Advent of the Archmage - ตอนที่ 223: สติปัญญาของนักเวทย์

ดูเหมือนว่ากลูทั้งสามตัวจะระเบิดความบ้าคลั่งและความภาคภูมิใจที่ควบคุมไม่ได้ออกมาในตอนที่พวกมันปรากฎตัวเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม, พวกมันพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วและตอนนี้ก็กำลังนอนกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ

 

ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นฉากนี้กับตาตัวเอง, ก็คงไม่มีใครเชื่อมัน ดังนั้น, ในตอนที่นักเวทย์สวมผ้าคลุมสีเงินปรากฎตัวออกมาจากหลังต้นไม้, เหล่าหน่วยสอดแนมที่โชคดีรอดมาได้อย่างไม่รู้ตัวก็เดินไปหาเขา หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความดีใจและความชื่นชมอย่างลึกซึ้ง

 

ในป่าแห่งความมืดที่มีอันตรายและความสิ้นหวังอยู่ทุกหนทุกแห่ง, ไม่มีอะไรที่ทำให้อุ่นใจไปกว่าความช่วยเหลือจากนักเวทย์ที่แข็งแกร่ง

 

ทั้งหัวหน้าหน่วยสอดแนมและรองหัวหน้าหน่วยไม่รอดจากการโจมตี  ส่วนหน่วยสอดแนมที่เหลืออยู่นั้นมีเลเวลประมาณ 4, ดังนั้นในฐานะลูกสาวของดยุคและทหารหน่วยสอดแนมที่แข็งแกร่งที่สุด, แอนนี่จึงต้องรับตำแหน่งหัวหน้าเป็นการชั่วคราว

 

ลิงค์ยังสวมฮู้ดอยู่ในตอนนี้, ทำให้แอนนี่จำเขาไม่ได้ เธอแค่รู้สึกว่าคนๆนี้ดูคุ้นๆตรงไหนสักแห่ง, แม้ว่าเธอจะไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมก็ตาม เธอเดินมาหาเขาแล้วโค้งให้อย่างเคารพ, พร้อมกับพูดออกมา “ฉันชื่อแอนนี่ อาเบล, ท่านนักเวทย์, ขอบคุณมากนะคะสำหรับความช่วยเหลือของท่าน”

 

เธอเองก็รู้สึกขอบคุณนักเวทย์คนนี้มากๆ อย่างไรก็ตาม, เธอยังรู้สึกสิ้นหวังอยู่เพราะการ์ดหนุ่มทั้งสามคนที่คอยคุ้มกันเธอไม่รอดจากการโจมตี นี่ทำให้เธอรู้สึกผิดและเสียใจมากๆ

 

“ฉันขอโทษที่มาสายนะ” นักเวทย์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล ดวงตาของแอนนี่สดใสขึ้นมาพอได้ยินเสียงนี้ มันเป็นเสียงที่คุ้นเคยเช่นกัน

 

เธอเรียกสติของตัวเองและตรวจสอบชายที่ยืนอยู่หน้าเธออย่างระมัดระวัง ยิ่งเธอมองเขาเท่าไหร่, ก็มีคนๆนึงเริ่มปรากฎขึ้นมาในความคิดของเธอ

 

เสียงอันเลือนลางเริ่มปรากฎขึ้นในหัวของเธอ—หรือว่าจะเป็น…? ไม่มีทางหรอกหน่า!

