Advent of the Archmage - ตอนที่ 184: มือของผู้สังหาร
สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟ, เวลากลางดึก
ทาร์วิสเดินตรงไปยังหอคอยเวทย์มนตร์ที่เป็นจุดสำคัญอย่างดุร้าย ระหว่างทาง, เขาจะเหวี่ยงแขนของเขาอย่างบ้าคลั่งซึ่งทำให้พลังแห่งความมืดที่อยู่รอบตัวเขาทำลายทุกสิ่งในทัศนวิสัยไปด้วย หอคอยเวทย์มนตร์ธรรมดาถูกผ่าเป็นสองซีกในทันที, ทำให้บ่อธาตุระเบิดและเสียงร้องโหยหวนก็รุนแรงขึ้น ตอนนี้สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างสมบูรณ์
“ไบรอันท์, ถ้าแกยังซ่อนตัวไม่เลิก, ข้าจะทำลายสถานที่แห่งนี้ไปพร้อมกับผู้คนที่นี่!” ทาร์วิสตะโกน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้รับการตอบสนอง; ไบรอันท์ไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งนี่ยิ่งทำให้ทาร์วิสเดือดดาลมากขึ้น
หอคอยเวทย์มนตร์ไม่ได้ตั้งอยู่นิ่งๆแล้วรอการถูกทำลายเพียงอย่างเดียว อันที่จริงพวกมันกำลังตอบโต้ด้วยเวทย์มนตร์โจมตี, เวทย์ยิงเลเวล 6 ใส่ทาร์วิสอย่างต่อเนื่อง, แต่ว่า, ด้วยความที่เผชิญหน้ากับปีศาจเลเวล 8, เวทย์เลเวล 6 พวกนี้จึงเป็นเหมือนแค่ประทัดกากๆเท่านั้น พวกมันเจาะทะลุพลังแห่งความมืดที่ปกคลุมร่างของทาร์วิสไม่ได้ด้วยซ้ำ
ณ ตอนนี้, นักเวทย์ทุกคนในสถาบันมีคำถามเดียวกันอยู่ในความคิดของพวกเขา
ใครจะสามารถหยุดปีศาจตนนี้ได้กัน? ผู้อาวุโสแอนโทนี่ยังมีชีวิตอยู่ไหม?
ผู้อาวุโสแอนโทนี่เป็นเสาหลักที่คอยค้ำจุนจิตใจของสถาบัน ไม่มีใครรู้ว่าเขารอดจากการโจมตีของเวทย์เลเวล 8 ได้รึเปล่า และการปรากฏตัวอันน่าหวาดหวั่นของปีศาจตนนี้ก็ได้ฉุดนักเวทย์จมลงไปในความเศร้า ดังนั้นพวกเขาหลายคนจึงยอมแพ้ให้กับความหวังไปแล้ว
แต่ว่า, แท้ที่จริงแล้วแอนโทนี่ยังมีชีวิตอยู่
ในช่วงเสี้ยววินาทีสุดท้าย, แอนโทนี่ได้เทเลพอร์ตหนีออกมาจากหนามแห่งสวรรค์ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากสถาบันประมาณ 0.6 ไมล์ แม้ว่าเขาจะหนีจากการโจมตีส่วนใหญ่มาได้, แต่เวทย์เทเลพอร์ตของเขาก็ยังใช้เวลาในการร่ายนานเกินไปอยู่ดี ดังนั้น, เขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสบางจุดจากคลื่นกระแทกของเวทย์เลเวล 8
ในตอนที่คลื่นกระแทกมาถึงตัวเขา, เวทย์ป้องกันในบ่อธาตุได้ป้องกันแรงกระแทกบางส่วนโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม, เวทย์เลเวล 8 ก็ยังสามารถเจาะทะลุบาเรียมาได้และถากโดนร่างกายของเขา, ทำให้ขาของเขาสลายไปแทบจะทันที
ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่ในป่าเกอร์เวนท์, อ้าปากพะงาบๆจากความเจ็บปวดที่ขาของเขา เขาเกือบจะหมดสติแล้ว
แต่ว่าเขาก็ฝืนเอาไว้
ห้าวินาทีต่อมา, แอนโทนี่ก็เริ่มขยับ คทาระดับตำนานในมือของเขาเปล่งแสงออกมาเล็กน้อยและสร้างปีกขึ้นมาคู่นึงบนหลังของเขา จากนั้นเขาก็ทำให้ปีกพวกนี้สั่นด้วยความเร็วสูงและบินกลับไปที่สถาบัน
เขาเป็นผู้อาวุโสของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่, เขาจะต้องหยุดปีศาจเลเวล 8 ที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความเสียหายบนพื้นที่บ้านของเขาให้ได้ เขาต้องเอาชนะปีศาจตัวนี้, ต่อให้มันจะหมายถึงการเผาผลาญวิญญาณของเขาก็ตาม
คงจะมีบางสิ่งบางในโลกนี้ที่มีค่าพอให้เสียสละวิญญาณของคุณ และสำหรับแอนโทนี่นั่น, สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟก็คือชีวิตของเขา!
