Advent of the Archmage - ตอนที่ 34: จากหินสู่ดวงอาทิตย์ จากดวงดาวสู่จักรวาล
ด้วยความช่วยเหลือของ ลิงค์ เอเลียร์ด จึงได้เงิน 1500 เหรียญทองสำหรับค่าเล่าเรียนมา แถมเขายังมีพรสวรรค์ในเรื่องเวทมนตร์ เขาจึงเข้าเรียนในสถาบันได้โดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป
ตรงกันข้ามกับ ลิงค์ ที่ตกอยู่ในความยากลำบากแทน เขาเอาเงินทั้งหมดให้กับ เอเลียร์ด และตอนนี้เขามีเงินเหลืออยู่แค่ 6 เหรียญทองเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะมีความคิดในเรื่องวิทยานิพนธ์แล้ว แต่ ลิงค์ ก็รู้ว่าความสามารถทางวิชาการของเขาในโลกก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรที่จะช่วยได้ แม้เขาไม่ได้เป็นนักเรียนที่ไม่ดี แต่เขาก็ห่างไกลจากการเป็นนักเรียนดีเด่น และเขาก็มีแค่ความเข้าใจพื้นฐานในสิ่งที่เขาได้เรียนเท่านั้น
ตอนนี้เขาอาจจะมีพรสวรรค์ในด้านสติปัญญาที่น่าทึ่ง แต่เพื่อที่จะสร้างวิทยานิพนธ์ที่เป็นที่ยอมรับได้ก็ยังคงต้องใช้เวลาและแรงกายอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาที่จะคิดหาวิธีหาเงิน
เพื่อประหยัดเงิน เขาได้ย้ายจากห้องพักที่ดีที่สุดในโรงแรมริเวอร์โควฟ ไปยังห้องใต้หลังคาขนาดเล็กที่ชั้นบนสุด ค่าเช่าห้องใต้หลังคามีราคาถูกมากเพียง 50 เหรียญทองแดงต่อคืน ในห้องเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บและมีขนาดเล็กมาก แทบจะไม่เกินร้อยตารางฟุต นอกจากนี้ยังไม่มีเตียงและไม่มีแม้แต่โต๊ะเลยด้วยซ้ำ แต่ ลิงค์ ได้โน้มน้าวให้เจ้าของโรงแรมใส่โต๊ะกับเก้าอี้มาให้ด้วย โดยแลกกับเขาจะยอมจ่ายค่าเช่าครึ่งเดือนสำหรับมัน
มันเป็นข้อตกลงที่ไม่แฟร์เลย แต่ว่า ลิงค์ ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะเขาไม่ได้ต้องการความหรูหราในการเอาตัวรอด แค่มีที่ให้พัก มีหลังคา แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว
เขาไปที่ร้านขายของจิปาถะเพื่อซื้อปากกาขนนก,หมึก,และกระดาษหนังแพะ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 9 เหรียญเงิน จากนั้นเขาก็ซื้อของที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน จนในที่สุดเขาก็เหลือเงินแค่ 1 เหรียญทองและอีก 1 เหรียญเงินในกระเป๋าเงินของเขา (เหรียญทอง1เหรียญมีมูลค่า 10 เหรียญเงิน) เขายังคงต้องใช้เงินกับค่าอาหารด้วย ดังนั้นเขาต้องประหยัดให้มากกว่านี้
ปัจจุบันเขามีปัญหาใหญ่ๆอยู่ 2 ข้อคือ หนึ่งคือวิทยานิพนธ์ที่เขาต้องเขียนและอีกหนึ่งคือเหรียญทอง 1500 เหรียญสำหรับค่าเล่าเรียน
เอาหล่ะ ฉันคิดว่าฉันจะเขียนวิทยานิพนธ์ให้จบก่อนแล้วค่อยกังวลเรื่องเงินทีหลัง ไว้ค่อยหาวิธีตอนที่ถึงเวลาแล้วกันนะ
เอเลียร์ด น่าจะลืมปัญหาที่ ลิงค์ ต้องเผชิญไปแล้วอย่างแน่นอน ตอนนี้เขากำลังอยู่ในหอพักของสถาบันและเริ่มเรียนเวทมนต์ ที่อีสโควฟบังคับใช้นโยบายเกี่ยวกับการให้นักเรียนเป็นนักเรียนประจำ เมื่อคุณเข้าไปแล้วคุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกสถาบันโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ ดังนั้นคงเป็นระยะเวลาที่ยาวนานสำหรับ ลิงค์ ที่จะไม่ได้เจอกับ เอเลียร์ด แต่พวกเขายังคงสามารถสื่อสารกันผ่านจดหมายได้อยู่
