Advent of the Archmage - ตอนที่ 253: โดนดูถูก
ที่รกร้างเฟิร์ด
เวลาทุกวินาทีได้ผ่านไป, โรมิลสันรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ มันเหลืออีกแค่ประมาณหนึ่งไมล์เท่านั้นก่อนที่เขาจะพลาดจุดซ่อนตัวขององค์หญิงไป
สัมผัสของเลือดเธอกำลังเบาบางลงเรื่อยๆ, ซึ่งบ่งบอกว่าชีวิตของเธอนั้นกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เธอต้องได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแน่ๆ
ถ้าข้าไปที่นั่นไม่ทันเวลาหล่ะก็, ข้าเกรงว่าองค์หญิงจะ…โรมิลสันไม่กล้าคิดแบบนี้ต่อ
หลังจากผ่านไปอีกสิบวินาที, โรมิลสันก็อดมองไปข้างหลังเขาไม่ได้ จากนั้นเขาก็เห็นลิงค์กำลังตามเขามาอย่างช้าๆในระยะที่ห่างออกไป 150 ฟุต โรมิลสันมองเห็นสีหน้าอันสงบนิ่งของลิงค์ได้อย่างชัดเจนในขณะที่ระยะทางระหว่างพวกเขากำลังสั้นลง ลิงค์ดูเหมือนจะมีสติในสถานการณ์แบบนี้และไม่ได้ตื่นเต้นอะไร, ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้สำคัญกับเขา
พอได้เห็นท่าทีเยือกเย็นของเขา, โรมิลสันก็อดตะโกนออกมาไม่ได้ “ลิงค์, องค์หญิงได้รับบาดเจ็บหนัก เธอทนได้อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!”
จากนั้นโรมิลสันก็หันกลับมาในขณะที่มานาในตัวเขาแผ่ออกมาในทันที, เขาเปิดใช้กำไลป้องกันที่ข้อมือของเขา ด้วยเสียงกระหึ่มเบาๆ, บาเรียคริสตัลแสงสีเขียวก็ปรากฎขึ้นรอบตัวเขา นี่คือเวทย์ป้องกันเลเวล 5, บาเรียรูนธรรมชาติ
จากนั้น, เขาก็เห็นร่างสีดำกำลังยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป 150 ฟุต
คนๆนี้สวมชุดเกราะหนังสีดำและถูกห้อมล้อมด้วยพิษสีแดงฉาน
แล้วเขาก็ถือมีดสองเล่มที่เปล่งประกายสีแดงเลือดออกมา
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร, เขาแค่ยืนอยู่บนยอดหินสูง 12 ฟุตแล้วพูดออกมา “มาวิ่งทั่วที่รกร้างในเวลาแบบนี้มันไม่ปลอดภัยเลยนะ, นักเวทย์ที่น่ารักทั้งสองคนของข้า”
“เจ้าเป็นใคร?” โรมิลสันดึงม้าของเขาให้หยุด
โดยไม่หยุดตอบนักฆ่า, ลิงค์ก็ไล่ตามมาทันแล้วและวิ่งผ่านโรมิลสันไปโดยไม่ลดความเร็วของเขาลง แล้วเขาก็ไม่สนใจนักฆ่าคนนี้ด้วย, เขาพูดออกมา “นายจะมัวมาหยอกล้อกับมันไปทำไม? การช่วยชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญกว่านะ!”
“แต่ว่ามัน…” โรมิลสันอยากจะบอกว่าอาจมีการซุ่มโจมตีรอพวกเขาอยู่ก็ได้
อย่างไรก็ตาม, ลิงค์วิ่งผ่านเขาไปแล้วในขณะที่พูด “มันก็แค่ถ่วงเวลาเท่านั้นแหล่ะ, นายมองไม่ออกหรอ?”
โรมิลสันรู้ตัวขึ้นมาในทันทีและรู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนฉ่า จากนั้นเขาก็เร่งความเร็วม้าเต็มสปีดแล้วไล่ตามลิงค์ไปในทันที
จากนั้นเขาก็มองนักฆ่าที่อยู่บนยอดหินแล้วรู้สึกว่าคลื่นความโกรธพลุ่งพล่านในตัวเขา จากนั้นเขาก็ยกคทาของเขาขึ้นแล้วยิงเวทย์ไปที่หินก้อนนั้น
“บอลพิษ!”