…
สถาบัน
เสือนภาได้หนีเข้าไปในป่าเกอร์เวนท์ตั้งนานแล้วในตอนที่ทาร์วิสปรากฏตัวขึ้น มันยอมทิ้งความคิดทั้งหมดในการล้างแค้นและหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
ปีศาจตัวนี้ค่อนข้างน่ากลัว ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน, ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าข้าออกไปตามหาสาวงามทางตอนใต้
ปีศาจเลือดทาลอนยืนเฝ้ามองจากที่ไกลๆ ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่เพียงพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้นี้ เขาทำได้แค่สรรเสริญเท่านั้น “ช่างเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่จริงๆ, ท่านทาร์วิส ใช่แล้วครับ, ทำลายสถาบันบ้าๆนี่ให้พังพินาศไปเลย!”
ทาร์วิสไม่เคยได้รับการตอบสนองที่เขาต้องการจากไบรอันท์เลยและเขาก็เสียสติไปแล้ว เมื่อหอคอยเวทย์มนตร์อีกแห่งนึงเข้ามาในทัศนวิสัยของเขา, เขาก็เห็นนักเวทย์น่าสงสารคนนึงยืนอยู่บนชั้นดาดฟ้า
“ไอมนุษย์น่าสมเพช! ลิ้มรสความโกรธของข้าซะ!” ทาร์วิสแหกปากและพุ่งตรงไปยังหอคอยเวทย์มนตร์แห่งนั้น
ทาร์วิสนึกภาพสถานการณ์เอาไว้แล้ว เขาจะกระแทกหมัดของเขาลงไปที่หอคอยเวทย์มนตร์และขยี้มันให้เป็นจุณ ในระหว่างกระบวนการนี้, นักเวทย์จะคร่ำครวญออกมาด้วยความสิ้นหวังและความฉิบหาย, มันใช้ยืนยันความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างดีเยี่ยม
ซึ่งหอคอยเวทย์มนตร์ที่ว่านี้ก็คือหอคอยเวทย์มนตร์ของเอร์เรร่า
เอร์เรร่าออกมาจากหอคอยเวทย์มนตร์พร้อมกับนักเวทย์ฝึกหัดของเธอแล้ว เธอจับมือของไรไลแน่นและวิ่งหนีออกมาจากปีศาจตัวนั้นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาไม่มีปลายทางที่แน่นอน, สิ่งที่พวกเขาทุกคนสามารถคิดได้ในตอนนี้มีแค่การหนีเท่านั้น
ซึ่งนี่เป็นเช่นเดียวกันสำหรับหอคอยเวทย์มนตร์แห่งอื่นทั้งหมด เอร์เรร่ามองเห็นนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นๆอีกมากมายกำลังวิ่งหนี
และจู่ๆเธอก็ได้ยินไรไลร้องออกมา “อาจารย์อยู่ไหนคะ? ทำไมเขาไม่ได้อยู่ที่นี่?”