แต่ ลิงค์ คิดว่านี่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เขาไม่ได้อยากที่จะให้ เอเลียร์ด รู้ถึงปัญหาทั้งหมดที่เขาต้องเผชิญ หลังจากเก็บของและจัดห้องใหม่ของเขาเสร็จ เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้เล็ก ๆ ที่ผุพังแล้วเริ่มเขียนเรียงความวิทยานิพนธ์ฉบับแรกของเขา
เขาจุ่มหมึกปากกาแล้วจ้องมองผ่านหน้าต่างเล็ก ๆ ในห้องใต้หลังคา เขาเห็นป่าเกอเวนท์ถูกอาบไปด้วยแสงแดด “ฉันควรจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไรดีนะ?” เขาพึมพำกับตัวเอง
เขาคิดถึงเรื่องนี้อยู่ไม่กี่นาทีจากนั้นเขาก็เริ่มเขียน “จากก้อนหินร่วงสู่ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาว: ทฤษฎีแรงโต้ตอบสากล”
ถ้าเขาจะเขียนวิทยานิพนธ์ เขาต้องตั้งเป้าให้สูงและพยายามที่จะเขียนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เพราะว่าความยิ่งใหญ่จะดึงดูดความสนใจของทุกคน!
ลิงค์ นึกถึงความทรงจำของเขาจากโลกก่อน และรู้สึกประหลาดใจกับความทรงจำในสถานที่ห่างไกลที่ชัดเจนและถูกต้องของเขา ไม่มีความสับสนหรือชิ้นส่วนของความทรงจำอยู่เลย เขาคิดว่าเขาจะลืมกฎเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงไปอย่างสมบูรณ์ แต่ในความเป็นจริงเมื่อเขาพยายามนึกถึงรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เขาก็ได้รู้ว่าความรู้เหล่านั้นเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ฝังอยู่ในมุมนึงของจิตใจเขา เขาเพียงแค่ทำการขุดเล็ก ๆ เพื่อดึงมันขึ้นมา
ในโลกแห่งฟิรุแมนก็มีคณิตศาสตร์เช่นกัน แต่ในความเป็นจริงคณิตศาสตร์ของพวกเขามีความก้าวหน้าไปในทางที่ดีแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเส้นทางเดียวกันกับที่ใช้ในโลก ที่นี่คณิตศาสตร์เป็นเพียงสาขาของการศึกษาเวทมนต์ซึ่งเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการวิจัยเท่านั้น
เพื่อให้เข้าใจถูกต้องมากยิ่งขึ้นการศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์จึงครอบคลุมถึงทุกสาขาวิชาในฟิรุแมน และคณิตศาสตร์เป็นเพียงส่วนนึงของมันเท่านั้น
ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของร่างกายที่ ลิงค์ ใช้อยู่ในขณะนี้ได้ศึกษาในสถาบันเวทมนต์เฟลมมิ่งเป็นเวลานานแล้ว เขาอาจจะไม่ได้เรียนรู้เวทมนตร์ที่แท้จริง แต่เขาก็เข้าใจดีถึงรากฐานของเรื่องนี้ ความรู้ที่ชายหนุ่มได้รับก็เพียงพอแล้วสำหรับ ลิงค์ ที่จะเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์ของเขา
และบางทีอาจเป็นเพราะเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานอยู่แล้ว การวิเคราะห์และการตั้งสมมุติฐานของเขาจึงทำได้อย่างราบรื่น เขาพบว่าเขาสามารถรวบรวมสมาธิของเขาได้อย่างง่ายดายและไม่สนใจความคิดอื่นๆหรือการรบกวนใดๆ และความคิดทั้งหมดของเขาก็มุ่งเน้นไปที่สิ่งเดียวคือวิทยานิพนธ์
