Advent of the Archmage - ตอนที่ 317: มังกรแดงที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา
ทุ่งหญ้าสีทอง
เฟลิน่านั้นเอาแต่จดจ่ออยู่กับการตามหาอีโลดิมและไม่ได้สนใจรอบข้างเลย เมื่อได้ยินคำพูดของลิงค์ เธอก็ย้ายความสนใจไปที่เมืองมนุษย์สัตว์ในทันที
ชนเผ่ามังกรนั้นมีสายตาดีกว่ามนุษย์มาก ดวงตาของเฟลิน่าเบิกกว้างด้วยความตกใจในตอนที่เธอมองไปยังภาพเหตุการณ์นั้น
“เกิดอะไรขึ้น?” ลิงค์ถาม
จากนั้นเฟลิน่าก็เริ่มบินวนในอากาศและพูดด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อ “ข้าเห็นโทเดลรอน! แล้วมันก็เห็นข้าเหมือนกัน!”
โทเดลรอน?
ดูเหมือนว่าลิงค์จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จากอดีตอันไกลโพ้น โทเดลรอนคือนักรบมังกรแดงที่ตายในสุสานไฮเอลฟ์ไม่ใช่หรอ? เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ยังไงกัน?
ทุกคนได้กลิ่นเนื้อย่างบาบีคิวอย่างชัดเจนในตอนที่เขาถูกไฟฟ้าช็อต ถ้าเกิดว่าเขายังมีชีวิตรอดมาได้หลังจากที่โดนการโจมตีอันไร้ความปราณีแบบนั้นเข้าไป พลังชีวิตของเขาก็คงจะต้องบ้าคลังมากแน่ๆ
“เธอแน่ใจนะว่ามันยังมีชีวิตอยู่และไม่ใช่นักรบอันเดดหน่ะ?” ลิงค์ไม่เคยเห็นเทคนิคแบบนี้มาก่อน แม้กระทั่งในเกมก็ตาม มีหลายกรณีที่วิญญาณได้เข้าไปสิงในร่างกายอื่นและชุบชีวิตตัวเองขึ้นมา แต่ว่าไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จหรือสมบูรณ์เลย
เฟลิน่าพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “มันไม่ใช่อันเดด มันยังมีชีวิตอยู่! มันดูมีชีวิตชีวาเหมือนกับตอนที่ข้าเห็นมันครั้งล่าสุดเลย ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่าข้าจำมันได้ ข้าก็คงจะคิดว่าข้าจำคนผิดไปแล้ว!”
จากระยะไกลๆ ลิงค์มองเห็นแค่เมืองที่กำลังลุกไหม้เท่านั้น ยังไงก็ตาม เขาไม่สามารถเห็นเหตุการณ์โดยละเอียดได้ ดังนั้นเขาจึงร่ายเวทย์ดวงตาอินทรีย์ใส่ตัวเขาเอง
ด้วยความช่วยเหลือของเวทมนตร์ เขาก็เห็นเมืองที่ตอนนี้ได้กลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว สิ่งปลูกสร้างภายในเมืองนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากกระดูกสัตว์และปกคลุมด้วยหนังสัตว์ มันดูคล้ายกับกระโจมของชาวมองโกเลี่ยน ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกราดน้ำมันเอาไว้ด้วยเพื่อทำให้จุดไฟได้ดีขึ้น ซึ่งมันก็ทำให้เกิดไฟไหม้รุนแรง
ที่ฝั่งนอกเมือง มีมนุษย์สัตว์ธรรมดากว่า 2,000 คนถูกโทเดลรอนกับมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งอีก 300 กว่าคนที่เป็นลูกน้องของเขาล้อมอยู่
ในความเป็นจริง มนุษย์สัตว์พวกนี้เหมือนกับมนุษย์มากๆ พวกเขาแค่มีสีผิวคล้ำกว่าและร่างกายใหญ่โตกว่าเท่านั้น แต่ว่าร่างกายส่วนใหญ่ของพวกเขานั้นก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ สิ่งเดียวที่แตกต่างอย่างมากก็คือเขี้ยวสัตว์อันแหลมคม 4 เขี้ยวที่พวกเขามีอยู่
