Advent of the Archmage - ตอนที่ 333: แมวดำที่ไม่มีความซื่อสัตย์
พวกมนุษย์สัตว์นั้นทุ่มสุดตัวจริงๆในการต่อสู้กับมังกรอันน่ากลัวนี้ ขุนศึก 2 คนถูกส่งมายังสนามรบ โดยมีขุนศึกฟ้าแยกโฮลุน และขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์ อวาตาร์ แถมยังมีหมอผีระดับสูงมาด้วยอีกห้าคน มันมีข่าวลือว่าชนเผ่ามนุษย์สัตว์ได้ส่งหมอผีระดับสูงออกมาครึ่งนึงเพื่อภารกิจนี้เลย
นอกจากพวกที่แข็งแกร่งแล้ว ก็มีอัศวินระดับสูงอีก 2,000 คน จุดประสงค์หลักของพวกเขาคือการป้องกันพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งไม่ใช่การต่อสู้กับมังกรระดับตำนาน
ลิงค์มองเห็นขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์ อวาตาร์อย่างรวดเร็ว
เขานั้นมีอายุพอๆกับโฮลุน ประมาณ 35 ปี เขาถักผมของเขาอย่างเรียบร้อยและดูเหมือนว่าจะทำตัวสงบเสงี่ยมกว่าโฮลุน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีลักษณะเด่นที่ชัดเจน เขาถือค้อนสงครามไว้ข้างๆ มีเปลวเพลิงสีแดงแผ่ออกมาจากค้อนสงครามเป็นบางครั้ง นี่คือพลังของธาตุไฟ
อวาตาร์นั้นเป็นคนไม่ค่อยพูด เขาไม่ได้เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและอารมณ์ฉุนเฉียวแบบโฮลุน เขาแค่ทำความเคารพเล็กน้อยในตอนที่เห็นลิงค์และพูด “ยินดีที่ได้พบนะครับท่านลอร์ดแห่งพื้นที่รกร้างเฟิร์ด”
เห็นได้ชัดว่าเขาทำการบ้านมาดีและรู้จักตัวตนของลิงค์ ซึ่งนี่มันดีกว่าโฮลุนเยอะเลย
เพื่อเป็นการแสดงมารยาทแก่เขา ลิงค์จึงทำการทักทายคืนอย่างเคารพพร้อมกับพูดออกมา ”ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับคุณนะครับ อวาตาร์”
อวาตาร์เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในชนเผ่ามนุษย์สัตว์ เขามีท่าทีของความเป็นผู้ใหญ่ที่หาไม่ได้ในมนุษย์สัตว์คนอื่น ภายในเกมเขาเป็นคนที่รวบรวมชนเผ่ามนุษย์สัตว์ที่แตกแยกกันให้เป็นปึกแผ่นและกลายเป็นราชาของอาณาจักรมนุษย์สัตว์แห่งใหม่
หลังจากนั้นเขาก็ได้ต่อต้านความต้องการของผู้คนของเขาและได้เปลี่ยนมุมมองของพวกเขาในสายตาของเผ่าพันธุ์อื่น จากนั้นเขาก็ได้นำมนุษย์สัตว์มาเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรเพื่อต่อสู้กับกองกำลังปีศาจ
และเขาเองก็เป็นมนุษย์สัตว์คนแรกที่ได้รับพลังระดับตำนานและในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายแห่งแสงด้วย
ในตอนที่โฮลุนตาย อวาตาร์นั้นได้เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการของกองทัพพันธมิตร เขานำกองทหารที่แข็งแกร่งกว่า 70,000 นายไปต่อสู้กับกองทัพปีศาจที่แข็งแกร่งกว่า 60,000 ตัว และก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับทั้งสองฝ่าย
เขาได้เสียชีวิตในตอนที่ต่อสู้กับโนโซม่า แต่การฆ่าเขานั้นโนโซม่าก็ต้องสูญเสียไปมากเหมือนกัน แขนซ้ายของโนโซม่าหัก และซี่โครงของเขาก็โดนค้อนสงครามฟาดเข้าไปเต็มๆ ซึ่งนี่ทำให้เขาต้องถอยกลับไปที่ป้อมปีศาจของเขา
มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เล่นบางคนได้เข้าไปทำภารกิจยึดป้อมปีศาจและได้ต่อสู้กับโนโซม่า
มันอาจจะพูดได้เลยว่าลิงค์ไม่สามารถฆ่าลอร์ดแห่งความมืดในตอนที่เขามีพลังเต็มที่ได้ เหตุผลที่ทำให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จได้นั้นเกิดจากการเสียสละของผู้แข็งแกร่งหลายคนก่อนหน้าพวกเขา
หลังจากเหตุการณ์นั้น ลิงค์ก็เคารพมนุษย์สัตว์คนนี้อย่างถึงที่สุด
หลังจากนั้น ลิงค์ก็ไปพบกับพวกหมอผีระดับสูง หลังจากที่พวกเขารู้จักกันพวกเขาก็ออกเดินทางในทันที
พวกมนุษย์สัตว์ไม่รู้ที่อยู่ที่แน่นอนของอิเซนดิลัน พวกเขาทำได้แค่กลับมายังสนามรบเพื่อหาเบาะแส
ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี แต่ว่าลิงค์รู้ที่อยู่ที่แน่นอนของอิเซนดิลัน แบบเฉพาะเจาะจงด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะแมวดำได้บอกข้อมูลกับเขา
