Advent of the Archmage - ตอนที่ 154: ความแข็งแกร่งและความมั่งคั่ง
การต่อสู้อันแสนบอบช้ำนี้ใช้เวลาแค่สี่วินาทีเท่านั้นและจบด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้นของ ลิงค์
ดาร์คเอลฟ์นักเวทย์ไม่ได้ตายหรือบาดเจ็บ เวทย์หัตถ์เปลวเพลิงนั้นได้ถูกควบคุมอย่างระมัดระวัง ดังนั้นมันจึงทำลายแค่เวทย์ของเขาเท่านั้น, แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายกับร่างกายของเขา
อย่างไรก็ตาม, พาร์สัน หมดแรงที่จะต่อต้านแล้ว เขาตื่นกลัวอยู่ในฝ่ามือเปลวเพลิงขนาดยักโดยเผยออกมาแค่หัวของเขาเท่านั้น เขาหลับตาของเขารอการตัดสินครั้งสุดท้ายของเขา
บนพื้น, นักฆ่า เฮเดล จับขาที่หักของเขาด้วยความเจ็บปวด น้ำเสียงของเขาแหบแห้งจากการกรีดร้องของเขา เขาอยู่ในสภาพอ่อนแอมากๆเนื่องจากเสียเลือดไปเยอะ เขาครวญครางอย่างหมดหนทางขณะที่นอนอยู่บนเตียงหิมะอันหนาวเหน็บ
ลิงค์ คิดอยู่ครู่นึงและเขาก็ได้ข้อสรุปในการจัดการกับดาร์คเอลฟ์สองคนนี้
พวกเขาต้องตาย อย่างไรก็ตาม, มันยังไม่ถึงเวลา เขาจำเป็นต้องรีดข้อมูลจากพวกเขาก่อนที่เขาจะจบชีวิตของพวกเขา
เขาดีดนิ้วของเขาเบาๆและปล่อยเวทย์ลูกแก้วตรงไปหา เฮเดล ลูกแก้วลอยไปยังตำแหน่งที่ข้างหูของ เฮเดล ก่อนที่จะระเบิด คลื่นกระแทกจากการระเบิดได้เข้าไปในสมองของ เฮเดล โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง, ทำให้เขาหมดสติไปแทบจะทันที
จากนั้น ลิงค์ ก็สั่งคนใช้ “ถอดชุดและอุปกรณ์ทั้งหมดของเขาออก โกนผมและรักษาบาดแผลให้เขาด้วย อย่าปล่อยให้เขาตายทั้งแบบนี้”
ลิงค์ ไม่ได้โกนหัวของเขาเพียงเพื่อเหยียดหยามเขา มันเป็นเพราะนิสัยตามปกติของนักฆ่าในการเก็บไพ่ตายเอาไว้ในพื้นที่ที่คาดไม่ถึงที่สุด, รวมทั้งผมของพวกเขาด้วย ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้นักฆ่าอันตรายแม้ว่าพวกเขาจะขาหัก
คนใช้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความกลัว พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่เคยเห็นดาร์คเอลฟ์ในชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้, พวกเขาก็เพิ่งจะได้เห็นนักฆ่าคนนี้พรากชีวิตของทหารและคนใช้มากมายในปราสาท ไม่มีพวกเขาคนไหนกล้าเข้ามาหานักฆ่าที่บาดเจ็บคนนี้เลย
“ฉันทำเอง!” ไคลน์ พูด เขาเป็นนักรบและรู้สิ่งที่ ลิงค์ กำลังคิดเป็นอย่างดี
เขาก้าวมาข้างหน้าและถอดชุดเกราะของ เฮเดล จากนั้นเขาก็หยิบมีดของ เฮเดล จากพื้นและโกนหัวของเขาจนเกลี้ยงเกลาอย่างเชี่ยวชาญ หลังจากทำให้มั่นใจว่าไม่มีอาวุธซ่อนอยู่, เขาก็เริ่มทำแผลให้เขา
ด้วยความที่เป็นนักฆ่าเลเวล 5 ที่มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้เป็นอย่างดีและมีออร่าต่อสู้อันทรงพลัง ดังนั้นหลังจากการรักษาบาดแผลขั้นต้น, การหายใจของเขาจึงเสถียรขึ้นและเขาก็พ้นจากอันตราย
จากนั้น ไคลน์ ก็ใช้เชือกมัด เฮเดล อย่างแน่นหนา, พอทำให้มั่นใจว่าเขาไม่สามารถขยับเขยื้อน ไคลน์ ก็มองไปที่ ลิงค์ แล้วถาม “น้องชาย, พวกเราควรทำยังไงต่อดี?”
