Advent of the Archmage - ตอนที่ 180: ความเร็วในการร่ายเวทย์ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ฤดูหนาวอันหนาวเหน็บได้ผ่านพ้นไปแล้ว, และแสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็ส่องมายังโลกแห่งฟิรุแมนอีกครั้ง เมื่อ ลิงค์ เปิดหน้าต่างในตอนเช้า, เขาก็ได้กลิ่นสดชื่นของพืนพันธุ์ที่ได้รับการหล่อเลี่ยงจากห่าฝนเมื่อคืนนี้
จากที่ไกลๆ, ลิงค์ เห็นป่าต้นหลิวที่อยู่ข้างกับลานแห่งแรงบันดาลใจของไบรอันท์ มันดูเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยชั้นของกำมะหยี่สีเหลือง ในตอนที่สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน, กลีบดอกไม้จะลอยไปกับสายลมด้วยเหมือนกับเกล็ดหิมะ ภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์, ความชุ่มชื้นในพื้นดินที่เฉอะแฉะก็ค่อยๆเหือดแห้งไป, ผลักดันกลีบดอกไม้ในอากาศ ลมหมุนของกลีบดอกไม้ที่ลอยไปอย่างช้าๆและงดงามนี้ช่างเป็นภาพที่ซาบซึ้งจริงๆ
แล้ว ลิงค์ ก็ยังเห็นนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นๆอีกมากมายที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อชมดอกไม้ หรือสำหรับคู่รัก, พวกเขาก็หนีมาพลอดรักกันในช่วงเช้าของฤดูใบไม้ผลิ บางส่วนที่เหลือก็เห็นได้จากที่ไกลๆซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการวิจัยเวทย์มนตร์ของพวกเขาอยู่ และในบางครั้ง, ก็จะได้ยินเสียงหัวเราะอันอบอุ่นและมีชีวิตชีวา
สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟในตอนนี้ดูเหมือนกับภาพจากในเทพนิยายจริงๆ
ลิงค์ ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวและมองออกไปจากหน้าต่างห้องของเขาเป็นเวลาพักนึงก่อนที่จะกลับมาที่โต๊ะของเขา
ขั้นแรกเขาเอาหินนักปราชญ์สีขาวออกมาและเริ่มชาร์จมันด้วยมานา มันใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีมานาของ ลิงค์ ก็หมดเกลี้ยง จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆ, แล้ววัสดุของหินก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
ตอนแรกหินนั้นมีลักษณะทึบแสงและมีสีขาว อย่างไรก็ตาม, มันได้เปลี่ยนเป็นคริสตัลสดใสและบริสุทธิ์ที่มีจุดระยิบระยับมากมายเปล่งประกายอยู่ข้างใน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับมองเข้าไปในท้องฟ้าที่มีดวงดาวนับไม่ถ้วน
จากนั้น ลิงค์ ก็ตรวจสอบสถานะของมัน
หินนักปราชญ์สีขาว (ชาร์จเต็ม)
สถานะ: 100/100
จำนวนครั้งที่ใช้ได้: 3/3
ลิงค์ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็ชาร์จเต็มสักที
จากนั้นเขาก็ใช้เวลาพักผ่อนอยู่พักนึงก่อนที่จะหยิบปากกาขนนกขึ้นมาแล้วจุ่มลงไปในกระปุกหมึกที่อยู่ข้างๆ แล้วเขาก็เริ่มใช้เวลาของเขาไปกับการขยายเนื้อหาวิทยานิพนธ์
เมื่อคืนนี้ในความฝันของเขา, เข้าได้สะดุดเข้ากับแรงบันดาลใจบางอย่าง เขาต้องเขียนมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่ความทรงจำของเขาจะเลือนลาง
วิทยานิพนธ์นี้ได้ขยายไปจนถึงระดับที่สูงกว่าเมื่อก่อน หลังจากหกเดือนในความพยายามที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ ลิงค์, วิทยานิพนธ์นี้ก็ได้ไปถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ มันทำความเข้าใจได้ยากมากๆและถึงจุดที่คลุมเครือ
คำถามที่จุดประกายบทความนี้นั้นเป็นคำถามที่ง่ายมากๆ ทำไมหินถึงร่วงลงมา?
