Advent of the Archmage - ตอนที่ 294: ไอพวกแมลง, อย่าหนีนะ!
ทางเดินด้านนอกโถงใต้ดินห้องสุดท้าย
ลิงค์กับคนที่เหลือกำลังถอยอย่างเงียบๆในตอนที่เสียงอันแหบแห้งดังออกมาจากห้อง “ไม่สิ, สถานที่ของข้ายังมีพวกหนูอยู่! ทหาร, ไปฆ่าพวกมันให้หมด!”
มันเห็นได้ชัดว่าเขาสามารถสัมผัสตัวตนของลิงค์ได้แต่ยังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของเขา ที่ทางเดิน, ลิงค์เอาคทาออกมา เขาโยนลูกแก้วมิติออกไปในขณะที่ล่าถอย
ลูกแก้วมิตินั้นมีขนาดเล็กมาก, มันมีขนาดประมาณเมล็ดงา มันสังเกตุยากมากเมื่ออยู่บนพื้น และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น, เวทย์นี้ไม่มีคลื่นพลัง
นี่เป็นลักษณะเฉพาะของเวทย์มิติ สำหรับตัวมิตินั้น, ขนาดไม่ได้มีความหมายอะไร
พวกเวทย์มิติ,หรือพลังมิติขนาดใหญ่, อย่างเช่นสนามพลังของฟิรุแมนนั้นมีความอ่อนแอและบิดเบี้ยวมากๆ มันไม่มีความสามารถในการทำลายเลย อย่างไรก็ตาม, บางสิ่งที่มีขนาดเท่าเมล็ดงานี้ได้เก็บพลังทำลายโลกเอาไว้
มอริแกนไม่เข้าใจสิ่งที่ลิงค์ทำ “มาสเตอร์ลิงค์” เขากระซิบ “เกราะของพวกนักรบมัมมี่ไฮเอลฟ์นั้นหรูหรากว่าอันที่อยู่ในห้องแรกอีกนะครับ ข้าพนันได้เลยว่าพวกมันแข็งแกร่ง เวทมนตร์ขนาดเล็กของท่านจะได้ผลหรอ?”
ในขณะที่เขาพูด, มอริแกนเองก็เริ่มติดตั้งเวทย์กับดักเอาไว้บนพื้น มันคือกับดักเพลิงเลเวล 3, กับดักนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อมีคนไปเหยียบมัน เขาร่ายเวทย์พวกนี้อย่างรวดเร็ว—หนึ่งอันในทุกๆสองวินาที
“ไม่ต้องห่วง, มันจะได้ผลแน่” ลิงค์ตอบด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็หันไปหาเฟลิน่า “ในตอนที่พวกมันเข้ามา, เตรียมพร้อมโจมตีเอาไว้เลยนะ นานะ, เธอก็ด้วย ฉันจะสกัดพวกมันเอาไว้ให้!”
“โอเค”
“รับทราบค่ะ”
ประมาณครึ่งนาทีต่อมา, นักรบมัมมี่ไฮเอลฟ์ก็ปรากฎขึ้นที่หัวมุมที่อยู่ด้านหลัง พวกมันสวมใส่เกราะเวทมนตร์ครบเซ็ทและถืออาวุธครบมือ พวกมันมีดาบเวทมนตร์คุณภาพดีในมือขวาและโล่ที่เปล่งประกายไปด้วยเวทมนตร์ในมือซ้าย
ดวงตาของมอริแกนเปล่งประกาย, เขาลืมเรื่องอันตรายไปแล้ว “โหว, อาวุธพวกนี้มีพลังเวทย์แข็งแกร่งมาก, และพวกมันก็โคตรสวยเลย ของพวกนี้มาจากยุคทองของไฮเอลฟ์ ข้าพนันได้เลยว่าดาบเวทมนตร์พวกนี้คงขายได้อย่างน้อย 10,000 เหรียญทองในเมืองฮอทสปริง! ส่วนโล่ก็น่าจะมีราคาอย่างน้อย 5,000 เหรียญทอง!”
