนที่ใกล้จะพูดจบ, เด็กสาวก็คือปากแล้วยืนคางออกมา เธอทําเสียงฮึดฮัดผ่านจมูกอย่างเย่อหยิ่ง
ลอนเดลพูดไม่ออก
อาจารย์ของเขา, ไอมอนส์, ได้ตายไปแล้ว ในฐานะมือขวาของไอมอนส์, ลอนเดลจึงถูกเลื่อนขั้นเป็นผู้บัญชาการของดาร์คเอลฟ์โดยอัตโนมัติ สถานการณ์กําลังไปได้ด้วยดี, แต่หลังจากที่ปิศาจล่าถอยอย่างกระทันหัน ตอนนี้, เขาจึงรู้ลึกลังเลว่าควรให้ดาร์คเอลฟ์ถอยด้วยรึเปล่า
ในขณะนั้นเอง, ก็มีเสียงม้ากําลังใกล้เข้ามา มันคือโรแมนด์, นายกของสภานักเวทย์ซิลเวอร์มูน เขาเดินขึ้นมาแล้วพูดอย่างมั่นใจ, “อย่าถอยนะ โจมตีต่อไป ไม่มีทางที่พวกมันจะใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งได้หรอก การขัดขวางเทคนิคระดับพระเจ้าได้ก็ถือว่าสุดกําลังของนักเวทย์มนุษย์แล้ว!”
ในตอนนี้มีนักรบดาร์คเอลฟ์กว่า 40,000 คนและกลูเกือบ 2,000 ตัว มันมีจํานวนมากกว่ากองทัพแสง, ที่ได้ยอมแพ้และกําลังล่าถอยหลายเท่าตัว นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการคว้าชัยชนะ
มีแค่คนโงเท่านั้นที่จะถอย!
ลอนเดลกําลังสับสนอยู่แต่พอได้ยินคําพูดของโรแมนด์, เขาก็ทําการตัดสินใจในทันที “ส่งคําสั่งออกไป, ทําการโจมตีต่อซะ!”
วู้ว, วู้ว วู้ว ดาร์คเอลฟ์ใช้แตรกระดูก เสียงมันฟังดูน่ากลัวและหนาวเหน็บ มันได้ส่งความคิดของผู้บัญชาการดาร์คเอลฟ์ไปยังแนวหน้า
ดาร์คเอลฟ์ยังคงสับสน แต่พอได้ยินคําสั่ง, พวกเขาก็ไม่สนใจพันธมิตรปีศาจน่าโง่แล้วหันกลับไปโจมตีต่อ
มีเชือกตะขอจํานวนนับไม่ถ้วนถูกยิงออกไปที่กําแพงเมืองด้วยหน้าไม้ กลูและดาร์คเอลฟ์ปีนขึ้นต่อบนกําแพง, พวกเขาเจอกับการต่อต้านเล็กน้อย นักรบมนุษย์กับคนแคระได้ ถอยไปหมดแล้ว, เหลือไว้แค่ทหารถือโล่บางส่วนที่คอยต่อสู้ ถ่วงเวลาในขณะที่พวกเขาถอย
“หยุดไล่ตามแล้วเปิดประตูซะ! เราจะตั้งค่ายกัน!” แม่ทัพดาร์คเอลฟ์คนนึงพูด
คนๆนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากลอร์ด, แม่ทัพที่เคยโจมตี แกลดสโตนในคืนนั้นและเป็นที่รู้จักในชื่อปีศาจกระหายเลือด ตอนนี้เขาเป็นนักรบเลเวล 7 และเป็นแม่ทัพดาร์คเอลฟ์ ที่แข็งแกร่งที่สุดและมียศทางการทหารสูงที่สุด
พอได้ยินคําพูดของเขา, ดาร์คเอลฟ์ก็หยุดไล่ตามในทันที ส่วนนึ่งไปเปิดประตูเมืองในขณะที่ส่วนใหญ่ทําหน้าที่เก็บศพ พวกเขาลากศพมาวางเป็นทางเดิน, แล้วสร้างกําแพงกั้นอย่างง่ายๆ
ในขณะที่ดาร์คเอลฟ์กําลังยุ่งอยู่, กองทัพแห่งแสงก็ถอยไปหมดแล้ว พวกปีศาจเองก็กลับไปที่ปาทมิฬ
ป้อมโอริด้า, ที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยเสียงฆ่าฟัน, ได้กลายเป็นสถานที่เงียบสงบเหมือนกับป่าช้า
“เห็นไหม?” โรแมนด์เย้ย “มนุษย์ไม่มีอุบายอะไรหรอก พวกมันแค่อยากเข้าไปซ่อนในป้อมเหมือนกับพวกหนู”
ลอนเดลยังกังวลอยู่แต่พอเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวหรือคลื่นเวทมนตร์ที่ผิดปกติ, เขาก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา เข้าพูดพร้อมกับพยักหน้า “ดูเหมือนว่าตอนนี้จะปลอดภัยอยู่นะ”