อีโลดิมกระซิบข้างหูของลิงค์ในขณะที่พวกเขาเดินทาง “ไปทางทะเลสาบคริสตัลบลู อิเซนดิลันน่าจะพักรักษาตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวๆนั้น มีมังกรอยู่ข้างเขา 2 คนและสัตว์มังกรอีกมากกว่า 20 ตัว แถมยังมีมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งอีก 1,000 ตัวคอยปกป้องเขาอยู่ด้วย”
“แกรู้ทั้งหมดนี้ได้ยังไงกัน?”ลิงค์กระซิบถาม
“ข้าไปพบเขามาหลายครั้งแล้ว ข้าค่อนข้างมั่นใจในเรื่องความแข็งแกร่งของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเพิ่งจะเจอกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน เขากำลังมีปัญหาอย่างใหญ่หลวงอยู่เลย หน้าอกของเขาเปิดออกอย่างเต็มที่ ข้าคิดว่าเขาน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการรักษาตัวนะ “ดูเหมือนว่าอีโลดิมจะทิ้งความหยิ่งทะนงของเขาให้กับอาหารอร่อยๆ เขาได้แฉอิเซนดิลันจนหมดเปลือก
“เข้าใจแล้วหล่ะ” ลิงค์ได้รับเจตคติใหม่กับแมวดำตัวนี้ นับจากนี้ไปเขาจะต้องคอยสังเกตุทุกการกระทำของอิโลดิมอย่างระมัดระวัง
ลิงค์ไม่สามารถบอกข้อความพวกนี้ได้โดยตรง จากนั้นเขาก็คิดอยู่พักนึงก่อนที่จะไปหาอวาตาร์ ขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์มีชื่อเสียงที่ดีและเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้เป็นผู้บัญชาการของภารกิจนี้
“ลอร์ดแห่งมนุษย์ ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไรรึ?” อวาตาร์พูดด้วยลักษณะเหมือนกับนักกวี เขานั้นระวังตัวมากตลอดการเดินทางนี้ ที่ถนนทุกเส้น เขาจะส่งมนุษย์สัตว์ไปลาดตระเวนบริเวณรอบๆก่อน และจะเดินทางก็ต่อเมื่อมั่นใจแล้วว่ามันปลอดภัย
ในสังคมของมนุษย์สัตว์ไม่มีโรงเรียนสอนนักรบและก็ไม่มีคนที่มีความรู้พอที่จะสืบทอดด้วย มันเป็นพรสวรรค์ของเขาล้วนๆที่ทำให้อวาตาร์มีทักษะสงครามถึงระดับนี้ได้
“เวทมนตร์ของผมบอกว่าอิเซนดิลันอยู่ที่ทะเลสาบคริสตัลบลู พวกเราต้องไปที่นั่น”
“ท่านมั่นใจนะ?”อวาตาร์ถามอย่างไม่เชื่อ
“ผมมั่นใจ”
โฮลุน ที่ยืนอยู่ข้างๆพยักหน้าแล้วพูด “มาสเตอร์นั้นแข็งแกร่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของเขา พี่น้องของข้าก็คงจะตายไปหมดแล้ว”
หลังจากที่เงียบไปพักนึง อวาตาร์ก็เลือกที่จะเชื่อลิงค์ เขาตะโกนเสียงดัง “พวกเราจะไปทางนี้กัน”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ข้อความภายในเกมก็ปรากฏขึ้นบนทัศนวิสัยของลิงค์
ชุดภารกิจระดับอีพิคขั้นที่ 3 : เกลี้ยกล่อมเสร็จสิ้น
ผู้เล่นได้รับค่าโอมนิ 50 แต้ม
ภารกิจขั้นที่4: ปราบมังกร!
รายละเอียด 1: จัดการลูกน้องของอิเซนดิลันและขัดขวางไม่ให้เขาชุบชีวิตพวกมัน
รายละเอียด 2: จัดการอิเซนดิลัน
รางวัล 1: ผู้เล่นจะได้รับค่าโอมนิ 100 แต้มต่อลูกน้องที่จัดการได้หนึ่งตัว
รางวัล2: หากฆ่าอิเซนดิลันได้ ผู้เล่นจะได้รับคัมภีร์แห่งความรู้ของไบรอัน
ลิงค์เลือกที่จะรับเควส
เขามีคัมภีร์แห่งความรู้อยู่หนึ่งเล่มแล้วซึ่งเขาได้ทำความเข้าใจมันจนหมดแล้ว มันสามารถเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานาของเขาได้เป็นสองเท่า ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูทรงพลัง แต่จริงๆแล้วมันคือคัมภีร์ที่กากที่สุด คัมภีร์เล่มอื่นๆนั้นแข็งแกร่งกว่าเล่มนี้ ถ้าเกิดไม่ใช่ความจริงที่ว่าเขาไม่มีเวลา เขาก็คงจะจัดภารกิจตามหาพวกมันแล้ว
ไม่คิดเลยว่าระบบเกมนั้นจะให้คำภีร์เล่มนึงกับเขาเป็นของรางวัล
หลังจากผ่านไปซักพัก ลิงค์ก็พูด “เวทย์ของผมบอกว่าอิเซนดิลันนั้นมีลูกน้องคอยปกป้องเขาอยู่มากมาย มีทั้งมังกรแดง สัตว์มังกรและมีแม้กระทั่งกลุ่มมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งกลุ่มใหญ่ด้วย เพราะฉะนั้นระวังตัวให้ดีหล่ะ”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของท่านนะ” อวาตาร์พูดพร้อมกับพยักหน้าแล้วเดินทางไปด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่
2 ชั่วโมงต่อมา หน่วยลาดตระเวนก็ได้ชี้ไปบนฟ้าแล้วพูด “ดูนั่น มีมังกรอยู่บนฟ้าด้วย!”
