Advent of the Archmage - ตอนที่ 318: นี่เขาบ้าหรือเปล่า?
พอโทเดลรอนพูดจบ เงาสีแดงเข้มก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าเขา เงานั้นพุ่งเข้ามาในกลุ่มมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งและเริ่มทำการสังหาร!
มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับมนุษย์สัตว์ธรรมดา แต่ว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือนักรบมังกรแดงเลเวล 8 ที่มีร่างกายอันแข็งแกร่ง เกราะสีแดงเข้มที่มีพลังมังกรเข้มข้นของเธอนั้นเป็นเครื่องจักรสงครามที่ทัดเทียมกับปีศาจระดับสูงเลย!
มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งนั้นมีอยู่หลายคน พอถูกพวกมันล้อม การโจมตีบางส่วนก็โดนเฟลิน่า ยังไงก็ตาม พวกเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะโจมตีทะลุเกราะของเธอได้ มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งต้องการจะล้อมเธอ แต่ว่าเธอก็ตื่นตัวและรวดเร็วมาก มันจึงทำให้พวกเขาตามเธอไม่ทัน
และต่อให้พวกเขาตามเธอทัน เธอก็จะปล่อยออร่าต่อสู้ตัดอันทรงพลังออกมาในตอนที่พวกเขากำลังจะล้อมเธอ ทำให้แผนของมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งพังไม่เป็นท่า
แน่นอน พวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งนั้นกล้าหาญมากๆและไม่เคยถอยเลย พวกเขาคำรามและพุ่งเข้าใส่เฟลิน่า แต่ว่า, ใครก็ตามที่พุ่งเข้าไปนั้นจะต้องตาย พวกเขาตายกันไปทีละคนสองคน และภาพนั้นก็น่ากลัวมาก
มนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง 300 คนนั้นไม่เพียงพอที่จะหยุดเฟลิน่า บางทีน่าจะต้องมีซัก 1,000 คนถึงจะทำได้ก็ได้
โทเดลรอนจำเธอได้ในทันที “เฟลิน่า!” เขาคำราม “เจ้าอีกแล้วเหรอ!”
ในครั้งสุดท้ายที่สุสานไฮเอลฟ์นั้นเขาอาจจะจำนานะไม่ได้ แต่เขาสัมผัสถึงออร่าของเฟลิน่าได้ เธอเป็นคนทำลายแผนการทุกอย่างในครั้งที่แล้ว และตอนนี้ เธอก็มาที่นี่อีกครั้ง โทเดลรอนโกรธมาก เขาจับดาบเขี้ยวมังกรและพุ่งเข้าใส่เฟลิน่า
“จะไปไหน นานะเป็นคู่ต่อสู้ของนายนะ!”เสียงของนานะดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงระเบิดอากาศเกิดขึ้น
โทเดลรอนสัมผัสถึงจิตสังหารจากด้านหลังได้ในทันที หัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรง เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยง เขาใช้ดาบป้องกันในทันที
แกร๊ง เสียงระเบิดดังมากจนสัมผัสได้ เกิดคลื่นกระแทกสีขาวแผ่ไปทั่วทุกสารทิศ ในช่วงวินาทีสุดท้าย ดาบเขี้ยวมังกรของโทเดลรอนได้ป้องกันดาบของนานะทันเวลาพอดิบพอดี
ในตอนที่คลื่นกระแทกปรากฏขึ้น พ่อค้ามาโซสที่อยู่ในกลุ่มคนก็รีบปิดหูของเขาและไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังทหารรับจ้างที่อยู่ข้างๆ “ระวังด้วยนะ!” เขาพูด
การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายนั้นเป็นการต่อสู้ที่หาดูได้ยาก พลังของพวกเขามากเกินกว่าที่จะคำนวณได้ แม้กระทั่งคลื่นกระแทกที่เกิดจากการปะทะกันของพวกเขา, คนธรรมดาก็ยังไม่สามารถต้านทานได้เลย พวกเขาต้องหูหนวกแน่ๆถ้าเกิดว่าโดนมันอัดใส่