ทุกคนในทวีปนี้น่าจะสามารถเข้าใจปัญหาง่ายๆนี้ได้, และคำถามพื้นฐานนี้ก็เป็นรากฐานของวิทยานิพนธ์ทั้งหมดของลิงค์ อย่างไรก็ตาม, สภาพปัจจุบันของวิทยานิพนธ์นี้ก็ได้เก็บความคิดที่แทบจะเกินกว่าความสามารถทางปัญญาของมนุษย์ปกติไปแล้ว
ต่อให้ ลิงค์ เผยแพร่บทความของเขาให้โลกรู้, แต่ก็คงจะมีคนแค่หยิบมือที่สามารถเข้าใจมันได้
คุณไม่สามารถเข้าใจมันได้ด้วยซ้ำแม้ว่าเขาจะเอาให้คุณอ่านฟรีๆ ซึ่งนี่คือความหยิ่งทะนงของตัววิทยานิพนธ์นี้
สถานการณ์นี้คล้ายกับการให้คนธรรมดาบนโลกฟังกระบวนการหักล้างฟิสิกส์ระดับโลกในทฤษฎีของเขา ซึ่งการจำแนกสัญลักษณ์ทั้งหมดที่เห็นได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว, ไม่ต้องพูดถึงการเข้าใจบทความทั้งหมดเลย
นี่คือความจริงเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ของ ลิงค์
ในตอนที่ เอเลียร์ด มาเยี่ยมเมื่อไม่กี่วันก่อน, เขาชำเลืองมองการค้นพบล่าสุดของ ลิงค์ และยอมแพ้หลังจากที่เวลาผ่านไปครึ่งนาที จากนั้นเขาก็ดูมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อย
เอร์เรร่า เองก็เคยให้ความสนใจกับวิทยานิพนธ์นี้ เธอมักจะขอสำเนาล่าสุดของมันและสนทนากับ ลิงค์ เกี่ยวกับรายละเอียดของวิทยานิพนธ์ อย่างไรก็ตาม, ตั้งแต่ที่เธอได้รับบทความล่าสุดเมื่อหนึ่งเดือนก่อนซึ่งเธอใช้เวลาตลอดสามวันก่อนที่เธอจะเฉียดเข้ากับพื้นผิวของเนื้อหา, เธอก็หยุดอ่านวิทยานิพนธ์นี้ทั้งหมด
เนื้อหามันยากเกินไป เธอรู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเธอกำลังจะระเบิดในตอนที่อ่านมัน มันได้เปลี่ยนจากงานที่มีความสุขเป็นงานที่แสนทรมาน
ตอนนี้ลิงค์ทำได้แค่พึ่งตัวเองเท่านั้นเพราะไม่มีใครรอบตัวเขาที่สามารถแสดงความคิดเห็นที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้อีกแล้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่ในพื้นที่รกร้างอันดำมืด เขาจะพบอะไรและประสบความสำเร็จอะไร? เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
หลังจากผ่านไปครึ่งชัวโมง, ลิงค์ ก็ได้สูตรอันสวยงามมาสูตรนึง มันคือสูตรแสดงมิติสัมพันธ์ส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบ
เขาชื่นชมผลงานของเขา, แต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว มันช่างสูญเปล่าอะไรอย่างนี้! สูตรมิติสัมพันธ์เชิงโค้งนี้สามารถใช้เป็นพื้นฐานทั้งหมดของเครื่องส่งข้อมูลระยะไกลได้ แต่ว่า, ระดับการบีบอัดเวทย์มนตร์ที่ต้องการมันสูงเกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์เพียงคนเดียวจะไปถึงความแข็งแกร่งระดับนั้นได้ พวกมันต้องการอุปกรณ์มากมายที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูงมากๆ ฉันว่า 10,000 เหรียญทองคงจะสะกิดกำแพงค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการสร้างเครื่องส่งแบบนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เขาเอาความคิดของเขาขึ้นหิ้งได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ความฝันนี้จะเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้
จากนั้น ลิงค์ ก็ขยายเนื้อหาวิทยานิพนธ์ของเขาต่อและจมเข้าไปในกระบวนการอย่างรวดเร็ว เขามักจะขมวดคิ้วอยู่บ่อยๆและทำสีหน้าแปลกๆออกมามากมาย บางครั้ง, เขาจะวางปากกาขนนกของเขาลงเพื่อคิดเกี่ยวกับความลึกลับมากมายที่เขากำลังจะค้นพบ, โดยไม่สนใจเวลาที่ผ่านไปเลยสักนิด
หลังจากผ่านไปครู่นึง, ลิงค์ ก็คิดได้อีกสูตรนึง ปากกาขนนกของเขาหยุดลงอย่างกระทันหันขณะที่เขาจ้องไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเขาอย่างจริงจัง และประมาณสิบนาทีให้หลัง, เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“พระเจ้าช่วย! ฉันกำลังคิดวิธีเพิ่มความเร็วในการร่ายหัตถ์ไททันอยู่เลย แต่นี่ฉันดันฝ่าอุปสรรคนี้ได้ด้วยวิทยานิพนธ์ของฉันหรอเนี่ย!”