ทุกคนมองขึ้นฟ้าและเห็นเงาเบลอๆลอยอยู่บนฟ้า เฟลิน่าเป็นคนเดียวที่เห็นได้อย่างชัดเจน “นั่นคือสัตว์มังกร มันมีความแข็งแกร่งอยู่ที่เลเวล 6 ดูจากสภาพของมันแล้ว มันน่าจะเป็นหน่วยลาดตระเวนที่อิเซนดิลันส่งมานะ”
อวาตาร์ขมวดคิ้วในทันทีแล้วพูด “นี่เป็นการบอกว่ามันรู้ถึงการมาของพวกเราแล้วใช่ไหม?”
ลิงค์พยักหน้าและพูด “มังกรมีสายตาดียิ่งกว่านกอินทรี ไม่มีทางที่พวกมันจะมองไม่เห็นพวกเราหรอก”
อวาตาร์หยิบค้อนสงครามที่อยู่ที่หลังของเขาออกมาในทันทีและตะโกน “เตรียมต่อสู้!”
อัศวินขั้นสูงนั้นอยู่ห่างกันในตอนแรก ยังไงก็ตาม หลังจากที่มีคำสั่ง พวกเขาก็มาต่อแถวกันและตื่นตัวเต็มที่ มันเป็นเครื่องช่วยยืนยันว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในฐานะลูกน้องของอวาตาร์ และมันก็ยังเป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนในเรื่องความเก่งกาจของเขาในด้านการบัญชาการด้วย
ถึงแม้ว่าการจัดแถวที่เป็นระเบียบจะมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ธรรมดา แต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดนักในการสู้กับมังกรที่สามารถโจมตีเป็นวงกว้างได้ด้วยลมหายใจมังกร หลังจากนั้นลิงค์ก็กระซิบ “การโจมตีด้วยลมหายใจมังกรนั้นทำความเสียหายเป็นวงกว้าง ถ้าเกิดว่าพวกเราจัดแถวแบบนี้ต่อไปหล่ะก็….”
ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบ อวาตาร์ก็เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้ว
เขายกค้อนสงครามขึ้นและตะโกน “กระจายตัวกันซะ!”
อัศวินระดับสูงกระจายตัวออกอย่างเป็นระเบียบ พวกเขาแต่ละคนอยู่ห่างกัน 45 ฟุต เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาถูกฝึกมาเป็นอย่างดีเพื่อภารกิจนี้
มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่อิเซนดิลันจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับลูกน้องของเขา ซึ่งคนที่นำหน้ามาก็คือธีออนและสัตว์มังกรอีก 20 กว่าตัวที่ด้านหลังเขา ส่วนโอริซ่าก็ถูกปกป้องอย่างดีอยู่ตรงกลางวงของสัตว์มังกร ในขณะที่อิเซนดิลันอยู่ด้านหลังสุดของกลุ่ม
และที่ภาคพื้นดินก็มีกลุ่มมนุษย์สัตว์ขนาดใหญ่ พวกเขามีประมาณ 1,000 คน
ก่อนหน้านี้ อิเซนดิลันได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการต่อสู้กับกองทัพมนุษย์สัตว์ ในครั้งนี้ เขาเลือกอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งจะต้องผ่านลูกน้องของเขาทั้งหมดก่อนจึงจะมาถึงตัวเขาได้
อิเซนดิลันมีกองทัพที่น่าเกรงขามจริงๆ อย่างน้อยก็สำหรับภายนอก พละกำลังของกองทัพของเขานั้นดูเหมือนจะสามารถจัดการกองทัพมนุษย์สัตว์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มมังกรที่บินอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาได้ยึดน่านฟ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว ทำให้พวกเขาได้เปรียบทางอากาศ
สีหน้าของอวาตาร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นกองทัพมหึมาและตะโกน “รูปแบบป้องกัน! หมอผี ใช้เวทย์เหินฟ้าซะ!”
หมอผีที่แก่เหมือนโครงกระดูกได้เดินออกมาพร้อมกับโทเท็มรูปหน้ามนุษย์ในมือของเขา เขาปักคทายาว 6 ฟุตลงบนพื้นดินและเริ่มเต้นรำอย่างบ้าคลั่งรอบๆคทาพร้อมกับร่ายเวทย์แปลกๆออกมาด้วย หลังจากนั้นเขาก็คำรามอย่างดุร้าย ทำให้เกิดแสงสีขาวห่อหุ้มพรรคพวกของเขาทุกคนที่อยู่ในสนามรบ แม้กระทั่งลิงค์ก็เช่นกัน
ลิงค์พบว่าเขานั้นถูกห้อมล้อมด้วยเวทย์ลมพายุ และในเวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็รู้สึกว่าตัวเขาเบามาก จากนั้นเขาก็ลองก้าวเดินดูและพบว่าเขาสามารถเดินไปได้ 9 ฟุตโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย
“เป็นพลังที่สะดวกจริงๆ” ลิงค์สามารถบอกได้เลยว่าพวกอัศวินระดับสูงมีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก ในตอนที่พวกเขาวิ่ง เงาของพวกเขาก็จะเกิดขึ้นในจุดที่พวกเขาเคยอยู่
ขุนศึกฟ้าแยกโฮลุนได้หยิบขวานใหม่ของเขาออกมาและตะโกนอย่างกระตือรือร้น “555 ข้าจะฆ่าพวกกิ้งก่ายักษ์ทิ้งให้หมดด้วยอาวุธของข้า!”