“หุบปากซะ!” เฟลิน่าโกรธ เธออารมณ์เสียตั้งแต่ถูกหลอกให้เข้ามาในสุสานแล้ว, และตอนนี้ชายคนนี้ก็กำลังอยากได้ของคนตายอีก เธออยากจะจัดการนักขโมยสุสานคนนี้ให้ตายไปซะ
ราชานักผจญภัยมอริแกนตัวสั่นในทันที, แล้วไม่กล้าพูดอะไรอีก
ในครั้งนี้, นักรบมัมมี่คนแรกได้เหยียบกับดักเพลิงของมอริแกน มันระเบิดด้วยเสียงตูมและไฟก็ลุกโชญไปทั่วทางเดิน, ห่อหุ้มกลุ่มนักรบมัมมี่ที่อยู่ข้างหลัง
หากไม่พูดถึงพลังของเวทมนตร์, จังหวะและมุมของเวทย์นี้ก็สมบูรณ์แบบมาก “เยี่ยม” ลิงค์ชม
มอริแกนยิ้มในทันที เขารู้ว่าตัวเขาสิบคนก็ยังสู้ลิงค์ไม่ได้ในแง่ของเวทมนตร์, ดังนั้นอีโก้ของเขาจึงเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดกับคำชมนี้ เหมือนกับถูกฉีดสเตอรอยด์, ความเร็วในการร่ายเวทย์กับดักเพลิงของเขาเพิ่มขึ้นอีก
เฟลิน่าไม่ชอบเขา, ดังนั้นเธอจึงแค่เยาะเย้ย “หึ, มัมมี่พวกนี้มีเลเวลอย่างน้อย 6 และสวมชุดเกราะต้านทานเวทมนตร์ด้วย ไฟของเจ้าก็ทำได้แค่สกิดพวกมันเท่านั้นแหล่ะ!”
นั่นเป็นความจริง ไฟกระจายไปทั่วทางเดินและนักรบมัมมี่ก็ช้าลง, แต่ว่า, เกราะของพวกมันก็เปล่งแสงออกมาภายใต้กองไฟ, แล้วกำจัดพลังของไฟไปจนหมด
มอริแกนยักไหล่ “ข้าไม่มีเวทย์อื่นแล้วนี่!”
ถ้าเขาอยู่ที่นี่คนเดียว, เขาคงจะแค่สำรวจสุสาน, ฉกของบางอย่าง, แล้วรีบโกย แต่ตอนนี้, พวกเขาอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางและกำลังเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดส่วนตัวของเจ้าของสุสานอยู่, งานที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือการรักษาชีวิตของตัวเอง
และเพื่อทำแบบนั้น, เห็นได้ชัดว่าเขาต้องพึ่งลิงค์กับเฟลิน่า ซึ่งตอนนี้, เขาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังทั้งสองคน
ในตอนนั้นเอง, มัมมี่ก็พุ่งเข้าใส่ลูกแก้วมิติลูกแรกของลิงค์
“เตรียมพร้อมเอาไว้นะ!” ลิงค์สั่งอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เขาพูด, มัมมี่แปดคนก็มาถึงลูกแก้ว ตำแหน่งของพวกมันได้ขวางมัมมี่ที่อยู่ข้างหลังเอาไว้ด้วย, ทำให้มันเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโจมตี
“ยับยั้ง!”
ด้วยเสียงหึ่งเบาๆ, ลูกแก้วมิติก็ขยายตัวออกในทันที, แล้วผนึกทางเดินกว้าง 12 ฟุตเอาไว้
จากตรงนี้, พวกเขาจะมองเห็นได้ว่ามีนักรบมัมมี่แปดคนถูกลูกบอลที่มีพลังพลังเหมือนกับหมอกปกคลุมเอาไว้ พอสังเกตุดูใกล้ๆ, มันไม่ได้ดูเหมือนหมอกเลยมันดูเหมือนกับคลื่นอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนมากกว่า…แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่เหมือนทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะ มันเป็นแค่ปรากฎการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้
ในพื้นที่ที่เหมือนกับหมอกนี้, มัมมี่เคลื่อนไหวไม่ได้เลย…ไม่สิ, พวกมันกำลังเคลื่อนไหวแต่ว่าช้ามากๆ, เหมือนกับกำลังวิ่งมาข้างหน้าทีละหนึ่งมิลลิเมตร
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะโจมตี!