เด็กสาวผมดําตบมือแล้วหัวเราะ “ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีนะ ลอนเดล, พวกเราเป็นพันธมิตรกัน ข้าคงจะเสียใจถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเจ้าทุกคน”
รอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของเธอ ที่เธอพูดนั้นดูไม่เหมือนกับเมื่อสักครู่นี้ที่เธอสั่งให้พวกตัวเองถอย โดยไม่สนใจพันธมิตรของเธอเลย
แล้วลอนเดลจะพูดอะไรได้หล่ะ? เขายังคงเงียบอยู่
ในตอนนี้, ไม่มีใครในป่าทมิฬสังเกตเห็นว่าในป้อมโอริด้ามีคนๆนึงกําลังเดินผ่านทางเดินที่เต็มไปด้วยเลือดและศพ เขาเดินมาทีละก้าวพอมาถึงเนินที่สูงที่สุด, คนๆนั้นก็หยุด, แล้วจ้องมายังดาร์คเอลฟ์ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยฟุต
ในตอนแรก, มีดาร์คเอลฟ์แค่คนสองคนเท่านั้นที่เห็นเขา หลังจากที่ผ่านไปหลายวินาที, คทาก็ปรากฏขึ้นในมือซ้ายของคนๆนั้น ด้วยเสียงฟุบเบาๆ, บอลแสงก็ระเบิดออก
ตอนนี้, ดาร์คเอลฟ์ทุกคนเห็นเขาแล้ว
บางคนหยุดโดยไม่รู้ตัวและมองไปที่เด็กหนุ่มชาวมนุษย์ผมดําคนนี้อย่างเงียบๆ มีหลายคนที่รู้สึกสับสน, พวกเขาไม่มั่นใจว่ากําลังจะเกิดอะไรขึ้น
ลิงค์ไม่ได้รีบร้อน ความเหนื่อยล้าของเขายังไม่ได้หายไปจนหมด, และร่างกายของเขาก็ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่นัก และด้วยความที่เป็นแบบนี้, เขาจึงยื้อเวลาด้วยการพูดสองสามประโยค
เขาตรวจสอบดูดาร์คเอลฟ์ทุกคน และในที่สุด, ดวงตาของเขาก็จดจ่อไปยังแม่ทัพลอร์ด เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หืม, แกนั่นเอง แกยังจําฉันได้อยู่ไหม?”
คิ้วของลอร์ดขมวดแน่น เขาได้พบกับมนุษย์ที่แสนคุ้นเคย -คุ้นเคยมากๆ โดยเฉพาะดวงตา เขาเคยเห็นดวงตาพวกนี้มาก่อนแน่ๆ เขาศึกษาลิงค์และความทรงจําก็ค่อยๆถูกเรียกกลับมา
เมื่อหนึ่งปีกับอีกครึ่งปีที่แล้ว, เขาเคยนํากองทัพไปโจมตี แกลดสโตน ที่นั่นก็มีเด็กหนุ่มผมดําเหมือนกัน, แต่ตัวผอมก ว่านี้มาก, เด็กหนุ่มคนนั้นเคยขับไล่เขาออกจากกําแพงเมือ งด้วยเวทย์ไฟเพียงบทเดียว ในตอนนั้น, เด็กหนุ่มคนนั้นสวม ผ้าคลุมธรรมดาของนักเวทย์ฝึกหัด เขาผอมมากจนมันดูเห มือนกับว่าแค่ถูกลมพัดก็ปริวแล้ว
ส่วนชายที่อยู่เบื้องหน้าเขาในตอนนี้ดูกํายํากว่าและมี ใบหน้าที่กลมกว่า เขาสวมผ้าคลุมสั้นคุณภาพดีที่มีแค่จอมเวทย์เท่านั้นที่สามารถสวมได้ แต่ดวงตาคู่นั้น-ดวงตาที่เยือกเย็นและนุ่มลึก…พวกมันยังคงเหมือนเดิม
ก่อนที่ลอร์ดจะจําได้อย่างเต็มที่, ดาร์คเอลฟ์คนนึงก็นึกหน้าลิงค์ได้แล้วส่งเสียงร้องออกมา, “มันนั่นเอง! มันคือผู้สังหารปีศาจ!”
เสียงนั้นได้เตือนใจลอร์ดเหมือนกับฟ้าผ่า ความเดือดดาลลุกโชนออกมาจากก้นบึงในหัวใจของเขาเหมือนกับลาวา, และดวงตาของเขาก็มีเส้นเลือดขึ้น!