จากนั้นอวาตาร์ ก็เริ่มทำการเตรียมการอย่างเป็นระบบ “โฮลุน พาพวกอัศวินระดับสูงไปสู้กับพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งซะ ข้าต้องการให้เจ้าจัดการพวกมันให้ได้ภายในเวลา10นาที!”
พวกเขาได้เปรียบจากการที่มีอัศวิน 2,000 คนและขุนศึกเลเวล 9 หนึ่งคนต่อมนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง 1,000 คน
“ไว้ใจข้าได้เลย!”
“ฮาเลอร์ เมอร์ซ่า เดลต้า พวกเจ้าช่วยข้าจัดการกับพวกมังกรที่อยู่บนฟ้าที”
“รับทราบ” หมอผีทั้ง 5 พยักหน้าในตอนที่ขานรับ
ลิงค์อึ้งจนพูดไม่ออกกับการเตรียมการนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นขุนศึกเลเวล 9 แต่การจัดการกับมังกรทุกตัวที่อยู่บนฟ้าด้วยคนเพียงแค่ 6 คนมันก็ดูบ้าบิ่นเกินไป แถมในกลุ่มนี้ยังมีแม้กระทั่งมังกรระดับตำนานรวมอยู่ด้วย เขาจะต้องมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากแน่ๆ
ยังไงก็ตาม ลิงค์เองก็รู้ว่าอวาตาร์ไม่มีทางเลือกนอกจากทำอย่างนี้ ก่อนที่อวาตาร์จะขอให้เขาช่วย ลิงค์ก็พูด “ผมจะจัดการกับพวกสัตว์มังกรเอง คุณสนใจแค่พวกมังกรแดงก็พอ”
มีสัตว์มังกรอยู่ประมาณ 20 ตัวในท้องฟ้า และพวกมันก็แยกตัวอยู่ห่างกัน พวกมันมีเลเวล 6 และรวดเร็วมาก มันจะลดความกดดันลงไปได้มากถ้าเกิดว่าลิงค์ช่วยจัดการกับพวกตัวเล็กๆเจ้าปัญหานี้ได้ จากนั้นอาวาตาร์ก็พยักหน้าให้เขาด้วยความขอบคุณ
ด้วยการใช้ประโยชน์จากช่วงที่การต่อสู้ยังไม่เริ่มขึ้น ลิงค์ก็หันไปพูดกับเฟลิน่า “หลังจากนี้ให้เธอเป็นคนจัดการกับพวกสัตว์มังกรนะ อยู่ห่างๆกับอิเซนดิลันเอาไว้ด้วยหล่ะ”
“เข้าใจแล้ว”
“นานะ พาแมวไปกับเธอและช่วยโฮลุนจัดการพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งซะ พยายามจัดการพวกมันให้หมดภายใน 5 นาทีนะ โฮลุนจะได้ไปช่วยจัดการกับอิเซนดิลันต่อ”
“รับทราบค่ะ” นานะจ้องไปที่แมวดำที่อยู่ในมือของเธอ หลังจากที่คิดอยู่พักนึง เธอก็เอาแมวดำยัดเข้าไปในร่องอกก่อนที่จะจัดชุดเกราะหนังของเธอให้แน่นขึ้น
“นี่ ปล่อยข้านะ! เดี๋ยวข้าก็ตายจากความเร็วเคลื่อนที่ของเจ้าหรอก!” แมวดำดิ้นอย่างต่อเนื่อง พยายามที่จะหนีจากนานะ
“เจ้าแมวน้อยน่ารัก นานะจะคอยระวังนะ ไม่ต้องกังวลหรอก” นานะลูบหัวของเอโลดิมเบาๆเพื่อปลอบเขาก่อนที่จะยัดกลับเข้าไปในชุดเกราะของเธอ
จากนั้นแมวดำก็ยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจ
ในอีกด้านนึง อิเซนดิลันไม่ได้มีแผนอะไร สายตาของเขาจ้องไปที่คนๆเดียวตลอดเวลา เขาจ้องมาที่ลิงค์และพูด “เจ้าตัวกระจ้อย ข้าตามหาเจ้าไปทั่วเลยนะ!”
นักเวทย์ชาวมนุษย์คนนี้ไม่เพียงแค่ทำลายเวทย์ชุบชีวิตของเขาเท่านั้นแต่ยังทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสด้วย ดังนั้นเขาจึงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง
เขามองไปที่ลิงค์แค่คนเดียว
ส่วนเรื่องแมวดำงั้นเหรอ? อีโลดิมนั้นอยู่ไกลเกินไปและไม่มีความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น นานะได้ยัดอิโลดิมเข้าไปในเกราะของเธอ ทำให้เขาหายากยิ่งกว่าเดิม และเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ จึงดูเหมือนว่าอิเซนดิลันจะละทิ้งรายละเอียดที่สำคัญเหล่านี้ไป
…
“บุก!” ขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์อวตาร์ตะโกน
เขาชี้ขวานรบไปยังมนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง อัศวินหมาป่าระดับสูงเริ่มเหวี่ยงอาวุธของพวกเขาและพุ่งไปหามนุษย์สัตว์บ้าคลั่งในทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาด้วย
ขุนศึกฟ้าแยกโฮลุนขี่หมาป่าสีขาวอยู่ เขาอยู่หน้าสุด, และเสียงของเขาก็ดังที่สุด “มาสู้กันสิ! ไอพวกแมลงสาป, เอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้าของข้าไปกินซะ!”
