Advent of the Archmage - ตอนที่ 312: ข้าแค่มองเจ้า, แต่เจ้าก็อยากบูชาข้าแล้วเนี่ยนะ

มันน่าสงสารที่เกล็ดสมดุลถูกทำลายแต่ราชินีมังกรแดงก็หลุดพ้นจากการลุกล้ำของมันในที่สุด

 

เธอยังดูอ่อนแอและท้อแท้อยู่ ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ของเธอยังคงนอนอยู่บนพื้น, ดวงตาลืมขึ้นมาครึ่งเดียว พอเห็นคนตัวเล็กทั้งสองเบื้องหน้าเธอ, เธอก็พูดอย่างแผ่วเบา “ข้าขอโทษที่พวกเจ้าต้องมาเห็นข้าในสภาพนี้นะ”

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ, ฝ่าบาท, ผมประทับใจมากนะที่พระองค์ทรงมีจิตใจที่แข็งแกร่ง!” ลิงค์พูดอย่างจริงจัง อาจจะมีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ความจริงของสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นทั้งหมดและวางแผนที่จะเก็บมันเอาไว้แบบนั้น

 

เอลินรู้แค่ส่วนเดียว เธอคิดเพียงแค่ว่าลิงค์ใช้เวทมนตร์ทำลายอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ ลิงค์แข็งแกร่ง—นี่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้—แต่การที่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายและการที่ราชินีมังกรแดงถูกมันทรมานนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจเอามากๆ

 

ด้วยความคิดนี้, เธอก็ไม่ได้ถ่อมตัวกับราชินีเหมือนตอนแรก ท่าทีฉลาดของเธอกลับมา ด้วยการเบ้ปากและอ้าแขนกว้าง, เธอก็พูดพล่ามออกมา “ฮึ, ฝ่าบาท, ท่านทำให้ข้ากลัวจริงๆนะ!”

 

โดยปกติแล้ว, ราชินีมังกรแดงจะพบว่าเด็กสาวยับบ้าคนนี้น่าสนใจแต่ตอนนี้, เธออ่อนล้า เธอแค่ถอนหายใจและพูดออกมา “ข้าขอโทษนะ, เพื่อนของข้า, แต่ตอนนี้ข้าต้องการความเงียบสงบสักพักนึง”

 

การทรยศของอิเซนดิลัน, ตามมาด้วยการทรยศของโอซีริส, และการตายของดาโวซัส ทั้งหมดนี้ส่งผลกับจิตใจของเธออย่างรุนแรง ตอนนี้, เธอแค่อยากอยู่คนเดียว

 

มังกรแดงเฒ่าเพทตาลองเป็นมือขวาของราชินี พอได้ยินแบบนี้, เขาก็พูดในทันที “ข้ามั่นใจว่าพวกเจ้าเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวข้าจะพาพวกเจ้าไปพักผ่อนนะ”

 

ลิงค์กับเอลินไม่มีข้อโต้แย้งอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาตามเพทตาลองออกไป

 

ราชินีหันไปมองมังกรคนอื่น “ตอนนี้ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าแค่อยากจะพักผ่อน”

 

พวกมังกรออกไปอย่างรวดเร็ว, เหลือแค่ราชินีเกรเทลเท่านั้นที่ยังอยู่ เธอนอนเหยียดอยู่บนพื้นอย่างเงียบๆโดยไม่ได้ขยับไปไหนและถอนหายใจออกมาอย่างกระทันหัน “อิเซนดิลัน, โอซีริส, และดาโวซัส ตอนนี้ทุกคนเป็นอดีตไปแล้ว เกรเทล, เจ้าเป็นราชินีมังกรแดงนะ เจ้าต้องเข้มแข็งเข้าไว้สิ!”

