Advent of the Archmage - ตอนที่ 88: งดงามราวกับผลงานศิลปะ
หอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล, ในห้องโถงชั้นหนึ่ง
…
“สี่แผ่น, ห้าแผ่น, สี่แผ่น… แซ็ค, ทำไมนายถึงส่งคำภีร์มาแค่สามแผ่นหล่ะ?” วอร์วิค ถาม, พร้อมกับจ้องไปที่นักเวทย์ฝึกหัดที่ทึ่มๆและซื้อสัตย์เบื้องหน้าเขา ขณะที่กำลังนวดขมับของเขาอยู่
“เมื่อวานผมโชคไม่ดีเลยครับ ผมทำพลาดซ้ำกันสามครั้งติดต่อกัน, เพราะฉะนั้นผมก็เลยไม่กล้าทำต่อ”
ในกระบวนการของการเตรียมคำภีร์เวทย์มนตร์นั้น, การทำผิดพลาดหลายๆครั้งเป็นสัญญาณของความเหนื่อยล้า ซึ่งนี่ก็หมายความว่าสมาธิของคนทำไม่สามารถประคองเอาไว้ได้อีกต่อไป ในตอนที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น, สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำก็คือวางปากกาขนนกลงและพักผ่อน ถ้าคุณยังฝืนตัวเองทำงานต่อไป, อุบัติเหตุร้ายแรงก็อาจจะเกิดขึ้นได้
นี่เป็นบทเรียนที่มีคุณค่าที่ส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น ในเรื่องของเวทย์มนตร์นั้น, นักเวทย์ต้องระวังเอาไว้มากๆเพราะความสะเพร่าเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ
ด้วยความที่รู้ถึงเรื่องนี้, วอร์วิค จึงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ แล้วเขาก็สังเกตุเห็นว่า แซ็ค มีสีหน้าที่อึมครึมขนาดไหน, ดังนั้นเขาจึงต้องพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลอบเขา
“ไม่ต้องห่วงนะ, ฉันจะหาทางแก้ปัญหาเอง” วอร์วิค พูด
“ผมขอโทษจริงๆนะครับ, วอร์วิค” แซ็ค พูด, ด้วยความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นมา
นักเวทย์ฝึกหัดหกคน, เก็บคำภีร์เวทย์มนตร์ทั้งหมดที่พวกเขาสร้างขึ้นมาในหนึ่งวัน, ร่วมกับหกเล่มที่ วอร์วิค สร้างเองก็ยังไม่ถึงยอดที่เขาตั้งเอาไว้อยู่ดี วันนี้เขาได้รับคำภีร์เวทย์มนตร์ 30 แผ่น, แล้วบวกกับของเมื่อวานอีก 35 แผ่น, ตอนนี้ วอร์วิค มีคำภีร์เวทย์มนตร์ทั้งหมด 65 แผ่น
แต่พวกเขามีเวลาแค่ 20 วัน, และด้วยความก้าวหน้าระดับนี้, หากพวกเขาโชคดีก็คงจะสามารถผลิตได้ 700 แผ่น แต่การผลิต 800 แผ่นนั้นมันเป็นไปไม่ได้!
พวกเราห่างใกลกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้มากเกินไป วอร์วิค สูญเสียความหวังทั้งหมดในการทำหน้าที่ให้สำเร็จ ทั้งหมดที่เขาคิดในตอนนี้ก็คือจะบอกกับ เดเร็ค ยังไงดี
ที่ปรึกษาของพวกเราเป็นนักเวทย์ที่น่าภาคภูมิใจ เขาต้องโกรธแน่ๆถ้าเขารู้ว่าพวกเราไม่สามารถทำหน้าที่ให้สำเร็จได้ จากนั้นเขาก็จะสูญเสียความเยือกเย็นและทำให้ชีวิตของพวกเราตกอยู่ในฝันร้าย วอร์วิค เริ่มจินตนาการถึงวันเวลาที่โหดร้ายที่รออยู่ข้างหน้าแล้ว
แกร้ก มันคือเสียงของ ลิงค์ ที่กำลังเปิดประตูของห้องเล็กๆที่อยู่ใต้บันได ลิงค์ เดินออกมาพร้อมกับคำภีร์เวทย์มนตร์เต็มมือ
“ลิงค์, วันนี้นายทำได้กี่แผ่น?” วอร์วิค ถาม, ดวงตาของเขาลุกโชนขึ้นมาทันทีที่เห็น ลิงค์
ขณะที่เขาพูด, ดวงตาของเขาก็จดจ่อไปที่คำภีร์เวทย์มนตร์ในมือของ ลิงค์ เขาเริ่มนับพวกมันอย่างเงียบๆ
“วันนี้ผมโชคดีหน่ะ ผมคิดว่าผมเริ่มคุ้นเคยกับมันแล้วหล่ะ เพราะฉะนั้นผมก็เลยสร้างได้ห้าแผ่น” ลิงค์ พูดขณะที่ส่งคำภีร์เวทย์มนตร์ให้
วอร์วิค มีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที เขาคิดไม่ถึงเลยว่ามือใหม่จะสามารถสร้างคำภีร์ห้าแผ่นได้ในวันที่สองเพียงเท่านั้น ในความเป็นจริง, ตัว วอร์วิค เองเพิ่งจะทำไดเมื่อสองวันก่อนนี้เอง
เขารับคำภีร์เวทย์มนตร์มาแล้วตรวจสอบพวกมันทีละแผ่น
.