ลิงค์มองเห็นท่ามกลางมนุษย์สัตว์พวกนั้นว่า, มากกว่าครึ่งนึงของพวกเขาเป็นคนแก่กับเด็ก และยังมีแม้กระทั่งมนุษย์ผู้โชคร้ายด้วยบางส่วน
ดูเหมือนว่ามนุษย์นั้นจะถูกพวกมนุษย์สัตว์ปกป้องอยู่ พวกเขาออยู่กลางวง โดยที่มีทั้งหมด 5 คน ซึ่ง 4 คนในนั้นเป็นทหารรับจ้างในขณะที่คนสุดท้ายน่าจะเป็นพ่อค้า พวกเขาจับกลุ่มรวมกันอยู่ในฝูงชนด้วยสีหน้าซีดเผือด
ในตอนนั้นเอง โทเดลรอนก็สั่งให้มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งดึงเอามนุษย์สัตว์ที่แข็งแรงและสุขภาพดีออกมา แยกให้พวกเขาออกมาจากคนแก่กับเด็กๆ
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรรอพวกเขาอยู่ พวกเขาปิดปากเงียบและมองไปยังมังกรตัวใหญ่ด้วยความหวาดกลัว
มีเด็กน้อยคนนึงกำลังจะร้องไห้ออกมาแต่ว่าแม่ของเด็กก็รีบปิดปากของเขาอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยได้มุดเข้าไปในอ้อมกอดของย่า, โผล่ออกมาแค่ดวงตาสีดำอันใสซื่อเท่านั้น เขายังเด็กเกินกว่าที่จะรู้จักความกลัว เขาแค่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเฉยๆ
“โทเดลรอนกำลังคัดเลือกนักรบอยู่ เด็กกับผู้หญิงไม่มีความจำเป็นสำหรับมัน แถมมันยังเผาเมืองไปทั้งเมืองอีก…ข้าเกรงว่ามันอาจจะฆ่าทุกคนที่เขาเห็นว่าไร้ประโยชน์ไปด้วยนะ”
ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้คิดจะฆ่าทุกคน ก็คงไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเผาทุกอย่างที่อีกฝ่ายมี เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่คิดที่จะปล่อยให้ใครมีชีวิตรอด
มนุษย์สัตว์พวกนี้ไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งเหตุผลนั้นก็ง่ายมาก พวกเขาอ่อนแอเกินไป
โดยปกติ, พวกมนุษย์สัตว์มีเลเวลแค่ 2 เท่านั้น คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็คือเลเวล 5 ซึ่งพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งที่อยู่รอบๆพวกเขาส่วนใหญ่แล้วก็มีเลเวล 5 เหมือนกัน และมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีเลเวล 7 แถมดูเหมือนว่าโทเดลรอนเองก็ข้ามขีดจำกัดไปแล้วด้วย ตอนนี้เขามีเลเวล8
ลิงค์ขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นภาพนี้ เขารู้สึกได้เลยว่าความเข้มข้นของมานาในฟิรุแมนกำลังเพิ่มขึ้น และนั่นก็ส่งผลให้เกิดสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมากขึ้นตาม
แม้ว่าเฟลิน่าจะไม่อยากเชื่อเลยว่าคนของเผ่าเธอจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ แต่สถานการณ์ก็เลวร้ายมาก เธอกระซิบ “พวกเราควรทำยังไงกันดี? พวกเราจะลองช่วยพวกเขาไหม?”
