Advent of the Archmage - ตอนที่ 3: เส้นทางของเขาในการเป็นนักเวทย์
ในชั้น1ของหอพักนักเวทย์ฝึกหัดมีตู้โชว์อยู่3ตู้
ในตู้แรกนั้นเป็นเอกสารของเจ้าเมืองคนก่อนของเมืองแกลดสโตน ตู้ที่ 2 นั้นมีดาบรูปร่างสวยงามที่เป็นของขวัญจากเผ่าคนแคระ และสุดท้าย แน่นอน มันคือกำไลเวทมนต์ ที่ถูกสร้างเมื่อประมาณ 2 ศตวรรษที่แล้วโดย จอมเวทย์เลเวล 10 ของสถาบันเวทมนต์
เนื่องด้วยความหนาแน่นของมานาในโลกที่ต่ำลง ทำให้ไม่มีระดับตำนาน(เลเวล11ขึ้นไป)เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว จอมเวทย์เลเวล 10 คนนี้จึงเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลก เขารู้สึกภูมิใจและยินดีที่ได้อยู่ในสถาบันเวทมนต์แห่งนี้
สิ่งที่อยู่ในตู้นั้นไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้น มันแค่ถูกวางไว้เพื่อแสดงถึงประวัติความเป็นมาของสถาบันเวทมนต์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงถูกป้องกันด้วยเวทมนต์ง่ายๆที่จะส่งเสียงเตือนขึ้นมาเมื่อตู้ถูกทำลาย
แต่ ลิงค์ รู้ว่าตู้โชว์นั้นมีกุญแจอยู่ ยิงกว่านั้น เขาก็รู้ว่ากุญแจนั้นอยู่ที่ไหน
ห้องโถงของชั้นหนึ่งนั้นกว้างขวางมาก และด้วยความที่มันดึกมากแล้ว มันจึงมืดมากเหมือนกับโถงทางเดินบนห้องของ แกรนท์ ไม่มีผิด
ลิงค์ เดินอย่างเงียบๆไปที่ห้องของมาดาม แฟร์แฟกซ์ เขาเคาะประตูเบาๆ
ปัง ปัง ปัง! เพราะความเงียบในตอนกลางคืน เสียงเคาะจึงดังเป็นพิเศษ
มาดาม แฟร์แฟกซ์ ตอบทันทีตั้งแต่การเคาะครั้งแรก “นั่นใครหน่ะ?”
ดูเหมือนเธอเพิ่งจะหลับได้ไม่นาน
ลิงค์ทำเสียงของเขาให้ดูรีบร้อนและกังวล “มาดาม นี่ผมเอง ลิงค์จากห้อง 309 ครับ ผมมีเรื่องบางอย่างต้องคุยกับคุณ มันเป็นเรื่องด่วนมาก คุณช่วยเปิดประตูให้ผมเข้าไปได้มั้ย?”