ลิงค์ เชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 6 หัตถ์ไททันมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม, เขาก็ไม่เคยใช้มันในการต่อสู้เลย แม้กระทั่งตอนที่เผชิญหน้ากับปีศาจในป่าเกอร์เวนท์, เขาก็ใช้แค่เวทย์เลเวล 5, หัตถ์เพลิงเท่านั้น
ซึ่งเหตุผลเพียงอย่างเดียวก็คือความช้าในการร่ายเวทย์ มันจำเป็นต้องใช้เวลาถึงห้าวินาทีเต็มกว่าเวทย์นี้จะก่อร่างได้อย่างสมบูรณ์ และท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างคู่ต่อสู้ระดับสูงนั้น, ความเร็วในการร่ายระดับนี้ก็เป็นแค่ความเร็วที่น่าขำขันเท่านั้น
หากไม่มีคนคอยปกป้องเขาในขณะที่ร่ายเวทย์, เวทย์เลเวล 6 นี้ก็แทบจะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้จริงเลย นอกจากนี้, มันก็มักจะมีจุดอ่อนในตอนที่ต้องพึ่งคนอื่นในการปกป้องเรา และ ลิงค์ ก็เกลียดความรู้สึกในตอนที่ชีวิตของเขาต้องฝากเอาไว้กับศักยภาพของคนอื่นอย่างเต็มที่
ดังนั้น, เป้าหมายหลักของเขาก็คือการเพิ่มความเร็วในการร่ายหัตถ์ไททัน อย่างไรก็ตาม, เขาไม่สามารถเอาอักขระวิญญาณอันใหม่จากระบบเกมส์ได้ ซึ่งนี่ทำให้ขีดจำกัดในการเพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์ลดลงไปอย่างมาก หลังจากวิจัยไปได้แค่ครึ่งเดือน, เขาเร่งเวลาในการร่ายให้เร็วสุดได้แค่ 4 วินาทีเท่านั้น
ดังนั้นการพัฒนาที่เขาได้รับจากวิทยานิพนธ์นี้จึงมากพอที่จะทำให้เขาดีใจจนเนื้อเต้นได้
ฉันรู้จักทักษะเวทย์มนตร์ระดับสูงปืนกลและเวทย์อักขระวิญญาณที่สามารถปล่อยออกมาได้แทบจะทันที ถ้าฉันสามารถผสมพวกมันเข้าด้วยกันด้วยสนามกระจายพื้นที่หล่ะก็, ฉันก็จะสามารถลดเวลาในการร่ายได้ไม่ถึงหนึ่งวินาที!
ทฤษฎีที่สนับสนุนสูตรนี้นั้นง่ายมาก ขั้นแรกลิงค์จะปล่อยหัตถ์เพลิงที่เสริมพลังด้วยทักษะระดับสูงของเขา, ปืนกลออกมาก่อน ภายใต้ผลของอักขระวิญญาณ, เขาจะสามารถปล่อยเวทย์เลเวล 5 ออกมาได้แทบจะทันที จากนั้นเขาก็จะยกเลิกหัตถ์เพลิงในทันทีซึ่งมันก็จะทำให้เกิดผลสะท้อนทางเวทย์มนตร์ของปืนกล, และสร้างเวทย์หัตถ์เพลิงอันใหม่ขึ้นมา
สาเหตุและผลลัพธ์ต้นแบบนั้นจะเกิดการที่เวทย์หัตถ์เพลิงจะเรียกเวทย์หัตถ์เพลิงอีกอันนึงขึ้นมา อย่างไรก็ตาม, ความคิดของ ลิงค์ ก็คือการใช้ผลของสนามกระจายพื้นที่เพื่อเรียกหัตถ์ไททันออกมาแทน
ซึ่งนี่คงจะเป็นไปไม่ได้หากเวทย์นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย อย่างไรก็ตาม, เวทย์หัตถ์เพลิงกับหัตถ์ไททันนั้นเป็นเวทย์ที่แทบจะเหมือนกัน ดังนั้นมันน่าจะได้ผล!