ลิงค์พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมา “ในเมื่อพวกเราเจอกับพวกมันแล้ว พวกเราก็ควรขัดขวางพวกมัน! แต่ว่าพวกเราไม่สามารถบุกเข้าไปตรงๆได้…ปล่อยพวกมันไว้ก่อนเถอะ”
“ปล่อยหรอ?” เฟลิน่าตามความคิดของลิงค์ไม่ทัน แต่เธอก็เชื่อฟังคำสั่งของลิงค์ในทันทีและเริ่มบินไปยังทิศทางตรงกันข้าม
ที่ข้างเมือง โทเดลรอนเองก็เห็นลิงค์กับพรรคพวกของเขา; เขาจำมังกรแดงตัวนั้นได้ด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นอะไรเล็กๆอยู่บนหลังของมันด้วย แต่เขาก็มองได้ไม่ชัดนัก
เขานั้นคอยเฝ้ามองพวกเขาอยู่ตลอดตั้งแต่ตอนที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น และตอนนี้พวกเขาก็ไปในทิศทางตรงกันข้ามแล้ว เขาจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
“เร็วเข้า!” เขาตะโกน เขาเดินมาที่อาณาเขตชั้นนอกของมนุษย์สัตว์ที่อยู่กันเป็นวงกลมในขณะที่เสียงฝีเท้าของเขาดังสนั่นไปทั่วพื้นที่
การกระทำของมนุษย์สัตว์(บ้าคลั่ง)นั้นโหดเหี้ยมขึ้นมาในทันที มีมนุษย์สัตว์หนุ่มคนนึงไม่ต้องการจะแยกกับครอบครัวของเขา เขาจับมือพ่อแม่ของเขาและภรรยาที่ตั้งท้องอยู่พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
“เกะกะหน่า!” มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งที่ดุร้ายตะโกนออกมาและเตะอัดภรรยาสาวเข้าเต็มแรง เขาเตะเข้าไปที่กลางท้อง ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอนอนขดตัวด้วยความเจ็บปวดอยู่ทกับพื้นพร้อมกับเอามือจับรอบๆลูกที่ยังไม่ได้เกิดของเธอเอาไว้
“ไม่นะ! ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่!” มนุษย์สัตว์หนุ่มตะโกนด้วยความโกรธและพุ่งเข้าใส่มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งคนนั้น
จากนั้นมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งก็ชักดาบออกมาและแทงมันเข้าไปที่หน้าอกของมนุษย์สัตว์หนุ่มโดยไม่ลังเล 3 วินาทีต่อมาเขาก็ดึงดาบออกแล้วหัวเราะ “คนที่ต่อต้าน จะต้องตาย!”
สิ่งนี้ทำให้มนุษย์สัตว์ที่เหลือหนาวไปจนถึงสันหลัง
ที่กลางกลุ่มมนุษย์สัตว์ มาโซสมองไปรอบๆด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด เขาเป็นพ่อค้าที่เดินทางมาไกล สถานการณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดีนัก
“หลังจากนี้พวกมันจะต้องเริ่มฆ่าคนแน่ พวกเจ้าควรจะหนีไปในตอนที่ยังทำได้นะ ไม่ต้องห่วงเรื่องของข้าหรอก” เขาบอกกับทหารรับจ้างที่อยู่ข้างๆเขา ระหว่างทาง พวกเขาทำได้ดีในการคุ้มกันเขาจากพวกโจรธรรมดา แต่ว่า, พวกเขาสู้กับมังกรไม่ได้อย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าเทพแห่งแสงกำลังจะอัญเชิญเขากลับไปยังสวรรค์