 

ดยุคทั้งสามนั้นเป็นสามีของเธอแค่ในนามแต่ความเป็นจริงแล้ว, พวกเขาเป็นเพียงผู้สมัครเท่านั้น ซึ่งนี่เกี่ยวข้องกับการขยายสายเลือดของราชวงศ์

 

สายเลือดมังกรแดงแข็งแกร่งมากๆ และในหมู่พวกเขา, สายเลือดราชวงศ์นั้นสมบูรณ์แบบยิ่งกว่า พอเป็นผู้ใหญ่แล้ว, มังกรราชวงศ์จะไปถึงระดับตำนาน

 

อย่างไรก็ตาม, โลกนี้ยุติธรรม สายเลือดที่สมบูรณ์แบบและความแข็งแกร่งอันมหาศาลนั้นจำเป็นต้องใช้เวลายาวนานมากๆ

 

โดยทั่วไปแล้วมังกรระดับสูงจะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ตอนอายุ 1,000 ปี อย่างไรก็ตาม, ราชวงศ์นั้นต้องรอจนกว่าจะอายุ 2,000 ปีถึงจะกลายเป็นผู้ใหญ่และสามารถตามหาคู่เพื่อผลิตลูกมาแบกรับชื่อของราชินีมังกรแดงคนต่อไปได้

 

ซึ่งปีนี้เกรเทลมีอายุ 1,990 ปี ยังเหลืออีกสิบปีก่อนที่ร่างกายของเธอจะเข้าสู่สภาพที่เพียบพร้อมและถึงจุดสูงสุดของพลัง

 

ตามประเพณีของมังกรนั้น, มังกรตัวผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดสามคนจะกลายเป็นดยุคโดยอัตโนมัติก่อนที่เรื่องนี้จะมาถึง และสิบปีหลังจากนั้น, คนที่ราชินีโปรดปรานมากที่สุดจะกลายมาเป็นคู่ชีวิตของเธอ

 

แต่ตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรแล้ว

 

เธอเป็นสัตว์ร้ายตัวใหญ่ยักษ์ที่ใช้ชีวิตมาเกือบสองพันปีและเป็นหัวหน้าของเผ่าพันธุ์ เธอจะไม่กลายเป็นคนอกหักและเศร้าหมองเหมือนกับผู้หญิงธรรมดา

 

หลังจากถอนหายใจออกมา, เกรเทลก็ยอมรับทุกอย่างและเดินหน้าต่อไป

 

มังกรแดงต้องการราชินีที่แข็งแกร่ง, เด็ดเดี่ยว, และฉลาด, ไม่ใช่คนอ่อนแอที่เจ็บปวดกับความพ่ายแพ้พวกนี้

 

เธอส่ายหัวและเผาผลาญความเจ็บปวดทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจของเธอ จากนั้นเธอก็จ้องไปยังตาชั่งสมดุลที่เหลืออยู่

 

อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นมีรูปร่างเหมือนตาชั่งที่ทำมาอย่างประณีต มันมีด้านหนึ่งเป็นแสงสีดำในขณะที่อีกด้านเป็นสีขาว โดยปกติแล้ว, ทั้งสองข้างจะยับยั้งกันเองและอยู่ในความสมดุล แต่โอซีริสก็ได้ทำให้มันยุ่งเหยิง, เขาผนึกด้านแสง, และเหลือเอาไว้แค่ด้านดำ

 

เกรเทลไม่ได้ตระหนักถึงมันเลยและเธอก็ตกหลุมพลางในตอนที่เธอตรวจสอบมัน

 

พลังของอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างขวางเหมือนกับทะเล แม้กระทั่งเธอก็ยังต่อสู้กับมันไม่ได้และเกือบตาย

 

ด้วยการชักกรงเล็บ, เธอก็กวาดที่เหลือมาตรวจสอบ ความสงสัยของเธอเติบโตขึ้น อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้รับความเสียหายได้ยังไงกัน? ใครสร้างรอยขีดพวกนี้? พวกผู้อาวุโสทำไม่ได้หรอกส่วนพวกตัวเล็กก็คงจะทำไม่ได้เหมือนกัน ช่างแปลกจริงๆ

 

มังกรทั่วไปอาจจะคิดว่ามันเป็นเพราะพวกเขาร่วมมือกันก็เลยทำลายตาชั่งสมดุลได้แต่ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น ถ้ามันทำลายได้ง่ายๆแบบนั้น, ทำไมเธอถึงไม่สามารถหนีจากมันได้หล่ะ?