 

ตอนนี้เขาเป็นจอมเวทย์และลอร์ดปกครองดินแดน มีข่าวลือด้วยซ้ำว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่น่าจะได้เป็นผู้อาวุโสคนต่อไปของสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟ คนสำคัญแบบนั้นจะมาต่อสู้ที่แนวหน้าของสงครามกับพวกดาร์คเอลฟ์ได้ยังไง? ต่อให้เขาอยากช่วยในสงครามจริงๆ, เขาก็น่าจะมีตำแหน่งในป้อมปราการในฐานะไพ่ตายในการป้องกันสิ

 

ในจังหวะต่อมา, ลิงค์ก็เอาฮู้ดออกแล้วเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา ขณะที่เขาจ้องไปที่ใบหน้าประหลาดใจของแอนนี่, เขาก็แนะนำตัว “องค์หญิงแอนนี่, ผมนักเวทย์มิโรส ผมมาช่วยองค์หญิงตามหานักดาบรุ่งอรุณครับ”

 

ขณะที่เขาพูด, เขาก็กระพริบตาให้แอนนี่เป็นการส่งสัญญาณว่าเขาไม่อยากเปิดเผยสถานะของเขา

 

เป็นเขาจริงๆด้วย!

 

แอนนี่กำลังจะตะโกนชื่อของเขาออกมาในตอนที่เธอเห็นสัญญาณของเขา จากนั้นเธอก็กลืนคำพูดของเธอแล้วพูด “โอ้, ท่านมิโรส ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆที่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับท่าน”

 

น้ำเสียงและใบหน้าอันคุ้นเคยนี้ได้ลดความหนักหน่วงในหัวใจของแอนนี่ไปครึ่งนึง

 

เขามาจริงๆ คนที่ช่วยให้แกลดสโตนรอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกดาร์คเอลฟ์—คนที่ช่วยชีวิตของเธอติดต่อกันถึงสองครั้งมาที่นี่แล้วจริงๆ ในตอนนี้, แอนนี่รู้สึกเหมือนกับว่าจิตใจของเธอได้พบกับที่ยึดเหนี่ยว

 

ความรู้สึกนี้เหมือนกับการที่คนๆนึงพลัดตกลงไปในแม่น้ำและกำลังถูกคลื่นรุนแรงซัดกระหน่ำ จากนั้นก็บังเอิญพบท่อนไม้แข็งแร็งแล้วคว้ามันเอาไว้ได้, ทำให้ความรู้สึกตื่นตระหนกและสิ้นหวังหายไปทั้งหมด

 

ลิงค์, ในอีกด้านนึง, ไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ที่แปรปรวนพวกนี้ แอนนี่เป็นแค่เพื่อนที่ดีในความทรงจำของเขา นอกจากนี้, พวกเขาก็ไม่ได้พบกันมากว่าครึ่งปีแล้ว

 

หลังจากที่ทักทายพวกเขา, เขาก็หันไปหาทหารสอดแนมที่อยู่ข้างๆเขาแล้วพูด “แม้ว่ากลูพวกนี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส, แต่พวกมันยังมีชีวิตอยู่นะ; อย่าฆ่าพวกมัน ส่งพวกมันกลับไปที่ยอดภูเขาน้ำแข็ง พวกเราจะศึกษาพวกมันแล้วหาจุดอ่อนของพวกมัน”

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, แอนนี่ก็คัดหน่วยสอดแนมสิบคนในทันทีแล้วพูด “พวกนายกับกลุ่มนี้, พาสิ่งมีชีวิตน่าเกลียดพวกนี้กลับไปซะ”

 

“ขอรับ, องค์หญิง” หน่วยสอดแนมรีบใช้เชือกมัดกลูเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว, และไม่นานนัก, พวกเขาก็เตรียมตัวกลับป้อมปราการ

 

ลิงค์เอาคำภีร์หนึ่งแผ่นและขวดที่เก็บของเหลวสีเงินสามขวดออกมา จากนั้นเขาก็เดินไปหาทหารสอดแนมแล้วพูด “ขวดนี้เก็บธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ในขณะที่คำภีร์ได้เสริมพลังด้วยพรแห่งแสงเอาไว้ ถ้านายพบกลูตัวอื่นในระหว่างทาง, ให้เปิดใช้คำภีร์และเอาธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ป้ายอาวุธซะ นี่น่าจะพอแล้วที่จะทำให้พวกมันกลัวจนหนีไป”

 