บอลพิษ
เวทย์เลเวล 5
ผล: รวบรวมธาตุธรรมชาติเพื่อสร้างบอลแสงที่มีฤทธิ์กัดกร่อยอย่างรุนแรง
(หมายเหตุ: เวทย์พิเศษสำหรับไฮเอลฟ์)
จากนั้นแสงสีเขียวก็เริ่มมารวมกันที่ปลายคทาของโรมิลสันแล้วบอลสีมรกตที่มีความยาวกว่าหนึ่งฟุตก็ปรากฎขึ้น จากนั้นโรมิลสันก็ยิงลูกบอลตรงไปทางหินโดยไม่ลังเล
“ไปลงนรกซะ!” บอลพิษพุ่งไปด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง
นักฆ่าหัวเราะในใจแล้วกระโดดถอยหลังไปก่อนที่บอลพิษเกือบจะโดนร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็ตกลงมาจากก้อนหินอย่างรวดเร็วและหลบเวทย์นี้ได้อย่างฉิวเฉียด
ความเร็วของนักฆ่านั้นสูงมากจนโรมิลสันไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา บอลพิษลอยผ่านหินไปแล้วและโดนพื้นที่อยู่ห่างออกไป 180 ฟุต
ปัง! บอลพิษระเบิด, และพื้นที่ในรัศมี 15 ฟุตก็กลายเป็นดินเละๆสีเขียวเข้มในทันที แถมมันยังมีฟองและปล่ออยควันสีฟ้าครามออกมาด้วย, ซึ่งนี่แสดงให้เห็นพลังทำลายล้างและพลังกัดกร่อนของมัน
จากนั้นนักฆ่าก็เหลียวหลังมองและรู้สึกหนาวจนถึงสันหลัง เขาโชคดีที่หนีการโจมตีนั้นมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่อย่างนั้น, แม้แต่กระดูกของเขาก็อาจจะถูกพลังทำลายล้างนี้ละลายได้
จากนั้นเขาก็มองไปทางนักเวทย์สองคนที่อยู่ไกลๆแล้วขมวดคิ้ว ไฮเอลฟ์คนนี้เป็นแค่เด็กเหลือขอไม่รู้จักโตคนนึง; มันคงจะจัดการได้ง่ายๆ แต่ว่า, ลิงค์เนี่ยแหล่ะที่เป็นตัวปัญหา
นักฆ่ารู้สึกขมขื่นมากๆในขณะที่เขามองพวกลิงค์เดินทางไกลออกไป จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา “ลิงค์, เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะโจมตีเทือกเขามอดไหม้ตอนนี้หรอ?”
แล้วลิงค์ก็ตอบกลับ “ถ้าแกแข็งแกร่งจริงๆ, แกจะมามัวพูดพล่ามกับฉันทำไมหล่ะ?”