เธอเป็นหญิงแก่ใจดี เธอไม่เคยปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือใคร แม้ว่ามันจะเป็นการรบกวนการนอนของเธอก็ตาม
“ได้ ขอเวลาแปบนะ กำลังไป”
มีเสียงดังขึ้นในห้อง เสียงนั้นน่าจะเป็นเสียงมาดามใส่เสื้อผ้า ซึ่งการใส่เสื้อผ้าของโลกนี้มันค่อนข้างซับซ้อน และมาดาม แฟร์แฟกซ์ ก็ไม่ได้เร่งรีบเหมือนที่เธอทำปกติ หลังจากผ่านไปสามสี่นาที ลิงค์ก็ได้ยินเสียงเดินใกล้เข้ามาที่ประตู
ลิงค์สูดหายใจเข้าลึก แล้วหยิบคทานิวมูนขึ้นมา แล้วเข้าก็ชี้มันไปที่ประตู
ไม่นานนักล็อคประตูก็ได้เปิดออกด้วยเสียงกริ้ก มาดาม แฟร์แฟกซ์ ค่อยๆเผยใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเธอออกมาจากหลังประตู
“เกิดอะไรขึ้น…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ คทาของลิงค์ก็ได้เปล่งแสงขึ้น
“หลับ”
หลับ
เวทย์เลเวล0
ผล:ทำให้คนที่โดนหลับไป โดยถ้าคู่ต่อสู้ยิ่งแข็งแกร่ง ผลก็จะยิ่งเบาลง
ถึงเวลาที่ต้องใช้เวทย์แล้ว ลิงค์ ได้จินตนาการว่าตัวเองกำลังร่ายมนต์ และ ลิงค์ ก็พบว่ามันใช้ได้ง่ายเหมือนตอนที่อยู่ในเกมเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็การหนีออกจากแกลดโสตนก็ไม่ยากเลย ลิงค์ เริ่มมีความมั่นใจในตัวเอง
เวทย์นี้ใช้แต้มโอมนิของ ลิงค์ ไป1 และยังใช้มานาไปอีก2แต้ม แต่ว่ามันคุ้มแล้ว เขาคงไม่มีทางทุบหัวคนแก่ใจดีคนนี้ได้ลงหรอก
มาดาม แฟร์แฟกซ์ เป็นแค่นักเวทย์เลเวล1 จึงแทบจะไม่ได้เป็นนักเวทย์จริงๆ ความสามารถทางเวทมนต์ของเธอก็ธรรมดามากๆ เธอผ่านมาเป็นเลเวล1ได้เพราะความมุ่งมั่นและความอุตสาหะของเธอ
เนื่องจากตอนนี้ เธอจะเพิ่งตื่นและแทบจะไม่ได้ตื่นขึ้นมากลางดึก เธอจึงไม่มีเวลาที่จะตอบโต้ ลิงค์ ที่รีบร่ายเวทย์ออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากคทาเปล่งแสง เธอจึงสลบไสลลงกับพื้น
การร่ายเวทย์อย่างรวดเร็วนั้นเป็นวิธีการเดียวกับที่ ลิงค์ ใช้ในเกม ซึ่งมันก็ได้ผลในโลกนี้เช่นกัน
ลิงค์ รีบรับร่างกายของหญิงชราแล้วพาเธอกลับไปที่เตียงในห้องของเธอ
เขาคำนวนไว้แล้วว่าเวทย์นี้น่าจะมีผลประมาณ1ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ตอนนี้เป็นเวลา3ทุ่ม55 เขายังพอมีเวลาอยู่
มาดาม แฟร์แฟกซ์ เป็นผู้ดูแลหอพัก ซึ่งเธอต้องมีกุญแจของตู้โชว์อย่างแน่นอน
ลิงค์ ค้นหาไปทั่วห้อง และในที่สุดเขาก็ได้พบกุญแจอันใหญ่อยู่ในหีบใบเล็กๆที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า ,หญิงแก่คนนี้เป็นคนขี้ลืม เธอจึงติดป้ายบอกชื่อของกุญแจทุกอัน ซึ่งมันทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้น
หลังจากเจอกุญแจอย่างง่ายดาย ลิงค์ก็เปิดตู้โชว์ที่ 3 แล้วหยิบกำไลเวทมนต์ขึ้นมา
กำไลนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยทองและทองแดงอินทนิล จึงทำให้มันส่องประกายเป็นสีม่วงเล็กน้อย พร้อมทั้งมีตัวอักษรเวทย์สลักอยู่รอบๆ และเพราะมานาที่อยู่ในตัวอักษรเวทย์จึงทำให้มันเรืองแสงสีเงินงดงาม
กำไลแห่งการปกป้อง
คุณภาพ:ใช้งานได้
ความสามารถ:สร้างโล่เลเวล2ขึ้นมาเวลาใช้งาน
จำนวนครั้งการใช้:0/1(ใช้ได้จำกัด)