 

เกรเทลคิดอยู่พักใหญ่ๆ, ซึ่งมันก็เปล่าประโยชน์ แต่ว่าเธอยังมีทางแก้ปัญหาอยู่อีกวิธีนึง เธอง้างกงเล็บขึ้น แสงสีแดงสว่างขึ้นที่ปลายกรงเล็บและเธอก็ชี้ไปที่อากาศ—ย้อนเวลา

 

ย้อนเวลา

เวทย์ระดับตำนานเลเวล 15

ผล: ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดจากช่วงเวลาในอดีต ยิ่งผู้ใช้แข็งแกร่งเท่าไหร่, ระยะก็จะยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้นและเวลาก็จะยิ่งนานขึ้นด้วย

(หมายเหตุ: เวทย์เวลาพิเศษ!)

 

ในจังหวะต่อมา, ภาพก็ปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้าของราชินีมังกรแดงเหมือนกับม่านบางๆที่ถูกดึงออกมาอย่างช้าๆ มีคนมากมายปรากฎขึ้นข้างในนั้น การเคลื่อนไหวของพวกเขาทุกคนถูกย้อนกลับ พวกเขากำลังถอยร่นไปเรื่อยๆ, คนที่กำลังรุกก็เปลี่ยนเป็นกำลังนอน, และพลังที่กำลังปล่อยออกมาก็กลายเป็นกำลังเก็บ ทุกสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้แสดงใหม่อีกครั้ง

 

เหล่านักรบมังกรแดงที่กำลังพุ่งเข้ามาช่วยดึงเธอออกจากด้านมืดด้วยพลังทั้งหมดนั้นทำให้หัวใจของเกรเทลรู้สึกอบอุ่น ไม่ว่ายังไง, เธอก็ยังมีนักรบที่ซื่อสัตย์เหลืออยู่อีกมากมาย

 

แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักที่เธอใช้เวทย์นี้ เธอค้นหาเหตุผลที่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายต่อไป

 

เหล่าผู้อาวุโสหรอ? เธอมองพวกเขาทุกคน พวกเขากำลังดึงพลังแห่งความมืดออกมาด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขา, ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลย แล้วนักรบปกติหล่ะ? พวกเขาก็เหมือนกับเหล่าผู้อาวุโส, พวกเขาไม่มีเวลาทำอย่างอื่น แล้วเหลือใครอีกบ้างเนี่ย? ยังมีอีกสามคนสินะ: หุ่นเชิดเวทมนตร์, ยับบ้า, แล้วก็นักเวทย์มนุษย์

 

ข้าพบแล้ว เขารู้แล้วว่ามีอะไรผิดปกติ!

 

สายตาของเกรเทลจดจ่ออยู่กับนักเวทย์มนุษย์ ในเวทย์ย้อนเวลานั้น, ตัวตนของเขาเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่แต่เธอก็ยังมองเห็นสิ่งที่เขาทำ

 

ในตอนนี้เอง, เกรเทลก็ใช้เวทย์สำเร็จและดูมันเป็นครั้งที่สอง การเคลื่อนไหวของผู้คนไม่ได้ย้อนกลับอีกแล้ว

 

ในตอนแรก, นักเวทย์มนุษย์ได้หนีไปกับยับบ้า ในขณะที่หนี, พวกเขาก็พยายามหลบเท้าของพวกมังกรไปด้วย และพอผ่านไปพักนึง, จู่ๆเขาก็ทำอะไรแปลกๆ พอสังเกตุให้ดีๆแล้ว, มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมา

 

เกรเทลเห็นมันไม่ชัดเลยแต่เธอก็สามารถเดาสิ่งที่เขาทำได้ เธอไม่ได้ถือสาอะไรแต่ก็ดูถูกเขา ช่างฉวยโอกาสจริงๆ

 

เธอดูต่อไป

 

มนุษย์คนนั้นกำลังถอยจนกระทั่งเขาถูกฉากสีดำขัดขวางที่ซุ้มประตู เกรเทลจำฉากนี้ได้อย่างชัดเจน มันคือรูปร่างพลังของตาชั่งสมดุล

 