ในขณะที่ตอบกลับ, ลิงค์ก็ได้ทักทายนักฆ่าด้วยเวทย์นกหวีดสองดอกด้วย เวทย์นี้รวดเร็วมากๆและถูกยิงออกมาในมุมที่แม่นยำ นักฆ่าใช้มีดของเขาปกป้องตัวเองจากแรงระเบิดโดยตรงของการโจมตีนี้
อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่มีดจะโดนนกหวีด, พวกมันก็ระเบิดกลางอากาศทำให้เศษธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์กระจายออกมารอบๆเขา, ห่อหุ้มเขาเอาไว้ในฝนเศษโลหะแห่งความตาย ซึ่งเขาไม่สามารถหลบหนีได้
เมื่อไม่เหลือทางเลือก, นักฆ่าก็ทำได้แค่ถอยเท่านั้นในขณะที่ใช้มือปกป้องใบหน้าของเขา
ธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่นั้นถูกขัดขวางด้วยเกราะหนังของเขา อย่างไรก็ตาม, บางส่วนก็สามารถทะลุผ่านช่องว่างในเสื้อเกราะของเขาไปได้และเจาะเข้าไปในร่างกายของเขา จากนั้นความเจ็บปวดอันคมกริบก็เผาไหม้ไปจนถึงจิตใจของเขา
นักฆ่ารู้สึกหวาดกลัวและซ่อนหลังก้อนหินในทันที
ข้างหลังก้อนหิน, เขาตรวจสอบบาดแผลของเขาแล้วตระหนักได้ว่ามีหลุมขนาดเท่าปลายนิ้วในมือของเขาอยู่สองสามจุด ของเหลวสีเงินกำลังไหลอยู่ในบาดแผลพวกนี้, และควันสีฟ้าครามก็กำลังฟุ้งออกมาจากบาดแผลพวกนี้เช่นกัน
“นี่คือธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ที่ล่ำลือกันสินะ; มันแข็งแกร่งมากจริงๆ!” นักฆ่าควักมีดออกมาอย่างแน่วแน่แล้วถลกเนื้อสดๆที่ได้รับผลกระทบจากธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ออก
ในตอนที่ของเหลวสีเงินถูกกำจัดออกไป, บาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือดก็เริ่มดิ้นยั้วเยี้ยและรักษาตัวเองด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
จากนั้นบาดแผลพวกนี้ก็หายไปในเวลาห้าวินาที
นักฆ่าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและพูดด้วยความพอใจ “พลังของของเหลวศักดิ์สิทธ์นั้นน่าอัศจรรย์จริงๆ”
จากนั้นเขาก็โผล่ออกมาจากหลังก้อนหินแล้วตระหนักได้ว่าลิงค์กับไฮเอลฟ์เดินทางไปได้ไกลเป็นร้อยฟุตแล้ว เขาเพิ่มความเร็วของเขาแล้วไล่ตามไปในทันที
แม้ว่าลิงค์จะเป็นคนที่จัดการได้อยาก, แต่เขาก็จะยื้อเวลาให้นานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าองค์หญิงไฮเอลฟ์ได้, ภารกิจของเขาก็จะสำเร็จ
ในอีกด้านนึง
โรมิลสันไม่ได้ทำตัวหยิ่งทะนงอีกต่อไปแล้ว เขาวิ่งข้างๆลิงค์ในขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปหาเป้าหมายด้วยกัน
“ลิงค์, ชายคนนั้นไล่ตามมาอีกแล้ว” โรมิลสันพูด
“รู้แล้ว ให้มันตามมาเถอะ พวกเรามีกันสองคน มันก็แค่มายั่วโมโหพวกเราเท่านั้นแหล่ะ” ลิงค์มองสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
โรมิลสันยังอดเหลียวหลังมองไม่ได้แล้วเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ไหงมันถึงเร็วขนาดนี้เนี่ย? มันน่าจะได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีก่อนหน้านี้สิ นี่มันดูเหมือนไม่มีรอยขีดข่วนอะไรเลยนะ”
จากนั้นลิงค์ก็สังเกตุดูรอบๆ, และหลังจากที่มั่นใจว่ามันปลอดภัย, เขาก็อธิบายกับโรมิลสัน