เฟลิน่ากับนานะพุ่งเข้าไป เฟลิน่าใช้กรงเล็บมังกรของเธอ, ซึ่งแต่ละข้างนั้นมีความคมเหมือนกับใบมีด ด้วยการข่วนเพียงครั้งเดียว, เธอก็เฉือนร่างกายและชุดเกาะของมัมมี่เป็นชิ้นๆ ดาบสั้นระดับอีพิคทั้งสองเล่มของนานะก็ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง เธอกำจัดมัมมี่หนึ่งคนด้วยการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้ง
ซึ่งมันแปลกมาก, ลูกแก้วมิติส่งผลแค่กับพวกมัมมี่เท่านั้น เฟลิน่ากับนานะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
ผลลัพธ์นี้มีอยู่ประมาณสองวินาที, แล้วนักรบมัมมี่แปดคนที่ถูกยับยั้งก็หัวขาดกันหมดราวกับว่าพวกมันมาเรียงแถวหาความตาย
“ถอยออกมา 30 ฟุต!” ลิงค์เรียก
เฟลิน่าถอยออกมา 30 ฟุตโดยไม่ลังเล, และไม่ได้ถอยออกมาใกล้หรือไกลเกินไปเลยซักนิ้วเดียว นานะเองก็ทำตามเธอเหมือนกับเงา
หลังจากจัดการมัมมี่ไปได้แปดคน, ก็ยังมีนักรบมัมมี่เหลืออยู่อีกอย่างน้อย 20 คน พวกมันทุกคนมีเลเวลประมาณ 6 และไม่กลัวความตายเลย ในตอนที่การจราจรหายติดขัด, พวกมันก็ถาโถมมาข้างหน้าอีกครั้ง
หลังจากพุ่งมาได้ 20 ฟุต, ลูกแก้วมิติก็ระเบิดอีกครั้ง ครั้งนี้, มันยับยั้งมัมมี่ได้สิบคน พวกมันถูกขวางเส้นทางอีกครั้ง นักรบมัมมี่ที่อยู่ข้างหลังพวกมันตะโกนออกมาแต่ก็ทำได้แค่กระโดดขึ้นลงอย่างหมดความอดทน
เฟลิน่ากับนานะพุ่งเข้าไปอีกครั้งแล้วเริ่มไล่ตัดหัวทีละคน
“ถอยออกมา 25 ฟุต”
หึ่ง! ลูกแก้วมิติระเบิด
ฉัวะ, ฉัวะ, ฉัวะ นี่คือเสียงของนานะกับเฟลิน่าที่กำลัง ‘ไล่หั่นผัก’
การถอยสองครั้งนี้ทำให้นักรบมัมมี่สุดแกร่งหัวขาดกันหมด พวกมันยังไม่ตาย, และไฟวิญญาณในกระโหลกของพวกมันก็ยังเปล่งแสงอยู่, แต่ว่าพวกมันก็ไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไปแล้ว
นานะเดินขึ้นมาไล่ทุบกระโหลกทีละคน, จากนั้นไฟวิญญาณก็สลายไป
นักรบมัมมี่เลเวล 6 ทั้งหมด 30 คนถูกฆ่าไปทั้งแบบนั้น กระบวนการทั้งหมดนี้ง่ายมากจนเฟลิน่าไม่รู้สึกเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ
“มันจบแล้วหรอ?” มอริแกนพูดไม่ออก ศัตรูที่แข็งแกร่งถูกฆ่าทิ้งง่ายๆแบบนี้เลยหรอ? นี่มันไม่ถูก พวกเขาควรจะได้เจอกับการต่อสู้ที่รุนแรงสิ!