(เกียตรแห่งสถาบัน ชิ้นส่วนที่ยังไม่สำเร็จ ของจอมเวทย์ อายแลนท์)
“ยังไงก็ตามมันก็ใช้ได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งมันไม่เพียงพอ! ) ลิงค์ สวมกำไลเข้าที่ข้อมือ
ตอนนี้เข้าได้ของที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกอย่างจากหอพักนักเวทย์ฝึกหัดแล้ว
เขาเปิดนาฬิกาออก ตอนนี้เป็นเวลา3ทุ่ม58 เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง เขาเหลือสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างสุดท้ายก็คือ ทำความต้องการของร่างเก่าของเค้าให้สำเร็จ นั่นก็คือการช่วย เซลีน
เขาเดินขึ้นชั้นสอง ซึ่งเขาไม่ต้องมองหาห้องของเธอด้วยซ้ำ เพราะดูเหมือนว่าขาของ ลิงค์ได้พาเขาตรงไปที่ห้องของ เซลีน เหมือนกับว่าเป็นความตั้งใจของเขาเอง
ปัง ปัง ปัง! นี่เป็นครั้งที่3ที่ ลิงค์ เคาะประตูกลางดึก
ไม่มีเสียงตอบกลับ ดูเหมือนเธอจะยังหลับอยู่ ลิงค์ ถอนหายใจ แล้วเขาก็ชี้คทาไปที่กลอนแล้วร่ายคาถามือแห่งนักเวทย์
ไม่นานนัก เขาก็ได้ยินเสียงกลอนปลดออก ลิงค์เปิดประตูเข้าไป แล้วปิดประตูพร้อมกับล็อคหลังจากที่เขาเข้าไป
แล้วเขาก็เริ่มมองดูรอบๆห้อง
มันเป็นห้องที่ว่างมาก นอกจากเตียงแล้วมีเพียงตู้เสื้อผ้าเก่าๆแล้วก็กระจกกับหวีที่วางอยู่ข้างหนังสือและขนมปังที่กินเหลือครึ่งนึงวางอยู่อีกฝั่ง
เซลีน นอนอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่มบางๆ ผ้าห่มมันบางมากจนไม่สามารถให้ความอุ่นได้ เธอจึงนอนขดตัวเพราะความหนาว
นี่คือความแตกต่างของขุนนางกับชาวบ้านธรรมดา แม้จะมีทุนการศึกษาเต็มที่ แต่เธอก็ต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด แต่ ลิงค์ คนเก่า เป็นขุนนางแม้ว่าเวทย์ของเขาจะไม่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องทำตัวให้อุ่นหรือเรื่องการหาอาหารในมื้อต่อไป
ลิงค์ นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆกับโต๊ะ เขามองไปที่หน้าต่าง และเฝ้ารออย่างอดทน
ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่ม ยังมีเวลาเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มการหนีจากความวุ่นวาย เพื่อหลีกเลี่ยงการอธิบายที่มากเกินความจำเป็น ลิงค์ จึงปล่อยให้ เซลีน นอนต่อไป
เขาเดินไปที่โต๊ะแล้วเปิดอ่านหนังสือเวทมนต์ที่วางอยู่ มันคือหนังสือที่ชื่อว่า กิ่งก้านแห่งเวทมนต์ เป็นการวิจัยเวทมนต์ระดับสูง ลิงค์ พยายามที่จะอ่านมัน
“หือ”
มันน่าทึ่งมาก ลิงค์ พบว่าเขาจำเนื้อหาในหนังสือไม่ได้แต่สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย แถมยังเจอส่วนที่เขียนผิดอีกตะหาก
สมองของเค้านั้นดีเลิศ
เขาไม่สามารถเชื่อได้ จึงคิดว่ามันเป็นเพราะฟลุ๊ค เขาได้ลองเปิดอ่านต่อไปอีกหลายหน้าจึงพบว่ามันไม่ได้แค่ฟลุ๊ค! หนังสือเล่มนี้ควรจะไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคยสำหรับ ลิงค์ เพราะเขามาจากโลก แต่เขากลับอ่านมันได้เหมือนกับอ่านหนังสือของเด็กอนุบาล
“อ้อ ใช่ เทพแห่งแสงได้บอกว่าเขาได้ทำให้วิญญาณของเขาสามารถเดินทางผ่านกาลเวลาและมิติได้ นั่นเป็นผลจากมันรึเปล่านะ?”
ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นข้อสันนิฐานเดียวที่พอเป็นไปได้
ลิงค์อ่านหนังสือต่อไป ความสนใจของเค้าค่อยๆเพิ่มมากขึ้น เขาอ่านต่อไปและเข้าใจอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่นั้นเขายังตีความและปรับเป็นความเข้าใจของตัวเองได้อีกด้วย
สมองของเค้าทำงานอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันสร้างขึ้นมาด้วยเวทมนต์
หลังจากที่เขาอ่านหนังสือจบ ลิงค์ ก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้มากยิ่งขึ้น
ตามที่หนังสือบอกมา โลกแห่ง ฟิรุแมน คือเกาะที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆกลางทะเลแห่งมานา ซึ่งมานาที่ไหลเข้ามายังโลกแห่ง ฟิรุแมน ได้ช่วยบำรุงสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อยู่ในโลก
นักเวทย์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ความชุ่มชื้น” ซึ่งโลกนี้ “ชุ่มชิ้น” ไปด้วยมานา
แม้ว่าบนทะเลมานาจะไม่มีอะไร แต่มันได้สร้างโลกนี้ให้แตกต่าง เต็มไปด้วยรูปร่างและสีสันต่างๆ สิ่งมีชีวิตของโลก ฟิรุแมน ได้ใช้เวทมนต์เพื่อสร้างอารยธรรม
นั่นคือมุมมองของนักเวทย์ที่มีต่อโลก
มันแปลกมากเขาเป็นถึงอาชเมจในเกมแต่เขากลับรู้สึกเหมือนเพิ่งได้เรียนรู้ว่าเวทมนต์คืออะไรเป็นครั้งแรก
ลิงค์มองไปที่คทาที่มือของเค้า เขาพบว่ามันยากที่จะเข้าใจหลักการของคทานี้ มันแค่ทำการบีบอัดมานาเข้าไป แต่เขากลับรู้สึกถึงข้อบกพร่องของมันได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเราได้เรียนอย่างถูกต้องอีกซัก3เดือน ไม่,ไม่สิแค่1เดือนก็พอ เราน่าจะทำคทาที่ดีกว่าอันนี้ได้นะ เขาคิดอย่างมั่นใจ
ในฐานะที่เป็นนักเล่นเกม ลิงค์ จึงรู้วิธีร่ายเวทย์ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเวทย์มันทำงานยังไง อย่างชื่ออาร์ชเมจก็เป็นชื่อที่คนอื่นเรียกอย่างยกย่องในหมู่นักเล่นเกมเท่านั้น ในโลกนี้ด้วยพรของเทพแห่งแสง เขาจึงมีทรัพยากรที่จะทำให้กลายเป็นอาร์ชเมจที่แท้จริงได้
“หลังจากที่ฉันหนีออกจากเมืองนี้ได้ ฉันต้องหาหนังสือเวทย์มนต์มาให้ได้สักเล่มนึง ฉันจะศึกษามันตอนที่ไม่ได้ทำภารกิจ ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้!”
เขาสามารถกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆและเชี่ยวชาญเวทมนต์หลายๆอย่างได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะอาศัยแค่ค่าโอมนิ
แต่มันยังมีปัญหาร้ายแรงในเวทมนต์ที่กำหนดโดยระบบเกมส์— พวกมันพื้นฐานและธรรมดา เหมือนกับว่าพวกมันแค่อยู่ในเกมส์
เวทย์ประเภทเดียวกันถ้าผู้เล่นเป็นคนใช้มันจะเบากว่าบอสระดับสูงใช้มาก โดยเฉพาะบอสระดับสุดยอด
แต่ว่านักเวทย์ที่แข็งแกร่งทุกคนมีวิธีใช้เวทมนต์ของตัวเอง แม้จะเป็นเวทย์เดียวกันแต่มันขึ้นอยู่กับคนใช้ เวทย์ที่ถูกใช้ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ระบบเกมสามารมอบให้ได้
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เจ้าแห่งความมืด โนโซม่า สามารถใช้เวทย์เลเวล19 นิ้วพิฆาตได้ในทันทีโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาร่ายเลย
ในตอนนั้นกว่า90%ของทีมถูกฆ่าด้วยนิ้วพิฆาตของ โนโซม่า
ระบบเกมส์กับค่าโอมนิมันก็เป็นเพียงแค่โบนัส ฉันต้องมีเส้นทางในการเป็นนักเวทย์ของตัวเอง! มีเส้นทางในอนาคตของตัวเอง , ลิงค์ รู้สึกสงบยิ่งขึ้น
ลิงค์หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูอีกครั้ง มันเป็นเวลา4ทุ่ม25 เขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
ลิงค์ หันกลับไปและเดินไปที่เตียง เขาตบหน้า เซลีน เบาๆ แล้วกระซิบบอกเธอ “เซลีน เซลีน ตื่นได้แล้ว”
เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเธอสวยมาก ลักษณะใบหน้าและสไตล์ของเธอดูดีมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม ลิงค์ คนเก่าถึงปลื๊มเธอนัก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ลิงค์ รู้สึกคุ้นเคยกับหน้าของเธอ แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ลิงค์ คิดว่ามันแปลกมาก เขาจึงรู้สึกสับสน
เซลีน ยังคงหลับอยู่ และเธอก็ละเมอออกมา “แม่ ให้หนูนอนอีกหน่อยนะ”
น้ำเสียงของเธอเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเลย ลิงค์ ยิ้มออกมาทั้งๆที่ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่
แต่ เซลีน ก็ได้สติอย่างรวดเร็ว ลิงค์ รู้สึกได้ว่าเธอตกใจ เธอรีบหันหน้าออกแล้วดวงตาสีฟ้าก็จ้องไปที่ ลิงค์ ไม่เหลือเค้าของความง่วงอีกต่อไปแล้ว
“เธอเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงกัน” เธอมีท่าทีตกใจ แต่ก็ไม่ได้กลัว
ลิงค์ ถอยออกมา แล้วพูดอย่างจริงจัง “รีบลุกขึ้นเร็ว เราอยู่ในสถาบันไม่ได้อีกแล้ว พวกเราต้องรีบหนี!”
“พูดอะไรของเธอน่ะ!” เซลีน ตอบกลับพร้อมทั้งกำลังใส่เสื้อผ้าที่เธอวางไว้บนเตียง
“อย่าใส่เสื้อผ้าพวกนั้นนะ! ใส่แค่ผ้าคลุมสั้นๆง่ายๆแล้วก็กางเกงก็พอแล้ว!”ลิงค์เตือนเธอ
เขามองออกไปนอกหน้าต่าง พวกนักเรียนเริ่มส่งเสียงโหวกเหวก ในแสงจันทร์ที่มืดครึ้ม เขาสามารถมองเห็นเงาจำนวนมากเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วผ่านเงาได้
พวกดาร์กเอลฟ์!
พวกมันเริ่มโจมตีแล้ว!
พวกมันเคลื่อนที่อย่างเงียบกริบและรวดเร็ว ไม่ทันไรพวกมัน 2 ตัวก็ได้พุ่งเข้ามาในหอพักนักเวทย์ฝึกหัด