“นักฆ่าคนนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง มันน่าจะมีเลเวลประมาณ 6 มาตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับการปลุกพลังแล้ว และตอนนี้พอมันได้รับพรจากอสรพิษทมิฬ, มันก็น่าจะอยู่ที่ขั้นสูงสุดของเลเวล 7 ซึ่งนี่ทำให้มันมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก บาดแผลเล็กๆที่ฉันทำก่อนหน้านี้อาจจะรักษาได้ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เพื่อที่จะจัดการกับสิ่งมีชีวิตพวกนี้, นายต้องทำลายร่างของพวกมันให้สิ้นซาก ต่อให้ขยี้หัวใจของพวกมันก็คงจะฆ่าพวกมันไม่ได้ในทันที พวกมันจะยังต่อสู้ได้อีกสองสามวินาทีหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต”
“แล้วอาวุธของมันคืออะไรหล่ะ? เจ้าดูออกไหม?” โรมิลสันถามอีกครั้ง ทัศนคติของเขาที่มีต่อลิงค์ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และบางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้
“ฉันก็มองไม่ออก แต่ว่า, สำหรับนักฆ่าการใช้อาวุธที่เด่นสะดุดตาแบบนั้น, หากมันไม่โง่อาวุธนั้นก็คงจะแข็งแกร่งมากๆหล่ะ ถ้าพวกเราจำเป็นต้องสู้กันเข้าจริงๆ, พวกเราก็ควรระวังเอาไว้”
อันที่จริง, ลิงค์รู้จักมีดสองเล่มนี้ เขาเคยเห็นมันมาก่อนตอนที่อยู่ในเกมส์
ตัวมีดสีแดงเข้มและออร่าสีแดงเพลิง—มีดคู่นี้คืออาวุธระดับอีพิคที่มีชื่อเสียงมากๆ พวกมันมีชื่อว่าสายตาของผู้เก็บเกี่ยว เขาจำได้ว่าอาวุธมีดสองชิ้นนี้มีพลังที่พิเศษมากๆ ถ้าพวกเขาถูกบังคับให้ต่อสู้กับนักฆ่าคนนี้, ลิงค์ก็น่าจะสามารถจัดการกับมันได้ อย่างไรก็ตาม, ถ้าโรมิลสันไม่ระวังตัว, เขาก็อาจจะถูกศัตรูข้าเอาได้อย่างง่ายดาย
พอคิดได้แบบนี้, ลิงค์ก็พูดเสริม “หลังจากที่พวกเราพบองค์หญิง, ฉันคิดว่าคนๆนี้จะต้องพยายามขัดขวางพวกเราแน่ๆ อย่าพยายามโจมตีมันหล่ะ, แค่ปกป้องตัวเองก็พอ”
นี่เป็นความหวังดีของลิงค์และเขาก็พยายามทำให้ดูใจดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม, มันฟังดูเหมือนกับการดูถูก ซึ่งก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าในด้านระดับความแข็งแกร่งนั้น, โรมิลสันเป็นนักเวทย์เลเวล 7 ในขณะที่ลิงค์เป็นแค่นักเวทย์เลเวล 6 ซึ่งการถูกนักเวทย์ที่มีระดับต่ำกว่าเตือนนั้นถือว่าเป็นการดูถูกสำหรับโรมิลสัน ดังนั้นเขาจึงเยาะเย้ยออกมา “เจ้าไม่ต้องมาเป็นห่วงข้าหรอก”
ลิงค์แค่จ้องไปที่เขาแล้วยิ้มออกมาบางๆ
โรมิลสัลไม่สามารถรับมันได้อีกแล้วและเขาก็ตะโกนออกมา “มองแบบนี้หมายความว่ายังไง? ดูถูกหรอ? หรือว่าเหยียดหยาม? ให้ข้าบอกเจ้านะ, ถึงแม้ว่าข้าอาจจะยังไม่แข็งแกร่งเท่าเจ้า, แต่ข้ายังสามารถจัดการกับนักฆ่าหนึ่งคนด้วยตัวเองได้”
“ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ” ลิงค์ส่ายหัวในขณะที่พูด เขาได้ปะมือกับไฮเอลฟ์คนนี้มาเมื่อสักครู่นี้และเข้าใจทักษะพื้นฐานของเขาแล้ว ลิงค์พูดได้แค่ว่าไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้ประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปจริงๆและแทบไม่มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด
“หืม, นี่พวกเจ้าทั้งคู่กลัวข้าจริงๆสินะ?” เสียงของนักฆ่าดังขึ้นจากด้านหลังอีกครั้ง เสียงของเขาฟังดูยั่วโมโห
จากนั้นเสียงก็ยังดังขึ้นอีก “ข้าบอกว่า, พวกเจ้าทั้งคู่ขี้ขลาดหรอ? 55, ผู้ควบคุมเพลิงที่มีชื่อเสียงไปทั่วฟิรุแมนกำลังเงียบกริบต่อหน้าข้าจริงๆหรอเนี่ย”
ลิงค์ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดพวกนี้ในขณะที่เขาคำนวนตำแหน่งที่แน่นอนของมิลด้าในหัวของเขา
โรมิลสัน, ในอีกด้านนึง, ไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไปแล้ว, เขาตะโกนออกมา “ไอหนูขี้ขลาด! รับเวทย์มนตร์ของข้าไปสักดอกสิถ้าเจ้ากล้า!”