ตาชั่งสมดุลนั้นมีตัวตนอยู่ในรูปแบบที่แปลกประหลาด มันผสานเข้ากับมิติของจตุรัสทั้งหมดและมีอยู่ทุกที่ ดังนั้น, โดยปกติแล้วจะไม่สามารถมองเห็นรูปร่างที่แท้จริงของมันได้ เพราะไม่ว่ายังไง, ทั้งจตุรัสนี้ก็มีขนาดที่กว้างขวาง

 

จนถึงตอนนี้, ทุกอย่างเป็นปกติดี

 

เกรเทลเห็นว่ายับบ้ากำลังตื่นตระหนกในขณะที่นักเวทย์มนุษย์ดูเหมือนจะยังใจเย็นอยู่ เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง และมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่สองวินาทีแล้วหลังจากนั้นบางอย่างก็เปลี่ยนไป

 

ในบันทึกย้อนเวลา, จู่ๆมนุษย์ก็หายไป, และถูกแทนที่ด้วยเงาสีดำบางๆ

 

เงานี้พุ่งไปที่ฉากสีดำและสัมผัสมันอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเกรเทลก็เห็นรอยแตกปรากฎขึ้นบนฉาก หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที, ก็มีรอยแตกเกิดขึ้นอีกรอยนึง จากนั้นตาชั่งสมดุลก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์และร่วงลงมาจากฟ้า

 

หลังจากที่ผ่านไปอีกสามวินาที, เงาดำก็หายไป ยับบ้า, มนุษย์, และหุ่นเชิดเวทมนตร์อยู่ข้างนอกซุ้มประตู, กำลังมองเข้ามาในจตุรัส

 

เกรเทลขมวดคิ้วแน่น นักเวทย์มนุษย์คนนี้เป็นใครกันแน่? เขามีพลังทำลายเวลาได้ยังไง? นี่เขาทำอะไรกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์กัน?

 

พอตรวจสอบตาชั่งสมดุลที่เหลืออยู่อีกครั้ง, รอยแตกอันซับซ้อนก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว

 

การทำลายกระแสเวลาและการตัดตาชั่งสมดุลออกมาจากมิตินั้นช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งจริงๆ เขาต้องฉลาดแค่ไหนกันเนี่ย?

 

เฟลิน่าบอกว่ามนุษย์คนนี้เป็นนักเวทย์มิติแต่ข้าไม่เชื่อเธอ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไม่เพียงแค่เขาจะมีพลังมิติเท่านั้น, แต่ยังจัดการกับกระแสเวลาได้ด้วย แถมอายุเพียงเท่านี้, เขาก็กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 8 แล้ว ความหนาแน่นของมานาในฟิรุแมนกำลังเพิ่มขึ้นอยู่ก็จริง, แต่ความสำเร็จของเขาก็ยังค่อนข้างน่ากลัวอยู่ดีนะ

 

เกรเทลรู้สึกว่าเธอจำเป็นต้องพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว

 

ดาร์คเอลฟ์ได้อัญเชิญอสรพิษทมิฬออกมา ซึ่งนี่ได้สร้างความเสียหายให้กับสมดุลของฟิรุแมนอย่างมหาศาล ดังนั้นถ้ามีมนุษย์ที่มีสติปัญญาระดับนี้, เธอก็อยากจะพบเขาให้ได้

 

ในตอนนี้, เกรเทลได้ลืมความเจ็บปวดของเธอไปหมดแล้ว ในฐานะราชินี, เธอไม่มีเวลามาเสียใจ เธอต้องคิดถึงอนาคตของมังกรแดง

 

ในอีกด้านนึง, ลิงค์กับเอลินได้รับห้องขนาดใหญ่โตคนละห้อง

 

ห้องนี้เหมือนกับโบสถ์ของมนุษย์ มันมีความสูง 65 ฟุตและกว้าง 150 ฟุต แต่ก็โชคดีที่, เตียงถูกออกแบบมาสำหรับมังกรในร่างมนุษย์ ดังนั้นจึงมีขนาดปกติ

 

การอาศัยอยู่ในห้องแบบนี้นั้นทำให้ค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ

 

ลิงค์ถอนหายใจและรวบรวมความคิดของเขาในการซ่อมร่างกายของนานะ

 

ดยุคมังกรแดงอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 9, เขาแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ร่างกายของนานะเท่านั้นที่บิดเบี้ยว, แต่ยังมีรอยแตกมากมายด้วย โชคดีที่, ลิงค์มีแบบสำรองอยู่ในหัวมากมาย ไม่อย่างนั้น, ตอนนี้นานะคงจะเป็นอัมพาต

 

ในระหว่างการซ่อมแซม, นานะยังนอนแน่นิ่งอยู่ ดวงตาอันสดใสของเธอจ้องมาที่ลิงค์ตาไม่กระพริบ, ซึ่งนี่ก็ทำให้เขาระมัดระวังมากขึ้นอีก

 

การซ่อมแซมนั้นใช้เวลาอยู่พักใหญ่ๆแต่ลิงค์ก็มีความอดทน ในตอนที่เขาพบจุดที่สามารถพัฒนาได้, เขาก็จะทำมัน ในตอนที่เขาพบวัตถุดิบที่ไม่เหมาะสม, เขาก็จะหาวัตถุดิบที่ดีกว่า

 

“นายท่าน, นานะกำลังจะไร้ประโยชน์ นานะเจ็บปวดจังเลย” นานะพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน น้ำเสียงของเธอยังคงสดใสเหมือนเช่นเคย

 

ลิงค์ยิ้ม “ไม่หรอก, เธอมีประโยชน์จริงๆนะ ไม่อย่างนั้น, ฉันก็คงจะตายไปแล้ว”

 

นานะช่วยเขาได้มากจริงๆ เธอเป็นหุ่นเชิดเวทมนตร์แต่ลิงค์ก็เห็นเธอเป็นพวกพ้องที่ไว้ใจได้มากที่สุด

 

พอได้ยินแบบนี้, นานะก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มของเธอนั้นเหมือนจริงมากๆและมันก็ไม่เหมือนกับหุ่นเชิดเวทมนตร์เอาซะเลย เธอกำลังฉลาดขึ้น

 

ในตอนที่ลิงค์ยุ่งอยู่, เขาจะลืมเวลา ในขณะที่เขาทำงาน, ก็มีเสียงดังขึ้นจากประตูอย่างกระทันหัน “ขอข้าเข้าไปได้ไหม?”

 

เสียงนั้นไพเราะและมีความหยิ่งทะนงตามธรรมชาติเจือปนอยู่ มันอธิบายได้ยาก มันมีแค่ความมั่นใจเหมือนกับว่าผู้พูดกำลังควบคุมทุกอย่างจากเบื้องบน

 

ลิงค์หันหลังไปและเห็นผู้หญิงคนนึงในชุดเดรสหรูหรา

 

เธอสวยมากและมีริมฝีปากสีแดง, เธอมีคิ้วยาวหนา, และมีหน้าตาค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ เธอมีรูปร่างใหญ่โตและไม่มีจุดบกพร่องเลย มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกอายุของเธอ เธอดูเหมือนอายุ 18 แต่ก็เหมือน 30 ด้วย โดยพื้นฐานแล้ว, เธอมีลักษณะที่เป็นบวกทั้งหมดสำหรับผู้หญิง ความใสซื่อ, ความน่ารัก, ความเป็นผู้ใหญ่, ความเซกซี่…ทุกๆอย่างนั้นสามารถหาจากตัวเธอได้

 

เพียงแค่สบตากับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าโลกทั้งใบขาดสีสันแล้ว แสงทั้งหมดสาดส่องมาที่ผู้หญิงคนนี้ ในตอนนี้, ใครก็ตามที่เห็นเธอก็คงอยากจะคุกเข่าต่อหน้าเธอและจุมพิศที่เท้าของเธออย่างถ่อมตัว…แต่นี่ก็เป็นแค่แรงกระตุ้นเท่านั้น คุณไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก

 

แต่ว่าภายในเกมส์, ผู้เล่นอย่างน้อยหนึ่งหมื่นคนทำแบบนั้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะราชินีที่เจิดจรัสที่สุดในฟิรุแมนที่คุณจะอยากบูชาเมื่อแรกเห็น เธอคือเกรเทล