เอร์เรร่าตกตะลึงและเหลียวหลังไปมองและตระหนักได้ว่าลิงค์หายตัวไปจริงๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เธอก็เห็นปีศาจกำลังวิ่งตรงไปที่หอคอยเวทย์มนตร์ของเธอ
เอร์เรร่าตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที เธอไม่รู้ว่าลิงค์ไปไหน อย่างไรก็ตาม, เธอมีลางสังหรณ์ว่าเขายังอยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์, ซึ่งกำลังจะถูกทำลายแล้ว!
พอได้เผชิญหน้ากับพลังอันล้นหลามของปีศาจเลเวล 8, เธอก็ทำอะไรไม่ถูก
ทันใดนั้นเอง, เอร์เรร่าก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของเวทย์มนตร์อันน่าเหลือเชื่อจากชั้นดาดฟ้าของหอคอยเวทย์มนตร์ของเธอ ความผันผวนนี้น่ากลัวมากๆ มันทำให้อากาศในรัศมี 30 ฟุตรอบชั้นดาดฟ้าบิดเบี้ยว คลื่นกระแทกจากความบิดเบี้ยวนี้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น, ทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตวิญญาณของนักเวทย์ทุกคนในสถาบัน
และในชั่วอึดใจ, เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวทั้งหมดก็ดูเหมือนจะหายไป
แม้กระทั่งทาร์วิสก็ยังคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ในสายตาของเขา, นักเวทย์บนชั้นดาดฟ้านั้นเป็นแค่มดตัวนึง, แต่ว่าเขากลับแสดงความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อขนาดนี้ออกมาอย่างกระทันหัน
นี่อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนที่กระทืบเท้าใส่มดและเพิ่งมารู้ที่หลังว่ามันคือตะปูโลหะ
จากนั้นทาร์วิสก็หยุดเคลื่อนไหวแล้วถาม “ไบร์อันท์หรอ?”
มันเป็นเวลานานมาก ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับพลังของไบร์อันท์นั้นได้เลือนลางไปแล้ว อย่างไรก็ตาม, เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยบางอย่าง
ไม่มีการตอบกลับมา
หลังจากการระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวของพลังงานก็เป็นการรวมกันอย่างน่าเหลือเชื่อของพลังงานธาตุ พลังอันน่าดึงดูดนี้ยิ่งใหญ่มากจนแม้กระทั่งธาตุในบ่อธาตุก็แห้งเหือด ธาตุไฟแทบทั้งหมดในสถาบันดูเหมือนกับว่ากำลังบินตรงมายังหอคอยเวทย์มนตร์ของเอร์เรร่า
ในตอนนั้นเอง, หอคอยเวทย์มนตร์ที่กำลังร่ายเวทย์ไฟใส่ทาร์วิสก็หยุดลงในทันที นักเวทย์ธาตุไฟทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าพวกเขาไม่สามารถร่ายเวทย์ได้อีกต่อไปแล้ว
จากนั้นก็มีมือธาตุไฟขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบนชั้นดาดฟ้า
ฝ่ามือนั้นหนาแน่นมากๆ, มันดูเหมือนกับคริสตัลสีแดงฉานเลย มันถูกล้อมรอบด้วยสนามพลังและแปรสภาพเป็นเส้นรูนอย่างช้าๆซึ่งพวกมันได้เชื่อมต่อกับนักเวทย์ที่เป็นคนร่าย ฝ่ามือนี้มีขนาดใหญ่มากจนนิ้วของมันมีความกว้าง 18 ฟุตและมีความยาวถึง 60 ฟุต แม้ว่าความจริงแล้วทาร์วิสจะตัวสูง 90 ฟุต, แต่เขาก็ดูตัวเล็กไปเลยเมื่อได้เผชิญหน้ากับฝ่ามือขนาดยักษ์นี้