“ข้าจําได้แล้ว!” เขากําดาบสีแดงเลือดของเขาแล้วตั้งท่าต่อสู้ “เมื่อหนึ่งปีก่อน, เจ้าเคยหยุดข้าจากการโจมตีแกลดสโตน ในตอนนั้น, เจ้ามีกําลังเสริมมากมาย, และมีเจ้าหญิงปีศาจคอยช่วยเหลือเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าตัวคนเดียว เจ้าจะหยุดนักรบที่กล้าหาญ 40,000 คนของข้าได้ยังไงกัน?”
ลิงค์หัวเราะเบาๆ “โห, มั่นใจจังเลย พวกเราเจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว, และทั้งสองครั้งนี้, แกเป็นคนโจมตีเมืองส่วนฉันก็เป็นคนปกป้อง แต่เมื่อตอนนั้น, ฉันเป็นแค่มือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเรียนเวทมนตร์ ส่วนตอนนี้แกมาลิ้มลองด้วยตัวเองแล้วกัน!”
ในตอนที่เขาพูดจบ, เวทย์แสงที่ปลายคทาก็กลายเป็นลูกบอลคริสตัลสีแดง ด้วยเสียงฟู่ว, บอลก็ขยายออกกลายเป็นแส้ มันคือแส้ผู้สังหารปีศาจ!
มันลอยออกไปหลายร้อยฟุตในทันที่ที่มันปรากฏขึ้นมัน ไปถึงตัวลอร์ดในทันที แสงทะลุทะลวงพุ่งออกมาจากปลาย,และพันรอบหัวของลอร์ด
การโจมตีนี้กระทันหันเกินไป ขนที่หลังคอของลอร์ดลุก เขาหดหัวลงแล้วเหวียงดาบ
เกร๊ง! เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ดาบโลหิตของลอร์ดโจมตีโดนแต่มันก็ไม่สามารถขัดขวางได้ ดาบหลุดมือของเขาไป
ลิงค์เป็นนักเวทย์มังกรเลเวล 8 ด้วยการสนับสนุนของคฑาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์, แส้ผู้สังหารปีศาจจึงไปถึงเลเวล 9 ซึ่งลอร์ดนั้นยังมีเลเวลแค่ 7, ความแตกต่างมีมากเกินไป เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลิงค์
แส้ได้ปัดดาบโลหิตออกไปแต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มันฟาดใส่หน้าของลอร์ด ด้วยเสียงฟู่ว, หัวของลอร์ดก็ระเบิด ร่างของเขากระเด็นไปข้างหลังและทรุดลงไปที่กําแพง!
นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีนักสู้ที่แข็งแกร่งอยู่ที่นี่ เมียสเมอร์, ไอมอนส์, หรือแม้กระทั่งเทวดาตกสวรรค์ที่เคยบังคับให้ลิงค์ต้องหนีอย่างทุลักทุเล, ตอนนี้คนพวกนี้ได้ตายไปหมดแล้ว
ลิงค์ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าพวกเขา, แต่เขายังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นนักสู่ที่เก่งที่สุดในสนามรบไปโดยปริยาย
ลอร์ดเป็นผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุดของดาร์คเอลฟ์ ขนาดกลูยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่เขากลับถูกฆ่าในทันที ดาร์คเอลฟ์ที่เหลืออยู่ทุกตัวมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วน
ในป่าทมิฬที่ไกลออกไป, ดวงตาของโรแมนด์เบิกกว้าง “จุดสูงสุดของเลเวล 8.นั่นมันหรอ? มันยังมีแรงเหลืออยู่ได้ยังไงกัน?”
ลอนเดลก็ตัวสั่นเหมือนกัน “คนๆเดียวจะเผชิญหน้ากับทั้งกองทัพได้ยังไง?”
เด็กสาวผมดําหัวเราะ “หืม, ดูเหมือนว่าความกังวลของข้าจะเป็นเรื่องจริงสินะ ข้าอยากเห็นจังว่ามันใช้เวทมนตร์แบบไหน หรือว่าจะเป็นเวทย์ระดับตํานาน?”
ในตอนที่เธอพูดแบบนั้น, ใบหน้าของโรแมนด์กับลอนเดลก็ซีดเผือด ลิงค์เคยใช้เวทย์ระดับตํานานมาก่อน ไอมอนส์ได้พิสูจน์เรื่องนี้มาแล้วและเคยพูดมาก่อนว่าบาดแผลมากมายที่ปรากฏขึ้นบนร่างของเขาเป็นเพราะมัน
เวทย์ลึกลับแบบนี้ไม่ได้ถูกใช้กันบ่อยๆ ลิงค์ไม่ได้ทําอะไรมากในการต่อสู้ก่อนหน้านี้, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้กังวล แต่ตอนนี้, ลิงค์ปรากฏตัวออกมาด้วยตัวเอง สถานการณ์มันแปลก
โรแมนด์กับลอนเดลมองหน้ากัน หรือว่าเจ้าหญิงปีศาจจะพูดถูก?