ทหารสอดแนมให้ความสำคัญกับคำแนะนำของลิงค์อย่างมากแล้วรับธาตุเงินศักดิสิทธิ์กับคำภีร์อันล้ำค่าอย่างระมัดระวัง

 

หลังจากนั้น, ลิงค์ก็หันไปพูดกับแอนนี่ “หน่วยสอดแนมสิบคนอาจจะไม่พอที่จะทำให้เดินทางกลับไปได้อย่างปลอดภัย พวกเราต้องการอย่างน้อย 15 คน องค์หญิง, องค์หญิงก็ควรกลับไปด้วยเหมือนกันนะ”

 

มีทหารสอดแนม 21 คนที่รอดมาได้จากการถูกโจมตี ถ้าพวกเขากลับไป 15 คน, ก็จะเหลือหกคนสำหรับภารกิจนี้ ผนวกกับพลังของลิงค์, นี่ก็น่าจะพอแล้วสำหรับการช่วยเหลือคาร์โนส นอกจากนี้, ด้วยความที่พวกเขากำลังจะแทรกซึมเข้าไปในฐานของศัตรู, การไปกลุ่มใหญ่ๆก็น่าจะไม่ใช่เรื่องดี

 

“ฉันไม่กลับไปหรอก!” แอนนี่ส่ายหัวอย่างมุ่งมั่น “หากไม่มีเชื้อพระวงศ์อยู่ในระหว่างภารกิจ, พวกเราก็เป็นแค่หน่วยสอดแนมจาก MI3 เท่านั้นแหล่ะ”

 

ลิงค์ตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลาพักนึง ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอม, ก็ไม่มีเหตุจำเป็นให้บังคับ เขาพยักหน้า “เอางั้นก็ได้”

 

หลังจากนั้น, เขาก็สุ่มเลือกหน่วยสอดแนมห้าคนแล้วพูด “พวกนายเองก็กลับไปด้วยนะ จำเอาไว้ว่าพวกกลูมีการเชื่อมต่อระหว่างกันด้วยวิธีการบางอย่าง พวกมันน่าจะรู้แล้วว่าเพื่อนของพวกมันบาดเจ็บหนักแล้วจะไล่ตามพวกนายไปแน่ ฉันจะพยายามถ่วงพวกมันเอาไว้ซักครึ่งชั่วโมง ในครั้งนี้, พวกนายจะต้องรีบกลับไปที่ป้อมปราการด้วยความเร็วสูงสุด ห้ามหยุดระหว่างทางหล่ะ! เข้าใจไหม?”

 

“รับทราบครับ!” ทหารสอดแนมตอบกลับไปเป็นเสียงเดียวกัน

 

ในตอนนี้, คำพูดของลิงค์ถือว่าเป็นคำสั่งของพวกเขา เขามีอำนาจมากกว่าองค์หญิงแอนนี่เพราะเขาเพิ่งจะแสดงพลังที่ไร้ผู้ใดเปรียบของเขากับพวกกลู เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ในป่าแห่งความมืดนี้

 

พลังโจมตีนี้เป็นสิ่งที่พวกทหารบนสนามรบกำลังมองหา!

 

“เอาหล่ะ, ไปได้แล้ว!” ลิงค์ชี้ไปยังทิศทางที่มุ่งหน้าไปสู่ป้อมปราการบนยอดภูเขาน้ำแข็ง

 

จากนั้นหน่วยสอดแนม 15 คนก็พากลูที่ได้รับบาดเจ็บหนักไปแล้วรีบตรงไปยังป้อมปราการภูเขาน้ำแข็ง

 

ลิงค์หันมามองหน่วยสอดแนมที่เหลืออยู่หกคนแล้วพูด “พวกเราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อซื้อเวลาให้พวกเขา”

 

“เชิญสั่งมาได้เลยครับ/ค่ะ!”