น้องชายของเขาได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการต่อสู้ที่โดดเด่น ถ้าครอบครัวต้องการจะอยู่รอด, ความสามัคคีก็คือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ, แต่ถ้าพวกเขาต้องการให้ชื่อของพวกเขาดังไปทั่วทั้งทวีป, บุคคลที่แข็งแกร่งนั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น
ซึ่ง ลิงค์ ก็คือคนๆนั้น!
ในกองทัพนั้น, แน่นอนว่าความแข็งแกร่งจะได้รับทั้งความเคารพและอำนาจ ในเมื่อ ลิงค์ ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างท่วมท้นของเขา, เจตคติของ ไคลน์ จึงแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิงและเขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดในการแสดงมัน
ลิงค์ ไม่ใช่ “แค่เด็กเห่อหมอxที่เพิ่งจะเรียนรู้เวทย์มนตร์มาได้ไม่กี่อย่าง” ในหัวใจของเขาอีกแล้ว, ลิงค์ ในตอนนี้คือนักเวทย์อัจฉริยะ, เยือกเย็น, และน่าเกรงขามที่สามารถนำความเจริญมาให้แก่ตระกูล มอรานี่ ได้
เขาจะติดตามเขาไปจนถึงสุดขอบโลกอย่างแน่นอน
ลิงค์ คิดอยู่ครู่นึงและโยนยาฟื้นฟูระดับต่ำให้ ไคลน์ “ยังมีเศษเหล็กชิ้นเล็กๆอีกมากมายในร่างของนักฆ่า แม้ว่าอาการของเขาจะคงที่แล้ว, แต่มันก็เป็นแค่มาตรการชั่วคราวเท่านั้น ให้เขากินยานั่นซะ”
ลิงค์ ได้ทำการพิจารณาถึงส่วนได้ส่วนเสียก่อนที่จะทำแบบนี้ การปล่อยให้ดาร์คเอลฟ์มีชีวิตอยู่, จะทำให้เขาได้ข้อมูลอันล้ำค่าเกี่ยวกับอาณาจักรพาริค และการไว้ชีวิตพวกเขาทั้งคู่, ก็จะทำให้เขาสามารถตรวจสอบคำบอกเล่าของพวกเขาได้ผ่านการเปรียบเทียบ
“ไม่มีปัญหา” ไคลน์ เปิดปากของ เฮเดล อย่างเชื่อฟังและกรอกยาฟื้นฟูใส่ปากของเขา
จากนั้น ลิงค์ ก็ย้ายความสนใจไปยังนักเวทย์เพราะปัญหาของ เฮเดล เรียบร้อยแล้ว
นักเวทย์ยอมแพ้อย่างสิ้นท่า เขาอยู่ในหัตถ์เปลวเพลิงอย่างจนปัญญาและมีสีหน้าที่เจ็บปวดและหวาดกลัว
ลิงค์ ร่ายเวทย์กักขังมานาใส่เขาในทันที
นี่เป็นเวทย์ที่เขาได้เรียนรู้มาจาก เอร์เรร่า มันจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากเป้าหมายอย่างเต็มที่เพื่อทำให้มันสำเร็จ มันเป็นเวทย์ที่แข็งแกร่งมากๆและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งพาพลังของตัวเองในการปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นจากการยับยั้งนี้ อย่างน้อยนี่ก็เป็นเรื่องจริงสำหรับนักเวทย์ที่เขาได้เห็นมาจนถึงตอนนี้
ลิงค์ ไม่ได้มั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเวทย์นี้จะสำเร็จ เขาใช้โอกาสในตอนที่ พาร์สัน กำลังอยู่ในสภาพหดหู่และเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและความหวาดกลัว พอ พาร์สัน ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ, โซ่ตรวนก็ได้ล็อคอยู่ในที่ของมันเรียบร้อยแล้ว
นักเวทย์ที่สูญเสียพลังเวทย์ไปก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดา
จากนั้น ลิงค์ ก็ยกเลิกหัตถ์เปลวเพลิงของเขาและ พาร์สัน ก็ล่วงลงบนพื้นด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า ลิงค์ รู้ว่าเขาจะไม่ต่อต้านอีก