ในตอนที่ฝ่ามือปรากฏขึ้น, มันก็พุ่งตรงไปหาทาร์วิส มันพุ่งไปด้วยความเร็วที่สูงจนน่าเหลือเชื่อแล้วมันก็คล่องแคล่วมากๆ
“ไบรอันท์, ในที่สุด!” ทาร์วิสแผดเสียงออกมา เขาคิดว่านี่คือศัตรูชาวมนุษย์ของเขา, ไบรอันท์ แล้วพุ่งเข้าไปหาฝ่ามือนั้น
การปะทะกันนั้นทำให้เกิดการระเบิดขนาดมหึมาในอากาศ คลื่นกระแทกขนาดยักษ์กระจายไปทั่วทั้งสถาบัน, และคลื่นสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ
นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนเอามือปิดหูของตัวเองตามสัญชาติญาณ พวกที่มีร่างกายแข็งสามารถยึดมั่นอยู่กับที่ของตัวเองได้และยังยืนอยู่, อย่างไรก็ตาม, พวกที่มีร่างกายอ่อนแอต่างก็ล้มลงด้วยแรงอัดของคลื่นกระแทก
การปะทะกันนี้ได้สร้างม่านฝุ่นขึ้นมาซึ่งมันขัดขวางวิสัยทัศน์ของพวกเขาในฉากการต่อสู้
ท่ามกลางฝุ่นเมฆ, เสียงระเบิดยังสามารถได้ยินได้ คนที่อยู่ด้านนอกทำได้แค่จินตนาการถึงความรุนแรงของการต่อสู้ที่เกิดขึ้นข้างในเท่านั้น ประมาณหนึ่งนาทีให้หลัง, เมฆฝุ่นก็หายไปแล้วเวทย์แสงก็ปรากฏขึ้นที่เหนือสุดของหอคอยเวทย์มนตร์
ภายใต้ความสว่างของแสง, ในที่สุดทุกคนก็มองเห็นฉากการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน พวกเขาทุกคนตกใจกับฉากที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา
มือสีแดงฉานกำลังจับตัวทาร์วิสเอาไว้แน่นในฝ่ามือของมัน ทาร์วิสดิ้นรนอย่างเต็มที่และปล่อยพลังปีศาจอันน่าสยดสยองของเขาออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำลายฝ่ามือแห่งความตายของมันได้
ทุกคนรู้ดีว่าทาร์วิสนั้นเป็นปีศาจที่ดุดันและชอบการทำลายขนาดไหน
แต่พอเห็นว่าเวทย์นี้สามารถเอาชนะทาร์วิสได้ในด้านพละกำลัง ทุกคนต่างก็คิดว่า นี่มันพลังอะไรกัน? นักเวทย์ที่สามารถสร้างเวทย์โจมตีแบบนี้ได้ต้องฉลาดเอามากๆ! เขาต้องเป็นนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน!
โอ้, นักเวทย์ผู้หญิงใหญ่!
“โอ้ท่านเทพแห่งแสง, ทาร์วิสถูกยับยั้งแล้ว!”
“มันทำได้มากกว่ายับยั้งทาร์วิสเสียอีก มันเห็นได้ชัดว่าทาร์วิสอ่อนแอกว่าหัตถ์แห่งพระเจ้านี้!”
“นักเวทย์คนนี้เป็นใครกัน?”
นักเวทย์ที่อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์และเตรียมที่จะทิ้งชีวิตของพวกเขาในการต่อสู้สุดท้ายกับทาร์วิสได้เห็นภาพสถานการณ์อย่างชัดเจน พวกเขาไม่ใช่แค่เห็นทาร์วิสอย่างชัดเจนเท่านั้น, แต่ยังเห็นนักเวทย์ที่ต่อสู้กับเขาได้สูสีด้วย
ผ้าคลุมสีน้ำเงินนั้นบอกได้อย่างเดียวว่าเขาอยู่ระดับกลาง แล้วนักเวทย์ขั้นกลางที่มีพลังขนาดนี้จะเป็นใครได้หล่ะ?
อย่างไรก็ตาม, ก็มีคนจำเขาได้จากสีผมของเขา
“ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลิงค์นะ!”