โฮกก! มังกรบนฟ้ากระจายตัวกัน พวกเขาบินลงมา, และเล็งไปที่อัศวินหมาป่าที่อยู่ข้างล่าง
พวกทหารระดับสูงนั้นมีเลเวลเฉลี่ยอยู่ที่ 4 และบางคนก็มีเลเวล 5 สำหรับคนทั่วๆไปนั้น, นี่ก็ถือว่าแข็งแกร่งมากๆแล้ว แม้กระทั่งมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งก็ยังแข็งแกร่งกว่าพวกเขาแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม, พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับมังกรอันแข็งแกร่งที่มีเลเวลอย่างน้อย 6 ได้
ลิงค์เองก็ขี่หมาป่าอยู่, ,และกำลังไล่ตามอัศวินหมาป่า พอเห็นว่ามังกรกำลังจะพุ่งมาหาพวกเขา, เขาก็ชี้คทาขึ้นฟ้า “ผู้สังหารปีศาจ!”
ฟู่ว! แส้สีแดงปรากฎขึ้นในอากาศเบื้องหน้าเขา เหมือนกับอสรพิษเพลิง, มันขยายตัวไปหลายฟุตในทันที, และพุ่งไปหามังกรตัวนึงด้วยความเร็วแสง
มีแสงตัดผ่านท้องฟ้า จากนั้นก็มีเสียงร้าวอันน่ากลัว มังกรตัวนั้นถูกโจมตีที่กลางอก นี่เป็นเวทย์เลเวล 8 มังกรเลเวล 6 จะรับมันได้ยังไงหล่ะ? มันระเบิดตายกลางอากาศ!
ฝนเลือดเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้า แต่นี่ก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
แส้สีแดงนี้เหมือนกับเสียงเพรียกแห่งความตายจากพระเจ้า มันนเคลื่อนไหวตามปราถนาในระยะ 300 ฟุต มีมังกรสี่ตัวอยู่ใกล้ๆ ซึ่งพวกมันทุกตัวก็ระเบิดในเวลาสามวินาที
ลิงค์ไม่ได้อยู่กับที่ เขาควบคุมหมาป่าไปซ้ายทีขวาที, และวิ่งไปทุกที่ที่มังกรกำลังจะโจมตีอัศวินหมาป่า ก่อนที่มังกรจะลงมาถึง, แส้มฤตยูก็ไปถึงตรงนั้นแล้ว
ตูม, ตูม, ตูม! มีมังกรอีกสามตัวระเบิดเป็นชิ้นๆ
มังกรต่างก็ส่งเสียงร้องออกมา พวกมันโฉบขึ้นฟ้าและไม่กล้าลงมาที่พื้นอีก นักเวทย์ที่อยู่ข้างล่างนั่นน่ากลัวเกินไป! เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที, แต่พวกเขาก็ตายไปครึ่งนึงแล้วในขณะที่นักรบหมาป่ายังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้!
อวาตาร์จดจ่อสายตาอยู่กับอิเซนดิลันและมังกรยักษ์อีกสองตัว จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองไปที่สนามรบ และพอเห็นภาพนี้, เขาก็รู้สึกโล่งอก
มังกรบนฟ้านั้นไม่ใช่ภัยคุกคาม, และลูกน้อยของเขาก็ตายไปแค่นิดเดียว นักเวทย์มนุษย์คนนี้นี่เหมาะสมกับชื่อเสียงที่ได้มาจริงๆ นี่มันยอดเยี่ยมมาก
ในอีกด้านนึง, อิเซนดิลันเริ่มหมดความอดทนแล้ว “พวกเจ้าทั้งสอง” เขาพึมพำ “ไปดึงดูดความสนใจของนักเวทย์คนนั้นซะ ข้าจะร่ายเวทย์แล้ว”
เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ศัตรูที่มีนั้นรวมถึงนักสู้เลเวล 9 สองคน, หมอผีระดับสูงห้าคน, นักรบมังกรเลเวล 8 หนึ่งคน, และหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่ออีกหนึ่งตัวด้วย
ในการเผชิญหน้ากับศัตรูเหล่านี้, แม้กระทั่งอิเซนดิลันก็สามารถพ่ายแพ้ได้จากความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยถ้าเขาพยายามจะต่อสู้โดยตรง แต่ก็โชคดีที่, เขามีอีกวิธีนึง ในตอนที่ธีรอนกับโอลิซ่าพุ่งไปหาลิงค์, อิเซนดิลันก็กระพือปีกของเขาและบินสูงขึ้น ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็อยู่ที่ความสูง 3,000 ฟุต พลังของมังกรระดับตำนานนั้นเริ่มแผ่ซ่านในตัวเขา
มีแหวนคริสตัลสีแดงห้อมล้อมรอบตัวเขา, เกิดเป็นวงแหวนยาว 300 ฟุต คลื่นพลังอันน่าหวาดกลัวหลั่งไหลออกมาจากแหวนแสงอย่างต่อเนื่อง และชั้นหมอกหนาสีแดงที่เหมือนกับสายฟ้าก็ปรากฎขึ้น พวกมันเพิ่มจำนวนและกระจายไปทุกทิศทาง
ท้องฟ้าทั้งหมดเริ่มเปลี่ยนสี รัศมีสีแดงเข้มกระจายไปทั่ว, และปกคลุมเป็นระยะหลายไมล์ เมฆสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าพวกมันกำลังลุกไหม้
ภาพนี้มันราวกับจุดจบของโลก มีเสียงดังมาจากข้างใน “เจ้าพวกมนุษย์, จงหมอบคลานด้วยความหวาดกลัว! และริ้มรสเพลิงมังกรสิ้นโลกซะ!”