จากนั้น ลิงค์ ก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วใช้มือแห่งนักเวทย์เพื่อถอดอุปกรณ์เวทย์มนตร์จากร่างของ พาร์สัน ทีละชิ้น, เริ่มจากคทาต่อด้วยแหวนเวทย์มนตร์ป้องกัน, กำไลต่างมิติและคริสตัลสวมหัว, โดยไม่เหลืออะไรเอาไว้เลย
ในตอนที่เขาจัดการเสร็จ, พาร์สัน ในตอนนี้ก็ไร้ซึ่งภัยคุกคามใดๆ
“พี่สอง, พานักโทษสองคนนี้ไปยังคุกใต้ดินและขังพวกเขาเอาไว้นะครับ แล้วก็อย่าลืมขังพวกเขาแยกกันนะ, อย่าให้พวกเขาได้ติดต่อกัน” ลิงค์ สั่ง
“ไม่มีปัญหา” ไคลน์ ทำตามคำสั่งและแบกนักโทษแต่ละคนเอาไว้ในมือแต่ละข้างก่อนที่จะย้ายพวกเขาไปยังคุกใต้ดินอย่างรวดเร็ว
เหลือแค่ วาร์ตัน, ลิลิธ, มอลลี่, เทรเวอร์, และคนใช้ที่กำลังตั่วสั่นบางส่วนที่ยังอยู่ที่ลานหน้าปราสาท
วาร์ตัน มอง ลิงค์ ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เขาเงียบตลอดเวลา
ลิงค์ เมินเขาและย้ายความสนใจไปยังคนใช้ “พวกนายกำลังทำอะไรอยู่! พาคุณชายที่บาดเจ็บไปที่ห้องของเขาสิ แล้วก็, เทรเวอร์, เรียกนักบวชจากเขตปกครองมาด้วย
“ได้ครับ”
“ครับ, นายน้อยสาม”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากความวุ่นวายของการขานตอบ, คนใช้ก็รีบไปทำในสิ่งที่ถูกสั่งมาอย่างรีบร้อน, ราวกับว่าพวกเขาได้ปลดเปลื้องจากโซตรวนเมื่อก่อนหน้านี้ของพวกเขาในทันที
ส่วนทางด้านของ วาร์ตัน, ปากของเขาอ้าออกมาอยู่สองสามครั้ง, ซึ่งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องการจะพูดกับ ลิงค์ อย่างไรก็ตาม, แม้ว่าจะพยายามอยู่หลายครั้ง, แต่เขาก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้เลย สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถพูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดได้
ความเปลี่ยนแปลงของ ลิงค์ มันรุนแรงเกินไป เขาไม่ใช่น้องชายที่เขาสามารถรังแกได้อีกแล้ว, แต่เป็นนักเวทย์ที่มีความแข็งแกร่งสุดหยั่งถึง พอคิดถึงความพยายามของเขาในการห้ามปรามเขาก่อนหน้านี้, วาร์ตัน ก็อดรู้สึกขบขันไม่ได้ เขาต้องดูเหมือนตัวตลกแน่ๆ
ในเวลาเดียวกันนั้น, เขาก็ถูกครอบงำด้วยความอับอายและความโกรธ เขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับ ลิงค์ ยังไง
หลังจากที่ถูกพากลับไปที่ห้องของเขา, ก็เหลือแค่ ลิลิธ กับ มอลลี่
ความรู้สึกของพวกเขาง่ายกว่าและตรงกว่ามาก หลังจากที่ตกใจในตอนแรก, ก็เหลือแค่ความปลื้มปิติและความโล่งอกอยู่ในหัวใจของพวกเขา ในสายตาของ ลิลิธ, ไม่ว่า ลิงค์ จะแข็งแกร่งขนาดไหน, เขาก็ยังเป็นลูกชายของเธอ
เธอได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมดและได้เห็น ลิงค์ ที่มีความมั่นใจและความแข็งแกร่งเหนือสนามรบ มันทำให้เธอนึกถึงดยุคเก่าในตอนที่เขายังหนุ่ม ไม่สิ, ในความเป็นจริง, ลูกชายของเธอเหนือกว่าดยุคเก่าในทุกๆด้าน
เธอรู้สึกภาคภูมิใจอย่างเหลือเชื่อ
ลิลิธ ยิ้มขณะที่ ลิงค์ เดินเข้ามาหาเธอ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติไหลลงมาจากดวงตาของเธอ ในที่สุดลูกชายของเธอก็แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธอหลังจากผ่านช่วงเวลาหลายปีมานี้ เธอไม่ต้องทนกับบ้านที่เย็นชาและโหดร้ายหลังนี้อีกต่อไปแล้ว