 

แอนนี่เองก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพเช่นกัน เธอตระหนักได้ว่าชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าเธอคนนี้ไม่ใช่คนขี้อายที่เธอรู้จักในอดีตอีกต่อไป เขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งและเยือกเย็นเหมือนเช่นเคย, แต่ดูเหมือนว่าเขาจะดูพึ่งพาได้และแน่วแน่ขึ้นมากในตอนนี้

 

หน่วยสอดแนมคนที่เหลือมองมาที่ลิงค์ด้วยความชื่นชม, เฝ้ารอคำสั่งจากเขา

 

จากนั้นลิงค์ก็พูด “ส่งมีดของทุกคนมาให้ฉัน”

 

หน่วยสอดแนมหกคนส่งมีดของพวกเขาไปให้ลิงค์โดยไม่ลังเล จากนั้นลิงค์ก็เอาธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ออกมาขวดนึงแล้วใช้มือแห่งนักเวทย์ จากนั้นมีด 12 เล่มก็ลอยกลางอากาศในทันทีก่อนที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่เบื้องหน้าลิงค์

 

มีดพวกนี้มีคุณสมบัติต้านทานเวทย์มนตร์ อย่างไรก็ตาม, ความสามารถของลิงค์ได้ก้าวข้ามอุปกรณ์ต้านทานเวทมนตร์ธรรมดาๆไปแล้ว พวกมันไร้ประโยชน์เมื่อเจอกับเวทย์ของเขา

 

หลังจากที่มีดจัดเรียงอย่างเหมาะสม, ของเหลวสีเงินก็ลอยออกมาจากขวด ธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์นี้ลิงค์เป็นคนสร้างขึ้นมาเองและสามารถรักษารูปแบบของเหลวเอาไว้ได้เนื่องจากสนามพลังฮิกซ์และเวทย์เปลี่ยนรูปที่ลิงค์เชี่ยวชาญ พอธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์สัมผัสกับชั้นบรรยากาศ, มันก็กลายเป็นฟิล์มที่แทบจะโปร่งแสงอย่างรวดเร็ว จากนั้นฟิล์มโปร่งแสงนี้ก็เคลือบมีดที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบอย่างรวดเร็ว แล้ว, รูนเวทมนตร์จำนวนมากก็ปรากฎขึ้นในอากาศ รูนพวกนี้หมุนในอากาศอย่างรวดเร็วในขณะที่เข้าใกล้มีดขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งในที่สุดพวกมันก็ปกคลุมมีดอย่างเท่าๆกัน

 

ฉากนี้ดูเหมือนกับหิ่งห้อยหลายตัวที่กำลังเต้นรำรอบๆมีดที่กำลังลอยอยู่

 

สามวินาทีต่อมา, ลิงค์ก็ยกคทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์ของเขาขึ้นแล้วชี้มันไปที่มีดที่ลอยอยู่ “เวทย์เสถียร!”

 

เสียงกริ้กดังก้องไปทั่วป่าในขณะที่รูนฝังตัวเองติดกับพื้นผิวของมีด, สลักพลังของพวกมันเอาไว้บนอาวุธธรรมดาๆ ด้วยเสียงที่ดังขึ้นทีละชิ้น, อักษรรูนสดใสก็ปรากฎขึ้นบนมีดพวกนี้

 

ประมาณสามวินาทีต่อมา, รูนทั้งหมดที่อยู่ในอากาศก็หายไป, และหน้าตาของมีดก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

 

ตอนแรก, มีดพวกนี้เป็นสีเทาดำ อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้พวกมันเป็นสีดำเงินและแถวของรูนอันงดงามที่สลักไว้ก็กำลังวิ่งอยู่ที่กลางมีดอย่างเห็นได้ชัด แล้วรูนพวกนี้ยังเปล่งแสงสีเงินที่สร้างความสดใสในป่าแห่งความมืดเป็นพิเศษออกมาด้วย

 

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นก็คือมีดทั้ง 12 เล่มนั้นดูเหมือนกันเปี้ยบเลย

 

หน่วยสอดแนมทุกคนมองฉากนี้ด้วยความไม่เชื่อ พวกเขาไม่เคยเห็นเวทย์เสริมพลังที่น่ามหัศจรรย์แบบนี้ในชีวิตของพวกเขา แม้แต่แอนนี่เองก็ยังพูดไม่ออกกับภาพนี้