“โห, เจ้าคิดว่าข้าโง่รึไง? ถ้าเจ้าสามารถยิงโดนข้าได้ก็เข้ามาสิ” ในขณะที่เขาพูด, นักฆ่าคนนี้ก็หลบหลังหินก้อนใหญ่อย่างรวดเร็ว, โผล่ออกมาแค่หัวของเขา
โรมิลสันกัดฟันของเขาในขณะที่ในที่สุดเขาก็มองเจตนาของชายคนนี้ออก ดังนั้นเขาจึงเริ่มเรียนรู้จากลิงค์ในการไม่สนใจและไม่โต้ตอบการยั่วโมโหของเขา
หลังจากผ่านไปอีกสองนาที, ลิงค์ก็พูดออกมาอย่างกระทันหัน “เตรียมตัวซะ!”
“อะไร? ให้ข้าทำอะไร?” โรมิลสันไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา
ลิงค์ไม่ได้อธิบาย, เขาแค่แผ่มานาออกมาทั่วร่างของเขาและร่ายเวทย์ข้ามมิติ
ในแสงสว่างจ้า, ลิงค์กับโรมิลสันหายไปจากตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขา, และในทันทีทันใด, พวกเขาก็ย้ายไปยังพื้นที่ที่ห่างออกไปหนึ่งไมล์
ในตอนที่พวกเขาถึงพื้น, ลิงค์ก็พูดขึ้น “องค์หญิงอยู่ที่นี่…ไม่ต้องห่วง, ฉันเจอเธอแล้ว”
ระยะห่างออกไปแค่ 60 ฟุตระหว่างหินก้อนใหญ่สองก้อน, องค์หญิงมิลด้านอนอยู่บนพื้นที่เปียกโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีน้ำเงิน, และลมหายใจของเธอก็รวยริน ลูกกระสุนหน้าไม้ได้เจาะลึกเข้าไปในอวัยวะภายในด้านขวาของเธอ
แล้วลิงค์ก็รีบเดินไปหาอย่างรวดเร็ว, และหลังจากที่ตรวจสอบดูคร่าวๆ, เขาก็พูดออกมา “ลูกกระสุนหน้าไม้ไม่ได้ทำให้อวัยวะภายในที่สำคัญของเธอบาดเจ็บเลย แต่ว่า, มีพิษร้ายแรงอาบกระสุนหน้าไม้เอาไว้อยู่!”
ในขณะที่เขาพูดออกมา, เขาก็ดึงลูกดอกหน้าไม่ออกมาจากบาดแผลโดยไม่ลังเล จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาจากบาดแผล, และมิลด้าก็พึมพำออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างครึ่งหลับครึ่งตื่น
โรมิลสันรู้สึกใจหายกับฉากนี้แล้วตะโกนออกมา “เจ้ากำลังทำอะไร? เจ้าพยายามฆ่าองค์หญิงหรอ?”
“หุบปากไปเถอะหน่า! ฉันพยายามช่วยเธออยู่นะ!” ลิงค์เอามือกดบาดแผลและร่ายเวทย์หิมะเพื่อรวบรวมธาตุน้ำ, แล้วห่อหุ้มแผลของเธอเอาไว้ด้วยน้ำแข็ง ขั้นตอนเหล่านี้เสร็จสิ้นในเวลาสามวินาที
แม้ว่านี่จะไม่ได้ช่วยรักษาบาดแผลของมิลด้า, แต่มันก็สามารถชะลอการแพร่กระจายของพิษที่อยู่ในร่างกายของเธอได้อย่างมาก
ลิงค์ใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาทีในการจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์ลอยใส่มิลด้าแล้วหันไปพูดกับโรมิลสัน “นายพาองค์หญิงไปด้วยซะ; พวกเราจะมุ่งหน้ากลับไปที่เทือกเขามอดไหม้เดี๋ยวนี้เลย!”