“เป็นไปได้ยังไงกัน? เขาเพิ่งใช้เวทย์มนตร์เลเวล 9 ออกมานะ! มีแค่เวทย์เลเวล 9 เท่านั้นที่มีพลังน่ากลัวขนาดนี้!
เหล่านักเวทย์นั้นทั้งประหลาดใจและสับสน พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ในขณะนั้น, เสือนภาเกือบจะไปได้สุดเขตของสถาบันแล้ว ขณะที่มันเหลียวหลังไปและเห็นฉากอันหน้ากลัว, เหงื่อก็ไหลออกมาบนหน้าผากของมัน แม่xเอ้ย โชคดีที่ข้าไม่พุ่งเข้าไป ใครจะไปคิดกันว่าสถาบันที่เต็มไปด้วยมนุษย์แห่งนี้จะมีนักเวทย์เลเวล 9 ด้วย? นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าหุบเหวอีก!
ปีศาจเลือดทาลอนที่กำลังสรรเสริญทาร์วิสอยู่ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
ปีศาจเลเวล 8 แพ้ในการต่อสู้ตัวต่อตัวกับนักเวทย์จากสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟงั้นหรอ—ราชินีของไฮเอลฟ์มาเยี่ยมรึไงกัน?
ภายในเงามืด, นักเวทย์เลเวล 7 แวนซ์เฝ้าสังเกตุการต่อสู้ระดับตำนานนี้อย่างระมัดระวัง ไฟสีฟ้าในดวงตาของเขาดูตื่นเต้นมากๆ, พวกมันกำลังสั่นไหวอย่างรวดเร็ว
“อา, ช่างเป็นเวทย์ที่งดงามจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าที่สถาบันจะมีคนแบบนี้อยู่ด้วย ดูเหมือนว่าทาร์วิสจะเจอปัญหาเข้าแล้วสินะ” จากนั้นเขาก็จากไปหลังจากที่พูดจบ
ผลของการต่อสู้ถูกตัดสินด้วยเวทย์เลเวล 9 ที่ร่ายโดยนักเวทย์สายต่อสู้ผู้มีพรสวรรค์ ไม่มีทางที่ทาร์วิสจะสามารถพลิกเกมส์ได้
ทาร์วิสกำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธ เขาปล่อยพลังของเขาออกมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงดังก้อง, พลังปีศาจที่เคยปกคลุมตัวเขาอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
“ปล่อยข้าออกไปนะ!” เขาตะโกนขณะที่ขยับแขนของเขา, พยายามที่จะผลักมือยักษ์นี้ออก
ครั้งนี้, เขาทำได้สำเร็จ ฝ่ามือแบออกและทาร์วิสก็หนีไปได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หันกลับมาแล้วพุ่งมายังหอคอยเวทย์มนตร์ที่นักเวทย์น่าชิงชังกำลังยืนอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด
เขาอาจจะไม่สามารถเอาไปเปรียบกับเวทย์มนตร์ของนักเวทย์คนนี้ได้, แต่เขามีพลังมากพอในการทำลายร่างกายของเขา
อย่างไรก็ตาม, มันเห็นได้ชัดว่าทาร์วิสใสซื่อเกินไป
มือที่เขาเพิ่งจะหนีออกมาได้นั้นถอยกลับมาที่หอคอยเวทย์มนตร์ในทันที ขณะที่มันกำลังกลับไปที่หอคอย, มือก็ได้กำเป็นหมัด, และราวกับว่ามันถูกชาร์จพลังมาก่อน, มันอัดเข้ากับทาร์วิสด้วยพลังเต็มที่
การโจมตีนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวทย์หมัดแห่งฟิโรมอซ!
ตูม! เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วสถาบัน
ทาร์วิสรู้สึกเหมือนกับถูกหัวรถจักรชน เขาร่วงลงไปที่พื้นในทันที อย่างไรก็ตาม, หมัดไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น, มันอัดทาร์วิสต่อจนเขาจมเข้าไปในพื้น
ปัง! โครม! ครืนนน!