 

อันที่จริงนี่เป็นเรื่องปกติ, ด้วยความที่ลิงค์เชี่ยวชาญในศิลปะการเสริมพลัง กระบวนการเสริมพลังง่ายๆแบบนี้จึงไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรนัก, เขาสามารถทำมันได้ด้วยการแกว่งคทาไม่กี่ที เขาคุ้นเคยกับมันมากเกินไป

 

ด้วยการขยับมืออีกครั้ง, มีดทั้ง 12 เล่มก็ลอยกลับไปที่มือของทหารสอดแนมอย่างช้าๆ

 

จากนั้นเขาก็พูดออกมา “ฉันได้เสริมธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ในมีดพวกนี้แล้ว พวกกลูจะไม่สามารถฟื้นฟูความเร็วสูงได้ถ้าพวกนายทำให้พวกมันบาดเจ็บด้วยอาวุธพวกนี้”

 

ความสามารถในการฟื้นฟูเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกกลู

 

หลังจากนั้น, ลิงค์ก็แกว่งคทาของเขาอีกครั้งเพื่อใช้มือแห่งนักเวทย์

 

ภายใต้สีหน้าประหลาดใจของทหารสอดแนมทุกคน, หน้าไม้และลูกธนูที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นก็เริ่มลอยมาหาลิงค์และเรียงตัวเป็นระเบียบต่อหน้าเขาอีกครั้ง ลิงค์กวาดสายตามองอาวุธพวกนี้อย่างรวดเร็วและโยนหน้าไม้ที่เสียหายหนักออกไป 5 คั้นกับกระสุนหน้าไม้ที่ใช้งานไม่ได้ออกไป 20 ดอก จากนั้นเขาก็เหลือหน้าไม้ที่ใช้ได้ 20 คันและกระสุนหน้าไม้ 160 ดอก

 

จากนั้นลิงค์ก็แสดงทักษะการควบคุมเวทมนตร์อันแข็งแกร่งของเขาอีกครั้ง มันดูเหมือนกับมีมือนับไม่ถ้วนกำลังทำงานกับอาวุธทั้งหมดนี้ในครั้งเดียว, มันใส่กระสุนกลับเข้าไปในหน้าไม้และซ่อมกลไกทั้งหมดอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน

 

ภายในเวลาสองนาที, หน้าไม้ยี่สิบคันก็กลับมาดูดีเหมือนใหม่

 

จากนั้นลิงค์ก็เอาแร่เงินศักดิ์สิทธิ์ออกมาอีกขวดและเริ่มสร้างฟิล์มใสจำนวนมากในอากาศก่อนที่จะคลุมหน้าไม้ด้วยวิธีการเดียวกันกับที่ทำกับมีด ครึ่งนาทีต่อมา, หน้าไม้ก็เปลี่ยนเป็นสีดำเงินทั้งหมดแม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของพวกมันก็ตาม

 

ด้วยการแกว่งคทาเบาๆ, หน้าไม้ก็ลอยไปหาทหารสอดแนม พวกเขาได้รับหน้าไม้คนละสองคน, กระจายอย่างเท่าๆกันในหมู่สมาชิกที่เหลือ

 

“ดูแลพวกมันให้ดีๆหล่ะ พวกมันจะเป็นอาวุธที่เอาไว้ต่อกรกับกลูของพวกนาย”

 

ทหารสอดแนมรับหน้าไม้เหมือนกับเครื่องจักรในขณะที่พวกเขายังเกรงกลัวความสามารถของลิงค์อยู่

 

 