ด้วยเหตุนี้ในขณะที่เขาเริ่มเขียนเขาจึงถูกดูดเข้าไปในงานนี้ จนลืมการไหลเวียนของเวลา
ภายใต้ความคิดที่จริงจังนี้ ลิ้งค์ ได้เริ่มวิเคราะห์เหตุผลของแรงดึงดูด ของวัตถุที่ดึงดูดซึ่งกันและกันซึ่งเขาได้วางสมมุติฐานไว้ก่อนแล้ว
ตอนแรก ลิงค์ คิดว่าทั้งหมดจะไปตามแผน เขาจะใส่ความพยายามทั้งหมดของเขาในการเขียนวิทยานิพนธ์ที่น่าประทับใจที่จะทำให้ทุกคนอ้าปากค้างแล้วเขาจะหาวิธีที่จะหาเงินเพื่อเอามาจ่ายค่าเข้าเรียน และปัง! เข้าก็จะได้เรียนที่สถาบันอีสโควฟ ที่เขาอยากจะเข้า
แต่ว่าทฤษฏีกับการทดลองย่อมได้ผลไม่ตรงกัน ลิงค์ พบว่ายิ่งเขาคิดสมมุติฐานเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีปัญหามากขึ้นเท่านั้น
ลิงค์ รู้ว่าเขาจะจบด้วยกฎแรงโน้มถ่วงสากลในตอนท้ายของวิทยานิพนธ์ของเขา ซึ่งเขาคิดว่ามันไม่น่ายากที่จะใช้สมการทางคณิตศาสตร์ในขั้นสุดท้ายสำหรับกฎแรงโน้มถ่วงสากล แต่ในขณะที่เขายิ่งเขียนมากขึ้นและมากขึ้นตามที่ตรรกะของเขานำทางเขาก็ตระหนักได้ว่าเขานั้นตกอยู่ในห้วงที่แปลกประหลาดอย่างสมบูรณ์
พอเขากลับมาสู่ความเป็นจริง เขาก็เห็นว่าแผ่นหนังแพะนั้นเต็มไปด้วยเรื่องของสูตรทางคณิตศาสตร์และสูตรสมการของรูนมานา และนั่นเกือบจะทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว
ฉันแค่พยายามที่จะอนุมานถึงกฎแห่งแรงโน้มถ่วงสากล แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
ผีของกฎโน้มถ่วงได้เกิดขึ้นบนกระดาษ แต่ยังมีเศษทฤษฎีสัมพัทธภาพและสิ่งที่น่างุนงงอื่น ๆ อีกมากมายที่ ลิงค์ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน
และนั่นเอง ทำให้เขาหยุดนิ่ง เขาไม่รู้ว่าจะเขียนต่อยังไงด้วยความคิดแบบนี้
สิ่งที่เขาไม่ได้ตระหนักถึงเลย คือวิธีการตั้งสมมุติฐานเช่นกฎแรงโน้มถ่วงสากลหรือทฤษฎีสัมพันธภาพ ถ้าคุณกลั่นกรองพวกมันตามหลักเหตุผลของพวกมัน, กำหนดธรรมชาติของโครงสร้างพื้นที่ทั้งหมดและความไม่สมบูณณ์ของเวลา พวกมันอาจอธิบายรายละเอียดที่น่าสนใจตามธรรมชาติออกมาก็ได้ แต่ในที่สุดก็จะมีรอยแตกและข้อบกพร่องทำให้พวกมันไม่ได้เป็นแบบสากลอย่างแท้จริง ซึ่งมี่ข้อยกเว้นและสถานการณ์ที่กฏถูกทำลายและกลายเป็นเรื่องไร้ประโยชน์อยู่เสมอ
ลิงค์ เองก็ไม่ได้ตระหนักว่าความสามารถทางจิตในปัจจุบันของเขามีพลังมากกว่าที่เขาคาดเอาไว้จนน่ากลัว ดังนั้นในความเป็นจริง ในขณะที่เขาคิดตามหลักเหตุผลของเขา จิตใจของเขาก็จะทำการซ่อมแซมข้อบกพร่องและรอยแตกในทฤษฎีจนค้นพบสมการที่ใช้ได้ที่แม้กระทั่งตัว ลิงค์ เองก็ไม่ได้มีความเข้าใจในรูปแบบของมัน
แม้ในขณะที่สมการแปลก ๆ เหล่านี้อธิบายถึงลักษณะของความเป็นจริง แต่มันก็ยังไม่ค่อยอธิบายได้อย่างสมบูรณ์และนั่นคือความไม่สมบูรณ์ที่ทำให้ไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาได้
สำหรับ ลิงค์ ที่ยังอ่อนประสบการณ์ นี่มันมากเกินไปสำหรับเขา แต่ตัวเขากลับไม่ตกใจเลยแม้แต่น้อย