เหมือนเช่นเคย, พื้นผิวของคำภีร์เรียบร้อยมากๆ, และงานเขียนของอักขระเวทย์ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไหลลื่นที่ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด มานาที่อยู่ข้างในคำภีร์ไหลเวียนในลักษณะที่เรียบง่ายและนุ่มนวล, ทำให้ผู้ที่สังเกตุมันรู้สึกดี
“ของพวกนี้เป็นคำภีร์เวทย์มนตร์คุณภาพสูงทั้งหมดเลยนี่! ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก!” วอร์วิค อดที่จะชื่นชมไม่ได้ เขาพบว่าแค่มองคำภีร์เวทย์มนตร์ของ ลิงค์ เพียงอย่างเดียวก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจแล้ว ในความเป็นจริง, เขาต้องการที่จะมองพวกมันต่อและไม่เต็มใจที่จะเก็บพวกมันไป
แน่นอนว่า, คำภีร์ทั้งห้าแผ่นนั้นสมบูรณ์แบบ วอร์วิค วางคำภีร์เวทย์มนตร์ลงอย่างระมัดระวัง, จากนั้นก็มองหน้า ลิงค์, แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “วันนี้นายรู้สึกยังไงบ้าง? เหนื่อยไหม?”
“ไม่ครับ, ผมสบายดี ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย” ลิงค์ ตอบคำถามอย่างใจเย็นหลังจากที่ส่ายหัว
“เป็นงั้นก็ดีแล้ว แต่จำเอาไว้นะว่าอย่าหักโหมมากเกินไป ถ้ารู้สึกเหนื่อยก็พักผ่อนซะหล่ะ อย่าฝืนตัวเองมากเกินไป” วอร์วิค พูดซ้ำคำแนะนำเดิม เขายังรู้สึกสะเทือนใจหลังจากที่เสียนักเวทย์ฝึกหัดไปสองคน
“เข้าใจแล้วครับ” ลิงค์ ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มบางๆบนหน้าของเขา
การสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ห้าแผ่นไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาเลย ในความเป็นจริง, วันนี้เขาทำไปแล้ว 15 แผ่น, แต่เขาไม่ต้องการที่จะแสดงมันทั้งหมดให้กับ วอร์วิค เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวาย
จริงๆแล้วเขาใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่งเพียงเท่านั้นในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์พวกนี้ หลังจากนั้นเขายังมีเวลาอีกตั้งครึ่งวันในการอ่านหนังสือ, แล้วก็ใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆไปกับการเขียนวิทยานิพนธ์ก่อนที่จะออกมาจากห้อง
โดยรวมแล้ว, งานทั้งหมดในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการเรียนของเขาเลย
ในวันที่สี่, ลิงค์ ใส่ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกสองเท่าแล้วสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ได้ 20 แผ่น เขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการทำงานกับคำภีร์เวทย์มนตร์เกราะป้องกันระดับต่ำ ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญกับมันมากจนเขาสามารถทำมันได้แม้ว่าจะหลับตาอยู่และไม่มีข้อผิดพลาดเลยสักจุดเดียว ลิงค์ เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบเพราะฉะนั้นเขาจึงให้ความสนใจกับทุกๆรายละเอียดไม่ว่าเขาจะทำอะไร, ดังนั้นคำภีร์เวทย์มนตร์ของเขาจึงมีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถึงเวลาส่งคำภีร์เวทย์มนตร์ในตอนเย็น, ลิงค์ ก็เห็น วอร์วิค จมปลักอยู่กับความเศร้า
“วอร์วิค, เกิดอะไรขึ้น?” ลิงค์ ถาม
“ทุกๆคนเหนื่อยจนถึงขีดสุดแล้ว, วันนี้พวกเราได้คำภีร์มาแค่ 28 แผ่นเอง ฉันมั่นใจเลยว่าพวกเราจะผลิตได้น้อยลงและน้อยลงเรื่อยๆในทุกๆวัน ถ้าพวกเรายังเป็นแบบนี้ต่อไป, ก็ไม่มีทางที่พวกเราจะทำหน้าที่สำเร็จได้หรอก!” วอร์วิค ตอบกลับมาอย่างเฉื่อยชา, ร่างกายของเขาทรุดลงกับโต๊ะ
ตัว วอร์วิค ก็สร้างได้แค่ห้าแผ่นต่อวันเท่านั้นเอง หลังจากผ่านไปสามวันของการฝืนตัวเองให้สร้างคำภีร์ให้ได้มากที่สุด, ตอนนี้เขาก็ตัวบิดเหมือนกับผ้าเช็ดตัว เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาไม่สามารถจัดการมันด้วยตัวคนเดียวได้อีกและเขาก็ต้องรายงานกับ เดเร็ค เพื่อขอความช่วยเหลือ
หลังจากที่พูดจบ, เขาก็เงยหน้ามอง ลิงค์, แล้วเห็นเขากำลังถือคำภีร์กองใหญ่
“นั่นของจริงหรอ…” วอร์วิค สับสน, เขาสงสัยว่าถ้าคำภีร์ในมือของ ลิงค์ เป็นคำภีร์เวทย์มนตร์จริงๆ ก็ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีคำภีร์มากกว่าของเมื่อวานซะอีก!