“เอ่อ, อ้า โอเค!” โรมิลสันเรียกอาชาทมิฬออกมาแล้วใช้มือแห่งนักเวทย์ยกองค์หญิงมิลด้ามาไว้บนหลังม้า จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปทางเทือกเขาหมอดไหม้
ในทำนองเดียวกัน, ลิงค์เองก็อัญเชิญเฟนเรียสายลมของเขาออกมาแล้วอยู่ข้างโรมิลสันตลอดเวลา, และรักษาสภาพตื่นตัวของเขาเอาไว้
ในอีกด้านนึงของป่า, นักฆ่าจ้องมองพื้นที่ว่างเปล่าที่ลิงค์กับโรมิลสันเคยยืนอยู่ด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก เขาใช้เวลาหลายวินาทีก่อนที่จะเรียกสติกลับมาได้และตบต้นขาของเขาด้วยความเจ็บปวด ลิงค์, เจ้าเล่นข้าซะอยู่หมัดเลย, ข้ายังตกหลุมพลางของเจ้าอีกหรอเนี่ย!
ไม่จำเป็นต้องพูดถึง, เส้นทางแรกที่ไฮเอลฟ์มุ่งหน้าไปนั้นเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง การเปลี่ยนทิศทางนั้นเป็นแผนการของลิงค์อย่างไม่ต้องสงสัย เขาตั้งใจเลือกขยับทิศทางไปยิ่สิบองค์ศาจากตำแหน่งเดิมเพื่อสร้างภาพลวงตาว่าพวกเขาแค่กำลังปรับทิศทางการเดินทาง
เขาได้ข้อมูลมาจากดาร์คเอลฟ์มาว่าเวทย์เคลื่อนย้ายของลิงค์นั้นมีระยะสูงสุดที่หนึ่งไมล์ แม้ว่าพวกเขาจะปรับองค์ศาการเดินทางเล็กน้อยจากวิถีเดิมของพวกเขา, แต่การขยับทิศทางของพวกเขาก็ยังห่างแค่หนึ่งไมล์จากตำแหน่งดั้งเดิมของพวกเขาอยู่ดี หลังจากที่ปรับแต่งเวทมนตร์เล็กน้อย, มันก็จะกลายเป็นระยะที่เหมาะสมสำหรับลิงค์ในการร่ายเวทย์ข้ามมิติของเขา
ลิงค์ได้จัดการใช้เวทย์เคลื่อนย้ายหมู่นี้เพื่อสร้างข้อได้เปรียบครั้งยิ่งใหญ่ให้ตัวเองอีกแล้ว
“บ้าชะมัด! ข้าโคตรเกลียดไอหมอนี่เลย!” นักฆ่านึกถึงท่าทีของลิงค์ตลอดเวลามานี้และตระหนักได้ว่าลิงค์มองแผนการของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งนี่มันเป็นการดูถูกอย่างแท้จริง
ในตอนนี้, เขาเห็นลูกน้องของตัวเองอยู่เบื้องหน้าเขา แล้วเขาก็ตะโกนออกมาในทันที “ตามข้ามา; เราจะไปขัดขวางพวกมันกัน!”
ลิงค์ได้ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายกลุ่มไปแล้วหนึ่งครั้ง เขาไม่เชื่อว่าลิงค์สามารถร่ายมันได้อีกครั้ง! และต่อให้เขาทำได้, พวกเขาก็อยู่ห่างออกไปแค่หนึ่งไมล์ พวกเขายังสามารถไล่ตามได้ถ้าพวกเขาใช้ความเร็วสูงสุด
เขาสนใจอยากเห็นว่าลิงค์นั้นเหลือมานาอยู่แค่ไหนหลังจากศึกใหญ่ที่เทือกเขามอดไหม้!