เขาเคาะหน้าผากอุ่นๆของเขาเพื่อเคลียร์หัวของเขาจากความคิดที่ซับซ้อน จากนั้นก็ซ้อนแผ่นกระดาษเอาไว้เป็นกองเรียบร้อย ท้องของเขาร้องออกมา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไปหาอะไรกิน และเขาก็ต้องการออกนอกบ้านเพื่อผ่อนคลายและพักหายใจสักครู่ บางทีเขาอาจจะหาทางแก้ปัญหาในวิทยานิพนธ์ของเขาได้หลังจากนั้น
นี่เป็นวิธีการของ ลิงค์ เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาเขาจะไม่หนีหรือยอมแพ้ แต่เขาจะถอยกลับและคิดถึงวิธีที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าปัญหานั้นใหญ่เกินกว่าที่จะหาทางออก เขาก็จะค่อยๆทำเหมือนหอยทาก ช้าแต่แน่นอน
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ดังนั้นวิทยานิพนธ์อันยิ่งใหญ่ก็เช่นกัน บางทีฉันอาจจะต้องการการพักผ่อน เขาปลอบตัวเอง
เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องโถงเขาก็หยิบขนมปังข้าวและแก้วน้ำมานั่งรับประทานคนเดียว พอเขาอิ่ม ลิงค์ ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่ริมน้ำของเมืองริเวอร์โควฟ
ในป่าเกอเวนท์ แม่น้ำไหลผ่านอย่างรวดเร็ว ดวงอาทิตย์ส่องแสงเต็มไปด้วยความสดชื่น สายลมฤดูใบไม้ร่วงที่คมชัดโบกสะบัดและตัวป่าเองก็เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาจากเสียงร้องของนก ทั้งหมดนี้ทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลาย
หลังจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง ลิงค์ ก็ได้ไอเดียความคิดเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ เขารีบกลับไปที่ห้องใต้หลังคาของโรงแรมและกลับไปทำงานในทันที
แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ติดขัดอีกครั้งและไม่ว่าเขาจะคิดหนักแค่ไหนก็ตามก็ยังไม่มีทางออกผุดขึ้นมา เขาตระหนักได้ว่ามันมืดแล้ว ดังนั้นเขาจึงกินอาหารเย็นและตัดสินใจที่จะพักผ่อน เขาดึงหนังสือออกจากจี้และเริ่มอ่าน
ลิงค์ ได้เข้าใจเวทย์เลเวล0 บอลเพลิงแล้ว แต่เขาสังเกตเห็นข้อบกพร่องบางอย่างในโครงสร้างของเวทมนตร์ในตอนที่ร่าย เขาคิดว่าเขาจะพยายามแก้ไขข้อบกพร่อง แต่ก็จบลงด้วยการถูก เอเลียร์ด ขัดจังหวะ คราวนี้ไม่มีใครมาขัดขวางเขาในการประยุกต์ข้อบกพร่องนี้ได้แล้ว เขาจึงทำการทดลองได้อย่างเต็มที่
ด้วยคทานิวมูนในมือของเขาและการสั่นเล็กน้อยของหัวใจของเขา มานาของเขาเริ่มเข้าไปในไม้คทา และที่ปลายของมันก็เริ่มส่องแสงเวทมนต์สลัวๆ
อย่างนั้นแหละ ลิงค์ พยายามจะทำให้โครงสร้างของเวทย์บอลเพลิงสมบูรณ์
ทีละน้อยๆมานาไหลออกจากปลายไม้คทาและเริ่มสร้างโครงสร้างเวทมนต์ เมื่อโครงสร้างเวทมนตร์ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ ธาตุไฟในอากาศก็เริ่มรวมตัวกัน จากนั้น ลิงค์ ก็เริ่มใช้โครงสร้างพิเศษที่เขาปรับเปลี่ยน แต่เขาสูญเสียการควบคุมและมีการปะทุอ่อนๆ แล้วบอลเพลิงที่สร้างได้ครึ่งนึงก็หายไป
นี่มันเพิ่งเริ่มต้น ลิงค์ รู้ดีว่าเขาจะไม่ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก เขาเริ่มวิเคราะห์ขั้นตอนการดัดแปลงที่เขาใช้ตั้งแต่เริ่มแรกและเมื่อเขาแน่ใจในขั้นตอนที่แก้ไขแล้วเขาก็ทำการทดลองซ้ำ
ปัง!