ทหารรับจ้างทั้ง 4 คนยิ้มให้กันอย่างขมขื่น ถ้าพวกเขาสามารถหนีได้ พวกเขาก็คงทำมันไปแล้ว
“ข้าช่างโชคร้ายจริงๆ พวกดาร์คเอลฟ์อยู่ทางเหนือ ซึ่งข้าก็คิดว่าทุ่งหญ้าสีทองจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ไม่คิดเลยว่าข้าจะต้องมาเจอกับไอมังกรบ้านี่!” ทหารรับจ้างสบถเพื่อกำจัดความกลัวที่อยู่ในจิตใจของเขา
จากนั้นทหารรับจ้างหญิงก็พูดขึ้น “พวกเราอาจจะไม่ตายก็ได้นะ พวกมันมีกันตั้งเยอะแยะ พวกเราแค่แกล้งตายเอาก็ได้ พวกเราไม่ได้สำคัญกับพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งอยู่แล้วนี่”
“แกล้งตายหรอ? โอเค ถ้างั้นก็มาดูกันเถอะว่าในหมู่พวกเราใครจะดวงแข็งกว่ากัน”
ในอีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่บินไปได้ประมาณ 1 ไมล์ ลิงค์ก็มองไปด้านหลังและเห็นว่าโทเดลรอนไม่ได้สนใจพวกเขาแล้ว จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอย ทำให้พวกเขาทั้งสามหายไปในอากาศ
“โอเค พวกเราจะลงพื้นและกลับไปที่นั่นกัน และพวกเราจะต้องรีบด้วย” ลิงค์พูด แน่นอนว่าพวกเขาสามารถบินกลับไปได้ แต่ว่าลิงค์มั่นใจว่าโทเดลรอนจะต้องใช้มนุษย์สัตว์เป็นตัวประกันอย่างแน่นอน พวกเขาจะทำให้มนุษย์สัตว์ตกอยู่ในอันตรายมากกว่าการที่จะช่วยพวกเขา
“เข้าใจแล้ว” เฟลิน่าบินลงพื้นและลงจอดหลังจากที่ผ่านไป 10 วินาที
“นานะ เธอช่วยแอบไปหาพวกเขาและทำให้พวกเขาช้าลงพร้อมกับดึงดูดความสนใจให้หน่อยได้มั้ย” ลิงค์สั่ง
พวกเขายังอยู่ห่างจากศัตรู 6 ไมล์ ถ้าพวกเขาเดินทางด้วยความเร็วที่พวกเขามีในตอนนี้ มันจะสายเกินไปกว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุ
“รับทราบ ไว้ใจนานะได้เลยค่ะ” เสียงของนานะสดใสและดูอบอุ่น เสียงของเธอนั้นไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาเลย หลังจากนั้นเธอก็พุ่งตัวและหายไป
“ไปกันเถอะ พอพวกเราไปถึงที่นั่น เธอต้องเป็นคนสู้นะ แล้วฉันจะคอยปกป้องพวกมนุษย์สัตว์ให้เอง” ลิงค์พูด
“ข้าเข้าใจแล้ว” เฟลิน่าสูดหายใจเข้าลึกๆในตอนที่เธอพูด
ความเร็วของนานะไม่ได้ลดลงจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเธอเลย ลิงค์คาดว่าความเร็วสูงสุดของเธอน่าจะอยู่ที่ 2,300 ฟุตต่อวินาที ซึ่งน้อยกว่าความเร็วเก่าของเธอที่ 2,400 ฟุตต่อวินาทีอยู่นิดหน่อย
ด้วยความเร็วขนาดนี้ เธอคงจะใช้เวลาแค่ 10 วินาทีในการเดินทางระยะ 6 ไมล์
…
ที่ฝั่งนอกของเมือง
ดูเหมือนว่าโทเดลรอนกับมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งจะไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าภัยคุกคามกำลังใกล้เข้ามา ในตอนที่พวกเขากำลังจะโดนอัด อยู่ๆมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งก็ชี้ไปที่ทุ่งหญ้าที่อยู่ห่างออกไปและพูด “นี่ ทำไมวันนี้พายุทรายถึงรุนแรงนักนะ?”