พื้นดินสั่นสะเทือนและมีรอยแยกขนาดกว้าง 30 ฟุตลึก 12 ฟุตปรากฏขึ้นมา
การโจมตีนี้เป็นจุดชี้ขาด มันทำลายพลังปีศาจที่ปกคลุมทาร์วิสและทำลายกำลังใจของเขาอย่างสมบูรณ์ เขานอนราบกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
แล้วลิงค์ก็กำลังจะเผด็จศึกเขาแล้ว
หัตถ์แห่งไททันลงมาจากด้านบนและจับร่างของทาร์วิสแน่น จากนั้นมันก็เริ่มแน่นขึ้นขณะที่ลิงค์เปิดใช้เวทย์ระเบิดที่เขาเสริมพลังธาตุไฟใส่เข้าไปในใจกลางของฝ่ามือ
การโจมตีนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวทย์เลเวล 5 หัตถ์เปลวเพลิง!
ทาร์วิสกำลังรู้สึกมึนจากการโจมตีก่อนหน้านี้และไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา ในตอนที่เขารู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายจากการโจมตี, มันก็สายเกินไปแล้ว พลังของหัตถ์แห่งไททันได้ไปถึงจุดสูงสุดของขีดจำกัดของมันแล้ว
ทาร์วิสเข้าใจดีถึงพลังอันน่ากลัวของเวทย์ธาตุไฟเลเวล 9 เพราะเขาเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานมาก่อน ในตอนที่เขารู้สึกว่าอุณหภูมิของมือเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะทานทนได้, เขาก็รู้ว่าเขาจบแล้ว
ภายใต้การยับยั้งของหัตถ์แห่งไททันและพลังระเบิดของธาตุไฟ, สภาพแวดล้อมภายในหัตถ์ไททันก็คล้ายกับหม้อหลอมละลายอุณหภูมิสูงที่กำลังย่างปีศาจยักษ์เลเวล 8
ภายใต้ความกดดันของอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้, ร่างของทาร์วิสก็เริ่มส่องแสง นี่เป็นเพราะธาตุไฟจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาในร่างกายของเขาและทำลายเซลล์ของเขา
เขาแหกปากร้องออกมาแต่มันก็เปล่าประโยชน์ แทนที่จะมีเสียงร้องออกมาจากปากของเขา, กลับมีไฟออกมาจากปากของเขา, ตามมาด้วยดวงตา, หู, จมูก, และในที่สุดก็ผิวหนังของเขา
ประมาณสิบวินาทีต่อมา, ธาตุไฟในมือก็ถูกใช้จนหมดอย่างสมบูรณ์ จากนั้นหัตถ์ไททันก็คลายมือออก, แล้วของเหลวที่คล้ายกับลาวาก็เริ่มไหลออกมาจากที่ที่ทาร์วิสเคยอยู่ ของเหลวนั้นคือเศษซากของปีศาจที่เคยคุกคามโลกแห่งฟิรุแมน
ความจริงที่ทาร์วิสไม่ได้ระเหยด้วยความร้อนนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของร่างกายของเขา
นี่คือฉากที่ต้อนรับแอนโทนี่ในตอนที่เขามาถึงทางเข้าสถาบันในที่สุด ทั้งสถาบันเฝ้ามองฉากในตำนานนี้ด้วยความชมเชยและความไม่เชื่อ
รอบๆซากปรักหักพังของหนามแห่งสวรรค์, เซลาสซี, ที่ขาของเขาถูกเศษซากปรักหักพังทับคลานออกมาด้วยความพยายามอย่างมาก จากนั้นเขาก็เอาสมุดของเขาออกมาและเริ่มเขียนด้วยมือที่สั่นเทาของเขา, คำพูดของข้าเลือนลางเหลือเกินเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ พวกมันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของข้าออกมาได้ อย่างไรก็ตาม, ข้ายืนยันได้สิ่งนึง, ข้าเชื่อว่า, ในอนาคตอันใกล้นี้, สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอิสโควฟจะเปิดตัวนักเวทย์ในตำนานคนแรกตั้งแต่ที่สถาบันเคยก่อตั้งมา!