“วันนี้โชคอยู่ข้างผมจริงๆ, ผมก็เลยสามารถสร้างคำภีร์ได้เจ็ดแผ่น เอาไปสิครับ” ลิงค์ พูดพร้อมกับยิ้มให้ขณะที่วางคำภีร์เวทย์มนตร์ของเขาลงบนโต๊ะของ วอร์วิค อย่างสุภาพ
“อะไรนะ? เจ็ดแผ่นเลยหรอ? เป็นไปไม่ได้!” วอร์วิค อุทานขึ้นพร้อมกับดีดตัวขึ้นมาจากสภาพเฉื่อยชาของเขา
คำภีร์เจ็ดแผ่นคงจะไม่ใช่จำนวนที่น่าเหลือเชื่อถ้า ลิงค์ เป็นนักเวทย์ฝึกหัดระดับสูง แต่ ลิงค์ เป็นมือใหม่ที่มีมานาน้อยมากๆอย่างเห็นได้ชัดแล้วในความเป็นจริงเขาก็เพิ่งจะเรียนรู้การเตรียมคำภีร์เวทย์ป้องกันเมื่อไม่กี่วันก่อนเท่านั้น! แล้วเขาสามารถสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์เจ็ดแผ่นในหนึ่งวันได้ยังไงกัน?
น้ำเสียงของ วอร์วิค ค่อนข้างดัง, ทำให้นักเวทย์ฝึกหัดหลายคนได้ยินเข้าแล้วก็เริ่มมารวมตัวกันรอบๆ ท่ามกลางพวกเขาก็คือ แมต, ที่สร้างคำภีร์ได้แค่สามแผ่นต่อวันเท่านั้นในช่วงวันที่ผ่านมานี้
“แล้วคุณภาพของคำภีร์เวทย์มนตร์เป็นยังไงบ้างครับ?” แมต ถาม ด้วยความรู้สึกกังขาอย่างเข้าใจได้ เขาเป็นนักเวทย์ฝึกหัดระดับกลาง, แต่เขาก็ประสบกับความโชคร้ายในช่วงไม่กี่วันมานี้, จึงทำให้เขากังวลมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน แม้กระทั้งสามแผ่นต่อวันที่เขาต้องทำก็ทำให้เขาเกือบจะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว แล้วเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาได้ไม่กี่วันจะสร้างได้เยอะกว่าเขาเป็นเท่าตัวได้ยังไงกัน?