หน้าไม้พวกนี้โดยปกติแล้วเป็นอาวุธที่ใช้แล้วทิ้ง มันมีปัญหาอย่างมากในการใส่กระสุนกลับเข้าไปอีกครั้งหลังจากที่ยิงออกมา โดยปกติ, มันจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการซ่อมหน้าไม้หนึ่งคัน อย่างไรก็ตาม, นักเวทย์ที่อยู่เบื้องหน้าเขาซ่อมหน้าไม้ 20 คัน และยังเสริมพลังพวกมันด้วยแร่เงินศักดิ์สิทธิ์ได้ในเวลาไม่ถึงสามนาที

 

สิ่งที่เขาทำนั้นไม่ได้ต่างอะไรไปจากคำว่ามหัศจรรย์เลย

 

หลังจากเตรียมการเสร็จสิ้น, ลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของเวทมนตร์ในบรรยากาศ เขารู้สึกว่ามีสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง มันคือพวกกลู!

 

“เร็วอะไรอย่างนี้!” แม้ว่าเขาจะเตรียมการเอาไว้แล้ว, แต่ลิงค์ก็ยังประหลาดใจกับความเร็วของพวกมัน

 

เขายกคทาของเขาขึ้นแล้วร่ายเวทย์ใส่ทหารสอดแนมแต่ละคนอย่างเป็นระบบ จากนั้นรัศมีของแสงก็ตรงไปหาทหารสอดแนมเหมือนกับกระแสน้ำ, ทำให้พวกเขาหายไปจากทัศนวิสัย

 

จากนั้นในที่สุด, ลิงค์ก็ทำให้ตัวเองเข้าสู่สภาพปกปิด

 

มีเสียงดังขึ้นจากป่าที่ดูเหมือนจะว่างเปล่า “กลูอยู่ที่นี่ พวกมันมีสี่ตัว พวกมันมาที่นี่เพื่อตรวจสอบสนามรบแน่ๆ ซ่อนตัวให้ดีแล้วรอโอกาสโจมตี ไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะตอบโต้นะ, ฉันจะหยุดพวกมันเอง!”

 

พอจบประโยคสุดท้าย, น้ำเสียงของลิงค์ก็เบาลงไปอีก, และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเสียงมาจากไหนกันแน่

 

แรงบรรดาลใจของลิงค์สำหรับเวทย์ปกปิดนี้มาจากเวทย์ไร้ร่องรอยของแวนซ์ อย่างไรก็ตาม, เขาได้ทำการดัดแปลงบางอย่างเพื่อทำให้มันเป็นเวทย์ที่ยืดหยุดมากขึ้นสำหรับการใช้งานเฉพาะ  ส่วนเทคนิคเสียงนี้เรียกว่าคลื่นเสียงสะท้อน, เวทย์นี้เขาเรียนรู้มาจากสมุดโน้ตเวทมนตร์ที่จอมเวทย์จากสถาบันมอบให้เขา

 

ลิงค์เชี่ยวชาญในเทคนิคเวทย์มนตร์เล็กๆพวกนี้หลังจากที่ได้เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบเวทย์มนตร์จำนวนมาก นี่รวมทั้งเวทย์สนามพลังฮิกส์ที่เขาเพิ่งใช้สร้างธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ด้วย

 

แม้ว่าเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจะยังเป็นแค่เวทย์เลเวล 6, แต่พลังการต่อสู้ของเขาก็มีมากกว่าอย่างน้อยสองเขานับตั้งแต่ตอนที่เขาสังหารทาร์วิสได้

 

ภายในป่า, หน่วยสอดแนมเฝ้ารออย่างเงียบกริบ

 

ครั้งนี้, พวกเขามีสมาชิกแค่แปดคน อย่างไรก็ตาม, ความเศร้าที่เคยกัดกินพวกเขาก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความทะเยอทยานและความโกรธ, ที่เป็นเชื้อเพลิงให้กับการกระทำของพวกเขาแล้วในตอนนี้ พวกเขาทุกคนมองไปยังกลูที่มาถึง, ด้วยความที่ตอนนี้พวกเขามีหัวหน้าที่แข็งแกร่งมากๆ

 

มันก็ถึงเวลาล้างแค้นแล้ว!