มอลลี่ ทั้งรู้สึกดีใจและเคารพในเวลาเดียวกัน เธอก้มหัวและหลบตา ลิงค์ ตลอดเวลา เธอรู้สึกว่าสายตานั้นทำให้รู้สึกอึดอัดใจอย่างเหลือเชื่อ ในตอนที่ ลิงค์ จ้องเธอ, เธอก้มหัวให้ตามสัญชาติญาณก่อนที่จะตระหนักได้ว่า ลิงค์ เป็นน้องชายของเธอ
“น้องชาย…” เธอไม่สามารถพูดต่อได้
พอได้เห็นสีหน้าที่หวาดกลัวเล็กน้อยของพวกเขา ลิงค์ ก็ซ่อนการมีอยู่ของเวทย์มนตร์ของเขา จากนั้นท่าทีของเขาก็กลับมาอ่อนโยนและเผยรอยยิ้มน่าดึงดูดที่เขามีก่อนหน้านี้ออกมา
เขาพูดอย่างนิ่มนวล “ตอนนี้ปราสาทค่อนข้างเละเทะ, ผมต้องให้คนใช้ทำความสะอาดมัน แม่กับพี่ไปพักที่ห้องก่อนเถอะครับ”
“เอ่อ, ได้สิ” จากนั้นผู้หญิงทั้งสองก็มุ่งหน้ากลับไปที่ห้องของพวกเขา
มีคนใช้เหลืออยู่แค่ไม่กี่คนและทหารประมาณ 20 คนที่โชคดีพอที่จะเอาตัวรอดจากการสังหารหมู่มาได้ ซึ่งในตอนนี้, ไคลน์ เองก็ได้กลับมาแล้ว
จากนั้น ลิงค์ ก็พูดออกมา “ไคลน์, ปราสาทต้องทำการซ่อมแซมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และความสูญเสียก็ต้องถูกคำนวณด้วยนะ”
ไคลน์ ทุบหน้าอกของเขาแล้วพูด “ฉันจะจัดการเอง!”
จากนั้นเขาก็พาทหารที่เหลือไปขณะที่ ลิงค์ ตามหลังไปติดๆ
ดาร์คเอลฟ์สามคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ พวกเขาใช้เวลาแค่ห้านาทีเท่านั้นจากการโจมตีในตอนแรกจนถึงตอนที่พวกเขาไปถึงห้องรับประทานอาหาร
ในครั้งนี้, พวกเขาฆ่าไปทั้งสิ้น 180 คน, โดยที่ไม่ถึง 10 คนเป็นคนใช้ขณะที่คนที่เหลือเป็นทหาร มีแม้กระทั่งตระกูลอัศวินเลเวล 3 ในบรรดาผู้เสียชีวิตด้วย
ประสิทธิภาพนี้มันน่าทึ่งจริงๆ
จตุรัสเกือบจะเต็มไปด้วยศพคนตาย ไม่มีผู้บาดเจ็บเลย, พวกเขาทุกคนถูกฆ่าในดอกเดียว
อารมณ์นั้นหนักหน่วง
ลิงค์ เองก็รู้สึกผิดที่ได้เห็นภาพนี้ เขาเป็นตัวการที่ทำให้ดาร์คเอลฟ์ทั้งสามเดินทางมาปราสาทโมรานี่ เขาได้พรากชีวิตของทหารพวกนี้ในทางอ้อม เขาถอนหายใจก่อนที่จะพูดออกมา “พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นนักรบที่ภักดี วิญญาณของพวกเขาจะได้ขึ้นสวรรค์ เพื่อที่จะคลายความกังวลในหัวใจของพวกเขา, ผมขอตัดสินใจที่จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ครอบครัวของพวกเขาสำหรับการตายของพวกเขา”
ทหารที่โชคดีรอดมาได้ฟังอย่างตั้งใจ ในอีกด้านนึง, ไคลน์, มีความกังวลอยู่บนใบหน้าของเขา มีผู้เสียชีวิตจำนวนมหาศาล ถ้าพวกเขาชดเชยให้แก่ครอบครัวตามอัตรามาตรฐานที่แปดเหรียญทองต่อทหารหนึ่งคนหล่ะก็, เงินจะสูงถึง 1,400 เหรียญทอง ซึ่งครอบครัวของพวกเขาไม่ได้มีทรัพย์สมบัติมากขนาดนั้น
เขาอยากจะเตือน ลิงค์ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำของพวกเขาแต่เขาก็ไม่สามารถเตือนต่อหน้าทหารที่รอดมาได้ เขาทำได้แค่มอง ลิงค์ อย่างกังวล
ลิงค์ เห็นท่าทีที่ไม่สบายใจของ ไคลน์ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เขาเผชิญหน้ากับเหล่าทหารและพูดต่อ “ทหารที่ตายไปทุกคนจะได้รับ 20 เหรียญทองเป็นค่าชดเชยขณะที่คนใช้ทุกคนจะได้รับ 15 เหรียญทอง สำหรับเหล่าคนใช้และทหารที่รอดมาได้, ทุกคนจะได้รับรางวัลเป็นเงินสิบเหรียญทองต่อคน”