เพื่อนของเขามองไปยังทิศทางนั้น แน่นอนว่า ในระยะที่ไกลออกไป พายุทรายกำลังพุ่งมาหาพวกเขาด้วยความเร็วอันน่าหวาดกลัว แค่มองมันก็รู้สึกกลัวแล้ว
มีแค่โทเดลรอนเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นคนๆเดียวที่เห็นเงาเบลอๆกำลังพุ่งมาจากทางพายุทราย
“ใครกันที่เร็วได้ถึงขนาดนี้?” เขาสับสนอยู่พักนึง จากนั้นเขาก็คลายร่างมังกรที่บึกบึนออกและกลับมาเป็นร่างของมนุษย์ที่รวดเร็วกว่า
3 วินาทีต่อมา เขาก็กลายเป็นนักรบมังกรแดงและชักดาบเขี้ยวมังกรออกมา
“ระวัง ตั้งโซนป้องกันซะ!”
เขาตะโกน แม้ว่าคนๆนี้จะดูน่ากลัว แต่เขาก็มาแค่คนเดียว เขามั่นใจว่าด้วยความช่วยเหลือของมนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง เขาจะได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย
พายุทรายเคลื่อนที่เขามาใกล้อย่างรวดเร็วจนถึงระยะที่ห่างออกไป 300 ฟุต มันหยุดลงในทันที จากนั้นหญิงสาวน่ารักผมทรงหางม้าที่สวมชุดเกราะหนังสีน้ำตาลก็ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของพวกเขา
หืม? เด็กผู้หญิงงั้นหรอ? โทเดลรอนยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ แม้ว่านานะจะเคยปรากฏตัวที่สุสานไฮเอลฟ์ แต่ตอนนั้นเขาก็กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย เขาได้รับความเสียหายจากเวทย์เลเวล 9 ทำให้เขาหมดสติไป มันจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะจำนานะไม่ได้
นานะเดินมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอพูด “โทเดลรอน วันนี้นานะไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใดหรอก นานะแค่ได้ยินมาว่านายมีฝีมือดาบที่เยี่ยมมากและนานะก็แค่อยากจะประมือกับนายจะได้ไหม?”
แม้ว่าคนที่อยู่บนถนนนั้นจะทำการท้าทายอย่างจริงจัง แต่โทเดลรอนก็มั่นใจว่าเขาไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายขนาดนั้น ฝีมือดาบของเขาแข็งแกร่งก็จริง แต่เขาใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขามังกรมาโดยตลอด ทำไมถึงมีคนที่อยู่นอกหุบเขามังกรรู้จักเขาได้หล่ะ?
เธอต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่ๆ
“กลับไปซะ ข้าไม่ว่าง” โทเดลรอนยังคงยึดมั่นกับความหวังสุดท้ายของเขา เขาไม่อยากต่อสู้ เขาแค่ต้องการทำภารกิจนี้ให้สำเร็จอย่างรวดเร็วและราบรื่น
ดยุคนั้นไม่สบอารมณ์กับเขาตั้งแต่ตอนที่เขาทำผิดพลาดครั้งที่แล้ว เขาจะต้องทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้มันจะสำเร็จ
“นั่นคงเป็นไปไม่ได้หรอก นานะจะต้องท้าสู้กับนายในวันนี้ให้ได้ นายกลัวนานะรึไง?” เสียงของนานะนั้นเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ของเธอ คนอื่นๆก็คงจะคิดว่าเธอเป็นแค่เด็กสาวข้างบ้านที่ออกมาซื้อของเท่านั้น
ลางสังหรณ์ของโทเดลรอนได้เตือนเขาถึงอะไรบางอย่างที่เลวร้ายมากๆ เขานึกถึงมังกรแดงที่กำลังจะบินมาหาเขาเมื่อสักครู่นี้ เธอคือเฟลิน่า! และหากตัดสินจากนิสัยของเธอแล้ว เธอคงไม่มีทางมองข้ามการกระทำอันโหดร้ายและไร้ศีลธรรมเช่นนี้
โทเดลรอนรู้สึกหวาดหลัวกับความคิดนี้และตะโกนออกมาในทันที “ตั้งโซนป้องกัน! นี่มันคือการลอบโจมตี!”
แต่ว่าเขาก็ช้าเกินไปแล้ว!