ในตอนที่คลื่นกระแทกกำลังจะอัดเข้าใส่มนุษย์สัตว์ธรรมดา เลนส์มิติครึ่งวงกลมก็ปรากฏขึ้นในอากาศ มันมีความกว้างเกือบ300ฟุตและสูง150ฟุต มันใหญ่มาก เหมือนกับโล่ยักษ์ มันปกคลุมมนุษย์สัตว์ธรรมดาทุกคนที่กระจุกกันเป็นกลุ่ม
ในเวลาต่อมา คลื่นกระแทกก็มาถึง มันปะทะเข้ากับเลนส์มิติ มีเสียงอู้อี้ดังขึ้น จากนั้นมันก็หายไป คลื่นกระแทกยังคงพุ่งเข้ามาต่อ แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
ทหารรับจ้างที่อยู่ข้างๆกับมาโซสปิดหูตามสัญชาติญาณ และเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ปล่อยมือลง มาโซสก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน เขามีความรู้มากและถอนหายใจออกมาในทันทีที่เห็นโล่อันนี้ “ดูเหมือนว่าพวกเราจะถูกช่วยเอาไว้นะ”
นี่คือเวทมนตร์หรอ ข้าไม่เคยเห็นโล่เวทมนตร์ที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย” ทหารรับจ้างพูด
“ข้าคิดว่าคำภาวนาของข้าได้ผลนะ เทพเจ้าแห่งแสงมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรา”
“นั่น ดูเด็กผู้หญิงคนนั้นสิ อายุพอๆกับลูกสาวของข้าเลย แต่ว่าเธอแข็งแกร่งมากๆ โห้ นี่มันสุดยอดไปเลย”
ทหารรับจ้างไม่ได้โง่ ถ้าเกิดว่านักรบคนนี้ไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นก็หมายความว่านี่เป็นการแย่งเหยื่อ ดังนั้นต่อให้คนที่มาใหม่ชนะมังกรแดงที่ชั่วร้ายได้ พวกเขาก็ยังไม่รอดอยู่ดี
ยังไงก็ตาม มีนักเวทย์ช่วยพวกเขาป้องกันคลื่นกระแทกเอาไว้ ซึ่งนี่ก็หมายความว่าพวกเขามาเพื่อช่วยเหลือ
…
การต่อสู้อีกฝั่งหนึ่ง
ไม่เพียงแค่เลนส์มิติจะช่วยป้องกันคลื่นกระแทกเท่านั้น แต่มันยังช่วยแยกแยะระหว่างมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งกับมนุษย์สัตว์ธรรมดาอีกด้วย
ที่ด้านนอกเลนส์ เฟลิน่าพุ่งเข้าพุ่งออกอยู่ในกลุ่มพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง และภายในชั่วพริบตา เธอก็ฆ่าพวกมันไปกว่า 100 ตัว แต่ว่าเธอก็ต้องแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เกราะของเธอแตกออกบางส่วน และเธอก็ใช้พลังมังกรของเธอไปมาก เธออาจจะได้รับบาดเจ็บในตอนที่การต่อสู้นี้จบลงก็ได้ แต่มันก็ไม่ได้มากมายอะไร เธอชินกับมันแล้ว
โทเดลรอนติดพันอยู่กับนานะที่เกาะติดเขาเหมือนกับปลิง เขานั้นเป็นนักสู้ที่เก่งจริงๆ แต่ทักษะดาบของนานะเองก็พัฒนาขึ้นไปในระดับที่น่ากลัว เธอรวดเร็วมากจนเขามองเธอแทบไม่ชัดเลย พวกเขาได้แลกดาบกันมามากกว่า 100 ครั้งแล้ว แต่โทเดลรอนก็ไม่สามารถเหนือกว่าเธอได้ กลับกัน เขาดูจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วยซ้ำ!
ที่หางตา เขาเห็นลูกน้องของเขากำลังลดลงอย่างรวดเร็ว และยังมีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งคอยสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังในขณะที่เขาถูกบังคับให้ต้องป้องกันตัวจากเด็กหญิงที่น่ากลัวคนนี้ โทเดลรอนนั้นเตรียมพร้อมที่จะทุ่มสุดตัวแล้ว!
ภารกิจนี้อาจจะไม่สำเร็จ เขาอาจจะต้องตายในการต่อสู้หรือไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถไปรายงานกับดยุคได้!
ด้วยเสียงคำราม เขาปล่อยกระแสออร่าต่อสู้ใส่นานะ บังคับให้เธอต้องถอยออกไปพักนึง ด้วยเสียงคำรามอีกครั้ง เขาได้ตัดสินใจแปลงร่างเป็นมังกร ร่างมังกรของเขามีความสูงประมาณ 50 ฟุต หลังจากที่แปลงร่าง เขาก็พ่นลมหายใจมังกรใส่นานะ
ลมหายใจมังกรเป่าทุกอย่างที่อยู่ในระยะทางของมันและพุ่งไกลออกไป
ท่ามกลางเสียงคำรามนี้ ไฟสีแดงเข้มก็พุ่งออกมาจากปากของเขา มันพุ่งไปหานานะหมือนกับไอพ่นจากปืนฉีดน้ำแรงดันสูง
นานะไม่เคยเจอกับการโจมตีประเภทนี้มาก่อน เธอไม่กล้าที่จะเอาร่างกายไปวัดพลังของมัน ดังนั้นเธอจึงประยุกต์ใช้พลังและทำให้เกิดการระเบิดในบริเวณโดยรอบเล็กน้อย นานะพุ่งเข้าใส่ลมหายใจมังกร หลบการโจมตีแต่ละครั้งที่เป็นจุดที่อันตรายที่สุดในขณะที่รักษาระยะการโจมตีไปด้วย และเมื่อถึงเวลาที่โทเดลรอนเหนื่อย เธอก็จะรีบพุ่งไปโจมตีสวนในทันที
“เจ้าแมลงตัวกระจ้อย!” โทเดลรอนไม่คิดว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆแบบนี้จะก่อปัญหาได้มากขนาดนี้ ปากของเขาแห้งจากการพ่นไฟออกมาจนหมดลม แต่เขาก็ไม่สามารถบังคับให้ศัตรูถอยกลับไปได้
เขาคำรามอีกครั้ง โดยเตรียมใจที่จะตายมากกว่าเดิม เขาไม่ได้กลัวความตายเพราะว่าดยุคสามารถชุบชีวิตเขาได้ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงรุนแรงขึ้นมาก เขาหันตัวฟาดนานะด้วยหางของเขา เพื่อป้องกันการพุ่งเข้ามาของเธอและพุ่งไปทางเฟลิน่า
วันนี้ เขาจะต้องพาอย่างน้อยคนนึงตายไปกับเขาด้วย ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีอะไรที่ไปรายงานกับดยุคได้ เจ้าตัวน้อยนั้นเร็วเกินไปสำหรับเขาที่จะไล่ตามแต่ว่าเขานั้นมีความมั่นใจที่จะฆ่าเฟลิน่าได้อย่างรวดเร็ว!
เพื่อนมังกรคนนี้เป็นอัจฉริยะในหมู่พวกรุ่นใหม่ แต่เธอนั้นไม่สามารถเทียบกับเขาได้ เฟลิน่าไม่ได้แข็งแรงแบบเขา และถ้าเขาใช้กำลังทั้งหมดที่เขามีล่ะก็ เขาก็อาจจะจัดการกับเธอได้!
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!แผ่นดินสั่นสะเทือนเพราะความเร็วของโทเดลรอน
เมื่อเห็นอย่างนี้ เฟลิน่าก็ปล่อยลมหายใจยาวออกมา คลื่นตัดออร่ามังกรที่เป็นวงได้พุ่งออกมา จัดการมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งทุกตัวที่อยู่รอบๆตัวเธอ จากนั้นเธอก็ร้องออกมา พลังมังกรเข้าไปในร่างกายของเธอ ร่างกายของเธอโตขึ้นในทันที และมังกรแดงที่มีขนาดเท่ากับโทเดลรอนก็ปรากฏตัวขึ้น
เธอเข้าไปปะทะกับเขาในช่วงครึ่งทางโดยไม่ลังเล
3 วินาทีต่อมา ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจนแผ่นดินสะเทือน มังกรทั้งสองปะทะกันและดินที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาก็พุ่งขึ้นมา มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งบางส่วนพยายามจะโจมตีเฟลิน่าแต่ก็ถูกคลื่นกระแทกพัดกระเด็น
เฟลิน่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหลังจากการปะทะกัน และเธอก็สูญเสียสมดุลไป เธอมีพละกำลังน้อยกว่าโทเดลรอน
โทเดลรอนคำรามและใช้โอกาสนี้พ่นลมหายใจมังกรออกมา เฟลิน่าก้มหัวลงอย่างรวดเร็วและปล่อยลมหายใจมังกรของเธอออกมาเช่นกัน คลื่นเพลิงสีแดงเข้มทั้งสองปะทะกันในอากาศ เปลวเพลิงพุ่งออกไปด้านข้าง ทำให้พวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งพากันหวาดกลัว !