“นั่นสิ, พวกมันไม่ใช่คำภีร์ไร้ประโยชน์หรอกหรอ?” มีคนอื่นพูดแทรกเข้ามา
ในความเป็นจริง, เจ็ดแผ่นต่อวัน, สำหรับนักเวทย์ฝึกหัดทุกคนในห้องโถงนั้นเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้ นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนที่มารวมตัวกันที่นี่, วอร์วิค ที่สร้างได้แปดแผ่นในวันแรก, อาจจะเป็นแค่คนๆเดียวที่สามารถเหนือกว่าจำนวนนี้ได้
วอร์วิค ยังคงพูดไม่ออก เขาคลี่คำภีร์เวทย์มนตร์ของ ลิงค์ ที่ละแผ่นแล้วเริ่มตรวจสอบพวกมัน
ขณะที่คำภีร์ถูกคลี่ออก, นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนที่อยู่รอบๆก็ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมา
คำภีร์เวทย์มนตร์มันล่อตาล่อใจขนาดนี้ได้ยังไง? ทำไมกระแสมานาบนคำภีร์ถึงดึงดูดฉันได้มากขนาดนี้? ความคิดพวกนี้กำลังวิ่งเต้นอยู่ในหัวของนักเวทย์ฝึกหัดหลังจากที่คำภีร์เวทย์มนตร์ของ ลิงค์ ถูกเปิดเผย
“พวกมันงดงามมาก!” มีใครบางคนกระซิบ
ยังไงซะพวกเขาทุกคนก็เป็นนักเวทย์ฝึกหัด, เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงรู้ถึงคุณภาพของคำภีร์เวทย์มนตร์ดีในตอนที่พวกเขาได้เห็นมัน ในความเป็นจริง, พวกเขาส่วนใหญ่สามารถตัดสินคุณภาพของคำภีร์เวทย์มนตร์ได้ด้วยการมองแค่ปาดเดียว แม้ว่าของพวกนี้จะเป็นแค่คำภีร์เวทย์มนตร์เลเวล 0 เกราะป้องกันระดับต่ำ, แต่พวกเขาก็รู้ว่าเพือที่จะผลิตคำภีร์เวทย์มนตร์ระดับสุดยอดขนาดนี้จำเป็นต้องมีทั้งความรู้และพรสวรรค์อย่างมหาศาล
ทันใดนั้น, นักเวทย์ฝึกหัดก็เริ่มมอง ลิงค์ ในมุมมองใหม่ พวกเขาอดที่จะเคารพเขาไม่ได้สำหรับความสำเร็จในเรื่องที่น่าอัศจรรย์นี้
ตอนแรก, นักเวทย์ฝึกหัดส่วนใหญ่ในหอคอยเวทย์มนตร์ต่างก็มองว่า ลิงค์ เป็นพวกไร้ตัวตนที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้, แต่ตอนนี้, มุมมองของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว
จากนั้น, วอร์วิค ก็ตรวจสอบคำภีร์เวทย์มนตร์แผ่นที่สอง
พอเขาคลี่มันออกมา, เขาก็เห็นการไหลเวียนของอักขระเวทย์มนตร์ที่ไหลลื่น, และการไหลเวียนของมานาที่งดงามและกลมกลืนเหมือนเดิม คำภีร์เวทย์มนตร์พวกนี้ทำให้ผู้ที่สังเกตุรู้สึกเคลิบเคลิ้มจนทำให้พวกเขาไม่เต็มใจที่จะวางมันลงหรือเบือนสายตาหนีออกจากมัน
“โอ้เทพแห่งแสง, ช่างเป็นคำภีร์เวทย์มนตร์ที่ยอดเยี่ยมอะไรเยี่ยงนี้ มันงดงามราวกับผลงานศิลปะ! ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะสามารถเอาตัวเองไปใช้มันได้” นักเวทย์อีกคนนึงกระซิบหลังจากที่ถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความชื่นชม
การสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับการประดิษฐ์อักษร ในตอนที่ถ้อยคำถูกเขียนเอาไว้อย่างดี, มันก็จะกลายเป็นผลงานศิลปะที่สามารถขายได้หลายเหรียญทอง แต่ถ้าถ้อยคำเดียวกันถูกเขียนเอาไว้ไม่ดี, มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากรอยขีดข่วนของสุนัขที่ไม่มีใครคิดที่จะชำเลืองตามองเป็นครั้งที่สอง
หากตัดสินจากปฏิกริยาของนักเวทย์ฝึกหัด, คำภีร์เวทย์มนตร์ของ ลิงค์ ก็คือผลงานศิลปะ
หลังจากที่ วอร์วิค ตรวจสอบคำภีร์เวทย์มนตร์ของ ลิงค์ ที่ละแผ่น, เขาก็พบว่าทั้งหมดเจ็ดแผ่นนั้นไม่มีอันไหนที่หลุดไปจากคุณภาพสูงสุดเลย ฝูงชนระเบิดเสียงอุทานออกมาอีกระลอก
ถ้าแค่แผ่นหรือสองแผ่นที่เป็นระดับยอดเยี่ยม, มันก็ยังคงเป็นแค่ผลของโชค แต่ถ้าทั้งหมดเป็นระดับยอดเยี่ยมก็คือความเหลือเชื่อ, มันสามารถอธิบายได้แค่อย่างเดียวว่า ลิงค์ คืออัจฉริยะที่แท้จริง ความแข็งแกร่งของมานาของเขาอาจจะอ่อนแอจนน่าสงสาร, แต่นับจากนี้เป็นต้นไปคงไม่มีใครสามารถปฏิเสธความจริงได้ว่าเขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมากในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์!
ลิงค์ อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล มาเป็นเวลามากกว่าครึ่งเดือนแล้ว, แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้รับการจดจำอย่างแท้จริงจากนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นๆ
แต่พวกเขาก็หารู้ไม่ว่า, การสร้างเจ็ดแผ่นนั้นเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น