ลิงค์ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาและเริ่มออกแบบเวทย์นี้ในทันที
เขาเป็นคนออกแบบหลักๆของปืนกล, เวทย์หัตถ์เพลิง, เวทย์หัตถ์ไททัน, ตลอดจนสนามกระจายพื้นที่ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจส่วนประกอบของพวกมันดีและเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
มันใช้เวลาแค่สองชั่วโมงเท่านั้นในการออกแบบของเขาให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ซึ่งตอนนี้, มันเป็นเวลาแค่บ่ายโมงเท่านั้น
เขาตรวจสอบแต้มมานาของเขาและตระหนักได้ว่ามันฟื้นขึ้นมาถึง 600 แต้มแล้ว ลิงค์คิดอยู่ครู่นึงและดื่มยาฟื้นฟูมานาระดับกลางเพื่อฟื้นมานา 500 แต้ม จากนั้นเขาก็รีบไปที่หนามแห่งสวรรค์อย่างตื่นเต้น เขาอยากทดสอบสมุติฐานของเขาจนทนไม่ไหวแล้ว
ถ้าเขาประสบความสำเร็จในการพยายามนี้, เขาก็จะได้รับการบันทึกเป็นผู้ใช้เวทย์เลเวล 6 ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟิรุแมน แม้กระทั่งพวกนักเวทย์ที่สวมอุปกรณ์เพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์นับไม่ถ้วนตอนที่อยู่ในเกมส์ก็ยังไม่สามารถลดความเร็วเวทย์เลเวล 6 ให้น้อยกว่าสองวินาทีได้เลย แต่สมุติฐานของเขาอาจจะทำให้เขาปล่อยมันออกมาได้แทบจะทันที!
โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยความเป็นไปได้จริงๆ! ลิงค์ ไม่สามารถรอที่จะเริ่มมันได้แล้ว
เขารีบไปที่หนามแห่งสวรรค์ ตอนนี้เขาเป็นคนดังในสถาบันและดึงดูดความสนใจของทุกๆคน
นักเวทย์มากมายที่เจอระหว่างทางจะทักทายเขาซึ่งเขาก็จะทักทายกลับไปด้วยความใจดี จากนั้นเขาก็เพิ่มความเร็ว, ทำให้นักเวทย์ที่เจอระหว่างทางแสดงสีหน้างุนงงออกมา
“ลิงค์ คิดจะทำอะไรอีกนะ?” มีใครบางคนถามขึ้น
“เขาเป็นคิดประเภทที่คิดแต่เรื่องเวทย์มนตร์ตลอดทั้งวัน มันค่อนข้างน่าเบื่อนะพูดตรงๆ” นักเวทย์ฝึกหัดสาวสวยคนนึงเบ้ปากไม่พอใจ
“ฉันจำได้นะว่าครั้งล่าสุดเธอบอกว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ เกิดอะไรขึ้นหล่ะ? โดนปฏิเสธมารึไง?”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอซะหน่อย!”
ลิงค์ ไม่สนใจคำพูดพวกนี้และมุ่งหน้าไปยังหอคอยเวทย์มนตร์ เขากำลังหอบแฮกและหายใจไม่ออกในตอนที่เขาไปถึงหนามแห่งสวรรค์ หลังจากได้เห็นเซลาสซี, เขาก็ถามในทันที “บ่อธาตุรองว่างไหมครับ?”
เซลาสซี พูดอย่างจนปัญญา “เพิ่งจะมีคนเข้าไปเมื่อกี้ เพราะฉะนั้นท่านต้องรอครึ่งชั่วโมงครับ”
“โถ่…” ลิงค์ ผิดหวัง นี่คือความไม่สะดวกของการไม่มีหอคอยเวทย์มนตร์เป็นของตัวเอง และนี่ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากมีหอคอยเวทย์มนตร์เป็นของตัวเอง
ลิงค์ ทำได้แค่รอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม, หลังจากนั้น เซลาสซี ก็พูด “ผู้อาวุโสได้บอกผมว่าถ้าต้องการ, ท่านสามารถเข้าใช้บ่อธาตุหลักที่สงวนเอาไว้สำหรับผู้อาวุโสโดยเฉพาะได้ครับ และตอนนี้มันก็ว่างอยู่ด้วย”
ดวงตาของ ลิงค์ เปล่งประกายขณะที่เขาพูด “ผมเข้าได้จริงๆหรอ?”