สามวินาทีต่อมาลูกไฟที่ยังไม่สมบูรณ์เริ่มพังทลายและกระจัดกระจายไปอีกครั้ง
อีกครั้ง
เกิดการปะทุขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาสามารถรักษามันไว้ได้สี่วินาที นั่นหมายความว่ามีความก้าวหน้ามากขึ้น 80% ดี
อีกครั้ง
ปัง!
อีกครั้ง ปัง! เขาทำซ้ำขั้นตอนนี้ประมาณ 50 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว ในที่สุดลูกไฟก็ยุบลงเมื่อมีการก่อตัวขึ้นประมาณ 98%
ลิงค์ ตัดสินใจหยุดการทดลองชั่วคราว ทำไมฉันถึงเสียการควบคุมมานาในตอนสุดท้ายหล่ะ? เขาสงสัยว่าเขามีอะไรบางอย่างขาดไป
เขาคิดย้อนกลับไปในตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงมานาระหว่างการทดลอง เขาคิดมันอย่างละเอียดนานกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่เขาจะจมดิ่งเข้าไปในความทรงจำของคำอธิบายง่ายๆที่เขาเคยเจอในตำราเวทมนต์
ลิงค์ ค้นห้องหาตำราเวทมนต์ของเขาอย่างรวดเร็ว และหลังจากที่ผ่านไปไม่กี่นาที ในที่สุดเขาก็หาพบทั้งสามเล่ม: ธรรมชาติของมานา,ทฤษฎีของความวุ่นวายของมานาและการกระจายและการแทรกแซงของมานา
เขาพึ่งพาความทรงจำที่ไม่ชัดเจนของ ลิงค์ คนเก่า แล้วพลิกหน้าของหนังสือไปเรื่อยๆ ในเวลาไม่นานเขาก็ค้นพบสิ่งที่เขาต้องการ
สมการการกระจายของมานาและแผนภูมิการแทรกแซงของโครงสร้าง เก้าสถานการณ์ที่ความปั่นป่วนของมานาจะเกิดขึ้น และแน่นอน! ฉันได้ทำผิดพลาดไปมากมาย!
พอเขาอ่านจบแล้ว ลิงค์ ก็ตระหนักได้ว่าความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับธรรมชาติของมานาเป็นอย่างไร การพยายามสร้างโครงสร้างเวทมนตร์ที่สมบูรณ์แบบด้วยความรู้ความเข้าใจในระดับนี้ถือเป็นการกระทำของคนโง่
ในเมื่อบรรพบุรุษของฉันได้เตรียมก้อนกรวดไว้มากมายให้ฉันปีนขึ้น, ฉันคงจะโง่มากๆถ้าฉันไม่ใช้มัน
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่อย่างนิวตัน ยังเคยพูดว่าที่เขาสามารถมาไกลได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะเขากำลังยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ ลิงค์ จะไม่ทำเช่นเดียวกัน การละเลยผลงานอันยิ่งใหญ่ที่ทำเอาไว้ก่อนหน้าเขาและพยายามที่จะค้นพบทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเองตั้งแต่เริ่มต้น มันเป็นการกระทำของคนโง่ชัดๆ