นักรบธรรมดาทำได้แค่มองการต่อสู้ของพวกเลเวล 8 พวกเขาจะตายอย่างแน่นอนถ้าเข้าไปใกล้ๆ
โทเดลรอนยังคงได้เปรียบอยู่ เขาโจมตีต่อไปโดยไม่สนเรื่องบาดแผลที่จะได้จากลมหายใจมังกร
นี่เขาบ้าหรือเปล่า? เฟลิน่าตกใจมาก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคู่ต่อสู้ของเธอถึงได้ก้าวร้าวอะไรขนาดนี้
ภายใน 5 วินาที โทเดลรอนกับเฟลิน่าได้โจมตีไป 5 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้ง โทเดลรอนจะค่อยๆได้เปรียบขึ้นมาทีละนิด เฟลิน่าเริ่มเสียจังหวะ เธอโดนโทเดลรอนข่วนและมีบาดแผลฉกรรจ์ หากเขาโจมตีโดนอีกครั้งเดียว เขาก็จะสามารถฆ่าเธอได้!
แต่ในตอนที่ความคิดนั้นปรากฏขึ้น อยู่ๆเสียงหัวเราะของนานะก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของโทเดลรอน “ไอตัวโต นานะเข้าใจการโจมตีทุกอย่างของนายแล้ว!”
“อะไรกัน?” โทเดลรอนตกใจและมองไปข้างหลัง
นานะได้กระโดดขึ้นมาแล้ว ที่กลางอากาศ 30 ฟุต สนามพลังที่ขาของเธอได้ทำงาน และมีเสียงระเบิดดังขึ้นในอากาศ เธอหายไปจากการมองเห็นและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในระยะไกลออกไป 100 ฟุตในเสี้ยววินาทีต่อมา
โทเดลรอนฟาดหางในทันทีด้วยแรงทั้งหมดของเขา มันรุนแรงมากจนมีเสียงระหว่างโจมตี แต่ว่าเขาพลาด
ด้วยเสียงระเบิด นานะก็หายไปอีกครั้งในวินาทีสุดท้าย ในตอนที่เธอปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็มาอยู่บนหลังของโทเดลรอน เธอหยุดพักอยู่ครู่นึง หางของโทเดลรอนตามมาในทันที แต่เธอก็เยาะเย้ยด้วยเสียงระเบิด เธอหลบมันได้อย่างง่ายดาย
นานะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งข้างๆเฟลิน่า ข้างหลังเธอ โทเดลรอนหยุดนิ่งไปในทันที ครึ่งวินาทีต่อมา ก็มีรอยบากลึกที่คอของเขา มันน่าจะหักไปแล้ว
“ช่างรวดเร็วจริงๆ!” โทเดลรอนพูดก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้นด้วยเสียงดังสนั่นและตายจากไป
นานะหายใจเข้าลึกๆและปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ เธอเคยทำการเคลื่อนไหวแบบนั้นมาก่อน แต่ว่ามันทำให้ร่างกายของเธอเสียหายอย่างมาก ถ้าเกิดว่าเธอไม่สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้ เธอก็คงทำได้แค่ป้องกัน ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะใช้มันบ่อยนัก
ตอนนี้ เธอก็ยังคงได้รับความเสียหายอยู่ นานะรู้สึกว่าแขนกับขาของเธอขยับได้น้อยลง แต่ว่าอาการชานั้นค่อยๆหายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปประมาน 2 วินาที ความรู้สึกแปลกๆก็หายไปอย่างสมบูรณ์
นี่เป็นผลการรักษาของแก่นแท้แห่งชีวิต
ตอนนี้โทเดลรอนตายไปแล้ว มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งที่เหลืออยู่ 150 ตัวแลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็มีใครบางคนตะโกนออกมา “ถอย!”
พวกเขาไม่มีใจจะสู้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มวิ่งหนี
“จะหนีงั้นหรอ?” เฟลิน่าพุ่งเข้ามาและปล่อยลมหายใจมังกรออกมาหลายครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังคงโจมตีอยู่ นานะก็เลยตามไปฆ่าด้วย
พวกเขามีพลังการต่อสู้อันน่าหวาดกลัว ความเร็วของนานะไม่มีใครเอาชนะได้เลย ความเร็วในการฆ่าของเธอนั้นมากกว่าเฟลิน่าถึง 2 เท่า!