นี่คือเทคนิคการต่อสู้ของเขา มันง่ายและรุนแรงมากๆ!
ไม่ว่าศัตรูจะมีเยอะแค่ไหนหรือเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งเพียงใด, เขาก็แค่จำเป็นต้องใช้ข้อได้เปรียบจากความสามารถบินของเขาและร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์อันสุดยอดนี้ จากนั้นโลกก็จะตกอยู่ในความเงียบ
ที่พื้น, ทุกคนหยุดต่อสู้และมองขึ้นไปด้วยความสับสน
ธีรอนกำลังจะตะครุบลิงค์ แต่พอเห็นเวทย์นี้, เขาก็ตัวแข็งทื่อและถามโอลิซ่า, “พวกเราจะตายจากเวทย์ของท่านดยุคด้วยใช่ไหม?”
โอลิซ่าพยักหน้า “หลังจากใช้เวทย์นี้, นอกจากเขา, ก็จะไม่มีใครรอดอีก…แต่เขาจะชุบชีวิตพวกเราอย่างแน่นอน”
พอได้ยินแบบนี้, ธีรอนก็ไม่รู้สึกกลัวอีก เขาพุ่งไปหาลิงค์ต่อ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่กลัว, แต่มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งและมังกรที่บินอยู่ต่างก็รู้สึกตื่นกลัว พวกเขาไม่ได้รับการชุบชีวิต ถ้าพวกเขาตาย,พวกเขาก็จะตายจริงๆ ดยุคพร้อมที่จะฆ่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัดแล้วพวกเขาจะสู้ต่อไปทำไมหล่ะ?
พวกเขาพากันหันหลังหนี
ที่ฝั่งของอวาตาร์, เสียงของหมอผีระดับสูงคนนึงสั่นในขณะที่พูด “สถานการณ์ไม่ดีแลย มังกรตัวนั้นเป็นบ้าไปแล้ว เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของมันน่ากลัวจริงๆ มันสามารถทำลายทุกอย่างได้เลย!”
ในฐานะนักสู้เลเวล 9, อวาตาร์เองก็รู้สึกได้ถึงอันตรายร้ายแรง มันแทบจะรู้สึกสิ้นหวัง; และที่สิ้นหวังยิ่งกว่าก็คือการที่ศัตรูอยู่บนฟ้าที่ความสูงสามพันฟุต เขาไม่สามารถตอบโต้ได้ด้วยซ้ำ
เขาทำได้แค่รอความตาย
โฮลุนเองก็หยุดฆ่า เขาชี้ขวานไปหาอิเซนดิลันที่อยู่บนฟ้าอย่างเดือดดาลและคำราม “ไอขี้ขลาด! เจ้ามันแมลงสาปโสโครก! ลงมาต่อสู้กับข้าสิ!”
“เจ้ามนุษย์, จงคุกเข่าซะ! จงสิ้นหวังซะ!” อิเซนดิลันจะไม่ลงมาอย่างเห็นได้ชัด เขาชอบความรู้สึกสงบก่อนการโจมตี
บนพื้น, นานะเองก็หยุดไล่ตามมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งเหมือนกัน เธอกลับมาหาลิงค์ เอามีดออกมา, แล้วชี้ไปที่หัวของแมวดำพร้อมกับถาม “นายท่าน, นานะควรฆ่ามันไหม?”
แมวดำดิ้นรนและในที่สุดก็โผล่หัวออกมาจากคอเสื้อของนานะ พอเห็นลิงค์, มันก็ขอร้อง “หยุดรอได้แล้ว ถ้าเจ้ามัวแต่รออยู่, เวทย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มาถึงพอดิสิ ทำลายมันซะ!”
ลิงค์ไม่มีทางเลือกอื่น ด้วยการชำเลืองมองนานะ, เขาก็พูดออกมา “ถ้ามันทำอะไรตุกติกก็จัดการทิ้งซะ”
“เร็วเข้าสิ! ข้าไม่ได้โกหกนะ!” ตอนนี้แมวดำรู้สึกผิดจริงๆ มันไม่ได้โกหกในครั้งนี้ ทำไมมนุษย์คนนี้ถึงไม่เชื่อมันนะ?
ลิงค์เอาคทาออกมาโดยไม่สนใจมัน เขาชี้คทาไปหามังกรที่อยู่บนฟ้าแล้วพูด, “พอรอทซัน แอคซิน่า ทัคค่า โมราต้า, ปลดล็อค!”