พวกเขาเป็นนักเวทย์กันทั้งคู่, แต่เวทมนตร์ของลิงค์นั้นอยู่เหนือความเข้าใจของมอริแกนโดยสิ้นเชิง พวกเขาเรียนรู้เวทมนตร์มาคนละแบบกัน
“ไม่, ยังไม่จบหรอก” ลิงค์ส่ายหัว “ยังเหลือเดอร์แรคอยู่ เขาแตกต่างจากนักรบมัมมี่ที่มีแค่สัญชาติญาณการต่อสู้พวกนี้ เขายังมีสติอยู่แล้วจัดการได้ค่อนข้างยากด้วย
เฟลิน่าเข้าใจลิงค์ เธอรู้ว่าเดอร์แรคน่าจะมีเลเวล 9, แต่ลิงค์กลับพูดแค่ว่าจัดการ ‘ค่อนข้าง’ ยาก ซึ่งนี่หมายความว่าลิงค์รู้วิธีจัดการแล้ว
“พวกเราจะต้องทำยังไงบ้างเชิญว่ามาเลย” เธอพูด
“ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้, แค่ฉันกับนานะก็พอแล้ว ทั้งสองคนรออยู่ที่นี่แหล่ะ”
โดยไม่รอการตอบสนองของเฟลิน่ากับนานะ, ลิงค์ก็กวักมือเรียกนานะแล้วตรงไปที่ประตูสุดทางเดิน
ถ้าเดอร์แรคเป็นนักเวทย์เลเวล 9 จริงๆ, เขาก็คงจะรีบหนีไปให้เร็วที่สุดโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม, เดอร์แร็คนั้นเป็นแค่วิญญาณอมตะ หลังจากผ่านมาหลายพันปี, สติของเขาก็ใกล้จะหายไปแล้วและสติปัญญาของเขาก็คงจะไม่สูงไปกว่า NPC ภายในเกมส์ ไม่มีอะไรให้กลัวเลย
มีหัวมุมอยู่ที่สุดทางเดิน; หลังจากนั้นก็คือทางเข้าห้อง ลิงค์แอบอยู่ตรงหัวมุมแล้วอัญเชิญกระจกแสงออกมา
เขาไม่ได้ตอบสนองกับการสอดส่องของลิงค์ราวกับว่ามองไม่เห็นลิงค์ ซึ่งนี่หมายความว่าเดอร์แรคนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ช้ามากๆ โดยรวมแล้วเขาจะมองข้ามพลังที่ไม่เป็นภัยคุกคาม
ลิงค์ยังไม่มั่นใจ เขาซ่อนอยู่ในจุดอับสายตาของเดอร์แรคแล้วโยนลูกแก้วมิติไปที่ประตู จากนั้นเขาก็กระซิบกับนานะ “เธอเห็นกระเบื้องแตกๆตรงนั้นไหม? หยิบมันขึ้นมาแล้วโยนใส่เขาทีสิ”
“รับทราบค่ะ” นานะเดินไปที่ประตูแล้วหยิบกระเบื้องขึ้นมา ด้วยการรวบรวมพลังของเธอ, ลมกรรโชกอันน่าหวาดกลัวก็ปรากฎขึ้น กระเบื้องถูกขว้างใส่เดอร์เรคเหมือนกับปืนใหญ่ มันมีความรุนแรงเทียบเท่ากับเวทย์เลเวล 3
เพล้ง! กระเบื้องถูกโล่เวทมนตร์ของเดอร์แร็คป้องกันในจังหวะสุดท้ายแล้วกลายเป็นผุยผง จากนั้นเดอร์แรคก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง “ไอหนูชั่ว! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
จากนั้นสายฟ้าก็ปรากฎขึ้น พวกเขาอยู่ห่างจากบัลลังก็ประมาณ 230 ฟุต ในตอนที่มันมาใกล้ถึงตัวนานะ, คลื่นเวทมนตร์ทั้วทั้งห้องก็ปั่นป่วน สายฟ้านี้ทรงพลังเหมือนกับสึนามิ!
นี่เป็นพลังที่มีความแข็งแกร่งอย่างน้อยเลเวล 8!
“ยับยั้ง!” ลิงค์คาดการณ์การโจมตีนี้เอาไว้แล้ว, ดังนั้นเขาจึงเปิดใช้ลูกแก้วมิติ ด้วยเสียงหึ่ง, หมอกแปลกๆก็ปรากฎขึ้นอีกครั้งที่ทางเข้าห้อง
สายฟ้าพุ่งเข้าใส่หมอกและช้าลงในทันที ในพื้นที่แช่แข็ง, เขามองเห็นสายฟ้าหลายพันเส้นกำลังพุ่งเข้าใส่นานะเหมือนกับรากต้นไม้ที่แตกหน่อออกมา
นานะซ่อนหลังประตูในทันที
แล้วในจังหวะต่อมา, ก็มีเสียงเพล้งดังขึ้น ลูกแก้วมิติของลิงค์สลายไป เวทย์เลเวล 8 นี้แข็งแกร่งเกินไป, ลิงค์สามารถยับยั้งมันเอาไว้ได้แค่ชั่วเสี้ยววินาทีเท่านั้น ถ้านี่เป็นเฟลิน่า, เธออาจจะหลบไม่ทันก็ได้
เปรี้ยง! สายฟ้าพุ่งผ่านนานะแล้วชนเข้ากับกำแพงที่อยู่นอกห้อง มันช๊อตนานถึงสามวินาทีเต็ม
หลังจากผ่านไปสามวินาที, ก็มีหลุมลึก 15 ฟุตในกำแพง, หินที่อยู่ในหลุมนั้นละลายกลายเป็นลาวาร้อน พลังนี้ช่างน่าตกใจจริงๆ
จากนั้นเสียงของเดอร์แรคก็ดังออกมาจากห้อง “เจ้าหนู, อย่าซ่อนสิ ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ตรงนั้น!”
มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น, แล้วบอลออร่ามานาอันน่าหวาดกลัวก็เข้ามาใกล้ๆ เดอร์แรคกำลังจะเข้ามาสู้ด้วยตัวเองแล้วในตอนนี้
“ไปเถอะ, นานะ ถอยกัน!” ลิงค์หันหลังวิ่ง ในขณะที่วิ่ง, เขาก็ทิ้งลูกแก้วมิติเอาไว้ตามทาง โครงสร้างมานาของพวกมันไม่ได้ซับซ้อน, แต่ความถี่ของรูนแต่ละตัวนั้นจะต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ดังนั้น, ลิงค์จึงใช้มานาไม่ถึง 200 แต้มสำหรับลูกบอลมิติหนึ่งลูก ด้วยมานาของเขาและวิธีฟื้นมัน, เขาสามารถร่ายติดกันได้ 55 ครั้ง ซึ่งมันน่าจะพอแล้วสำหรับการจัดการเดอร์เรค
ในตอนที่เขาวิ่งไปเจอเฟลิน่า, ลิงค์ก็พูดขึ้น “วิ่งเร็ว เดอร์แรคอยู่ที่นี่, พวกเราต้องรีบถอยไปที่กับดักเวทมนตร์อันแรก”
ในขณะที่เขาพูด, ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่าลูกแก้วมิติอันแรกของเขาถูกรบกวน เขาเปิดใช้มันโดยไม่ลังเล
หึ่ง! มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังพวกเขา จากนั้นก็มีเสียงระเบิดของพลังที่แข็งแกร่ง แล้วเสียงตะโกนของเดอร์แรคก็ลอยมาตามทาง “คิดจะใช้ลูกเล่นจิ๊บจ๊อยแบบนี้กับข้าหรอ? ช่างน่าขันยิ่งนัก!”
ลูกแก้วมิติของลิงค์อยู่ได้แค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น พลังของเดอร์แรคนั้นน่ากลัวมาก!
ใบหน้าของเฟลิน่ากับมอริแกนเปลี่ยนในทันที ถ้าเดอร์แรคจับพวกเขาได้, มันก็คงจะเป็นจุดจบ และที่แย่ยิ่งกว่านั้น, เส้นทางข้างหน้าของพวกเขาถูกปิดผนึก นี่เป็นทางตัน!
“ลิงค์, แผนเป็นยังไง!” เฟลิน่าทนไม่ไหวแล้ว นักเวทย์เลเวล 9 สามารถเปลี่ยนเธอเป็นฝุ่นได้ในการโจมตีเดียว เธอไม่มีความมั่นใจเลย
ลิงค์ยังคงใจเย็นอยู่ “ไม่ต้องห่วง เขาจะตายในวันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย! ตามฉันมาเถอะอย่ามัวชักช้า”
เขาวิ่งไปที่ทางออก เฟลิน่ากับมอริแกนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตามไป หลังจากเดินไปได้ไม่ก็ฟุต, ลิงค์ก็เปิดใช้ลูกแก้วมิติอันที่สอง ชั่วเสี้ยววินาทีต่อมา, ก็มีเสียงดังหึ่ง เดอร์แรคถูกมิติยับยั้งเอาไว้อย่างง่ายดาย
“ลูกเล่นของพวกแมลงนี่มันน่ารำคาญจริงๆ” เดอร์แรคตะโกน เขาไม่ได้ใส่ใจแต่พอได้ยินแบบนี้, ลิงค์ก็ยิ้มออกมา
นี่อาจจะเป็นลูกเล่นของแมลง, แต่แมลงก็ไม่ได้กลัวอันเดธนะ!