ในท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งก็ตายกันหมด ในตอนที่ตัวสุดท้ายตาย เลนส์มิติที่อยู่รอบๆมนุษย์สัตว์ธรรมดาก็หายไปด้วย พวกเขาทุกคนต่างก็พากันหวาดกลัว กลัวเกินกว่าที่จะส่งเสียง พวกเขามองไปที่มังกรแดงและเด็กสาวที่อยู่ข้างเธอด้วยความเคารพ
เฟลิน่าเดินมาอย่างช้าๆและพยายามจะพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรนะ พวกเจ้าปลอดภัยแล้ว”
ในตอนที่เธอพูด แสงสีแดงก็สว่างขึ้นทั่วร่างกายของเธอ เธอกลับมาเป็นร่างมนุษย์อย่างรวดเร็ว เธอนั้นดูไม่ค่อยน่ากลัวแล้ว เกิดเสียงดังขึ้นในกลุ่มคน และไม่นานนัก มนุษย์สัตว์อาวุโสที่มีผมสีขาวก็เดินออกมาพร้อมกับมนุษย์สัตว์ที่แข็งแรงบางส่วน มีมนุษย์บางคนอยู่ในส่วนที่ห่างออกไป
มนุษย์สัตว์อาวุโสเดินตัวสั่นไปหาเฟลิน่ากับนานะ เขาคุกเข่าลงโดยไม่พูดอะไร และกราบลง มนุษย์สัตว์ที่อยู่ข้างหลังเขาเองก็ทำเช่นเดียวกันและมนุษย์สัตว์คนอื่นๆที่อยู่ในทุ่งหญ้าก็ทำตาม มนุษย์บางคนก็ทำความเคารพเช่นกัน
“ขอบคุณพวกท่านทั้งสองที่ช่วยเมืองอูด้าเอาไว้ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา ท่านมังกรผู้แข็งแกร่ง ท่านหญิงแสนสวย ขอข้ารู้ชื่อของพวกท่านหน่อยจะได้ไหม?”
เฟลิน่าไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนและตกตะลึง “ลุกขึ้นเถอะ อย่าคุกเข่าเลย” เธอพูดอย่างลุกลี้ลุกลน “ไอเลวนั่นมาจากเผ่าของข้าเอง ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษ”
ในตอนที่เธอพูด เธอก็กวาดตามองไปรอบๆเพื่อตามหาลิงค์ นี่มันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่เกินไปและเธอไม่สามารถรับมือกับมันได้
ลิงค์ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น แต่เสียงของเขาดังขึ้นมาแทน “บ้านของพวกเขาถูกทำลาย ถามพวกเขาซิว่าพวกเขาจะไปที่ไหนกันต่อ”
เมื่อรู้ว่าลิงค์อยู่ใกล้ๆ เฟลิน่าก็โล่งใจ “เมืองอูด้าได้ถูกเผาไปหมดแล้ว” เธอพูด “ท่านผู้เฒ่า ท่านจะทำอย่างไรต่อ?”
มนุษย์สัตว์อาวุโสโศกเศร้า “มันไม่มีทางอื่นแล้ว พวกเราคงทำได้แค่ลงใต้ไป ประมาณ 250 ไมล์ทางตอนใต้มีเมืองเมฆขาวอยู่ พวกเราคิดว่าจะอพยพไปอยู่ที่นั่น”
เฟลิน่าตกใจกับสิ่งนี้ เสียงของลิงค์ดังขึ้นมาในใจของเธอในทันที “เมืองที่เหลืออยู่คือเมืองเมฆขาวใช่มั้ย?”
เฟลิน่าพยักหน้าและตอบอย่างแผ่นเบา “ใช่ที่นั่นแหล่ะ”
“เยี่ยม งั้นเดินทางไปกับมนุษย์สัตว์พวกนี้ซักพักเถอะ” อิเซนดิลันจับตามองมนุษย์สัตว์พวกนี้อยู่และเขาคงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ในเมื่อพวกเขาตั้งใจจะไปที่เดียวกัน พวกเขาก็ควรทำตัวเป็นคนดีต่อและปกป้องพวกเขาไปในระหว่างนั้น มันคงไม่เป็นอะไรมากที่จะรับรองความปลอดภัยของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะเร่งความเร็วขึ้น
เฟลิน่าเห็นด้วย “ท่านผู้เฒ่า” เธอพูด “ข้าเองก็กำลังจะไปที่เมืองเมฆขาวเหมือนกัน พวกเรากำลังไปที่เดียวกันเลย”