ครึ่งแรกนั้นเป็นชื่อ ถ้าให้เจาะจงกว่านี้, มันคือชื่อที่แท้จริงของแมวดำ
ชื่อที่แท้จริงของพระเจ้านั้นไม่ใช่แค่ชื่อ มันเก็บสัญญาและกฏอันเก่าแก่เอาไว้เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งการพูดชื่อที่แท้จริงนั้นก็คือการอัญเชิญพลังนั้น ส่วนประโยคสุดท้าย—ปลดล็อค—ก็คือการอัญเชิญชนิดของพลังอย่างเฉพาะเจาะจง
ประโยคของลิงค์เป็นเหมือนกับคำสาป มันหมายความว่า, ด้วยชื่อที่แท้จริงของพระเจ้า, ขออัญเชิญสัญญาเก่าแกมาปลดล็อคพลังบิดเบือนทั้งหมดในโลกนี้
ซึ่งเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของอิเซนดิลันก็ใช้พลังบิดเบือน
ในตอนที่ลิงค์พูดจบ, บอลแสงขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฎขึ้นที่ปลายคทาของเขา มันอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาครึ่งวินาทีก่อนที่ลำแสงบางๆจะยิงออกไป มันรวดเร็วมากๆ ในชั่วพริบตา, มันก็เลื้อยเข้าไปในรัศมีสีแดงเข้มรอบตัวอิเซนดิลัน
ในตอนนั้นเอง, หมอกสีแดงเหมือนกับสายฟ้าที่อยู่ในรัศมีก็ขยายไปทุกทิศทางเป็นระยะมากกว่า 1,000 ฟุต ท้องฟ้าเป็นสีแดงเข้มราวกับว่าจุดจบของโลกกำลังมาถึง
แต่ในตอนที่แสงสีขาวมุดเข้าไปข้างใน, ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไป
ตูม, ตูม!
สายฟ้าแตกระแหงในกลุ่มหมอกสีแดงในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, สายฟ้าสีขาวนับไม่ถ้วนก็กระจายไปตามหมอกสายฟ้าสีแดง, และสลายมันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผ่านไปสามวินาที, หมอกสีแดงก็หายไปจนหมด ในขณะเดียวกัน ท้องฟ้าสีแดงก็หายไปด้วย และฟ้าก็กลับมาสดใสอีกครั้ง
ในที่สุด, โล่ป้องกันสีแดงรอบตัวอิเซนดิลันก็หายไปเช่นกัน ข้างในนั้น, ชั้นสายฟ้าสีขาวกำลังห่อหุ้มอิเซนดิลันเอาไว้, ภายใต้สายฟ้า, อิเซนดิลันยังคงนิ่งเหมือนรูปปั้น
สภาพนี้คงอยู่เป็นเวลาพักนึง หลังจากนั้นร่างของเขาก็เริ่มร่วง
โฮลุนตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นมังกรร่วงลงมาโดยไม่มีเหตุผล นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่ว่าอวาตาร์เห็นมันอย่างชัดเจน เขาทั้งตกใจและมีความสุข “นักเวทย์มนุษย์เป็นคนทำ มันกำลังร่วงลงมา, และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะฆ่ามัน! ตามข้ามา!”
ธีรอนกับโอลิซ่าเองก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
“ทำไมท่านดยุคถึงไม่ขยับเลยหล่ะ?”
“นักเวทย์เป็นคนทำ ข้าไม่รู้เลยว่ามันใช้เวทย์อะไร!” ทั้งหมดที่โอลิซ่ารู้สึกก็คือความไม่เชื่อ พลังของท่านดยุคแข็งแกร่งพอที่จะทำลายทุกอย่างในระยะหลายไมล์ได้ แล้วทำไมมันถึงถูกเกลียวเชือกสีขาวทำลายได้หล่ะ?
นี่มันเวทย์อะไรกัน?
ตูม! อิเซนดิลันดิ่งกระแทกพื้นจากความสูงหลายพันฟุต
เขาร่วงลงมาในอัตราความเร็ว 500 ฟุตต่อวินาที เขาชนเข้ากลับพื้นหญ้านุ่มๆ, และนี่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่พอที่จะทำให้มังกรที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อตัวนี้บาดเจ็บได้ อย่างไรก็ตาม, สายฟ้าที่จำกัดการเคลื่อนไหวของเขาก็ไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์หลังจากที่ร่วงลงมา เขายังรู้สึกชาอยู่
“ข้าว่าแล้ว! ข้าว่าแล้วเชียวว่าไอนักเวทย์นั่นจะทำเสียเรื่อง! บ้าจริง!” อิเซนดิลันตะโกน เขากระพือปีก, พยายามที่จะบินอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม, ปีกของเขาได้รับบาดเจ็บและอ่อนแอมาก ด้วยการพยายามสุดแรง, เขาสามารถบินขึ้นได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้อวาตาร์มาถึงแล้ว ด้วยเวทย์ของหมอผีที่อยู่ในตัวเขา, อวาตาร์ก็ดูเปล่งประกาย มีบอลธาตุหลากสีหมุนอยู่รอบตัวเขาอย่างรวดเร็ซ ขวานต่อสู้ของเขาเหวี่ยงขวานไปที่ขาของอิเซนดิลันโดยไม่ลังเล “เจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้วหล่ะ!”
ขุนศึกฟ้าแยงโฮลุนเองก็มาถึงในเวลาแทบจะพร้อมกัน ในตอนที่เขาเห็นอิเซนดิลันร่วงลงมา, เขาก็รู้ว่านี่เป็นโอกาสหายากในการฆ่ามังกรตัวนี้ เขาเลิกสนใจมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งในทันทีแล้ววิ่งมาหา
“หึ, เจ้าแมลงสาป, เอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้าของข้าไปกินซะ!”