บ่อธาตุหลักในหนามแห่งสวรรค์นั้นมีความแข็งแกร่งเลเวล 9 และถูกเรียกว่าบ่อสวรรค์ มันเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งอาณาจักรนอร์ตันและเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีแค่บ่อธาตุเดียวเท่านั้นที่สามารถเปรียบเทียบความแข็งแกร่งนี้ได้ก็คือหม้อละลายธาตุในเมืองนภาที่เป็นของสมาพันธ์นักเวทย์ทางตอนใต้ ซึ่งบ่อสวรรค์นี้มักจะสงวนเอาไว้ให้ผู้อาวุโสใช้ได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น
“แน่นอนครับ มันเป็นคำแนะนำของผู้อาวุโส ผมจะพาท่านไปที่นั่น”
ลิงค์ รีบเดินตามไปอย่างเร่งรีบ
บ่อธาตุหลักอยู่ที่ชั้นห้า ซึ่ง ลิงค์ ตกตะลึงจนพูดไม่ออกกับภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้
ชั้นห้านั้นเป็นบ่อสวรรค์แทบจะทั้งชั้น ห้องมีขนาด 500 ตารางฟุต, และธาตุที่อยู่ท่ามกลางบ่อก็ดูหนาแน่นเป็นพิเศษ เมื่อมองจากที่ไกลๆ, ดูเหมือนว่าจะไม่มีความผันผวนในธาตุเหล่านี้เลย, มันเหมือนกับการมองเข้าไปในกระจกที่มีสีสันแตกต่างกันมากมาย วัสดุที่ใช้เพื่อรักษาความเสถียรของโครงสร้างเวทย์มนตร์เองก็หายากมากเช่นกัน ภาพอันตระการตานี้แทบจะทำให้ ลิงค์ ตาบอด
ในพื้นที่ธาตุไฟ, ลิงค์ เห็นทอเรียมดาราเพลิง ในพื้นที่ธาตุน้ำ, เขาก็เห็นวารีเงินที่สะท้อนความสดใสของไพลินออกมาอย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่ธาตุดินนั้นแน่นอนว่ามีคริสตัลรอยแยก—ซึ่งพวกมันทั้งหมดนี้คือวัตถุดิบที่มีราคาแพงมากๆ
ลิงค์ ไม่สามารถประเมินค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการสร้างบ่อธาตุระดับนี้ได้เลยด้วยซ้ำ นี่คือเครื่องหมายที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของอาณาจักรและเป็นแหล่งยุทธศาสตร์ในการต่อสู้อย่างแน่นอน ลิงค์ มีความมั่นใจในการสร้างบ่อธาตุเลเวล 6 ตั้งแต่เริ่ม แต่, บ่อธาตุระดับบ่อสวรรค์นั้นคงเป็นอีกเรื่องนึงโดยสิ้นเชิง หากตัดสินใจความแข็งแกร่งในตอนนี้ของ ลิงค์, เขาคงทำได้แค่จ้องมองและเฝ้าดูมันด้วยความยำเกรงเท่านั้น
หยุดคิดถึงมันแล้วเริ่มการทดลองเถอะ ลิงค์ สูดหายใจเข้าลึกๆและก้าวเข้าไปในบ่อธาตุ
เซลาสซี ปิดประตูที่อยู่ด้านหลังของ ลิงค์ อย่างนุ่มนวลและได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนกลอนบทใหม่ในทันที
เขาเอาสมุดของเขาออกมาและเริ่มเขียนด้วยความรู้สึกท่วมท้น
เขามักจะแต่งตัวกระเซอะกระเซิง, ผมเผ้าของเขารุงรังเหมือนกับขอทานนอกเมือง แต่ถึงกระนั้น, แสงแห่งปัญญาอันสดใสก็ฉายอยู่ในดวงตาของเขา วันนี้, เข้าก้าวเข้าไปยังบ่อแห่งสวรรค์ เขาจะสร้างความมหัศจรรย์เยี่ยงใดกัน? มนุษย์ไม่อาจหวังที่จะเข้าใจหรือคาดการณ์การกระทำของเขาได้, แต่มีแค่ความยิ่งใหญ่เท่านั้นที่เขาจะนำมา