นี่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในบรรดาเหล่าทหารที่รอดมาได้ 20 คน, พวกเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินข่าวนี้ อย่างไรก็ตาม, ทหารที่มีประสบการณ์บางคนมีความสงสัยบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัดว่าตระกูล มอรานี่ จะมีเงินมากขนาดนั้น
ไคลน์ ไม่สามารถเงียบได้อีกต่อไป ยังไงซะ, การหยุดความโหดร้ายนี้ในตอนนี้ก็ยังดีกว่าการสูญเสียชื่อเสียงของพวกเขาเพราะพวกเขาไม่มีเงินพอสำหรับค่าชดเชย เขาดึง ลิงค์ เข้ามาใกล้ๆแล้วกระซิบ “น้องสาม, ตระกูลของพวกเราไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกนะ…นี่คือ…”
ก่อนที่เขาจะพูดต่อ, ลิงค์ ก็ใช้การกระทำโต้แย้งคำพูดของเขา
เสียงแจ่มใสของโลหะที่กำลังกระแทกกันดังก้องไปทั่วจตุรัส ภายใต้การส่องสว่างของแสงจากคบเพลิงที่อยู่รอบๆ, กองของวัตถุทรงกลมอันแวววับก็ปกคลุมพื้นหิมะ
พวกมันก็คือเหรียญทอง, เหรียญทองจำนวนมหาศาล!
ก่อนหน้านี้ ลิงค์ ได้ขอเงินล่วงหน้ามาจาก เอร์เรร่า 6,000 เหรียญทอง อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่เขาจะได้ใช้เงินก้อนนี้, อุบัติเหตุก็เกิดขึ้น เขามีเงินกว่า 5,000 เหรียญทองเหลืออยู่ในจี้ต่างมิติของเขา ซึ่งนี่เป็นเงินแค่ 4,000 เหรียญทองเท่านั้น, ไม่ใช่ทั้งหมดของเขา
จากนั้น ลิงค์ ก็ตอบโต้ “พี่ชาย, ผมว่านี่คงพอใช่ไหม?”
แน่นอน!
อันที่จริง, ทุกคนในจตุรัสกำลังจ้องไปที่ปรากฏการณ์สีทองบนพื้นหิมะ นักรบสองคนที่ยังไม่ตายดีดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาอย่างกระทันหัน พวกเขาไอและส่งสัญญาณให้พรรคพวกที่เหลือรอดของพวกเขารู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ลิงค์ ร่ายเวทย์ธาตุแห่งการรักษาให้แก่ทหารที่หนีรอดจากเงื้อมมือแห่งความตายพอได้เห็นทองคำอันน่าอัศจรรย์นี้
ความสงสัยทั้งหมดในหัวใจของพวกเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์พอได้เห็นเหรียญทองพวกนี้
“พี่ครับ, ใช้เงินพวกนี้จัดการเรื่องค่าชดเชยทีนะ ส่วนเงินที่เหลือ, ก็เอาไปใช้ซ่อมปราสาทได้เลย”
“ได้, ไม่มีปัญหา!” ไคลน์ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก เขาตระหนักได้ในทันทีว่าความกังวลทั้งหมดของเขาไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าน้องชายของเขา
สำหรับทหารที่รอดมาได้นั้น, พวกเขาจะจงรักภักดีต่อใครก็ตามที่ให้ค่าตอบแทนพวกเขามากพอ นอกจากนี้, มันคงจะดีที่สุดถ้าเจ้านายของพวกเขาทั้งใจกว้างและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปได้
นักรบเริ่มกู่ร้องชื่อต้นของตระกูล มอรานี่ ไม่นานนัก, ทั้งจตุรัสก็กู่ร้องด้วยความตื่นเต้น “โมรานี่! โมรานี่! โมรานี่!”
ไคลน์ มองไปที่ใบหน้าตื่นเต้นที่อยู่รอบตัวเขาและหัวใจของเขาก็ลุกไหม้ด้วยความหลงใหลใหม่
ในตอนที่เขากลับไปที่ป้อมเงิน, เขาจะประกาศอย่างแน่นอนว่า “ฉันมาจากตระกูล มอรานี่, น้องชายของฉัน, ลิงค์, คือนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่!”