ก่อนที่เขาจะมาถึง, ก็มีเสียงฟุบดังขึ้น ร่างของเขาเริ่มส่องแสง นี่เป็นเสียงของหมอผีที่ร่ายเวทย์ใส่เขา
เทพแห่งเพลิงพิโรธ!
เทพแห่งพลังวายุ!
กระแสสายฟ้าคลั่ง!
โล่ปฐพี!
บาเรียโลหะ!
ในตอนที่โฮลุนเข้ามาใกล้อิเซนดิลัน, เขาก็เปล่งประกายอย่างเจิดจ้าเหมือนกับอวาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของหมอผีระดับสูง, พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก 50%
“ตายซะ!” เขาเหวี่ยงขวานไปที่ขาอีกข้างของอิเซนดิลัน, ในจังหวะที่แทบจะพร้อมกันกับการโจมตีของอวาตาร์
ในการเผชิญหน้ากับขุนศึกมนุษย์สัตว์สองคนนั้น, อิเซนดิลันไม่สามารถหยุดได้เลย และที่แย่ไปกว่านั้น, เขายังชาอยู่ เขาพยายามจะถอยด้วยพลังทั้งหมด ในขณะที่กำลังถอย, เขาก็เปิดใช้โล่ไปด้วย
พลังคริสตัลสีแดงห่อหุ้มเขา, เกิดเป็นโล่พลังมังกรหนาสองฟุต
ในจังหวะต่อมา, ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ขวานของโฮลุนโจมตีโดนโล่ก่อน ระเบิดแสงและพลังของธาตุต่างๆชนเข้ากับโล่ และในที่สุด, มันก็ระเบิดออกเหมือนกับดอกไม้ไฟอันสวยงาม
พลังของโฮลุนก็น่ากลัวเช่นกัน; แม้กระทั่งอวาตาร์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แถมเขายังได้รับขวานของลิงค์มาด้วย มันดูดซับพลังชีวิตจำนวนมหาศาลจากการฆ่ามนุษย์สัตว์บ้าคลั่งเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้, โฮลุนรู้สึกฟิตจนถึงขีดสุด ขวานได้ไปถึงระดับที่เขาไม่เคยไปถึงมาก่อนแล้ว
ด้วยการเพิ่มความช่วยเหลือของธาตุเข้าไป, เวทย์ของอิเซนดิลันก็ไม่สามารถหยุดขวานได้ มันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆในทันทที
ในอีกด้านนึง, อวาตาร์เห็นภาพนี้และตระหนักได้ว่าขวานนั้นสามารถทำลายโล่ได้ เขาจงใจลดความเร็วลงและโจมตีในจังหวะที่โล่แตก ซึ่งการโจมตีนี้ก็ไม่มีอะไรมาต้านทานเลย มันโดยอิเซนดิลันเข้าเต็มๆ
ตูม! ด้วยเสียงดังสนั่น, ขากว้างยี่สิบฟุตของอิเซนดิลันก็ถูกขยี้ เลือดและเนื้อสดๆกระจายไปทั่ว มีคลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพุ่งผ่านขาไป มันบิดเบี้ยวและเขาก็กลายเป็นคนพิการในทันที
อิเซนดิลันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด สายฟ้ารอบตัวเขาหายไปในที่สุด ความชานั้นเบาลงในขณะที่ความเจ็บปวดก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน
“ออกไปให้ห่างๆข้าซะ!” เขากระพือปีกอย่างเดือดดาล สายลมรุนแรงถูกพัดออกมา
อวาตาร์พลิกตัวในทันที เขานอนกับพื้น, และกำดินเอาไว้, ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกลมพัดปลิว แต่ว่าโฮลุนนั้นไม่ได้หลบมัน มันไม่ใช่ว่าเขาตอบสนองช้ากว่าอวาตาร์, แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่มีทักษะในการคาดการณ์ล่วงหน้า
เขาถูกพัดกระเด็นจากการโจมตีนี้ ที่กลางอากาศ, อิเซนดิลันอ้าปากกว้าง ลมหายใจมังกรออกมา, พุ่งตรงไปที่โฮลุน
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้, โฮลุนเปิดใช้ออร่าต่อสู้ทั้งหมดของเขาออกมาในทันทีเพื่อหยุดลมหายใจมังกร อย่างไรก็ตาม, ลมหายใจมังกรระดับตำนานนั้นแข็งแกร่งเกินไป ออร่าต่อสู้ของเขาถูกกลืนด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป, เขาก็คงจะถูกย่างทั้งเป็นในเวลาสองวินาที
นี่ข้ากำลังจะตายงั้นรึ? ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของเขา
ในจังหวะนั้นเอง, แสงสีขาวก็สว่างขึ้นรอบตัวเขาและหายไป ทันทีหลังจากนั้น, สภาพแวดล้อมรอบตัวโฮลุนก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ลมหายใจมังกรอันร้อนระอุหายไปแล้ว, และเขาก็อยู่ใต้อิเซนดิลัน เขาอยู่ตรงช่วงท้องของมังกร ภายใต้มัน, มีติ่งเนื้อขนาดสองฟุตห้อยอยู่ มันคือลูกป๋องแป๋งของมังกร
นี่คือโอกาสดี!
ความคิดของโฮลุนนั้นง่ายมาก เขาไม่สงสัยว่าทำไมจู่ๆเขาถึงมาอยู่ที่นี่ เขาคิดแค่ว่าเขาต้องทำมัน!